เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่15 เขาบริสุทธิ์แล้วคุณบริสุทธิ์รึเปล่าล่ะ



บทที่15 เขาบริสุทธิ์แล้วคุณบริสุทธิ์รึเปล่าล่ะ

คำพูดของเซียวซู่นั้นตรงไปตรงมา นั่นทำให้ เสิ่นเฉียวขมขื่นและหลับตาลง

“ฉันรู้..”

เมื่อเห็นอารมณ์เธอเศร้าหมองลง เซี่ยวซู่ถึง ได้รู้ตัวว่าคำพูดของตัวเองนั้นออกจะแรงไปสัก หน่อย “ผมรู้ว่าที่ผมพูดมันไม่ค่อยน่าฟังนัก แต่ว่า คุณหนูเสินคุณเองก็รู้ใช่มั้ย ว่าคุณไม่ได้รับ อนุญาตให้พูดถึงเรื่องในวันนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วผม ก็ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้”

พอพูดจบ เซี่ยวซู่ก็หมุนตัวและจากไปอย่าง

รวดเร็ว

ถ้าหากว่าเสิ่นเฉียวเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย เธอก็ไม่ปริปากพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก

เสิ่นเฉียวยืนนิ่งอยู่ที่มุมนั้นอยู่ประมาณห้า นาทีได้ เธอถึงเดินไปเคาะประตู

“เข้ามา” เสียงเย่โม่เซินนั้นเยือกเย็นไร้ชีวิต ชีวา ยังคงเจือปนความโกรธอยู่

เสิ่นเฉียวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะผลักประตู ห้องทำงานและเดินเข้าไป

เยโม่เซินไม่ได้นั่งอยู่ที่หน้าห้องทำงาน แต่เขากลับหันหลังอยู่ นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง มองลง ไปข้างล่าง เสิ่นเฉียวระลึกถึงความเย็นชาในน้ำ, เสียงของเขา ขณะที่เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ

ในห้องเงียบสงัดอยู่หลายวินาที พอเย่โม่เซิ นรู้ใครมาเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ขมวดคิ้ว และเข็นรถเข็นหมุนกลับไปด้วยตนเอง

ใครจะรู้สิ่งที่สะท้อนอยู่ในสายตาเขาก็คือ ใบหน้าอันขาวจนซีดเซียวของเสิ่นเฉียว

เยโม่เซินขมวดคิ้ว “คุณมาทำอะไรที่นี่”

เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะปะทะกับ สายตาของเขา “ฉัน ฉันก็เป็นผู้ช่วยของคุณไง”

เขาลืมเรื่องที่เกินขึ้นก่อนหน้านี้ไปแล้วรึไงนะ

พอได้ยิน เย่โม่เซิน ก็หัวเราะเยาะด้วยความ

ดูถูกดูแคลนเสียงหนึ่ง “ผู้ช่วยที่แม้แต่ชงกาแฟก็ ยังทำไม่เป็นอะนะ คุณคิดว่าผมจะต้องการรีไง” เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง พร้อมกำกำปั้น

สีชมพูขึ้นมา

“ฉันจะพยายามเต็มที่ ไม่ทราบว่าคุณชอบรส ชาติแบบไหนคะ ให้ฉันลองชิมดูซักแก้วได้มั้ย มัย คะ”

“ให้คุณชิมอย่างนั้น แล้วคุณจะสามารถ ทำให้ได้ตามรสชาติของผมรีไง”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า

ปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยบนริมฝีปากของเย่ โม่เซิน “คุณสามารถอย่างนั้นรี”

ยังไงก็แล้วแต่เขาก็ได้ให้โอกาสนั้นแก่เธอ เขาวางกาแฟในมือลงบนโต๊ะ “ตามรสชาตินี้ ผม ให้โอกาสคุณแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

เสิ่นเฉียวจ้องดูกาแฟแก้วนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อน จะเอื้อมมือออกไปหยิบ จากนั้นก็หันหลังเดินออก

ไป

เยโม่เซินหมุนล้อรถเข็นไปยังโต๊ะทำงาน เขา หยิบเอกสารฉบับหนึ่งขึ้นมาดู ราวสิบนาทีผ่านไป เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู

สงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว

ผู้หญิงคนนั้นยังคงไม่กลับมา

เฮ่อ ถอยทัพไปแล้วล่ะมั้ง กาแฟถ้วยหนึ่งใช้ เวลาชงตั้งสิบนาทีเลยทำ ไง

ผ่านไปอีกสิบนาที ประตูก็ยังไม่มีการ เคลื่อนไหว

เยโม่เซินขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ทำบ้า อะไรอยู่ คิดจะลองดีกับเขาเย่โม่เซินอย่างนั้นรีไง อยู่ๆก็จะมาฉกกาแฟของเขาไปดื้อๆ เพี้ยะ!
เย่โม่เซินปิดแฟ้มเอกสารอย่างเกรี้ยวกราด พอเขาคิดที่จะออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น ที่ ประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังแว่วมา

เสิ่นเฉียวเดินถือแก้วกาแฟเข้ามาด้วยท่าทาง กระสับกระส่าย เธอไม่กล้าสบตาเย่โม่เซิน

“คุณใช้เวลาไปทั้งหมดยี่สิบนาที”

เสียงเย็นชาดังขึ้นมา พิพากษาเธออย่างไร้ ความปรานี

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง และตอบกลับเสียง เบาๆ “แต่ว่าก่อนหน้านี้คุณไม่ได้บอกฉันว่า กำหนดระยะเวลาด้วยนี่”

“คุณ!” เยโม่เซินพูดไม่ออก เขาโมโหจน หัวเราะเยาะ “ดูเหมือนคุณเจ้าเหตุเจ้าผลสินะ”

ช่างเถอะ เสิ่นเฉียวไม่อยากต่อล้อต่อเถียง กับเขา เธอดันแก้วกาแฟที่ชงมาให้กับเขา “คุณ ลองชิมดู”

เมื่อกาแฟเคลื่อนเข้าใกล้ กลิ่นหอมคละคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ อบอวลไปทั้งห้องทำงาน

เมื่อได้กลิ่นหอมอันแรงกล้านี้ นัยน์ตาเย่โม่เซิ นก็เคลื่อนไหวไปมา ดวงตาหรี่ลงเห็นเป็นเส้นตรง

“ฉันรู้ว่าฉันชงอาจจะไม่ได้ดีเท่าคุณ แต่ว่าฉัน ก็พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว” เสิ่นเฉียวเห็นเขานั่งนิ่งไม่ไหวติง เธอจึงยื่นกาแฟขึ้นถึง ตรงหน้าเขา

ที่จริงแล้วเย่โม่เซินก็ไม่ได้คิดจะให้ความ สนใจเธอนัก แต่เมื่อเห็นเธอตั้งตารอคอย จ้อง มองเขาอย่างน่าเวทนา

ทำท่าทำทาง เหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกเอามา ปล่อยทิ้ง

ไม่รู้ทำไม เยโม่เซินยื่นมือออกไปรับ เขาจิบไปคำหนึ่ง สายตาของเย่โม่เซินก็แผ่ รังสีอันตรายขึ้นมา

เสิ่นเฉียวรู้สึกได้ว่าลมหายใจของเขาอยู่ๆก็ เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอก้าวถอยหลังไป โดยไม่รู้ตัว สายตาหลบไปมองพื้นอย่างเอียง อาย

“หลบทำไม” เย่โม่เซินขมวดคิ้ว เขาจ้องเธอ อย่างไม่พอใจ “กลัวว่าผมจะเอากาแฟสาดใส่คุณ หรือยังไง”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปาก

ดูเหมือนว่าจะถูกเขาเดาสิ่งที่คิดอยู่ได้ถูก ต้องตรงใจ

เยโม่เซินลองจิบกาแฟดูอีกครั้ง ก่อนที่จะยื่น แก้วกาแฟให้เธอ เสิ่นเฉียวรีบรุดไปข้างหน้าเพื่อที่จะรับไว้ขณะที่สายตายังคงจับจ้องเขาอย่าง ระแวดระวัง “เป็น เป็นยังไงบ้างคะ”

เย่โม่เซินสายตาเงอะงะมองไปทางอื่น พร้อม ทำเสียงแข็ง “ให้ผ่านอย่างเฉียดฉิว”

เมื่อได้ยิน เสิ่นเฉียวสุขใจเป็นที่สุด หน้าเธอมี รอยยิ้มโผล่ออกมาให้เห็น “จริงหรอคะ ถ้าอย่าง นั้นฉันก็อยู่ต่อได้แล้วใช่มั้ย”

เสียงอันมีชีวิตชีวานี้…

เยโม่เซินเหลือบมองไปที่เธอ ตั้งแต่วันแรกที่ เธอมาที่ตระกูลเย่ เธอก็เอาแต่ทำสีหน้าท่าทาง หวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลเย่ ด้วยความหวาดระแวง วันนี้อยู่ๆก็ยิ้มออกมา หน้า ขาวนวลอันงดงามขึ้นมาเมื่อประดับไปด้วยรอย ยิ้ม ยิ่งทำให้ดวงตาทั้งคู่นั้นดูสดใสขึ้นมา

ดูเหมือนว่ามีบางอย่างค่อยๆคืบคลานเข้ามา ในหัวใจของเย่โม่เซิน ทำให้เขาหงุดหงิดได้อย่าง ไม่มีสาเหตุ

เขาดึงเนคไทที่หน้าอก พร้อมกล่าวเสียงแข็ง “ผมบอกหรือว่าจะให้คุณอยู่ต่อ เรื่องเด็กคุณจะ เอายังไงต่อ”

เยโม่เซินเริ่มพูดถึงเรื่องเด็กขึ้นมาก่อน สีหน้า ของเสิ่นเฉียวขาวซีดลง นิ้วมือบีบกำแน่น
เสิ่นเฉียวกัดจนริมฝีปากแทบจะขาดแล้ว

“ยังไงก็แล้วแต่ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ คุณ ช่วย…ช่วยให้โอกาสฉันสักครั้งหนึ่ง” เสิ่นเฉียว รู้สึกว่าเงยหัวไม่ขึ้นแล้ว เธอไม่สามารถบอก ความจริงกับชายที่อยู่ตรงหน้าได้ เธอได้แต่ กล้ำกลืนและขอร้องเขาอย่างไม่มีทางเลือก!

ขอร้องให้เขาปล่อยเด็กในท้องของเธอไป เย่โม่เซินมองเธอราวกับว่ามองเห็นคนตาย ริมฝีปากเรียวบางขี้เกียจแม้แต่จะขยับเขยื้อน

“อีกสองวัน ถ้าเด็กยังอยู่ ถ้าอย่างนั้นผมจะ ลงมือเอง”

ชั่วพริบตา ก็ผ่านไปแล้วสองวัน

เสิ่นเฉียวยังไม่ไปโรงพยาบาลเอาเด็กออก เพราะว่าหานเส่โยวมาหาเธอ ให้เธอลองเจรจา กับเย่โม่เซินก่อน ส่วนหล่อนทางนั้นจะคอยหา หมอไว้ให้ เพื่อหาวิธีดูว่ามีทางไหมที่จะเอาเด็ก ออกโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

แต่ว่าตอนนี้ใจของเสิ่นเฉียว เธอไม่มีต้องการ ที่จะเอาเด็กคนนี้ออกเลยสักนิด

เธอต้องการเก็บลูกเอาไว้

หลังจากที่หานเส่โยวได้ยินความคิดของเธอหล่อนก็บอกว่าเธอนั้นบ้าไปแล้ว

เสิ่นเฉียวยืนกรานเสียงแข็ง “ฉันไม่ได้บ้า ฉัน อยากเก็บเขาเอาไว้ นี่เป็นชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นใน ท้องของฉัน!”

“แต่ว่าเด็กก็จะเกิดมาโดยที่ไม่มีพ่อ เธอบ้าไป แล้วรึเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นอีก ตระกูลเย่จะยอมให้ เธอคลอดเด็กคนนี้หรือยังไงกัน ตระกูลเย่ เป็น ตระกูลที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตานะ”

ใช่สิ นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงเลยล่ะ

เสิ่นเฉียวกุมท้องน้อยตัวเองเอาไว้ สายตา ทอดยาวมองออกไปไกลด้วยความขมขื่น

“ฉันจะคิดหาทางออกเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ