เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1511 ตอนนี้เพิ่งจะมาเจ็บนั้นหรอ



บทที่1511 ตอนนี้เพิ่งจะมาเจ็บนั้นหรอ

หลัวหุยเหม่ยพูดออกมาประโยคแล้วประโยคเล่าไม่หยุดเสี่ยวเห ยียนก็แทบจะโงหัวไม่ขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจภายหลัง เป็นอย่างมาก คิดว่าตอนแรกที่ไม่ได้ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะพาลูก ตัวเองไปที่อื่น เพราะทุกคืนจะเป็นหานชิงที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนผ้า อ้อมให้นมลูกเองทุกคืนอยู่แล้ว

รอจนตอนที่เธอค้นพบมัน หานซึ่งก็ได้ทำเรื่องพวกนี้ไปเสร็จ หมดแล้ว

“แม่เลิกพูดไปเลยนะ

ในใจเธอตอนนี้มีเพียงการโทษตัวเองอยู่ลึกๆ ตัดสินใจแล้ว ว่าหลังจากที่กลับไปจะพาลูกทั้งสองคนไปนอนอีกห้องนั่งเอง และจะดูแลในตอนกลางคืนเอง แล้วตอนกลางวันก็ทำงานไป ด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย

ถึงยังไงตัวเธอเองก็ไม่ต้องเข้าทำงานไปสักพัก ก่อนที่เด็กทั้ง สองคนจะสามารถทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ เสี่ยวเหยียนก็คิดว่า ตนจะต้องดูแลพวกเขาให้ดี

อีกอย่างธุรกิจร้านราเม็งก็มีพ่อแม่ช่วยเธอดูอยู่แล้ว เธอเองก็ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีรายได้เข้ามาเลย

สําหรับหานซิงนั้น จะต้องให้เขาพักผ่อนให้ดีจริงๆ เรื่องอย่าง นี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว อย่าได้เกิดเป็นครั้งที่สองเลย

“แกยังไม่ชอบให้แม่อยู่ใช่มั้ย? ถึงแม้ว่าแม่จะพูดจู๋จี้ แต่ก็ เพราะหวังดีต่อแกกับหานซิงนะ เอาอย่างนี้เถอะ หลังจากกลับไป ครั้งนี้ เด็กทั้งสองคนก็ให้ฉันกับพ่อแกเลี้ยงเอง เพราะถึงยังไง ตอนนี้ก็แค่ให้ดื่มนมผงก็ได้ แม่กับพ่อแกเลี้ยง แกกลับไปช่วย งานร้านราเม็ง แล้วหานซึ่งก็ไปทำงานให้มันดีๆ เรื่องเด็กทั้งสอง คนพวกแกไม่ต้องเป็นห่วง

เสี่ยวเหยียนตะโกนใส่แม่อย่างไม่พอใจไปประโยคนึง

“ทำไม? เอาลูกให้แม่กับพ่อแกแล้วแกยังไม่วางใจอีกหรอ เมื่อก่อนตัวแกเองแม่ก็เป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต สำหรับ การเลี้ยงเด็กแล้วแม่มีประสบการณ์มากกว่าแกอีกนะ

“ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อในตัวแม่กับพ่อ ก็แค่เพราะว่าฉันเป็นแม่คน ครั้งแรก เขาเป็นพ่อคนครั้งแรก เด็กทั้งสองคนเป็นแก้วตาดวงใจ ของพวกเรา พวกเราอยากเลี้ยงกันเอง”

“เลี้ยงเองเลี้ยงเอง แกเองก็ต้องมีความสามารถด้วยสิ หาเงิน ตั้งเยอะแยะ ถ้าสุดท้ายร่างพังไป เงินเยอะแค่ไหนมันจะไปมี ประโยชน์อะไร”

“พวกแกอยากเลี้ยงลูกก็ตั้งใจเลี้ยงลูกไป ใจนึงอยากเลี้ยงลูก แต่อีกใจนึงอยากทำงาน ใต้หล้าไหนเลยจะมีเรื่องที่ดีขนาดนี้ ร่างกายก็ไม่ได้ทำมาจากเหล็ก ถึงยังไงก็เอาอย่างนี้แล้วกัน จาก นี้ไปเด็กแม่จะเป็นคนดูแลเอง ไม่งั้นพวกแกก็ไม่ต้องไปทำงาน

น้ำเสียงของหลัวหุ้ยเหม่ยที่แสดงออกมานั้นมันเด็ดขาดมากเจรจากันได้ไม่ง่ายเลย

ตอนทานชิงตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินทั้งสองคนกำลังเถียงกันอยู่

พูดจนสุดท้ายแล้วเสี่ยวเหยียนก็เบาเสียงลง “เอาล่ะๆ แม่ แม่ อยากเลี้ยงก็ให้แม่เลี้ยง หานซึ่งยังไม่ได้สติ แม่ก็เบาเสียงหน่อย อย่าไปเสียงดังรบกวนเขา”

“โห ตอนนี้รู้จักเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นเขาแล้ว เมื่อก่อนคนเขา ตื่นมาชงนมกลางดึกกลางคืน กลางวันก็ยังต้องไปทํางานอีก ทำไมไม่รู้จักเป็นห่วง

จริงๆเลย ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เด็กคนนี้ขาดการเอาใจใส่เอา มากๆ สำหรับลูกของตัวเองแล้ว หลัวหุยเหม่ยเองก็นับว่าหมดคำ พูดแล้วเหมือนกัน

ปลายนิ้วของหานชิงขยับเล็กน้อย มองสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย

เธอยังสวมชุดเดียวกันกับเมื่อวาน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ขอบตาดำ คล้ำ มองดูแล้วน่าเป็นห่วงอย่างมากทั้งยังดูห่อเหี่ยวผิดปกติ

ดูเหมือนว่าหลังจากที่เขาเกิดเรื่อง เธอก็เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอด เพราะว่าพ่อตาแม่ยายอยู่ที่นี่ หานซิงก็เลยหลับตาไปอีกครั้ง

ผ่านไปได้สักพัก หลัวหุ้ยเหม่ยก็เริ่มเร่งเร้าเสี่ยวเหยียนขึ้นมา “เอาล่ะๆเฝ้ามาทั้งคืนก็ยังไม่พอ เขายังไม่ฟื้นขึ้นมาเร็วขนาดนี้ หรอก แกไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน แล้วพักผ่อนสักหน่อย เย็นนี้ ค่อยมาอีกที”
เสี่ยวเหยียนส่ายหน้าออกมาอย่างแน่วแน่ “แม่ ฉันอยากอยู่ เฝ้าจนกว่าเขาจะตื่นขึ้นมา ของกินฉันก็กินไปแล้ว ตอนนี้ฉันมีแรง แล้ว แม่อย่ารบเร้าฉันเลยได้มั้ย?”

“ยัยเด็กน่าตาย ถ้าไม่เห็นแก่ที่แกเป็นลูกฉันนะ แกคิดว่าฉันจะ รบเร้าแกมั้ย?”

“พอได้แล้วแม่! เด็กที่บ้านทั้งสองคนยังต้องการให้แม่ดูแลอยู่ นะ รบกวนแม่ช่วยฉันดูแลสักหน่อย ที่นี่แค่ฉันก็พอแล้ว ฉันเองก็ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นอนเลย เมื่อคืนหาน จื่อช่วยฉันเฝ้าอยู่ครึ่งค่อน คืน ฉันก็ได้นอนไปหลายชั่วโมงแล้ว ถ้าอีกเดี๋ยวฉันง่วงขึ้นมา ฉัน ก็ฟุบหลับอยู่ตรงนี้สักพัก ไม่เป็นอะไรหรอกน่า

สุดท้ายก็พูดไปจนปากเปียกปากแฉะ ในที่สุดก็ทำให้หลาย เหม่ยไปได้เสียที เสี่ยวเหยียนหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ไม่รอให้เธอหันหน้าไป ด้านหลังก็มีเสียงแหบแห้งดังขึ้นมา

“ลําบากเธอแล้ว”

ในใจของเสี่ยวเหยียนก็ชะงักกึกขึ้นมา เสียงนี้เป็น

เธอรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ก็ได้สบเข้ากับสายตาเย็นชา ของหาเชิงพอดี

“คุณฟื้นแล้ว ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหนใช่มั้ย?” เสี่ยวเหยีย นรีบพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เธอรีบเข้าไปข้างๆเตียงนอนผู้ป่วย มองสายตาของท่านซึ่ง เต็มไปด้วยความจริงจังและความห่วงใย แต่หานซิงกลับให้ความสนใจขาพันแผลเอาของเธอ อีกทั้งตอนเดินเข้า มาเสียงฝีเท้าก้าวนึ่งหนักก้าวเบาอย่างเห็นได้ชัด

ทันใดนั้นเอง หานซิงขมวดคิ้ว

“คุณเพิ่งฟื้นขึ้นมา เจ็บตรงไหนหรือเปล่า? ฉันเรียกคุณหมอ มาแล้วกัน จะได้

เสี่ยวเหยียนลุกขึ้นอย่างตะลีตะลาน แต่ข้อมือขาวกลับถูกหาน ซึ่งยื่นมาคว้าเอาไว้

“หานชิง?

“ไม่เป็นไร” เสียงของหานแผ่วเบา สายเสี่ยวเหยียน อยากจะเหยียดตัวลุกนั่ง แต่กลับเสี่ยวยียนกดบ่า ให้กลับลง

“คุณอย่าเพิ่งลุกขึ้นมาก่อน คุณเพิ่งฟื้นขึ้นทางดีให้ เรียกคุณหมอมาตรวจ

เสี่ยวเหยียนเป็นห่วงเรื่องความปลอดของเขามาก

หานชิงเอ่ยออกไปอย่างจนเล็กน้อย นี่เธอจะเป็นห่วงกัน เกินไปแล้ว ตอนเธอบาดเจ็บใช่มั้ย”

เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากเล็กน้อย แค่ไม่ระวังขาเลยแพลงนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ขาแพลง?” หานซึ่งลุกขึ้นนั่งอย่างไม่สนใจการห้ามปรามของ เสี่ยวเหยียน แต่ผลสุดท้ายแล้วเพราะว่าหักโหมเกินไป หัวก็ปวด แปลบขึ้นมา เขาทำได้เพียงหยุดการกระทำนั้นลงก่อน ไม่กล้า โน้มไปข้างหน้าอีก

“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

“ไม่เป็นไร” หานซิงนั่งนิ่งอยู่สักพักนึง จากนั้นก็ยื่นมือออกไป ทางเธอ “มานั่งบนเตียงมา ให้ฉันดูแผลที่ขาเธอหน่อย

เสี่ยวเหยียนเดิมทีก็อยากปฏิเสธเขา แต่เห็นสีหน้าที่แสดงออก มาของเขาดูเหมือนว่าจะไม่ให้เธอโต้แย้งไปได้เลย ทำได้เพียง นั่งขึ้นไป พลางพูดออกไปว่า “อันที่จริงก็แค่ตอนที่วิ่งแล้วไม่ระวัง จนแพลงไป แล้วระหว่างที่คุณสลบอยู่ ฉันก็หาหมอให้ช่วยจัด กระดูกให้แล้ว แค่พันเอาไว้ไม่กี่วันขาฉันก็ไม่เป็นไรแล้ว

เธอพูดไปพลางมองหานซึ่งอย่างระวังไปพลาง

“ดังนั้นแล้วคุณก็ไม่ต้องสนใจแผลของฉันหรอก อาการบาด เจ็บของคุณตอนนี้มันสำคัญกว่า

หานชิงจับเท้าที่อยู่ไม่นิ่งของเธอเอาไว้ เอ่ยเสียงแผ่วออกไป “สำหรับฉันแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเธอ”

ได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าใจของตัวเองถูกอะไรบาง อย่างทุบเข้ามาอย่างแรง ซาไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่า ตอนนี้มันไม่เหมาะที่จะใจเต้นแรงออกมา แต่กลับควบคุมตัวเอง เอาไว้ไม่ได้เลย
จากนั้นหานซิงก็ตรวจดูแผลเธออย่างละเอียด หลังจากที่ตรวจ ดูเสร็จก็วางใจขึ้นมา

“พอได้ยินเรื่องของฉันก็รีบวิ่งมา แล้วก็หกล้มลงใช่มั้ย?

“คุณพูดถูกเลย” เสี่ยวเหยียนคิดว่าเขาสุดยอดมาก ทั้งๆที่ไม่ ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยแท้ๆ แต่กลับคาดเดาพฤติกรรมอะไรๆ ของเธอได้ชัดเจนแจ่มแจ้งไปหมด

“โง่” หลังจากที่เธอยอมรับออกมา หานซิงเอื้อมมือออกไปเข หัวเธอทันที ตอนนี้ก็เจ็บขึ้นมาจริงๆ เสี่ยวเหยียนนึกไม่ถึงว่าเขา จะลงมือมาแรงขนาดนี้ เจ็บจนผ่านไปนานกว่าจะมีการตอบสนอง ออกมา กุมไปที่บริเวณที่ตัวเองถูกเขกไป พอรู้ตัวก็เอ่ยออกไป “เจ็บ”

“เจ็บ?” หานชิงชายตามองเธอไปอย่างขบขัน ความรู้สึกช้า ขนาดนี้เลย? ตอนนี้เพิ่งจะมาเจ็บ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ