เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 283 เธอฟื้นแล้ว



บทที่ 283 เธอฟื้นแล้ว

เสิ่นเฉียวผงะและมองเธอด้วยความประหลาดใจ

“จูหยุน.”

“โดนลวกเหรอ” เย่โม่เซินเลิกคิ้วหันไปทางเสิ่น เฉียวและพบว่านิ้วมือขาวนุ่มทั้งห้าของเธอบัดนี้กลาย เป็นสีแดงคล้ำ สีหน้าของเย่โม่เซินเปลี่ยนไปทันที ก้าว ไปจับข้อมือของเธอและลากเธอไปในห้องน้ำล้างด้วย น้ำเย็นพลางตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไปเอาครีมทา น้ำร้อนลวกมา”

จูหยุนนิ่งไปสักพักรีบไปเอาครีมทาน้ำร้อนลวกมา

เสิ่นเฉียวปล่อยให้เยโม่เซินคว้ามือเธอไว้ใต้ก๊อก น้ำและเปิดน้ำล้าง ความเย็นทำให้ล้างความร้อนจากนิ้ว ของเธอหายไปไม่น้อย แต่ล้างไปล้างมา เสิ่นเฉียวมองดู น้ำที่ออกมาจากก๊อกน้ำกลายเป็นเลือดสีแดงสดอีกครั้ง

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากด้วยความ ตกใจและก็กรีดร้องเสียงแหลมอยากจะถอนเอามือกลับ มา

เยโม่เซินก็ตกใจกับเสียงที่เปล่งออกมาอย่าง กะทันหันของเธอ แต่ชั่วครู่ก็สุขุมขึ้นขมวดคิ้วและถาม เธอว่า “ฉันทำให้เธอเจ็บเหรอ ฉันหรี่น้ำให้เบาหน่อยดี ไหม”
เสียงผู้ชายทุ่มต่ำดังอยู่ข้างหูของเธอและลมหาย ใจเย็นๆ ที่อบอวลอยู่รอบๆ ตัวเธอ เสิ่นเฉียวค่อยๆ เรียก สติกลับคืนมา หันหน้าไปมองเย่โม่เซินที่อยู่ใกล้มาก

ดวงตาของเขาดำขลับ เสิ่นเฉียวรู้สึกตัวทันใดนั้น ก็ยื่นมือเข้าออกมาโอบเย่โม่เซิน

แม้ว่าการที่อยู่ในอ้อมกอดจะมีความสุขมาก แต่วัน นี้ท่าทางของเสิ่นเฉียวกลับตรงกันข้าม ดังนั้นมันจึง ทำให้คนอื่นกังวล มือใหญ่ของเย่โม่เซินแตะที่ไหล่ของ เธอ “เกิดอะไรขึ้น”

“เปล่า ไม่มีอะไร” คางของเสิ่นเฉียวพิงอยู่กับ ไหล่ของเขาและออกแรงขยับ “ฉันก็แค่…รู้สึกเจ็บมากที่ มือโดนลวก”

ได้ยินดังนั้นเยโม่เซินขมวดคิ้ว “จูหยุนทำงาน สะเพร่าเกินไปแล้วนะ ทำให้เธอโดนลวกถึงขนาดนี้ พรุ่ง นี้จะให้เธอออก”

“อย่าให้เธอออก” เมื่อได้ยินว่าเยโม่เซินจะให้จู หยุนออก เส้นเฉียวรีบพูดแทนเธอ “ปัญหาไม่ได้มาจาก เธอ ซุปวางไว้บนโต๊ะ ฉันไม่ทันระวังถือไม่ดีเอง ไม่เกี่ยว อะไรกับเธอ”

“จริงเหรอ”

เสิ่นเฉียวออกแรงพยักหน้าจูหยุนคนนี้ฉลาดมี ไหวพริบกว่าที่เธอคิดไว้มากแม้ว่าเธอจะบอกว่ารู้เรื่องนี้ แล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะปกป้องเธอต่อหน้าเย่โม่เซิน ทำ ให้เย่โม่เซินคิดว่าเธอหน้าซีดเพราะโดนน้ำร้อนลวก
เด็กผู้หญิงคนนี้ฉลาดมากและมีความจริงใจถึง ขนาดนี้ ถ้าจะให้เธอออกโดยไม่มีเหตุผลก็จะไม่เป็น ธรรมต่อเธอ

“ได้ ถ้าเธอชอบก็ให้อยู่เป็นเพื่อนเธอและฉันจะ เพิ่มเงินเดือนให้เธอ”

“ขอบคุณค่ะ”

ไม่นานจูหยุนก็เอาครีมทาน้ำร้อนลวก แล้วช่วย ใส่ยาเสร็จถึงจากไป

เสิ่นเฉียวไม่มีอะไรจะพูดกับเย่โม่เซิน เธอกลัวว่า ตัวเองพูดมากจะยิ่งผิดปกติ จึงแก้ตัวว่าตัวเองเหนื่อย และต้องการพักผ่อนจึงรีบขึ้นเตียงนอนอย่างรวดเร็ว เย่ โม่เซินเห็นสีหน้าของเธอไม่ดีจึงไม่ได้รั้งเธอไว้

เสิ่นเฉียวนอนไม่หลับทั้งคืนและกว่าจะหลับไปก็ หลังจากเที่ยงคืน ในภาพความฝันของเธอก็เต็มไปด้วย เลือดสดๆ หานเส่โยวนอนจมกองเลือดและยื่นมือไปหา เธอพลางเรียกชื่อเธออย่างอ่อนแรง

“เฉียวเฉียว ช่วยฉันด้วย… ช่วยฉันด้วย เฉียวเฉียว ช่วยฉันด้วย”

“เฉียวเฉียว… ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ฉัน ตายเถอะ

แล้วภาพก็เปลี่ยนไปเป็นหานเส่โยวและเย่โม่เซิ นกอดกันอย่างรักใคร่มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน

และภาพก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเป็นหน้าตาเย็นชาของเย่โม่เซิน “ผู้หญิงจิตใจเหมือนเดียรัจฉานอย่างเธอ ไม่คู่ควรกับความรักของฉันเย่โม่เซิน ที่ฉันบอกว่าชอบ เธอก็แค่หยอกเล่น เธอคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะชอบผู้ หญิงแบบเธอจริงๆ เพ้อเจ้อ”

“เสิ่นเฉียว ทำไมเธอถึงยังไม่เข้าใจ เธอนะ…ก็ เหมือนรองเท้าขาดๆ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบเธอจริงๆ หรอก…ฮิฮิ”

เสียงหัวเราะแปลกๆ ของทั้งสองดังเล็ดลอดออก มาและความฝันของเสิ่นเฉียวก็กลับหัวกลับหางเส่น เฉียวเหงื่อแตกพลักพยายามที่จะตื่นจากความฝันและไม่ หยุดที่จะหนีทั้งสองคนท่ามกลางความฝันหวังเพียงไม่ ให้พวกเขาตามมาราวกับพวกเขาเป็นปีศาจก็มีปาน ทั้ง สองจะตามไปทุกที่ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน

“อ้า”

เสิ่นเฉียวอุทานและลุกขึ้นนั่งในที่สุด

มีบางอย่างปรากฏขึ้นสิ่งที่เห็นคือดวงอาทิตย์และ

ท้องฟ้าสีครามทะเลกว้างใหญ่

ฟ้าสว่างแล้ว

ยามเช้าข้างกายของเธอไม่มีแม้แต่เงาของเย่โม่ เซิน เสิ่นเฉียวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นๆ ทั่วร่างกาย เส้นเฉียวหยิบโทรศัพท์มามองถึงได้รู้ว่าแปดโมงกว่า แล้ว

ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเส่โยวฟื้นหรือยัง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เสิ่นเฉียวก็ลุกจากเตียงไปเข้า ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา รอยแผลโดนลวกที่นิ้วไม่ได้ ร้ายแรงอะไรและหลังจากทาครีมตลอดทั้งคืนก็หาย แทบเป็นปกติแล้ว

หลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็รีบหยิบ โทรศัพท์และออกไป เตรียมที่จะไปโรงพยาบาล

“คุณนายน้อยจะออกไปไหนข้างนอกเหรอคะ วัน นี้ฉันไปกับคุณดีไหมคะ”

จูหยุนเสนอให้เสิ่นเฉียวฟัง

ตอนแรกเสิ่นเฉียนอยากจะปฏิเสธเธอ แต่พอคิด ทบทวนดูแล้วก็พยักหน้า “งั้นก็มากับฉันเถอะ”

“ค่ะ” เมื่อจูหยุนเห็นเธอตอบรับ ก็ไปเตรียมตัว ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและสุดท้ายก็ออกไปกับ เสิ่นเฉียว ลุงจินยังคงขับรถให้เช่นเคย

ลุงจินขับรถไปโรงพยาบาลเมื่อวานนี้และพาเสิ่น เฉียวและจูหยุนไปที่ห้องผู้ป่วย

เจอซูจิ๋วตรงทางเดินและเห็นซูจิ๋วตรงเข้ามา ทักทาย

“ฉันเดาไว้แล้วว่าวันนี้คุณหนูเสินจะต้องมาแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้”

“เลขาซูก็มาเช้ามาก ฉันมาช้ามากแล้ว เส่โยว…”

“คุณหนูเส่โยวฟื้นแล้วค่ะ” ซูจิ๋วยิ้มเล็กน้อยและ พูดเบาๆ “คุณหนูเสิ่นฉันจะพาคุณไปที่ห้องผู้ป่วยนะคะ”
เมื่อได้ยินข่าวว่าหานเส่โยวรู้สึกตัวแล้ว เสิ่นเฉียว รู้สึกว่าบริเวณหน้าอกของเธอสั่นอย่างรุนแรง “เธอตื่น แล้วเหรอ”

“ใช่ค่ะ คุณหนูเสิน มากับฉันสิคะ” ซูจิ๋วหันกลับ และเดินไป เสิ่นเฉียวตะลึงไปชั่วครู่แล้วรีบเดินตามเธอ ไป

เส่โยวฟื้นแล้ว..

ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมจริงๆ

เธอไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณพระเจ้า

ด้วยเหตุผลบางอย่างเสิ่นเฉียวก็น้ำตาไหลออก มา เธอพยายามสงบสติความตื่นเต้นของตัวเองระหว่าง ทางและเมื่อไปถึงห้อง จู่ๆ ซูจิ๋วก็หยุดและหันไปมองเธอ “คุณหานก็อยู่ข้างในด้วย คุณหนูเสิ่นต้องการจะ

สงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนที่จะเข้าไปสักหน่อยไหมคะ”

หลังจากพูดจบ ซูจิ๋ว ก็ยื่นทิชชูให้หนึ่งแผ่น

เสิ่นเฉียวเพิ่งตระหนักว่าใบหน้าของเธอเต็มไป ด้วยน้ำตาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เธอหันกลับมาด้วยความ เขินอายจากนั้นเจอจูหยุนที่ยิ้มจางๆ และยื่นมือออกมา เพื่อเช็ดน้ำตาออกจากหางตาของเธอ “คุณนายน้อยไม่ เป็นไรค่ะ แค่เมื่อกี้เดินมาเร็วไปหน่อยเหงื่อเลยออก ฉัน เช็ดให้แล้วค่ะ”

เมื่อได้ยินคำว่าคุณนายน้อย ซูจิ๋วเลิกคิ้ว ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเย่โม่เซินคนนั้น
ยังจำครั้งแรกที่พบกันได้ เย่โม่เซินปรากฏตัวอยู่ ในร้านอาหารและทำตัวแปลกๆ ตอนนั้นเธอยังแปลก ใจ…แต่ตอนนี้คิดไปแล้วบางที…เรื่องมันเป็นอย่างที่เธอ คิดจริงๆ หรือเปล่านะ

ดูเหมือนว่าสถานะของเสิ่นเฉียวคนนี้ไม่ธรรมดา เลย

ซูจิ๋วยิ้มเล็กน้อย “ใช่ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูใบไม้ ร่วง แต่ถ้าเดินเร็วเกินไปก็จะมีเหงื่อออก มองฉันสิ คะ…ฉันก็มีบ้าง” พูดไป ซูจิ๋วยังคงยื่นมือวางที่หน้าผาก เช็ดเบาๆ “คุณหนูเดินเข้าไปกันไหมคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ