เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1219 ไม่สบายใจ



บทที่ 1219 ไม่สบายใจ

เห็นเธอติดกับ หลินชิ้นเอ๋อยิ้มพลางพยักหน้า

“ใช่แล้ว เธอเนี่ย กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ รอจนเธอเปลี่ยน ชุดเสร็จ แปรงสีฟันกับโฟมล้างหน้าก็จะไปหาเธอตรงหน้าเลย

เสี่ยวเหยียนได้ยินอย่างนั้นก็เหมือนจะดีใจมาก รีบพยักหน้า ทันที : “อย่างนั้นก็ดีขอขอบคุณพี่หลินก่อนเลยนะคะ อย่างนั้นอีก เดี๋ยวคุณค่อยเอาไปให้นะคะ ฉันขอกลับก่อน”

เห็นเสี่ยวเหยียนจากไป ในที่สุดหลินชิ้นเอ๋อก็ถอนหายใจ อย่างโล่งอก ที่ทำให้เธอจากไปได้ เธอกลัวจริงๆว่าเสี่ยวเหยียน จะพุ่งตัวเข้าไปโดยไม่สนใจอะไร

สมเป็นสาวน้อยที่ไม้ประสีประสาอะไรเลยจริงๆ

แต่ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงได้สะเพร่าได้นะ เก็บของยังไงแม้แต่ แปรงสีฟันกับโฟมล้างหน้าก็ยังลืมได้ ยังต้องเอาไปให้เธออีก ใน ใจหลินชิ้นเอ๋อเกิดความไม่พอใจ เพื่อรักษาภาพลวงที่ตนเอง สร้างขึ้นมา จึงหมุนตัวเข้าไปหาแปรงสีฟันให้เสี่ยวเหยียน

แต่ว่าหลินชิ้นเอ๋อหาจนทั่วห้องน้ำ ก็ยังหาของที่เสี่ยวเหยียนบ อกไม่พบ

ไม่เพียงไม่มีแปรงสีฟัน แม้แต่โฟมล้างหน้าก็ไม่มี หลินชินเอ๋อสองมือเกาะที่อ้างล้างมือ มองตนเองในกระจกด้วยสีหน้าท่าทางดุดัน

ไม่ถูก ถ้าหากหลงลืมของเอาไว้จริง ไม่มีทางที่จะหาไม่เจอทั้ง

สองอย่าง อย่างนั้นหมายความว่าอะไร

หมายความว่าเธอถูกนั่งเด็กนั่นปั่นหัวเหรอ!

เธอกําลังหลอกตนเอง!!

หลินชิ้นเอ๋อเมื่อรู้ความจริงก็ทนไม่ได้ที่จะกำหมัด บ้าเอ้ย! นี่ เธอถูกเด็กเมื่อวานซืนที่เด็กกว่าตัวเองหลายปีหลอกเอาเหรอ เนี่ย!

แต่ไม่นานหลินชิ้นเอ๋อก็ตั้งสติได้ว่า สาเหตุที่เด็กนั่นแกล้งเธอ แบบนี้!

หรือว่าเธอจะรู้ความจริงแล้ว

แต่เธอรู้ได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่ได้ให้หล่อนเข้ามา……..

คิดมาถึงตรงนี้ หลินชิ้นเอ่อตัดสินใจออกไปดู

ทางเสี่ยวเหยียนหลังจากมั่นใจในความคิดของตนเองแล้ว ก็ รีบกลับไปที่ห้อง พอเข้าไปหานซึ่งก็เรียกเธอไปดื่มนม แต่ตอน เสี่ยวเหยียนเพิ่งตื่นนอนก็วิ่งไปหาหลินชิ้นเอ๋อเลย ไม่ได้ทำอะไร ฟันก็ยังไม่ได้แปรงเธอจะกล้าดื่มนมได้อย่างไร

ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงโบกไม้โบกมือ รีบวิ่งไปแปรงฟัน

ตอนที่แปรงไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู เธอคิดว่า ตอนนี้หลินชิ้นเอ๋อคงจะมาหาเธอแล้ว ดังนั้นจึงรีบบ้านฟองในปากออกล้างหน้าตัวเองให้สะอาด

ตอนที่ออกไป หานซิงกลับขวางอยู่ที่หน้าประตู “กินข้าวก่อน

“แต่ว่า……เสียวเหยียนชี้ไปที่ด้านหลังเขา “มีคนเคาะประตู ยังพูดไม่ทันจบ หานซึ่งก็เดินมาจับแขนเรียวขาวของเธอ พา เธอเข้าไปข้างใน กดให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้

“กินข้าวสำคัญกว่า เรื่องอื่นอย่าเพิ่งสนใจ

พูดจบก็ยัดแก้วนมหนึ่งแก้วใส่ในมือของเสี่ยวเหยียนพร้อม กําชับว่า “ต้องดื่มให้หมด”

เสี่ยวเหยียนกระพริบตาปริบๆ มองท่าทางหานซึ่งเหมือนจะไม่ ได้กำลังล้อเล่น ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนเช้าตอนที่ ตนเองนอนงัวเงียอยู่นั้นเหมือนกับได้ยินเสียงคนมาเคาะประตู จากนั้นเธอก็ถามหานชิง หาเชิงบอกว่าเธอได้ยินผิดแล้ว ให้เธอ นอนต่อ

ตอนนั้น ท่าทางของหานชิงเหมือนกับตอนนี้เลย

หรือว่า……

คิดมาถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนเบิกตาโพลง : “ตอนเช้าหล่อนก็ มา ใช่มั้ย”

หานชิงอมยิ้มขยิบตาให้เธอ ค่อยๆพยักหน้าเล็กน้อย เห็นเขายอมรับ เสี่ยวเหยียนอารมณ์เสียเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอยังคิดว่าตัวเองนอนละเมอ คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะมาเคาะประตู

จริง

เสี่ยวเหยียนจ้องมองเขาอย่างสงสัย

“หล่อนมาทําไมแต่เช้า

หานชิงดื่มน้ำผลไม้ในแก้วด้วยท่าทางเชื่องช้า ใครจะไปรู้ล่ะ

ในเมื่อเขาเองก็ไม่อยากจะถามว่าหล่อนจะทำอะไร ได้แต่ เตือนหล่อนว่าอย่าเคาะประตูอีก เพราะอาจจะดังรบกวนการนอน ของผู้หญิงของเขา

ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามนี้ หานซึ่งก็ตอบไม่ถูก

“ไม่รู้เหรอ”เสี่ยวเหยียนจ้องมองเขาด้วยสายตาระแวง สงสัย : “เธอไม่ได้ไปเปิดประตูเหรอ หล่อนไม่ได้พูดกับเธอเห รอ”

หาเชิงจ้องเธออย่างอับจนปัญญา: “กินข้าว ทำไมถึงพูดมาก ขนาดนี้”

ถูกว่าแล้ว……

เสี่ยวเหยียนได้แต่ก้มหน้าดื่มนมอย่างไม่สบอารมณ์

เพราะเมื่อครู่เธอถูกหานชิงลากมา เสียงเคาะประตูด้านนอกก็ หยุดไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับดังขึ้นมาอีกแล้ว

เสียงเคาะประตูดังอยู่ข้างหู ท่าทางหานชิงกลับทำท่าสบายๆ ไม่สนใจอะไร หากไม่ใช่ว่าเสี่ยวเหยียนได้ยินเสียงและอยู่ในห้องเดียวกันกับเขา เสี่ยวเหยียนคิดว่าเสียงคนเคาะประตูด้านนอก ความ

และเทียบกับทานชิงเสี่ยวเหยียนสามารถดื่มนมและกินซึ่งกลับไปอีก ดังนั้นจึง แต่กินอย่างตะกละตะกลาม

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกินอาหารจนหมด เสี่ยวเหยียนหยิบ กระดาษทิชชูเช็ดปากอย่างแรง ลุกขึ้นยืน

“กินอิ่มแล้ว ก่อนพูดจบทิ้งกระดาษทิชชูลงไปในถังขยะข้างๆ รีบวิ่งไปอย่าง รวดเร็ว

เห็นแผ่นหลังที่รีบร้อนของหานซิงส่ายหน้า ในใจคิดนิสัยสำคัญคนหนึ่งยังรีบร้อนขนาดต่อไปหากต้องเรื่องแบบนี้ อีก แล้ว

ดังนั้นหานชิงเรียบร้อยก่อน จะฝึกนิสัยของผู้หญิงคนนี้

ตอนเสี่ยวเหยียนเดินข้างประตู ได้ยินเสียงเคาะประตูด้าน นอกยิ่งใจร้อนขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาก็กดกริ่งที่ประตู หลายครั้ง เสียงดังสั้นยาวได้ยินกำลังโกรธมาก

หากเป็นปกติ เสี่ยวเหยียนไม่ทางปล่อยหลินชิ้นเอ๋อต้องรออยู่ด้านนอกแน่นอน แต่ตอนเข้าหลังจากที่หล่อนสร้าง สถานการณ์หลอกเธอ ในใจเสี่ยวเหยียนก็คาดเดาบางอย่างได้ ดังนั้นครั้งนี้นอกจากน้อยใจ ก็ไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เตรียมพร้อมต่อสู้ จากนั้นก็ก้าวไป เปิดประตู

หลินชิ้นเอ๋อเคาะประตูจนโกรธมาก รอจนโมโหอย่างมาก หากไม่ใช่ว่ากลัวจะแสดงธาตุแท้ตัวเองออกมา หลินชิ้นเอ๋อคงจะ ทนไม่ไหวทุบประตูไปแล้ว

ก็เหมือนตอนนี้ ในที่สุดหลินชิ้นเอ๋อก็เห็นเสี่ยวเหยียนมาเปิด ประตู ตอนที่ด้านหลังประตูมีใบหน้าขาวสวยเล็กๆปรากฏขึ้น หลินชิ้นเอ๋อก็อยากจะด่ากราดใส่หน้าไปเลยจริงๆ

แต่มาคิดดูแล้ว ตนเองยังต้องอาศัยเธอเพื่อเข้าใกล้หานซึ่งอยู่ ก่อนที่เธอจะยั่วหานชิงได้สำเร็จ ผู้ชายคนนั้นก็ยังให้ความสำคัญ กับแม่สาวน้อยตรงหน้านี้อยู่ไม่น้อย

รอจนเธอกำจัดหล่อนได้ก่อน ถึงตอนนั้นดูสิว่าเธอจะจัดการนั่ง ตัวดียังไง

หลังจากปลอบโยนตัวเองแล้ว ในที่สุดไฟโกรธในใจของ หลินซินเอ๋อก็ไม่ได้ลุกโชติช่วงขนาดนั้นแล้ว เธอจ้องมองเสี่ยวเห ยียนอย่างเยือกเย็น ในน้ำเสียงยังอดไม่ได้ที่จะตำหนิอยู่บ้าง

“น้องเสี่ยวเหยียน เธอมัวทำอะไรอยู่ ฉันเคาะประตูตั้งนานแล้ว คุณก็ยังไม่ออกมา”
เสี่ยวเหยียนสังเกตเห็นว่าสีหน้าเธอนั้นดูแย่มาก สายตาที่มอง ตัวเองนั้นเหมือนจะกลืนกินเธอเข้าไป นี่คือสิ่งที่ควรจะทำกับคนที่ มีบุญคุณช่วยชีวิตเธอเอาไว้เหรอ

ทำดีช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน อย่าหวังผล ตอบแทนด้วยการไปช่วยเหลือใคร เหตุผลข้อนี้เสี่ยวเหยียน เข้าใจมาโดยตลอด ดังนั้นตอนที่ช่วยเธอ เสี่ยวเหยียนไม่เคยคิด จะให้เธอมาตอบแทนบุญคุณอะไรกับตน

ขอแค่เธอได้ช่วยคนอื่น ตัวเธอเองก็รู้สึกมีความสุขแล้ว ยิ่งไป กว่านั้นไม่ใช่ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะช่วยใครได้ทุกเรื่อง ทว่าเรื่องมัน เกิดขึ้นต่อหน้าเธอ และเธอก็ทนดูไม่ได้ ดังนั้นจึงยื่นมือไปช่วย เท่านั้น

แต่ว่าตอนนี้ หลินชิ้นเอ๋อกลับใช้สายตาราวกับจะกินคนจ้อง มองมาที่ตัวเอง ทำให้เสียวเหยียนเริ่มไม่พอใจขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ