เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่672 ซวยแล้ว ซวยแล้ว



บทที่672 ซวยแล้ว ซวยแล้ว

บทที่672 ซวยแล้ว ซวยแล้ว

“สวัสดีครับคุณครู หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วเดินลงจากรถ กล่าวทักทายคุณครูทันที พอเห็นกระเป๋านักเรียนในมือเธอ จึงรีบ เงยหน้าขึ้นมาถาม “คุณครูครับ หม่ามีของผมเป็นคนเอากระเป๋า มาฝากไว้ใช่ไหมครับ

ครูที่ยืนเหม่อเพราะการปรากฏตัวของเย่ ไม่เป็นได้สติกลับมา ทันที เธอรีบพยักหน้ารับ

“ใช่ค่ะ คุณแม่ของหนูเพิ่งจะเอามาฝากไว้ เธอบอกว่าจะมีคน มาส่งหนูเอง คุณคนนี้… เป็นคุณพ่อของหนูเหรอคะ”

ไม่แปลกเลยที่เธอจะถามแบบนี้ เพราะทั้งสองคนหน้าตา เหมือนกันมาก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นพ่อลูกกัน

เสี่ยวหมี่โต้วได้ยินแบบนั้น จึงหันไปมองทางเย่ไม่เป็นที่เดินลง มาจากรถ พอนึกถึงคำพูดของหาน จื่อที่พูดกับเขาไว้เมื่อคืน ถึง แม้ในใจจะไม่พอใจมาก แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอก เสี่ยวหมี่โต้วจึงไว้ หน้าให้เขาบ้าง ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับ

บรรดาคุณครูตกใจกันมาก เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนไม่เคยเห็น หน้าพ่อของเสี่ยวหมี่โต้วจึงพากันคาดเดาไปสารพัด ตอนนี้ได้มา เห็น และพบว่าอีกฝ่ายหน้าตาหล่อเหลามากถึงขนาดนี้

เดี๋ยวตอนเที่ยงให้มารับไหม” เย่ ไม่เป็นไม่สนใจคนรอบข้างเขาเดินมานั่งของตรงหน้าเสี่ยวหมี่โค้ว แล้ววางฝ่ามือใหญ่ไว้บน

ศีรษะเล็กแล้วถาม

เสี่ยวหมี่โต้วนั่งคิด ก่อนจะส่ายหน้า

“ตอนเที่ยงที่โรงเรียนมีเลี้ยงอาหาร เย่ไม่เซินนิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้าให้ “โอเค งั้นเดี๋ยวตอนเย็น มารับกลับบ้าน

เสี่ยวหมี่โค้วพยักหน้าให้

“เข้าไปเถอะ”เย่ไม่เป็นตบหลังเสี่ยวหมี่โต้วเบาๆ ในขณะนั้นเองก็มีเสียงทักขึ้นมาจากด้านข้าง “นี่ นี่มันคุณชายเย่ไม่ใช่เหรอครับ”

พอได้ยินแบบนี้ เย่ไม่เซินกับเสี่ยวหมี่โต้วก็เงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกัน พอเห็นชายวัยกลางคนที่ใส่แว่นตายืนอยู่ตรงหน้าพวก เขา ตอนที่อีกฝ่ายเห็นเย่ไม่เป็นก็รีบถือมือไปมา แล้วมองหน้าเ โมเงิน ก่อนจะถลึงตาโตอย่างตกใจ

“คุณ คุณชายเย่ นี่คือ… ลูกชายของคุณเหรอครับ

เย่ไม่เป็นมองอีกฝ่ายแล้วนิ่งคิด แต่ในความทรงจำของเขา ไม่มีข้อมูลของผู้ชายตรงหน้าเลย แต่อยู่ต่อหน้าลูกชายเขาจะ ทำท่าที่โหดร้ายไม่ได้ จึงได้แต่พยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะตอบ

ตามคำเล่าลือ คุณชายเย่แห่งบริษัทตระกูลเยี่หยิ่งผยองและถือตัว ไม่เคยสนใจคนอื่น แต่ตอนนี้เขากลับกำลังทักทายกับ คุณชายเยอยู่ อีกทั้งคุณชายเยี่ยังยอมคุยกับเขาด้วย ดังนั้นชาย วัยกลางคนจึงรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก และรู้สึกว่าคุณชายเที่ เขาเล่าลือกันก็ไม่ได้เข้าใกล้มากถึงขนาดนั้น นา

เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ก่อนจะรีบยื่นมือออกไปทางเย่ไม่เป็น

“คุณ คุณชายเย่ครับ ผมผมผมผมคือผู้จัดการของ อสังหาริมทรัพย์ตระกูลหลิน ผมชื่อ…

เย่ไม่เป็นขมวดคิ้วอย่างหมดความอดทน คนคนนี้คิดจะทำ อะไร ดังนั้น ในขณะที่คนคนนั้นเพิ่งพูดได้ครึ่งเดียวเข่ไม่เป็นก็ตบ กระเป๋านักเรียนของเสี่ยวหมี่โต้วเบาๆ

“รีบเข้าไปข้างในเถอะ อย่ายืนงงอยู่เลย

เสี่ยวหมี่โต้วมองหน้าเขาทำตากระพริบ ก่อนจะมองไปทาง ชายวัยกลางคนที่พูดติดอ่างคนนั้น ก่อนจะถามออกมา “ทำไม เขาถึงได้กลัวคุณขนาดนั้นล่ะ

พอคำถามนี้ถูกถามออกมา เย่ไม่เป็นก็ตัวแข็งค้างไปเล็กน้อย

“เพราะคุณน่ากลัวมากเลยเหรอ” เด็กน้อยกระพริบตาปริบๆ จ้องมองด้วยท่าทางไร้เดียงสา แต่หารู้ไม่ว่าภายใต้ท่าทางได้ เตียงสากลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

เพิ่งจะได้อยู่กับลูกชาย เดิมทีก็ไม่ได้รับความชื่นชอบจาก ลูกชายอยู่แล้ว ถ้าทำให้ลูกชายรู้สึกว่าเขาเป็นพ่อที่เข้าหายาก ภาพพจน์ของเขาไม่แย่ลงไปอีกเหรอ
เย่ไม่เช่นนิ่งคิด ก่อนจะมีสีหน้าสับสน รอยยิ้มของเขาดูแข็ง มาก จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกัน แต่เป็นคนเข้าหาง่าย ไม่น่ กลัวเลย

พูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก่อนจะพูด “เมื่อตะกี้คุณบอกว่า คุณชื่ออะไรนะ”

ชายวัยกลางคนที่ใส่แว่นตายืนตะลึงสักพัก ก่อนจะตั้งสติได้

เขารีบยื่นมือออกไป แล้วพูด “ผม ผมเป็นผู้จัดการของ

อสังหาริมทรัพย์ตระกูลหลินครับ ผมเลื่อมใสศรัทธาในตัวคุณ

ชายเย่มาโดยตลอด ถ้ามีโอกาสหวังว่าจะได้ร่วมงานกับบริษัท

ตระกูลเย่…”

พอพูดแบบนั้น ชายวัยกลางคนก็ถือโอกาสรีบยื่นนามบัตร ของตัวเองให้เย่ไม่เป็นทันที

“นี่ นี่เป็นนามบัตรของผมครับ

เขายืนนามบัตรให้ด้วยมือไม้ที่สั่นเทา สีหน้าประดับไปด้วย รอยยิ้มประจบประแจง กลัวว่าเยโม่เซินจะไม่ยอมรับนามบัตร ของตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงจะอับอายขายหน้ามาก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร คนรอบข้างต่างก็พากันตื่นเต้นไปด้วย

เสี่ยวหมี่โต้วมองหน้าเบโม่เป็นอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าเย่ไม่เห็นจะ เป็นพวกรักสะอาดมาก แต่เพราะถูกสายตาที่ไร้เดียงสาของ ลูกชายจ้องมองอยู่ ทำให้เขาต้องลุกขึ้นยืน แล้วรับนามบัตรของ ชายวัยกลางคนมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชายวัยกลางคนเห็นว่าเขารับนามบัตรของตัวเอง จึงยิ่งตัวสั่น มากขึ้น อีกฝ่ายตื้นตันใจจนขอบตาแดง เพื่อแสดงความเป็นมิตร เย่ไม่เซ็นจึงยื่นนามบัตรของตัวเองให้กับอีกฝ่าย

“นี่เป็นนามบัตรของผม”

ชายวัยกลางคน นมือออกไปรับด้วยท่าทางตกใจ

“ขอบคุณ ขอบคุณคุณชายเย่มากเลยครับ… ผมจะรักษา นามบัตรนี้ไว้อย่างดีเลยครับ เอ่อคือว่า…. ผมขอจับมือคุณหน่อย ได้ไหมครับ”

พอพูดถึงตรงนี้ ชายวัยกลางคนก็รีบยื่นมือของตัวเองออกไป อีกครั้ง ก่อนจะมองหน้าแย่ไม่เป็นอย่างตั้งตารอ

นี่ถือเป็นความท้าทายของคนที่รักสะอาดอย่างเย่ไม่เป็นมาก เพราะต้องมาจับมือกับคนแปลกหน้า เส้นเลือดในสมองของเ ไม่เป็นกระตุกอย่างแรง ก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเตือนภัย แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายตื่นเต้นจนมึนงงไปหมด จึงไม่มีเวลา

มาใส่ใจกับสายตาเตือนภัยของเย่ไม่เป็น เย่ไม่เป็นมองไปทางเสี่ยวหมี่โต้ว เด็กน้อยยังคงมองหน้าเขา

นิ่ง

เย่ไม่เป็นส่ายหน้าอย่างจนใจ ก่อนจะยื่นมือไปให้อีกฝ่ายจับ

ชายวัยกลางคนยื่นตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ หลังจากปล่อยมือกลับ มาเขาก็หวงแหนมือข้างที่ยื่นไปจับมือของเย่ ไม่เป็นไว้มาก สีหน้าของเขาเหมือนกับว่าตลอดชีวิตนี้เขาจะไม่ยอมล้างมืออีกอย่างนั้นแหละ

“เด็กดี แ ต เป็นกันเองมาก เสี่ยวหมี่โต้วไม่ต้องกลัวแด๊ดดี้ หรอก รีบเข้าไปข้างในเถอะ”

หลังจากจับมือกับคนแปลกหน้า เย่ ไม่เห็นรู้สึกไม่สบายตัวเป็น อย่างมาก

เสี่ยวหมี่โต้วเห็นท่าทางควบคุมอารมณ์ของเย่ไม่เซ็น ภายใน ใจรู้สึกตลกมาก “ได้ครับ”

เขาหันหลังกลับ แล้วเดินเข้าโรงเรียน ก่อนจะโบกมือลาเย่ไม่ เช่น

หลังจากยืนมองจนเสี่ยวหมี่โต้วเดินออกจากสายตาไปแล้ว เ ไม่เซ็นถึงได้ถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันไปมองชายวัยกลาง คนที่ยังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง แล้วเดินจากไปด้วย สีหน้าเย็นชา

เพราะเพิ่งจับมือกับคนแปลกหน้า ทำให้เยโม่เห็นรู้สึกไม่ สบายตัวมาก หลังจากกลับเข้าไปนั่งบนรถแล้ว เขานั่งอยู่ใน ตำแหน่งคนขับ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดมืออย่างละเอียด ทุกซอกทุกมุม

หลังจากนั้นก็โยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งลงถังขยะด้านข้าง แล้วเอนตัว พิงเบาะรถ แล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

คิดจะเอาชนะใจเด็กน้อย คงจะเป็นเรื่องที่ยากพอตัวเลยที เดียว
แล้วเมื่อไหร่ เด็กน้อยถึงจะยอมเรียกเขาว่าพ่อสักทีล่ะ เย่ไม่เป็นเม้มปาก ก่อนจะลืมตาขึ้นมา

ผู้หญิงคนนั้นมาที่โรงเรียนเข้าถึงขนาดนี้ แต่กลับฝากกระเป๋า ไว้กับครู ส่วนตัวเองกลับไม่อยู่รอ เพราะไม่กล้าเจอกับเขาเหรอ แล้วทำไมถึงไม่กล้าเจอกับเขาล่ะ กลัวเขาถาม หรือว่ารู้สึกผิด

จนไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขากัน

พอคิดถึงตรงนี้ เย่ไม่เป็นก็ดึงเน็คไทตัวเองออกเล็กน้อย และ

รู้สึกอุ่นใจมาก

เพราะเขาพบว่า ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไร เขาก็อารมณ์ เสียมาก

หลังจากผ่านไปสักพัก รถที่จอดอยู่หน้าประตูโรงเรียนก็ค่อยๆ

เคลื่อนออกไปช้าๆ บรรดาคุณครูจึงอดที่จะหันไปคุยกันไม่ได้

“คนเมื่อตะกี้นี่เป็นคุณพ่อของเสี่ยวหมี่โต้วเหรอ หล่อมากๆ เลย”

“ใช่ หล่อมาก แต่ทำไมฉันรู้สึกคุ้นหน้ามากเลย เหมือนเคย เห็นที่ไหนมาก่อน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ