เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1272 สามีใจไม่จดจ่อ?



บทที่ 1272 สามีใจไม่จดจ่อ?

เกี่ยวกับเรื่องของสวี่เย็นหวั่น เพราะว่าตัวเธอเองก็ได้เคยบอกไป แล้วว่าไม่ต้องการการช่วยเหลือใดๆ หานซึ่งก็เลยไม่ได้ยื่นมือ ออกไปช่วย แต่เมื่อก่อนทั้งสองครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ กันมาก

ถึงแม้ว่าภายหลังทั้งสองครอบครัวจะขาดการติดต่อกัน แต่ ความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันยังคงอยู่

สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือสวี่เย็นหวั่นกับหานซึ่งก็ได้หมั้นกัน ตั้งแต่เด็ก

ถึงแม้ว่าตอนที่เจอกันสวี่เย็นหวั่นจะไม่ได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด แต่หาน จื่อก็คิดโน่นคิดนี่ รู้สึกไม่วางใจสุดๆอยู่ตลอด เธอเป็น ทั้งน้องสาวของหานชิง ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของเสี่ยวเหยียนอีก

ทั้งสองคนสําหรับเธอแล้วต่างก็เป็นคนสำคัญมาก ถ้าเกิด ปัญหาอะไรขึ้นมา เธอน้องสาวคนนี้ก็คงจะเสียใจมากเหมือนกัน

ดังนั้นแล้วช่วงหลายวันนี้หานคู่จื่อสามารถพูดได้เลยว่า กลัดกลุ้มใจเพราะเรื่องนี้แทบแย่ มีบางครั้งกลางดึกก็ถึงกับนอน ไม่หลับ เย่ไม่เป็นที่นอนกับเธอมีหรือที่จะไม่รู้ว่าอาการของเธอ เป็นยังไง

ทำได้เพียงพูดกับเธอออกมาว่า “ความจริงแล้วคุณไม่ต้อง กังวลเรื่องนี้ไปหรอก คนที่ควรกังวลน่าจะเป็นพี่ชายคุณมากกว่า”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หาน จื่อกลับส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย ออกมา “ฉันเป็นน้องสาวของเขานะ แล้วฉันก็ยังเป็นเพื่อนสนิท กับเสี่ยวเหยียนอีก เรื่องพวกนี้ฉันจะไม่กังวลได้ยังไง? คุณไม่รู้ วันนั้นตอนฉันไปบริษัทตระกูลหาน อันที่จริงก็ได้เห็นกับตาว่า หล่อนพูดออกมาว่าเคยหมั้นกับพี่ชายมาตั้งแต่สมัยเด็ก

“แล้วมันจะยังไง?” เย่โม่เป็นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เรื่องสมัย

เด็ก ใครเขาจะสนใจกัน? อย่าว่าแต่พี่ชายคุณเลยสวีเย็นหวั่นผู้

หญิงคนนั้นถึงสถานการณ์การเงินทางบ้านของเธอจะตกต่ำลง

ในตอนแบบนี้เธอจะต้องไม่มีทางจะมาพูดถึงเรื่องการหมั้นหมาย

พวกนี้ขึ้นมาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า

สถานการณ์การเงินของทางบ้านตกต่ำลงแล้วไปเกาะตระกูลหาน

เอาได้”

“เมื่อวันนั้นหลังจากที่ได้คุยกันแล้ว ตามนิสัยของหล่อนแล้ว คาดว่าก็คงไม่พูดออกมาหรอก แต่ถ้าเรื่องนี้มีอยู่จริงๆ ถึงแม้ว่า เธอจะไม่ได้พูด แต่เธอก็เคยมีอยู่จริง และเรื่องการหมั้นหมาย จำพวกนี้ ถ้าผู้ใหญ่ทางสองตระกูลได้ตกลงกันแล้ว เธอไม่พูด ตระกูลหานของเราแสร้งทำเป็นไม่รู้ มันก็จะดูเกินไปแล้วก็ยังดูไร้ สัจจะอีกด้วย”

ได้ยินอย่างนั้น เย่ไม่เป็นอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา ปลายนิ้วจับคางของหาน จื่อขึ้นมาพร้อมสบสายตากับเธอไป ด้วย เอ่ยเสียงอ่อนออกมา กลายมาเป็นคนรักษาสัจจะไปตั้งแต่ เมื่อไหร่ แม้แต่ชื่อเสียงของตระกูลหานก็ยังใส่ใจเสียขนาดนี้?”

หานมู่จื่อกลอกตามองเขาไปอย่างไม่สบอารมณ์ “ทำไม? ฉันแหานนะ ฉันจะต้องแคร์ชื่อเสียงของตระกูลหานอยู่แล้ว หรือว่า ฉันจะต้องแค ชื่อเสียงของตระกูลเบ่งั้นหรอ?”

“หม? นั่นมันก็แน่นอนอยู่แล้ว คุณในตอนนี้เป็นผู้หญิงของเย่ โม่เป็นนะ” เยโมเงินโน้มเข้าไปข้างหน้า จูบลงไปบนริมฝีปาก ของเธอเบาๆ น้ำเสียงก็ครึ้มลงกว่าเดิม เกิดเป็นผู้หญิงของตระ กูลเยีของผม ตายก็เป็นผีของตระกูลเย่ ไม่แคร์ชื่อเสียงของตระ กูลเย่ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่เจ็บเอาหรอ?”

พูดจบ จูบของเขาก็ไม่ได้โน้มลงมายังริมฝีปากของเธออีก แต่ ได้จูบลงมาทันที งัดฟันของเธอ จนลมหายใจของเธอเริ่มไม่ มั่นคงแล้วจึงได้ผละออกไป

ดวงตาหวานของหาน จื่อ จ้องมองเขาไปอย่างไม่พอใจ “ทำไม? กำลังโทษว่าสามีใจไม่จดจ่อ?”

หานมู่จื่อ “…จะเป็นไปได้ยังไง ฉันก็แค่กำลังคิดว่าเรื่องการ หมั้นหมายพวกนี้ให้พี่ชายฉันมาพูดก็ไม่ค่อยดี ไม่อย่างนั้นแล้วก็ ให้ฉันที่เป็นน้องสาวคนนี้…อุ๊บ

คำพูดยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ เย่ไม่เป็นกัดริมฝีปากล่าง ของเธอ

“ตอนนี้เป็นรอบพิเศษของพวกเราสามีภรรยา อีกอย่างเรื่อง ของคนอื่น ผมเริ่มจะโกรธแล้วนะ”

คิดอยู่ทั้งคืน ภรรยาตัวน้อยของตนนอนพลิกตัวไปมาอยู่ใน อ้อมกอดของเขา นอนไม่หลับทั้งคืน เพราะผู้ชายคนอื่น
ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม แต่เพียงแค่เป็นเพศตรงข้ามก็ไม่ได้แล้ว

หาหมู่อย่นจมูกด้วยความไม่สมเหตุสมผล เธอก็คิดว่าตัวเอง เป็นอย่างนี้มันไม่ถูก เรื่องนี้สามารถคิดหาวิธีจัดการได้ ไม่มี ความจําเป็นที่จะต้องคิดวุ่นอยู่ตรงนี้เลย

ช่างเถอะ นอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เธอค่อยไปคุยกับหานซึ่งว่าจะ จัดการเรื่องนี้ยังไง

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว หานเอกะพริบตาปริบๆออกมา มองเ โม่เป็นแล้วเอ่ยออกมา “งั้นฉันไม่คิดแล้ว ฉันง่วงแล้ว พวกเรา นอนกันเถอะ”

เย่ไม่เป็นดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดของตัวเอง เอ่ยออกมาด้วยน้ำ เสียงไม่มีใครพอใจนัก “นอน”

หานผู่จื่อ

ผู้ชายสันดานหมาคนนี้ นอนก็นอนสิ จะมากอดเธอทำไม

แต่ทั้งสองคนก็นอนด้วยกันจนชินแล้ว เขากอดเข้ามาด้วย ความโอบอ้อมแผ่กระจายกลิ่นอายและความอุ่นร้อนที่คุ้นเคย พึ่งพาได้ ให้ความรู้สึกที่สงบจิตสงบใจอย่างนึงให้แก่เธอ

หาน จื่อทำเพียงปากร้องออกมา จากนั้นก็หลับตาลงนอน หลับไป

วันที่สองหาน จื่อก็หาเวลาไปบริษัทตระกูลหาน
ในตอนที่เธอไป หานซิงก็กำลังประชุมอยู่ แต่เนื่องจากว่าหา นมู่จื่อเป็นน้องสาวของหานซิง เธอก็เลยเดินตรงเข้าไปรอเขาอยู่ ในห้องทํางาน โดยทันที

ใครจะรู้ว่า ในตอนที่ผลักประตูเข้าไป นึกไม่ถึงว่าจะเจอเข้ากับ เสี่ยวเหยียนที่กําลังนอนแผ่อยู่บนโซฟา

ได้ยินเสียงผลักประตู เสี่ยวเหยียนก็เงยหน้าตามขึ้นมา

ทั้งสองคนสบตากัน

ผ่านไปห้านาที เสี่ยวเหยียนก็เด้งตัวขึ้นมาจากบนโซฟาทันที นั่งมองหานมู่จื่ออยู่ตรงนั้นด้วยความกระดากอาย มีท่าทางตื่น ตระหนกตกใจจนทําอะไรไม่ถูก

“เอ่อ…”

หาหมอชาเลืองมองเธอไปด้วยท่าทีขำๆ แล้วปิดประตูห้อง

ทํางานลง

“ทำอะไร? เห็นฉันแล้วถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนเสียขนาดนี้ ทำอย่าง กับฉันจับเธอทำไม่ดีไม่ร้ายอย่างนั้นแหละ?”

เสี่ยวเหยียนมีแววตาขี้ขลาดออกมา กัดริมฝีปากของตัวเอง “ถึงแม้ว่าจะไม่จับทำมิดีมิร้าย แต่ให้เธอเห็นฉันดูไร้ภาพลักษณ์ อย่างนี้อยู่ในห้องทำงานพี่ชายของเธอ ฉันไร้ยางอายหรือไง?

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หาน จื่อหลุดหัวเราะออกมาควบคุมเอาไว้ไม่อยู่
“ขายหน้างั้นหรอ ห้าปีก่อนเธอพักอยู่กับฉัน ท่าทางที่ไร้ภาพ ลักษณ์ของเธอฉันก็เห็นมาหมดแล้ว มาตอนนี้จะมากลัวอะไรกัน อีก?”

เสี่ยวเหยียนร้องเฮอะออกมาเบาๆ สีหน้าก็ยังกระมิดกระเมี้ยน เหนียมอายออกมาเล็กน้อย “นั่นมันไม่เหมือนกัน ตอนนี้ที่นี่เป็น ห้องทํางานของพี่ชายเธอนะ”

“ห้องทำงานแล้วยังไง?” หาน จื่อเดินเข้าไปนั่งเคียงกับเธอ โยนกระเป๋าออกไปอย่างไม่ใส่ใจ เอ่ยพูดออกมาอย่างไม่แยแส “พวกเธอคงอยู่ด้วยกันที่ห้องทํางานกันล่ะมั้ง ถึงตอนนั้นแล้ว ไม่ใช่ว่าจะยิ่งไร้ภาพลักษณ์กว่าเดิมอีกหรือไง?

เสี่ยวเหยียน “.….”

คำพูดนี้พูดออกมาได้เสียจนหน้าเธอแดงขึ้นมาทันที เบิกตาก ว้างมองหาน จื่อไปอย่างพูดไม่ออกเลยสักคำอยู่นาน ผ่านไปได้ สักพักใหญ่ๆ กว่าเธอจะหาเสียงของตัวเองเจอ

“มู่จื่อ เธอตอนนี้…ทำไมถึงได้กลับกลายมาเป็น…เป็น…

“เป็นอะไร?” หานมู่จื่อโน้มเข้าไปชนหัวของเธอ “เมื่อก่อนใคร

สาบานออกมาเสียมาดมั่นกับฉันกัน ว่าถึงแม้ว่าจะจับกดก็จะไป

นอนบนเตียงของพี่ชายฉัน? แล้วใครกันที่หลังจากที่คบกับพี่ชาย

ฉันแล้วก็รีบส่งข่าวมาแชร์กับฉันอีก? ประเด็นคือเธอหยิบขึ้นมา

พูดเองนะ

ตอนนี้เธอกลับมาว่าฉัน นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะ”
เสี่ยวเหยียนหมดคำที่จะพูด หลับตาลงไปอย่างไม่ยี่หระต่อ ความตายใดๆทั้งสิ้น เอ่ยเสียงดังออกมา “โอเค อย่างที่เธอพูด ออกมาอย่างนั้นแหละ ฉันเป็นผู้หญิงปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างนั้น ฉันอยากจะทำกับเขาบนโซฟาตรงนี้!

แกรก

ประจวบกับในตอนนี้ ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักออกมาอีก ครั้ง

ทันทีที่หานชิงผลักประตูเข้ามาก็ได้ยินเข้ากับประโยคนั้นของ เสี่ยวเหยียน คําพูดที่ช็อกโลกนั้น แม้ว่าเขาจะยังนิ่งเงียบอยู่ อย่างนั้น ในเวลานี้เองฝีเท้าก็สะเปะสะปะไป แทบจะล้มคะมีไป ข้างหน้า

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนพูดจบ ก็ได้ยินเสียงผลักประตูนั้น แล้วก็ ยังมีเสียงฝีเท้าสะเปะสะปะนั้นอีก

เธอมองไปทางต้นเสียงทันที

ดวงตาสบกัน พร้อมตกอยู่ในความเงียบขึ้นมาทันที แล้วเสี่ยวเหยียนก็เห็นผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่เดินตาม หลังหานชิงมามีหน้าตื่นซอกออกมา แล้วยังมีสีหน้าที่ยิ้มเหมือน กับไม่ยิ้มของคนข้างๆ ซูจิ๋วที่มีท่าทางอย่างกับกำลังดูการแสดง อยู่

ในเวลานั้นเอง เสี่ยวเหยียนเพียงรู้สึกวิงเวียนเหมือนโลก กำลังหมุนติ้วๆ แทบอยากจะสลบเหมือดไปทันทีเลยก็ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ