เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1505 ความคิดรอบคอบ



บทที่1505 ความคิดรอบคอบ

ถึงจะฉลาดยังไง แต่ก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง

อีกอย่าง ยังเป็นเด็กที่เมื่อก่อนขาดความรักของพ่อ เลยเกิด ความรู้สึกเป็นปรปักษ์กับตัวเอง นั่นก็เป็นเรื่องปกติ

พอคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเยโม่เป็นก็อ่อนโยนขึ้นหลายระดับ แล้วพูดกับเขาว่า “ลุกขึ้นมา

เสี่ยวหมี่โต้วนั่งอยู่ไม่ยอมขยับ เยโมเงินถอนหายใจออกมา จากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าเขา “มา แด๊ดดี้อุ้ม”

คำพูดนี้อ่อนโยนมาก และคำพูดก็ซึมเข้าไปในใจของเสี่ยวหมี่ โต้ว

ที่จริงแล้วเขาแค่อยากแกล้งเยโม่เซ็น ให้เขารู้สึกผิดต่อตัวเอง

ก็เท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำนี้กับตัวเอง

ดังนั้นครั้งนี้ เสี่ยวหมี่โต้วเลยเริ่มทนไม่ไหวขึ้นไม่ และเริ่มแสบ จมูก

พอรู้สึกแสบจมูก เสี่ยวหมี่โต้วเลยอารมณ์เสียขึ้นมา ทำไมตัว เองถึงได้เป็นแบบนี้เพียงเพราะคำประโยคเดียวของแด๊ดดี้ด้วย เขาเป็นลูกผู้ชาย ถ้าร้องไห้ออกมาแบบนี้คงขายหน้าแย่ พอคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวหมี่โต้วก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นท่าทางของเขาเมื่อครู่นี้ก็ยังถูกเย่ไม่เซินเห็นเข้าอยู่ดี

เยโม่เป็นเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะร้องไห้เพียงเพราะคำพูด ประโยคเดียวของตัวเอง หัวใจก็เลยรู้สึกเหมือนถูกมือใหญ่ บีบรัดอย่างแรง

เขายื่นมือออกไป จับแขนของเสี่ยวหมี่โต้ว แล้วดึงเขาขึ้นมา ถึงแม้เสี่ยวหมี่โต้วจะสูงขึ้นมากแล้ว สูงจนตอนนี้หานคู่จื่ออุ้ม เขาไม่ไหวแล้ว แต่สำหรับเย่ ไม่เซ็น จะหิ้วหรือจะอุ้มเขาก็ยังเป็น เรื่องที่ง่ายดายมากอยู่ดี

ดังนั้นพอเสี่ยวหมี่โต้วถูกเย่ ไม่เป็นหิวขึ้นมาอุ้มไว้บนอกนั้น สีหน้าของเสี่ยวหมี่โต้วก็เปลี่ยนไปทันที

“แด๊ดดี้บ้า เจ้าบ้า รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ เสี่ยวหมี่โต้วไม่ ต้องการให้อุ้ม รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้!

ที่นี่คือหน้าประตูโรงเรียน อีกเดี๋ยวคนก็จะผ่านไปมา แด๊ดดี้อุ้ม เขาไว้แบบนี้ ถ้าเดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้าจะทำอย่างไร เสี่ยวหมี่โต้วไม่อยากให้ตัวเองเป็นเด็กที่ต้องการให้แด๊ดดี้อุ้ม

ในสายตาคนอื่น

ดังนั้นเขาก็เลยขัดขืนไม่หยุด แต่ว่าเย่ไม่เป็นแรงเยอะมาก พอ เขาขัดขืนรุนแรงเย่ไม่เซินก็เลยตีก้นเขาหนึ่งที

“จะโวยวายทำไม ฉันเป็นพ่อนาย ถูกพ่ออุ้มหน่อยจะเป็นไร ไป”
เสี่ยวหมี่โต้วถูกเขาตีกันไปที่หนึ่ง ก็เลยหยุดขัดขืนทันที ร่างกายอยู่ในท่าแข็งทื่อ แต่หน้ากลับแดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ขาย ขาย หน้า

“ขายหน้า ? มีอะไรให้น่าขายหน้ากัน เยโม่เซินพูดอย่างไม่ แยแส “นายยังอายุน้อยแค่นี้ ตัวก็สูงแค่นี้ ถูกพ่ออุ้มนิดหน่อย นายก็ขายหน้าแล้วเหรอ”

ถึงแม้เสี่ยวหมี่โต้วจะไม่ได้ขัดขืน แต่ว่าหน้ากลับแดงมาก

พอเห็นเขาทำหน้าโกรธ เย็ไม่เป็นก็เม้มริมฝีปากบาง ถอน หายใจทีหนึ่งจากนั้นก็ปล่อยเขาลง แล้วนั่งลงตรงหน้าเขา “งั้น พวกเรามาคุยกันแบบนี้ โอเคไหม ?”

เสี่ยวหมี่โต้วยังคงไม่พูดจา

“เรื่องก่อนหน้านี้ แด๊ดดี้เป็นคนผิดเอง แด๊ดดี้ไม่ได้มีส่วนร่วม ในอดีตของลูกกับหม่าม แต่กลับจะไปแย่งตัวของหม่ามีลูก เป็น ความผิดของหม่ามี้เอง ตอนนี้แดดดี้สำนึกผิดแล้ว ลูกจะยกโทษ ให้แด๊ดดี้ได้ไหม”

ตอนที่พูดประโยคเหล่านี้ เดิมทีเปโม่เป็นคิดว่าตัวเองจะพูด ออกมาอย่างยากลำบาก ถึงขั้นคิดว่าตัวเองอาจจะพูดไม่ออก

แต่ตอนที่เห็นเสี่ยวหมี่โต้วตาแดงนั้น เขาถึงได้เข้าใจว่า เขาเป็นพ่อคนคนหนึ่งแล้ว

เสี่ยวหมี่โต้วกับเสี่ยวโต้วหยา ต่างก็เป็นสมบัติของเขากับ มู่จื่อ เป็นของขวัญที่ฟ้าส่งมาให้พวกเขา
“ลูกกับเสี่ยวโต้วหยา แล้วก็หม่ามีของลูกต่างก็เป็นสมบัติที่ สำคัญที่สุดของแด๊ดดี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แด๊ดดี้จะต้องให้ ความสำคัญกับลูก แด๊ดดี้กับหม่ามีของลูกเมื่อคืนคุยกันแล้ว ต่อ ไปจะยึดลูกกับเสี่ยวโต้วหยาเป็นศูนย์กลาง รอจนพวกลูก เติบโต”

เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาปริบๆ “จริงเหรอครับ ? ต่อไปแด๊ดดี้จะ ไม่ห้ามให้ผมเข้าใกล้หม่ามีอีกแล้วเหรอ”

“อืม” เย่ โม่เซ็นฝันรับปากด้วยความเจ็บปวด “ไม่อีกแล้ว ลูก ยังเด็ก อยากจะเกาะติดเขาก็เกาะติดเถอะ แน่นอนว่าลูกจะเกาะ ติดแด๊ดดี้ก็ได้ ต่อไปจะตามแด๊ดดี้ไปบริษัททุกวันก็ยังได้

“จริงเหรอ ?” เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาปริบๆ แล้วถามด้วย สีหน้าไร้เดียงสาว่า “งั้นแด๊ดดี้มอบตำแหน่งในบริษัทให้ผมได้ ด้วยใช่ไหมครับ ?

พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเย่ ไม่เป็นก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ตำแหน่ง ? นายยังเด็กขนาดนี้ จะทำอะไรได้

เยโมเงินไม่ได้ตอบรับคำขอของเขา อีกอย่าง ลูกยังต้อง เรียนหนังสือ ไม่มีเวลาไปบริษัทหรอก”

“แด๊ดดี้บ้า ดังนั้นที่พูดทั้งหมดเมื่อกี้ก็เป็นแค่คำพูดหลอกเด็ก สินะ ผมไม่ไปเกาะติดแด๊ดดี้หรอก แล้วก็ จะเกาะติดหม่ามีด้วย ปล่อยให้เสี่ยวหมี่โต้วเป็นตายร้ายดีด้วยตัวเองแล้วกัน”

ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เต็มไปด้วยเล่ห์อุบาย แต่ตอนนี้เยโม่เซ็นมองท่าทางของเขาแล้วก็ยังรู้สึกใจอ่อน เลยทำได้แค่ พูดเอาใจเขา ก็ได้ก็ได้ เดี๋ยวจะมองตำแหน่งให้ลูก แต่ว่าลูก ห้ามทำอะไรไปเรื่อยนะ”

“แต๊ดดี้นี่ขี้งกจริงๆเลย ถ้าเป็นคุณปู่ล่ะก็ จะต้องยกทั้งบริษัท ให้ผมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“คุณปู่ของนายไม่มีคนที่เขาจำเป็นต้องเลี้ยงดู แต่แด๊ดดี้ของ ลูกต้องหาเงินให้หม่ามีของลูก แล้วยังมีลูกกับเสี่ยวโต้วหยาอีก แล้วจะเหมือนกันได้ยังไงล่ะ”

สุดท้ายพ่อลูกก็เจรจากันสำเร็จ เย่ไม่เป็นมอบตำแหน่งให้เขา ที่บริษัท แต่ว่ามีเพียงแค่ชื่อ ไม่ได้มีอำนาจแท้จริง อีกทั้งแต่ละ เดือนก็ต้องให้ค่าขนมเสี่ยวหมี่โต้ว สุดท้ายถึงได้เจรจาสำเร็จ

และหลังจากนั้น ในเวลาหนึ่งอาทิตย์เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่ได้เจอ ถางหยวนหยวนเลย ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่ายัยหนูนั่นน่ารัก แต่ใน เมื่อชาวบ้านเขาไม่ยอมมา เขาก็ไม่ได้มีอารมณ์จะไปหาชาวบ้าน เขาเป็นพิเศษด้วย

จนกระทั่งหลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ คุณนายถางก็ทนต่อ คำขอร้องของลูกสาวตัวเองไม่ไหว เลยฝืนแบกหน้ามาที่บ้าน แล้วบอกว่าวันนั้นพอถางหยวนหยวนกลับไปแล้ว ก็เอาแต่ โวยวายว่าจะมาเล่นกับพี่ชาย เอาแต่โหวกเหวกโวยวายทุกวัน พอหานมู่จื่อได้ฟังแล้ว ก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทันที
“คุณนายถางคะ ต่อไปก็ให้ถางหยวนหยวนมาที่นี่ก็ได้ค่ะ ถ้ามี เวลาว่างก็พาเธอมาได้เลย ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่บ้านเลี้ยงเดี่ยวใต้ วหยาทั้งวันก็น่าเบื่ออยู่เหมือนกันค่ะ”

ที่จริงเธอก็อยากทำงาน ตอนนี้เสียวโต้วหยาหนึ่งขวบแล้ว ไม่ เหมือนตอนเล็กที่ต้องคอยจับตามองตลอดเวลา อีกอย่างเสียว โวหยาก็เป็นเด็กดีอย่างมากมาโดยตลอด

เวลานอนก็นอนอย่างเงียบๆ พอนอนตื่นแล้วก็นอนเล่นนิ้วของ ตัวเอง มองดูเพดาน ก็คือไม่งอแง

นอกเสียจากว่าเธอหรือว่าราด หรือรู้สึกไม่สบายถึงร้องไห้ จากนั้นหาน จื่อก็เปลี่ยนผ้าอ้อมผืนใหม่ให้ เธอก็จะกลับไปเงียบ สงบอีกครั้ง

ถ้าตามคำพูดของหาน จื่อก็คือ ถึงแม้ว่าจะตัวเล็กกระจิริด แต่ กลับค่อนข้างรักความสะอาด ถือว่าดี

เพียงแต่เย่ โมเงินไม่อยากให้เธอไปที่บริษัท เขาหวังให้เธออยู่ บ้านแล้วเป็นคุณนายเต็มตัว

แต่คุณนายเต็มตัวอย่างหาน จื่อคนนี้ กลับแทบไม่ต้องทำ อะไร เพราะคนรับใช้ในวิลล่าไห่เจียงมีอยู่มากมายจนใช้ไม่หมด คอยทำความสะอาดบ้านจนเอี่ยมอ่องทุกวัน พอถึงเวลาอาหาร เตรียมอาหารไว้เรียบร้อยหมดทุกอย่าง ไม่ต้องทำอะไรเลย

ดังนั้นบางทีเธอก็เลยรู้สึกเบื่อมาก ถ้าหากถางหยวนหยวน สามารถมาได้ล่ะก็ อย่างนั้นก็คงคึกคักขึ้นมาบ้าง
ส่วนทางคุณนายถางก็รู้สึกเกรงใจมาก เพราะทั้งสองตระกูล แตกต่างกันมาก เธอกลัวว่าหากตัวเองพาลูกสาวมาที่บ้านบ่อยๆ อาจจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่ามาตามเกาะเลียแข้งเลียขาได้

“ต้องขออภัยจริงๆนะคะคุณนายเย่ ถ้าหากหยวนหยวนมา บ่อยเกินไปล่ะก็ จะต้องเป็นการรบกวนคุณแน่ๆ ตัวฉันเองก็เลี้ยง ลูกมา ดังนั้น……….

หานผู่จื่อเป็นคนคิดรอบคอบ ถึงแม้คุณนายถางจะไม่พูด แต่ เธอก็เข้าใจว่าคุณนายถางกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเลยแค่ยิ้ม บางๆ “ที่จริงคุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ตระกูลเย่ของพวกเราไม่ ได้มีความคิดแบบนั้น เด็กเองก็ยังไร้เดียงสามาก ก็แค่ชอบเสี่ยว หมี่โต้วแบบไร้เดียงสาเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ