เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1087 หลินชิงหัว



บทที่1087 หลินชิงหัว

คำถามนี้เป็นคำถามที่เสี่ยวเหยียนไม่อยากพูดถึง แต่คนทั้งกลุ่ม ก็เอาแต่ถามคําถามนี้ไม่หยุด

พอเจอหน้าก็เอาแต่ถามเกี่ยวกับเรื่องงาน เสี่ยวเหยียนรู้ว่าคน อื่นไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่สงสัย และอยากหาเรื่องคุยเท่านั้น แต่พอตอบเยอะๆเข้า เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะระเบิด

เลยตักเค้กชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งแล้วหลบไปอยู่อีกซอกมุมคนเดียว กินสตรอว์เบอร์รีที่อยู่บนเค้กเงียบๆ จู่ๆก็มีเงาที่คุ้นเคยเงาหนึ่ง เดินเข้ามา

เธอสวมชุดเดรสที่สวยงามสะดุดตา รูปร่างผอมเพรียว หน้าตางดงาม รอบข้างรายล้อมด้วยผู้คนมากมาย ดูท่าทางเป็น ที่นิยมมาก

คนๆนี้เสี่ยวเหยียนรู้จัก เป็นลูกค้าประจำของบริษัทมู่จื่อ หลิน ซิง ว

ทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้

เสี่ยวเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เป็นเพราะ เธอชอบงานออกแบบของมู่จื่อ แล้วก็ยังเป็นแฟนคลับสาวน้อย ของมู่จื่อด้วย ดังนั้นหลินชิงหัวก็เลยเซ็นต์สัญญาระยะยาวกับทาง บริษัท แฟนคลับสาวน้อยไม่กล้าส่งข้อความให้มอทุกวัน ขนาด ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นในวันแต่งงาน หลินชิงหัวก็ยังไม่กล้าไปหาหานมจื่อ โดยตรงเลย

ก็เลยต้องส่งข้อความอ้อมไปทางคนในบริษัทให้ไปถามเรื่อง ราวในเหตุการณ์กับหานคู่จื่อ ตอนนั้นเสี่ยวเหยียนเองก็ถูกถาม ด้วย เธอก็เลยถามอีกฝ่ายไปตรงๆว่า “ถ้าคุณอยากรู้ขนาดนั้น ทําไมไม่ไปถามเธอโดยตรงล่ะ”

หลินชิงหัวส่งรูปร้องไห้มาพร้อมกับข้อความว่า “ฉันก็อยากไป ถามนะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังหาตัวคนไม่เจอเลย ฉันกลัวว่าถ้าถาม ไปเธอจะเสียใจ แต่ว่าฉันก็เป็นห่วงเธอมาก ดังนั้นก็เลยมาถาม พวกเธอ ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย เธออย่าว่าฉันเลยนะ

เสี่ยวเหยียนเข้าใจได้ในทันที จากนั้นก็บอกกับหลินชิงหัวว่า มู่จื่อไม่เป็นไร บอกเธอว่าไม่ต้องเป็นห่วง

หลังจากที่ออกจากบริษัทแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ไม่เคยเจอกับ

ดาราดังอย่างหลินชิงหัวอีกเลย คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมาเจอกัน

ในงานเลี้ยง

ขณะกำลังครุ่นคิด จู่ๆหลินชิงหัวก็เหลือบมาเห็นเธอ แววตา เป็นประกาย แล้วเดินมาทางเธอทันที

“เสี่ยวเหยียน ที่แท้เธอก็มาอยู่ตรงนี้นี่เอง ฉันก็ว่าวันนี้เธอจะ ต้องมาแน่ๆ แต่ว่าหาตั้งนานก็ไม่เห็นเธอ

เสี่ยวเหยียนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเธอจะเดินเข้า มาทักทายตัวเองก่อนแบบนี้

เดิมทีเธอก็อยากนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวอยู่แล้ว เพราะถ้าเกิดอยู่ใกล้หลินชิงหัวมากเกิน จะยิ่งเป็นเป้าสายตาของคนอื่น

เพราะยังไงหลินชิงหัวก็เป็นดาราดัง มีออร่าเฉพาะตัว แล้วใน งานเลี้ยงก็ยังมีคนในบริษัทอีกมาก เธอ โบกมือให้หลินชิงหัว แล้วยิ้มบางๆ ถือว่าเป็นการทักทาย

เธอ

“เมื่อกี้ฉันอยู่กับจื่อค่ะ” เสี่ยวเหยียนอธิบายเสียงแผ่วเบา

หลินชิงหัวทําท่าเข้าใจ “อย่างนี้นี่เอง เทพธิดาของฉันเป็น อะไรไปเหรอ ตอนนี้ทุกอย่างก็ราบรื่นดีไม่ใช่เหรอ ฉันได้ยินคนที่ บริษัทคุยกันว่า ก่อนหน้านี้เธอกลับประเทศมาพร้อมกับคุณชาย เย่

“อืม” เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “ราบรื่นดีค่ะ คุณไม่ต้องเป็น ห่วงเธอแล้ว”

“เฮ้อ” หลินชิงหัวทำท่าโล่งอก “งั้นก็ดีแล้ว

จากนั้นจู่ๆเธอก็เห็นเค้กที่เสี่ยวเหยียนดูท่าทางน่าอร่อย เลย ถามเธอว่าไปเอามาจากไหน

“คุณจะเอาไหม ฉันน่าจะกินอีกชิ้นหนึ่ง เดี๋ยวฉันไปตกมาเพื่อ คุณด้วย”

หลินชิงหัวสองมือประกบกันเป็นเชิงขอบคุณ

“งั้นก็ต้องขอบคุณเธอด้วยนะ”

จากนั้น เสี่ยวเหยียนก็ถือเค้กสองชิ้นเดินกลับมา หลินชิงหัวเห็นเธอกลับมาบนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มดีใจออกมา แล้วรับเค้ก ไปจากมือเธอ กินเพียงคำเดียว หลินชิงหัวก็อุทานออกมา

“อร่อยมากเลย ฉันไม่ได้กินเค้กมานานแล้ว”

“ทำไมล่ะ” เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ

“เป็นดารานําบากมากเลยนะ ต้องควบคุมอาหาร ควบคุมรูป ร่างตัวเองอย่างเคร่งครัด ถ้าฉันอ้วนขึ้นสักนิด แฟนคลับก็จะ เกลียดฉัน”

ถ้าอ้วนขึ้นหน่อย แล้วแฟนคลับจะเกลียดเธอ แบบนั้นเรียกว่า แฟนคลับด้วยเหรอ

เมื่อเห็นเธอทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ หลินชิงหัวก็เลยพูดอธิบาย “เธอคงไม่เชื่อสินะ เมื่อก่อนฉันก็ไม่เชื่อ ฉันรู้สึกว่าถ้าแฟนคลับจะ ชอบเธอก็ต้องชอบเธอจากใจจริง จะเกลียดเธอและเลิกติดตาม เธอเพียงแค่เธออ้วนขึ้นได้ยังไง แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า แฟนคลับส่วนมากชอบไอดอลก็เพื่อตอบสนองภาพมายาคติของ พวกเขาเท่านั้น จากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มตั้งค่าให้กับไอดอล เริ่ม รู้สึกว่าไอดอลควรจะเป็นแบบไหน ไม่ควรเป็นแบบไหน ถ้าเธอไม่ เป็นไปตามกฎที่ฉันตั้งไว้ ฉันก็จะเลิกเป็นแฟนคลับเธอ แม้กระทั่ง เลิกติดตามไปเลย แน่นอนว่าถ้ามีคนแบบนี้อยู่ ก็ต้องมีคนที่เป็น แฟนคลับตัวจริงอยู่ด้วย”

เสี่ยวเหยียนไม่เคยอยู่ในวงการบันเทิง เธอรู้แค่ว่าวงการ บันเทิงเป็นถังสีใบใหญ่ ถ้าอยากจะได้อะไรก็ต้องยอมเสียบางอย่างไป ยุ่งเหยิงมาก ความโปร่งใสเป็นเรื่องยากเย็น คนอยู่ แนวหน้ายิ่งต้องลำบากมาก ต้องรักษาตำแหน่งของตัวเองโดนแซงหน้า เพราะต้องถูกคนอื่นคอยจับจ้องต้องพูดเผยความผิดพลาดออกโดยเด็ดขาด

ชีวิตแบบนี้ คงลำบากมากสินะเสี่ยวเหยียนคิดภาพดู แล้วพูดออกหนึ่ง

ไม่สิ่ง

พอหลินชิงหัวได้ยิน หน้าสับสนเล็กน้อย

“ลำบากหน่อย ขนาดนั้น รู้สึกมันคุ้มค่า

พอพูดจบ หลินหัวตักเค้กคำหนึ่งเข้าปาก

“ตายแล้ว ”

จู่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงนั้นแหลมคมเล็กน้อย

พร้อมกับที่ดังขึ้น เค้ก ในมือของหลินชิงหัวมือลอย มาในอากาศแย่งไปทันที

แม่ทูนหัว ฉันออกไปแค่เดี๋ยวเดียว เธอก็สร้างปัญหาให้ฉัน อีกนะ อย่าทำแบบได้ไหม”

หลินหัวยักไหล่อย่างตรง ไหน ฉันก็แค่นั่งกินอาหารเฉยไม่ใช่เหรอ”
คนที่มาก็คือผู้จัดการของหลินซิงตั๋วนั่นเอง

เขาชูเค้กที่แย่งไป “เธอรู้ไหมว่านี่คืออะไร เค้ก ข้างในมีแต่ เนยทั้งนั้น เธอยังจะเหนื่อยตายในห้องออกกำลังกายวันพรุ่งนี้ใช่ ไหม ลืมแล้วเหรอว่าครั้งก่อนเธออ้วนขึ้นมาแค่นิดเดียว ก็กลาย เป็นข่าวดังแล้ว”

หลินชิงหัวตบไหล่เขา

“โถ ฉันกินไปแค่สองค่าเอง ไม่อ้วนหรอกค่ะ

ผู้จัดการเริ่มโมโห “ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมาเร็ว ฉันว่าเธอก็คงกิน มันจนหมดสินะ”

หลินซิงตั่ว “.…….…….…

เธอคิดแบบนั้นจริงๆ ปกติเธอเหนื่อยกับการเคร่งครัดกับตัว เอง บางเวลาก็อยากจะผ่อนคลายบ้าง

เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆเริ่มรู้สึกว่าตัวเองทนดูต่อไปไม่ไหว ก็ เลยออกตัวช่วยพูดแทนหลินชิงหัว

“เอ่อ…….ฉันรู้สึกว่าเธอผอมมากแล้ว นานๆทีกินสักชิ้นคงไม่ เป็นไรหรอกมั้งคะ”

ผู้จัดการ “เธอจะไปเข้าใจอะไร คนปกติเข้ากล้องก็อ้วนขึ้นสาม รอบแล้ว ถ้าไม่รักษารูปร่างตอนนี้ไว้ สำหรับพวกเขาหน้ากล้องก็ จะกลายเป็นกระจกสะท้อนเงามาร”

เสียวเหยียน “… ”
หลินชิงหัวหัวเราะปลอบใจเธอ ไม่เป็นไร ฉันซินที่เขาเป็น แบบนี้แล้ว ไม่รบกวนเวลากินเค้กของเธอแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะ

จากนั้นหลินชิงหัวก็จากไปกับผู้จัดการ เสี่ยวเหยียนจึงนั่งกิน เค้กอยู่ที่เดิมเงียบๆคนเดียว

เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่นานแค่ไหนแล้ว ทั้งดื่มน้ำผลไม้ทั้ง กินเค้ก จากนั้นก็ยังกินของว่างอีกหลายอย่าง

พอดื่มน้ำเข้าไปมากๆ ก็เริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ

เสี่ยวเหยียนลูบท้องกลมๆ ของตัวเอง แล้วเรอออกมาอย่างยิ่ง พอใจ

ไม่เป็นดาราแหละดีแล้ว เวลาอยากกินก็ไม่ต้องควบคุม แต่

การดื่มกินมากไปก็ไม่ใช่เรื่องดี เพียงแต่วันนี้เธอควบคุมตัวเอง

ไม่ได้จริงๆ

เสี่ยวเหยียนลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ แต่ตอนที่กลับออกมาจากห้องน้ำ จู่ๆก็เจอกับแผ่นหลังที่คุ้น เคยเข้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ