เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 88 ถึงอย่างไรก็ล้างไม่สะอาดหรอก สู้ตัดทิ้งไป เลยดีกว่า



บทที่ 88 ถึงอย่างไรก็ล้างไม่สะอาดหรอก สู้ตัดทิ้งไป เลยดีกว่า

ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงเงยหน้าขึ้นไปมองเขา เธอ กัดปากและพูดอธิบาย: ” ฉันจะซักให้ สะอาด ”

” ซักยังไง? ” เย่โม่เซินมองเขาอย่างเหน็บแนม: ” ใช้มือซักหรอ? ”

เสิ่นเฉียวชะงักไป เธอกระพริบตาไปมา ” แน่นอน ว่าไม่ใช่ ฉันจะส่งไปซักที่ร้านซักแห้ง”

ถึงแม้ว่าบ้านของเธอจะไม่ได้รวย แต่เธอก็รู้เรื่อง ความรู้ทั่วไป เสื้อสูทห้ามซักด้วยน้ำ โดยเฉพาะชุดที่มี ราคาแพงแบบนี้

“เหอะ ถือว่ายังไม่โง่” เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็น ชา: ” แต่เธอคิดว่าซักเสร็จแล้ว ฉันจะใส่หรอ? ”

เส้นเฉียวเม้มปาก ไม่พูดอะไร

เย่โม่เซินพูดแทงใจเธอต่ออย่างไม่สนใจ: “ เสื้อสูท ถูกเธอใส่แล้ว ฉันขยะแขยง ต่อให้ซักจนสะอาดแล้ว ฉันก็ ไม่ใส่ เหมือนผู้หญิงที่ในใจเห็นแก่เงินนั่นแหละ ภายนอก แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ แต่จริงๆแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ เรื่องคนหนึ่ง เข้าใจไหม? ”

ตอนแรกเสิ่นเฉียวยังพอที่จะไม่สนใจ แต่หลังจาก ที่ได้ฟังคำพูดพวกนี้แล้ว เธอทนไม่ได้จริงๆ: ..ก็แค่เสื้อ สูทตัวเดียว? ฉันขอร้องนายใส่ให้ฉันหรือไง? เป็นนายเอง ที่เอาเสื้อสูทมาคลุมบนตัวฉัน นายคิดว่ามันสกปรก งั้นเมื่อ สักครู่ ตอนที่นายลูบๆคลำๆฉันในห้องประชุมตั้งนาน ทำไมนายไม่ล้างมือละ?”

เย่โม่เซิน: ”

เซียวซู่โอ้โห ข้อมูลกว้างขวางมาก

ลูบๆคลำๆ….ตั้งนาน?? เซียวซู่แอบสังเกตเสิ่น เฉียวเงียบๆ อดไม่ได้อยากจะยกนิ้วโป้งให้เธอ!

เย่โม่เซินนึกไม่ถึงว่าแรงระเบิดของเจ้าแมวน้อยจะ ทำให้คนตกใจได้ขนาดนี้ แม้แต่คำพูดพวกนี้ เธอยังกล้า พูดมันออกมาต่อหน้าบุคคลที่สาม และถูกทำให้สำลักไป ชั่วขณะ จึงทำได้เพียงตอบกลับไปอย่างดุดัน: ” เธอรู้ได้ไง ว่าฉันไม่ล้างมือ? ”

เสิ่นเฉียวถือโอกาสปีนขึ้นไปบนคำพูดของเขา: ” ล้างแล้วยังไงหรอ? ถึงอย่างไรก็ล้างไม่สะอาดหรอก สู้ตัด

ทิ้งไปเลยดีกว่า! ”

เยโม่เซิน: ”

เซียวซู่ทำสีหน้ากลั้นขำอยู่ในใจ ผู้ช่วยเส้นแข็ง แกร่งจริงๆ!

เสิ่นเฉียวก็ถูกเขาทำให้โมโหเหมือนกัน เธออุตส่า มีน้ำใจไปเก็บเสื้อสูทกลับมา บอกว่าจะเอาไปซักแห้งให้ เขาไม่ใส่ก็ไม่ใส่สิ ทำไมต้องพูดคำพวกนั้นออกมาเสียดสี เธอด้วยละ โมโห แค้นมาก

บรรยากาศภายในลิฟท์อึมครึมขึ้น พลังต่อสู้บนตัว เสิ่นเฉียวไม่ลดลง พลังชั่วร้ายบนตัวเย่โม่เซินก็ค่อยๆ รุนแรงขึ้น

เขาหรี่ตาลง แสงน่ากลัวที่อยู่ในตาสีหมึกคู่นั้นได้จ้องไปที่เสิ่นเฉียว

เผชิญหน้ากับสายตาที่มีอานุภาพน่ากลัวแบบนี้ ทำ ให้เสิ่นเฉียวรู้สึกหนาวที่หลัง แต่ยังคงยืดเอวสบตากับเย่ โม่เซินอย่างไม่ยอมแพ้

สักพัก เย่โม่เซินก็หัวเราะอย่างเยือกเย็น ช่างเป็น ผู้หญิงที่ไม่รู้จักขายหน้าสะจริง”

ตั้ง–

เสิ่นเฉียวจ้องเขาอย่างโหดเหี้ยม และรีบเดินออก จากลิฟท์

เซียวคิดสักพักและรู้สึกว่าเสิ่นเฉียวอารมณ์ร้อน

มาก และหันไปมองท่าทีของเย่โม่เซิน ถึงแม้ว่าคลื่น อารมณ์ของเขาจะใหญ่ แต่ก็ถูกเสิ่นเฉียวทำให้สำลักจน พูดไม่ออกอย่างชัดเจน

ระหว่างนั้นเซียวซู่กำลังงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน แน่?

ใครไม่รู้บ้าง ถึงแม้ว่าคุณชายสองของตระกูลเย่จะ นั่งอยู่บนรถเข็น แต่อารมณ์แปรปรวนมาก อีกทั้งปากยัง แรงอีกต่างหาก อย่าว่าแต่กับผู้ชายเลย กับผู้หญิงเขาก็ ไม่มีความเกรงใจเลยสักนิดเดียว ตอนเข้าร่วมงานเลี้ยง ไหนๆ เพียงแค่มีผู้หญิงเข้ามาชวนเย่โม่เซินคุย สุดท้าย ต้องถูกคำพูดของเย่โม่เซินทำให้ตาแดง ไม่ร้องไห้ ก็วิ่ง หนีไปอย่างโมโห

ปกติเสิ่นเฉียวมีท่าทีเหมือนลูกพรับอ่อนที่น่ารังแก นึกไม่ถึงว่าตอนถกเถียง….จะรู้จักจับจุดสำคัญเหมือนกัน

แล้วปัญหาก็มาแล้ว..
เซียวซูเดินอ้อมไปที่ด้านหน้าเขา พูดถามด้วย สีหน้าร้ายกาจ: ” คุณชายเย่ ต้องการให้ผมเตรียมมีดให้ ไหมครับ?” %3D

” ไสหัวไป! ” เย่โม่เซินยกท้าวถีบเขา

หลังจากที่เสิ่นเฉียวออกมาจากบริษัท เตรียมเดิน ไปที่ป้ายรถเมล์ ตอนที่กำลังรอรถ มีรถหรูสีขาวอมเทามา จอดตรงหน้าเธอ

กระจกรถเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนโยนของ เย่หลิ่นหาน

” น้องสะใภ้”

พี่ใหญ่? ” เสื้อเฉียวชะงักไป “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ ได้ละคะ?”

” กลับบ้านหรอ? ขึ้นรถสิ เดี๋ยวพี่ไปส่งเธอเอง

นั่งรถของเย่หลิ่นหานกลับบ้าน? งั้นก็ต้องเจอกับเย่ โม่เซินสิ ถึงตอนนั้นเยโม่เซินคงพูดว่าเธอไม่ได้เรื่อง กลับกลอกอีกแน่นอน คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวจึงปฏิเสธ ความมีน้ำใจของเย่หลิ่นหานอย่างอ้อมๆ: ” ไม่ต้องพี่ใหญ่ ฉันนั่งรถเมล์จนชินแล้ว ”

เย่หลิ่นหานไม่ล้มเลิก เขาพูดอย่างยิ้มๆ: ” รถเมล์ คนเยอะ นั่งรถพี่สะดวกกว่า”

เสิ่นเฉียว: ” ไม่ต้องจริงๆค่ะ พี่ใหญ่ พี่กลับไปก่อน

เลย”

เย่หลิ่นหาน: น้องสะใภ้กลัวว่านั่งรถพี่แล้ว จะตกเป็นขี้ปากของคนอื่นหรอ? ”

เสิ่นเฉียว: ” ขอโทษค่ะพี่ใหญ่ ฉัน….

หรือน้องสะใภ้ยังเคืองพี่ที่ไม่ได้ปิดบังเรื่องตอน เช้า? ” พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเย่หลิ่นหานก็หงอยลง แม้แต่รอยยิ้มอ่อนโยนที่อยู่บนใบหน้าก็จางลงเช่น เดียวกัน: ” ช่างเถอะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ …..”

เพราะว่าที่นี่คือป้ายรถเมล์ ดังนั้น บทสนทนาของ เสิ่นเฉียวกับเย่หลิ่นหานจึงถูกคนอื่นได้ยินหมดแล้ว สายตาสงสัยมากมายได้มาหยุดบนตัวเม่นเฉียว ทำให้เธอ รู้สึกเก้อเขินนิดหน่อย บวกกับเย่หลิ่นหานที่เป็นแบบนี้ เสิ่น เฉียวจึงรู้สึกจนปัญญาจริงๆ

* พี่ใหญ่”

“รีบขึ้นรถเถอะ ”

จนปัญญา เด่นเฉียวทำได้แค่เดินอ้อมไปอีกฝั่ง และ เปิดรถเข้าไปนั่ง

หลังจากขึ้นรถ เส้นเฉียวก็เริ่มหน้านิ้วคิ้วขมวด ที่นี่ ใกล้กับบริษัทขนาดนั้น ถึงแม้ว่าทางกลับบ้านตระกูลเย่จะ มีหลายทาง แต่ไม่รู้ว่าเย่โม่เซินจะผ่านมาทางนี้ไหม แล้ว เขาจะเห็นภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่หรือเปล่า?

เพียงแต่ตอนนี้เธอไม่ควรกังวลเรื่องนี้ เธอควร กังวลเรื่องหลังจากที่กลับไปแล้วต่างหาก

คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวจึงรีบพูดขึ้น: พี่ใหญ่ อีก สักครู่ตอนถึงปากทางที่ใกล้จะถึงบ้านแล้ว พี่หยุดให้ฉันลง หน่อยนะคะ”
ได้ฟังดังนั้น มือที่จับพวงมาลัยของเย่หลินหานกได้ ชะงักไปทันที สักพักเขาถึงได้มองเธอยิ้มๆ: ” น้องสะใภ้ พี่ น่าเกียจขนาดนั้นเลยหรอ? ”

มุมปากของเสิ่นเฉียวกระตุกนิดหน่อย พี่ใหญ่ไม่ได้ น่าเกียจหรอก แต่มีบางคนที่น่าหวาดกลัวจริงๆ ตอนเช้าเธอใส่ชุดที่คนใช้ของเย่หลิ่นหานเตรียมไว้

ให้ ผลสุดท้าย นึกไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะโมโหจนฉีกเสื้อผ้า

บนตัวของเธอ แม้ว่าตอนหลังเขาจะหาเสื้อผ้ามาให้เธอใส่

จริงๆ

แต่นิสัยแบบนี้ เธอกลัวจริงๆนะ

ถ้าหากว่าตอนกลางคนเขาฉีกมันอีกครั้ง ….เสิ่น เฉียวไม่กล้ารับประกันว่าเย่โม่เซินจะทำอะไรเธอหรือเปล่า

” ก็ได้ พี่รู้ว่าเธอลำบากใจ อีกสักครู่พี่จะส่งเธอที่ ปากทางก็แล้วกัน”

เย่หลิ่นหานพูดอย่างเข้าใจความรู้สึกของเธอ เสิ่นเฉียวถึงได้หมดห่วง : ” ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่”

ใช่แล้ว ความสัมพันธ์ของเธอกับโม่เซินเป็นแบบ นี้ตลอดเลยหรอ?” เย่หลิ่นหานถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ชะงักไป ไม่รู้จะตอบยังไงดี

พูดตามหลักความจริง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขา เป็นแค่การแต่งงานทางการค้าขาย หลังครึ่งปีก็หย่ากัน แล้ว แต่นี่เป็นความลับของพวกเขาสองคน ไม่มีเหตุผลที่ จะบอกกับเย่หลิ่นหานจริงๆ

” น้องสะใภ้ อย่าเข้าใจผิด พี่หมายความว่า…ท่าทีที่เขาปฏิบัติต่อเธอมันแย่แบบนี้ตลอดเลยหรอ?

เสิ่นเฉียวกัมหน้า และยิ้มออกมา: “ไม่สนว่ามันจะ แย่หรือไม่แย่ แต่นิสัยของเขาก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ? ไม่ใช่ว่าพี่ใหญ่ให้ฉันเห็นอกเห็นใจเขาหรอกหรอ?”

“ใช่ เป็นแบบนี้แหละ เพียงแต่พี่ยังคงเป็นห่วงเธอ ” เย่หลิ่นหานถอนหายใจ: บางที ที่คุณปู่ดัดสินใจตอนนั้น มันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด พี่ยังไม่เคยบอกเธอใช่ไหม? ว่าที่ จริงแล้วพี่กับโม่เซินเราไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ”

เสิ่นเฉียวตกใจไปสักพัก ” ไม่ ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ”

มิน่าละ ท่าทีที่เย่โม่เซินปฏิบัติต่อเย่หลิ่นหานถึงได้ แย่ขนาดนั้น อีกทั้งรูปแบบที่เขาคบค้าสมาคมกับคนของ ตระกูลเย่ก็แปลกประหลาดมากด้วยเช่นกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ