เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่944มีสติขึ้นมาหน่อยหนึ่ง



บทที่944มีสติขึ้นมาหน่อยหนึ่ง

มู่จื่อจะเข้าใจผิดได้…

มู่จื่อจะเข้าใจผิดได้…

สมองของเสี่ยวเหยียนเหลือแค่คำพูดนี้ มีความคิดที่น่าตื่นตก ใจแว๊บผ่านสมองของเสี่ยวเหยียน ไม่นานก็ถูกเสี่ยวเหยียนลบ ทิ้งและปฏิเสธไป

นี่จะเป็นไปได้ยังไง? เธอคิดผิดไปแล้วแน่ๆเลย

ถึงเสี่ยวเหยียนจะพยายามปลอบใจตัวเอง แต่หานซึ่งก็ยัง สังเกตเห็นสีหน้าที่ซีดขึ้นมาในพริบตาของเธอ เหมือนรู้ข่าวอะไร ที่น่ากลัวมากยังไงอย่างงั้น

ก่อนหน้านั้นตอนที่ตัวเองปฏิเสธเธอ สีหน้าเธอยังไม่ได้แย่

ขนาดนี้เลย

คิดถึงตรงนี้ หานชิงถึงตระหนักได้ว่าเธออาจจะเข้าใจผิดกับ คำพูดของเขาในเมื่อกี้

ไม่ว่าค่านี้จะเป็นส่วนเกินหรือเปล่า เขาก็ยังขมวดคิ้วถามเธอ “คุณกำลังคิดอะไรอยู่?

เขาไม่ถามยังดี พอถามก็ทำให้เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าเขากินปูน ร้อนท้อง เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง สะกดคลื่นที่ซัด

กระหน่ำของในใจไว้
“คุณ….เมื่อคุณบอกว่า………………เข้าใจผิดได้ หมายความว่ายังไงคะ?”

เธอกัดริมฝีปากล่างไว้ และถามอย่างติดๆขัดๆ

ได้ยินคํานี้แล้ว หานซึ่งขมวดคิ้ว

เธอเข้าใจความหมายของเขาผิดจริงๆซะด้วย

ยังดีที่เขาถามเพิ่มอีก

หานซึ่งได้เปลี่ยนถุงที่อยู่ในมือไปอีกข้าง และพูดอย่างราบ เรียบ: “มู่จื่อเป็นญาติคนเดียวของผม ผมก็เป็นญาติคนเดียวของ เธอ ถ้าพี่ชายอย่างผมมีความคืบหน้าเรื่องความรัก เธอจะต้อง เป็นคนที่เป็นห่วงที่สุดแน่นอน

ส่วนคุณเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ผมไม่อยากให้เธอคิดว่า ระหว่างผมกับคุณมีความเป็นไปได้อะไร แม้กระทั่งคิดหาวิธีมา จับคู่ผมกับคุณ”

พูดแบบนี้ คงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วมั้ง?

ฟังคำอธิบายของหายชิงเสร็จ ในขณะที่เสี่ยวเหยียนโล่งอกไป

ที แต่ก็รู้สึกเหมือนถูกฉีกเป็นแผลใหญ่

โชคดี โชคดีไม่ใช่อย่างที่เธอคิด

แต่ว่า………..เลยว่าเขาจะไม่ชอบตัวเองถึงขั้นนี้เลย กลัวจื่อจะจับคู่พวกเขาอีก และ

เธอหลุบตาลง เหมือนหมดอาลัยตายอยากยังไงอย่างงั้น
“ค่ะ ฉันรู้แล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อเสื้อตัวหนึ่ง แล้วคืนตัวนี้ให้ คุณค่ะ”

พูดจบ เธอหันหลังอย่างไวและเดินไปข้างหน้า

ครั้งนี้เสี่ยวเหยียนเดินไวมาก เห็นข้างๆมีร้านเสื้อผ้าผู้หญิงก็ เลี้ยวเข้าไปอย่างเร็ว

หานซึ่งย่อมไม่เข้าไปอยู่แล้ว เขาถือถุงไว้และยืนรออยู่ที่ด้าน นอกด้วยสีหน้าเย็นชา

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

พนักงานถือเสื้อคลุมสีดำตัวหนึ่งเดินออกมา มองซ้ายมองขวา สุดท้ายสายตาหล่นอยู่ที่บนตัวของหานชิง ดูเหมือนว่ากำลัง แน่ใจอะไรอยู่

หานซิงเห็นเสื้อคลุมที่อยู่ในมือเธอเป็นเสื้อของตัวเอง เขาจึงเดินไป

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

“คุณคะ เสื้อคลุมตัวนี้เป็นของคุณใช่มั้ยคะ

หานชิงพยักหน้า: “อืม เธอยังซื้อไม่เสร็จ?”?”

พนักงานสาวยิ้ม แววตาดูเหมือนว่าจะอึดอัดเล็กน้อย

“คืออย่างนี้ค่ะ คุณผู้หญิงท่านนั้นให้ดิฉันเอาเสื้อตัวนี้มาคืนให้คุณค่ะ”

หานชิงเงียบไปครู่หนึ่ง ยื่นมือรับเสื้อคลุมมา
คงจะรู้สึกว่าเขาหอบเสื้อคลุมอยู่ในมือดูไม่ค่อยดี พนักงาน สาวจึงได้พูดอีก: “คุณรอสักครู่นะคะ ฉันเอาถุงใส่ให้คุณค่ะ”

หานซึ่งไม่ได้ปฏิเสธ ไม่นานพนักงานก็เอาถุงมาใส่เสื้อคลุม ของเขา แต่เวลานี้เสี่ยวเหยียนยังไม่ได้ออกมา สีหน้าของ พนักงานดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย หานซึ่งมองเธอที่หนึ่ง ถึงเห็น เธอพูดอย่างล้ำๆอึ้งๆ

“คุณคะ คุณผู้หญิงที่อยู่ด้านในบอกว่าอยากเดินเล่นที่นี่อีกสัก พัก ให้..……..คุณกลับไปก่อนค่ะ”

มือที่ถือถุงไว้ของหานชิงได้หยุดชะงัก ผ่านไปครู่หนึ่งเขาพยัก หน้า: “โอเค”

คิดๆแล้ว เขาได้พูดขึ้นอีก: ให้เธอกลับเช้าๆหน่อย ไม่งั้น เพื่อนของเธอจะเป็นห่วงได้

“ได้ค่ะ ฉันจะบอกกับคุณผู้หญิงท่านนั้น ให้ค่ะ

ไม่นานหานซิงก็หิ้วถุงไว้แล้วเดินจากไป เดินอย่างไม่หันมา มองเลย

ตอนที่พนักงานสาวกลับมา เสี่ยวเหยียนนั่งเหม่อลอยอยู่บน เก้าอี้ของห้องลองเสื้อ บนตัวสวมใส่เสื้อคลุมตัวที่ซื้อใหม่ ตอนที่ เห็นพนักงานสาวกลับมา เสี่ยวเหยียนมองไปที่เธอด้วยความ คาดหวัง

พนักงานสาวพูดกับเสี่ยวเหยียนด้วยความลำบากใจ

“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายท่านนั้นไปแล้วค่ะ”
เพิ่งพูดจบ พนักงานสาวเห็นแสงในแววตาของเสี่ยวเหยียนได้ จางหายไปแล้ว

พริบตาเดียว บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที พนักงานสาว ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ดังนั้นจึงทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้จะปลอบใจ เสี่ยวเหยียนยังไง ยิ่งไม่รู้เลยว่าเธอจะซื้อเสื้อคลุมที่อยู่บนตัวหรือ เปล่า

แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นก็จริงๆเลยนะ เธอให้เขากลับก่อน ไม่นึก เลยว่าเขาก็กลับก่อนจริงๆ

“เอ่อ…….พวกคุณเป็นคู่รักกันหรอคะ?”

ได้ยินเสียงของพนักงานสาว เสี่ยวเหยียนดึงสติกลับมา สาย หัวพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่ใช่ค่ะ

พนักงานสาวมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที

ถ้าไม่ใช่แฟนกัน……………..ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรผู้ชายคน

นั้นแล้ว

“ฉันชอบเขา แต่เขาไม่ชอบฉันค่ะ”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนได้ถอดเสื้อคลุมลงมายื่นให้กับพนักงานสาว

สีหน้าของพนักงานสาวค่อนข้างดูแย่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ลูกค้าก็เสียใจขนาดนี้แล้ว คงไม่มีอารมณ์ซื้อเสื้อผ้าแล้วแน่นอน

“ช่วยฉันใส่ถุงด้วยค่ะ”
พนักงานสาวค่อนข้างประหลาดใจ แต่ก็ได้พยักหน้า

“ได้ค่ะ คุณรอสักครู่นะคะ”

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เสี่ยวเหยียนได้นิ้วเสื้อผ้าเตรียมตัวจาก

ไป

พนักงานสาววิ่งตามเธอมาถึงที่หน้าร้าน เห็นเธอที่ใจไม่อยู่กับ เนื้อกับตัว อดไม่ได้ที่จะถาม: “คุณคะ อากาศหนาวขนาดนี้ ใส่เสื้อคลุมดีกว่านะคะ ฉันช่วยคุณตัดป้ายทิ้งค่ะ คุณ

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ฝีเท้าของเสี่ยวเหยียนได้หยุดลงมา จากนั้น ก็ยิ้มให้กับพนักงานสาวด้วยเจตนาดี

“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่หนาว

“คุณผู้หญิง ตอนนี้คุณไม่หนาวเพราะในห้างมีเครื่องปรับ อากาศให้อบอุ่นอยู่ พอออกจากห้าง ก็ไม่อุ่นแบบนี้แล้วนะคะ”

“ฉันรู้ค่ะ เดี๋ยวออกจากห้างฉันค่อยใส่ค่ะ ตอนนี้ฉันยังจะ ไปเดินเล่นที่อื่นต่อค่ะ

เสี่ยวเหยียนก็พูดแบบนี้แล้ว พนักงานสาวก็ไม่ได้ดึงดันต่อ แค่ พยักหน้า ให้เธอ และใช้สายตาส่งเธอจากไป

เสี่ยวเหยียนคิ้วเสื้อผ้าที่อยู่ในมือออกจากห้างสรรพสินค้า

เหมือนที่พนักงานสาวพูดจริงๆด้วย พอออกมาจากห้างก็ไม่อุ่น แล้ว อากาศหนาวโจมตีร่างกายของเธอแต่ครั้งนี้เสี่ยวเหยียนก ลับรู้สึกไม่ได้หนาวเหมือนเมื่อกี้แล้ว
ในมือหิ้วเสื้อผ้าไว้ แต่เธอกลับไม่อยากหยิบขึ้นมาใส่เลย บางที ความหนาวเย็นนี้สามารถทําให้เธอมีสติขึ้นมาหน่อย หนึ่ง?

คิดถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนยิ้มมุมปาก

รอให้เธอมีสติขึ้น ก็จะสามารถเก็บใจกลับมาจากตัวหานซึ่งได้ แล้ว นานขนาดนี้แล้ว ถึงแม้อาจจะฝังแน่น แต่ก็ใช่ว่าจะเก็บใจ กลับมาไม่ได้

เสี่ยวเหยียนเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายปลายทาง ร่างกายเหน็บหนาวจนแทบจะด้านชาไปแล้ว

ตั้งแต่เล็กจนโตเธอทํางานราบรื่นมาโดยตลอด ถึงแม้เจอ อุปสรรคเล็กน้อยบ้าง แต่ทุกครั้งก็สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ หมดไปอย่างง่ายดาย มีเพียงความรักเท่านั้น

แอบชอบ รักเขาอยู่ฝ่ายเดียว

มันทรมานจริงๆ

ทรมานมากๆ

ถ้าเป็นไปได้ เธอหวังให้ตัวเองสามารถรักได้และปล่อยวางได้ หานชิงไม่ชอบเธอ งั้นเธอก็ไปชอบคนอื่นสิ ใช่ว่าเธอจะไม่มีคน เอาสักหน่อย

เสี่ยวเหยียนหัวเราะไปด้วยและน้ำตาไหลไปด้วย ผู้คนที่เดิน ไปมาอยู่ข้างถนนมองดูเธออย่างกับมองคนบ้า
ไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้คงอยู่นานเท่าไหร่ ในที่สุดตอนที่ร่าง เงาหนึ่งขวางทางของเสี่ยวเหยียนไว้ เธอถึงหยุดเดิน

ก่อนอื่นคือเห็นรองเท้าคู่ที่ค่อนข้างคุ้นเคยก่อน เธอหัวใจเต้น

แรง

หรือว่าหานซึ่งจะกลับมาหาเธอ?

หลังจากเงยหน้าขึ้นมา กลับเห็นเขียวขมวดคิ้วยืนอยู่ตรง

หน้าเธอ

หลังจากเซียวเห็นรอยน้ำตาบนใบหน้าเธอ ยิ่งขมวดคิ้วแน่น

“เซียวซู่?”

เสี่ยวเหยียนเห็นเขาแล้ว ได้หัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ