เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1073 เสียงดังกลางดึกกลางคืนอะไรกัน



บทที่1073 เสียงดังกลางดึกกลางคืนอะไรกัน

หรือว่าคนที่ไปส่งเสี่ยวหมี่โต้วที่บ้านเธอครั้งที่แล้ว ไม่ใช่หานชิง?

แล้วเป็นใคร?

ยิ่งคิด เสี่ยวเหยียนก็ยิ่งไม่เข้าใจ ภายในหัวสามารถพูดได้ เลยว่ายุ่งเหยิงไปหมด

ปัง!

พอหน้าผากเจ็บขึ้นมา เสี่ยวเหยียนก็ได้สติกลับมา ถึงได้พบ ว่าตัวเองได้คิดเพลินไปหน่อย แม้แต่ในตอนที่หานซึ่งที่อยู่ข้าง หน้าหยุดฝีเท้าลงเธอก็ไม่รับรู้อะไรเลย จนชนเข้าไปอย่างจัง

เสี่ยวเหยียนรีบยกมือขึ้นมากุมหน้าผากที่ถูกชนจนเจ็บของตัว เองจนถอยหลังกลับไป คิ้วสวยขมวดเข้าหากันแน่น

บวกกับในลิฟต์ครั้งนั้น หานซึ่งจะคิดว่าเธอจงใจหรือเปล่า? เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด เสี่ยวเหยียนจึงตัดสินใจเลือกที่จะ ตัดไม้ข่มนามออกไป

“นี่ จู่ๆคุณจะหยุดทำไมกัน?”

ร่างคนที่อยู่ตรงหน้าหยุดชะงักไป คงจะเป็นคิดไม่ถึงว่าหลัง จากที่เธอชนตัวเองไปแล้ว จะยังสามารถเอ่ยปากถามออกมาได้ อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนี้

เขาหันกลับไป ในแววตาเผยความเยือกเย็นออกมาจางๆ น้ำเสียงไพเราะ

“ถึงแล้ว”

เขาเอ่ยเดือนมาออกมาอย่างนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็ได้พบว่าเขา ได้เดินมาถึงตำแหน่งที่นั่งคนขับแล้ว ส่วนเธอก็เดินตามหลังเขา มาด้วยสติที่ล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาตลอดทาง

ชนเขาก็แล้วไป แต่เธอกลับยังตัดไม้ข่มนามถามอีกฝ่ายออก ไปหน้าด้านๆอีกว่าทำไมเดินอยู่ดีๆก็หยุดไป น่าอายเสียจริง

น่าขายหน้าไม่ไหวแล้ว!

เสี่ยวเหยียนยกมือขึ้นมากุมหน้า “ขอโทษค่ะ

จากนั้นก็อ้อมไปข้างหลังไปเปิดประตูรถ หลังจากที่ท่านซึ่งเห็นเธอเปิดประตูเข้าไปที่นั่งเบาะหลังอย่าง ว่องไวแล้ว ดวงตาหรี่เล็กลง

เสี่ยวเหยียนเข้าไปนั่งเบาะหลังเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เข้าไป เธอก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา

ความจริงแล้วเมื่อกี้นี้เธอเกือบจะพุ่งเข้าไปทางที่นั่งข้างคนขับ แล้ว แต่โชคดีที่เปลี่ยนใจได้เร็ว แล้วหยุดอยู่ตรงที่นั่งเบาะหลัง จากนั้นก็เข้าไปนั่ง

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอก็คงจะเดินเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับอย่าง ไม่มีเกรงกลัว พยายามช่วงชิงโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดหานชิงให้ มากขน
ตอนนี้เธอกลับแทบอยากจะออกห่างไปจากเขาให้ไกลๆ

พยายามอดทนอีกหน่อย เดี๋ยวหานชิงรับเสี่ยวหมี่โต้วกลับไป เธอก็จะหลุดพ้นไปได้แล้ว เสี่ยวหมี่โต้วถูกหานชิงพาออกไป เธอ ค่อยหาจังหวะช่วงที่คลาดกับตอนที่หานจึงไปโรงพยาบาล หลัง จากที่เป็นอย่างนี้แล้วก็จะไม่ต้องเจอเขาแล้ว

ไร้ซึ่งคำพูดตลอดการเดินทาง

เสี่ยวเหยียนเอาแต่ก้มหน้าตลอด จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนข้างหน้า

เอ่ยพูดออกมา

“ที่อยู่”

“หา?”

คำพูดที่จู่ๆก็พูดออกมาโดยไม่ทันตั้งตัวของเขานั้น เสี่ยวเหยี ยนไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับออกมาอยู่สักพักนึง “อะไร?”

สายตาอันเยือกเย็นของหานซึ่งมองเธอผ่านกระจกมองหลัง

“ไม่บอกที่อยู่ จะไปรับเสี่ยวหมี่โต้วได้ยังไง? หรือเธอจะคิดว่า ฉันมีความสามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ไง?

เสี่ยวเหยียนได้สติกลับมา รีบบอกที่อยู่ออกไปทันที ต่อจากนั้นก็กลับไปเงียบไม่พูดไม่จาตลอดทางดั้งเดิม เงียบ อย่างนี้ไปจนถึงที่หมาย

ในตอนที่รถจอด เสี่ยวเหยียนก็รีบเอ่ยออกมา “รบกวนให้ท่าน ประธานหานช่วยรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันจะไปรับเสี่ยวโต้วมาค่ะ”

จบ รีบเปิดประตูวิ่งออกไปทันที

มองออกยังเงาร่างหญิงสาวรีบเร่งออกไป สายตาของ หานชิงลึกผ่านสักพักเขาก็ได้เก็บสายตากลับหลับตาตัวจึงเข้ากับพนักเก้าอี้

เรื่องที่ในช่วงดูเหมือนตั้งใจของเขา

ตกลงแล้วเขา

ในตอนอาการงุนงง

“ทำไมจู่ๆคุณลุงถึงมารับผมกลับกัน?”

น่าแปลก หน้าไม่มีแววเลยแม้แต่น้อย ทำไมถึงกะทันหันขนาดนี้?

“ความคิดของคุณลุงหนู จะไปคาดเดาได้ไหนกัน แต่เขา ต้องหนูกลับเองอะไรได้ เก็บข้าวของเสี่ยวเหยียนเอ่ยเร่งเขา เห็นว่าเขายังนั่งนิ่งขยับออกไปของๆ

แต่เสี่ยวหมี่โต้วกลับมากอดแขนเธอไว้

ไม่เอา น้าเสี่ยวเหยียน ผมอยากอยู่กับน้าเสี่ยวเหยียน ผมอยากกลับไปกับคุณลุง
อีกฝ่ายออดอ้อนเธอออกมา เสี่ยวเหยียนก็ใจอ่อนขึ้นมาอย่าง รวดเร็ว แต่พอนึกถึงคำพูดพวกนั้นที่หานชิงพูดออกมาที่โรง พยาบาลแล้วนั้น ความหมายที่ต้องการสื่อออกมาเลยก็คือ คนนอกอย่างเธอมีสิทธิอะไรมาดูแลเสี่ยวหมี่โต้วกัน?

“เชื่อฟังนะ คุณลุงของหนูอุตส่าห์อยากดูแลหนูด้วยตัวเอง หนู

ก็ให้ความร่วมมือกับเขาหน่อยเถอะ

แน่นอนว่าเสี่ยวเหยียนไม่มีทางเอาความคิดตัวเองพูดออกมา ต่อหน้าเด็กได้อย่างนั้นแล้วภาพลักษณ์เธอก็จะย่ำแย่เกินไป จึง ทำได้แค่เพียงพูดกล่อมเขาไปเบาๆ

แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะดื้อรั้นเป็นอย่างมาก ไม่ยอม ไปเลย

พูดไปจนกอดเสี่ยวเหยียนแน่น

“ผมไม่ไปกับเขา ผมอยากอยู่กับเสี่ยวเหยียน! ไม่อย่างนั้นก็ ให้ผมไปอยู่กับหม่าม น้าเสี่ยวเหยียนต้องเลือกมาสักอย่างนึง เพราะถึงยังไงแล้วผมก็จะไม่อยู่กับคุณลุง

คุณลุงทำร้ายน้าเสี่ยวเหยียนจนต้องเสียใจขนาดนั้น เขานี่มันตัววายร้ายเสียจริง!

เหมือนแดดดี้ไม่มีผิด ตัววายร้ายที่ทำได้แค่ให้ผู้หญิงเสียใจ อยู่นั่น!

เสี่ยวหมี่โต้วถึงขนาดที่คิดว่าหลังจากที่เขาโตไปแล้ว มีผู้หญิง ที่ชอบ เขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายต้องร้องไห้แน่นอน!
แด๊ดดี้กับคุณลุงของเขาไม่เคยได้ทำมาก่อน! พวกเขาเป็นคน ไม่ดีกันทั้งคู่เลย!

เสี่ยวเหยียนนึกไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะดื้อดึงขนาดนี้ เคว้งไปชั่ว ขณะ นึกถึงหานชิงที่รออยู่ด้านล่าง จึงจำต้องเอ่ยเสียงหวานออก ไป “เสี่ยวหมี่โต้ว คุณลุงของหนูไม่อยากขัดใจหนูหรอกนะ ทำไม หนูถึงไม่อยู่กับเขาล่ะ? ตอนนี้เขากำลังรออยู่ข้างล่าง หนูลงไป พร้อมกับน้าเสี่ยวเหยียน กลับไปกับคุณลุงของหนู ในช่วงหลาย วันนี้ อีกสักสองสามวันน้าเสี่ยวเหยียนจะไปรับหนูดีมั้ย?”

หลัวหุ้ยเหมียที่นั่งอยู่ข้างนอกอยู่นานทนฟังต่อไปไม่ไหว จึงได้ เข้ามาเอ่ยว่า

“เกิดอะไรขึ้น? ส่งเสียงดังกลางดึกกลางคืนทำไมกัน? เด็ก อยากอยู่ที่นี่แกก็ให้เขาอยู่ แค่เด็กคนเดียวกันกับพ่อของแกใช้ ว่าจะดูแลไม่ได้นี่”

“แม่…มันไม่ใช่เรื่องที่จะดูแลได้หรือเปล่า ก็แค่คุณลุงของเขา กําลังรออยู่ด้านล่าง”

“มันเกี่ยวอะไรกัน?” หลัวหุ้ยเหม่ยไม่เห็นด้วยออกมา “ถ้าเธอ ไม่กล้าไป งั้นฉันจะลงไปพูดกับคุณลุงของเสี่ยวหมี่โต้วเองว่า เสี่ยวหมี่โต้วหลับไปแล้ว ให้เขาค่อยมาวันหลัง

วิธีนี้ฟังดูแล้วก็ดีอยู่ ถ้าปกติเสี่ยวเหยียนก็คงจะทำอย่างนี้ แต่ตอนนี้…

เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปาก มองเสี่ยวหมี่โต้วไปอย่างลำบากใจ
“งั้นก็เอาแบบนี้นะ ฉันจะลงไป

ได้ยินหลัวหุยเหมียคิดจะลงไปเจอทานชิง เสี่ยวเหยียนก็ตื่น ตระหนักขึ้นมาทันที รีบเข้าไปคว้ามือหลัวหุ้ยเหม่ยเอาไว้

“แม่ แม่อย่าไปนะ อย่าไป

หลัวหุ้ยเหมยนิ่งอึ้งไปแวบนึง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็น ลูกสาวของเธอมีท่าทางตื่นตระหนกอย่างนี้ อีกทั้งในตอนที่เธอ หรี่ตาสังเกตเสี่ยวเหยียนอยู่นั้น เสี่ยวเหยียนก็ได้หลบเลี่ยง สายตาเธอออกไป

ไม่กล้าสบตากับเธอเลย

หลัวหุ้ยเหม่ยจับสังเกตได้ว่ามีอะไรแอบซ่อนเอาไว้อย่าง

รวดเร็ว

เดิมที่เธอคิดว่าจะไปหรือไม่ก็ช่าง แต่ตอนนี้คิดว่าเธอคงต้อง

ลงไปสักหน่อยแล้ว

เมื่อคิดมาจนถึงตรงนี้แล้ว หลัวหุยเหม่ยก็เอ่ยออกมา

“เสี่ยวหมี่โต้ว ในเมื่อคุณลุงของเธอต้องการให้เธอกลับไปกับ เขาให้ได้ งั้นเธอก็ไปเก็บของเถอะ

เสี่ยวหมี่โต้วพอได้ยินเข้าแล้ว ใบหน้าก็เผยสีหน้าน่าสงสาร ออกมา ท่าทางเหมือนกับถูกรังแกก็ไม่ปาน

หลัวหุ้ยเหม่ย “.….

เชี้ย เด็กคนนี้เป็นปีศาจชัดๆ!
“ช่างเถอะๆ” เธอ โบกมือออกไปอย่างใจอ่อน “ในเมื่อเธอไม่ อยากไป งั้นก็อยู่ที่นี่แหละ เสี่ยวเหยียนแกอยู่เป็นเพื่อนเขา ฉันจะ ลงไปพูดเอง”

“แม่! แม่อย่าไปเลยนะ ให้ฉันไปเองเถอะ”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ได้ลุกขึ้นวิ่งออกไปอย่างไม่สนใจอะไร

เห็นเธอรีบวิ่งออกไปแล้วนั้น หลัวหุ้ยเหม่ยเองก็ไม่ได้ไล่ตาม ไป แต่ได้เดินเข้าไปข้างๆร่างของเสี่ยวหมี่โต้ว ใบหน้าเผยรอย ยิ้มออกมา “เสี่ยวหมี่โต้ว มา ฉันมีเรื่องอยากถามเธอหน่อย”

(ฉันรู้ว่ามีผู้อ่านชอบเสี่ยวเหยียนกับเซียวซูกันเยอะเรื่องของ เสี่ยวเหยียนก็เลยอาจจะมีจุดลงเอยสองแบบ

เขียนหานชิงไปก่อน แล้วค่อยเขียนเซียว ทุกคุณต่างก็

สามารถเลือกตามที่ชอบกันได้)


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ