เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1351 อย่ามาเรียกฉันว่าเหยียนเหยียน



บทที่1351 อย่ามาเรียกฉันว่าเหยียนเหยียน

สีหน้าของหานซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากเปียกฝนแล้วก็ตก อยู่ในที่นั่งลำบากมากกว่าเดิม แต่ว่าร่างของเขายังยืนอยู่อย่าง มั่นคงเหมือนเดิม สีหน้าสงบและมั่นคง พอเห็นว่าเสี่ยวเหยียนอ อกมา ริมฝีปากของเขาก็ขยับ

เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เสี่ยวเหยียนเห็นดังนั้น ก็ถอย หลังโดยอัตโนมัติ

พอหานชิงเห็นท่าทางของเธอ ฝีเท้าของเขาก็หยุดลง

“เหยียนเหยียน

เขาเอ่ยปาก เรียกชื่อของเธอออกมา เสียงของเขาแหบแห้ง แววตาของเขาดูเจ็บปวด

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ แต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่อยากจะเข้าใจ เธอแค่อยากจะรู้ความจริงเพียงเท่านั้น

“ทำไมถึงไม่บอกฉัน? ”

เพราะว่าเรื่องที่เขาออกไปตอนที่ฉลองวันเกิดเมื่อตอนกลางวัน ดังนั้นหานชิงก็เลยนึกว่าเสี่ยวเหยียนกำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องวัน เกิด เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องที่มีคนไปบอกเสียวเหยียนว่า สวีเย็นหวั่นเป็นคู่หมั้นของตัวเอง
ดังนั้นเขาก็เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่นมากนัก พอได้ยินเสี่ยวเหยี ยนถามแบบนั้น ผ่านไปนานกว่าจะตอบเบาๆ “ยากที่จะพูด”

นั่นคือบาดแผลที่เขาซ่อนอยู่ในใจ

ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาไม่อยากจะไปสัมผัสหรือว่าไปอีก บาดแผลเก่าของเขาอีกครั้ง

และหานซึ่งก็เป็นแบบนี้ เขาไม่ยอมที่จะฉีกบาดแผลของตัวเอง และเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันวันนี้ ถึงได้เป็นแบบนี้

หลังจากที่เขาไปแล้ว ก็รู้สึกเสียใจภายหลัง กลับไปหาเสี่ยวเห ยียนเธอก็ไม่อยู่แล้ว

หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินพวกพนักงานพูดว่าช่วงนี้เสี่ยวเหยียน ใส่ใจกับเรื่องของเขามาก หานชิงถึงได้ตระหนักได้ว่า สาวน้อย ของเขาอยากจะจัดงานฉลองวันเกิดให้เขาจริงๆ

แต่ว่าเธอก็แค่ไม่รู้เรื่องราวในอดีตของเขาเท่านั้นเอง หานซิงค์ ไม่ได้นึกคิดเลยเหมือนกันว่าบาดแผลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในใจมันจะ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่หลีก เลี่ยงไม่ได้

เขาก็อยากจะบอกเธอ แต่ว่าเรื่องเมื่อก่อนมันพูดยากจริงๆ

ข้อที่หนึ่ง เขาไม่ต้องการที่จะเปิดบาดแผลของตัวเองอีกครั้ง ข้อที่สอง เขาก็ไม่ได้อยากจะอยู่ดีๆ ก็เล่าเกี่ยวกับเรื่องอดีตของตัวเอง
แต่ว่าครั้งนี้ เขามาเพื่อจะพูดให้ชัดเจน

แต่ว่าในสายตาของนั้นเสี่ยวเหยียน สิ่งที่เธอถามหานซิง เป็น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสวี่เย็นหวั่น ตอนนี้เขาบอกว่ามันพูดยาก คือ หมายความว่าเรื่องที่เขามีคู่หมั้นแล้วนั้นมันพูดยากยังงั้นเหรอ?

แค่ประโยคเดียวก็พูดไม่ได้ยังงั้นเหรอ…

เสี่ยวเหยียนสูดหายใจเข้า เหมือนกับว่าได้ยินเสียงหัวใจของ ตัวเองที่กำลังจะแตกสลาย

“พูดยากงั้นเหรอ? ก็หมายความว่า…มันคือเรื่องจริงยังงั้นเห รอ? ”

สวีเย็นหวั่น คือคู่หมั้นของหานซึ่งจริงๆ ยังงั้นเหรอ? แล้วเธอ ล่ะ…เธอคือมือที่สามยังงั้นเหรอ?

พนักงานแผนกต้อนรับก็รู้เรื่องนี้แล้ว แบบนี้ก็แสดงว่า…คนใน บริษัททุกคนก็รู้หมดแล้วงั้น? มีแต่เธอคนเดียวที่โดนหลอก ไม่รู้ เรื่องอะไรเลย

พอนึกถึงเรื่องที่ปกติเธอมาที่บริษัท หรือแม้แต่พาสเย็นหวั่น ออกมาจากบริษัทพร้อมกับหานชิง ในสายตาของคนอื่นนั้น เธอ ก็คือมือที่สาม เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่ามันน่าตลกมาก

และหานชิงเมื่อโดนเธอถามแบบนั้น ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร ยืน นิ่งเงียบอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย

ในหลายๆ ครั้ง ความเงียบคือสิ่งที่น่ากลัวมาก
เพราะว่ามันหมายถึงการยอมรับไปโดยปริยาย

ดังนั้น ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเงียบไป นั่นก็หมายความว่า เขายอมรับในสิ่งที่ตัวเองถามไป

ดังนั้นเรื่องงานแต่งงานของสวีเย็นหวั่นกับหานชิง และเธอ เสี่ยวเหยียน เป็นแค่ตัวแทรกจริงๆ!

ฝีเท้าของเสี่ยวเหยียนเริ่มถอยไปด้านหลัง ดวงตาที่มองไปที่ หานซิงนั้นไม่มีความแวววาวเลยแม้แต่น้อย

“ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปเถอะ

เพราะว่าทั้งสองคนไม่ได้อยู่ห่างกันมากเท่าไหร่ ดังนั้นหานซึ่ง ก็เลยเห็นว่าแสงสว่างที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดในดวงตาของสาว น้อยคนนี้ได้ดับลง

“เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ฉันไม่มีเวลาอธิบายให้เธอได้

ฟัง ตอนนี้เธอยังโกรธอยู่ ให้เวลาฉันหน่อยเถอะ

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า “ไม่ ไม่ต้องการเวลา คุณไปเถอะ” พอได้ยินดังนั้น หานซึ่งก็ขมวดคิ้วแน่น “ทำไม? ” เธอไม่ยอมฟังเขาอธิบายยังงั้นเหรอ?

“ไม่ทําไมหรอก” เสี่ยวเหยียนสลักมือของหานชิงที่จับเธอไว้ ออกทีละน้อย แล้วก็พยายามก้าวถอยไปด้านหลัง ใบหน้า ขีดเซียว “ปล่อยฉัน”

หานชิงเห็นดวงตาที่บวมเหมือนวอลนัทของเธอ ก็ตำหนิตัวเองในใจหนักขึ้น ทําได้แค่ปล่อยมือที่จับเธอไว้ “ถ้าวันนี้เธอไม่อยาก ฟัง เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาหาเธอใหม่”

พอได้ยินว่าเขายังจะมาหาตัวเองอยู่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ความโกรธ ในหัวใจของเสี่ยวเหยียนก็พลุ่งพล่านขึ้น เธอสะบัด มือของเขาออกอย่างรุนแรง

“คุณไม่ต้องมาหาฉันอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พวกเรา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก! พวกเราเลิกกันแล้ว! ”

เขาเห็นเธอเป็นอะไรกัน? พรุ่งนี้ยังจะมาหาเธออีกยังงั้นเหรอ? เธอเป็นคนหลอกง่ายขนาดนั้นเลยรึไงกัน!?

นี่เป็นครั้งแรก ในชีวิต ที่เสี่ยวเหยียนโมโหต่อหน้าหานซึ่ง ขนาดนี้ เธอไม่สนภาพลักษณ์ ดวงตาเบิกกว้าง และก็แดงก่ำ เหมือนกับกระต่าย

หานชิงเองก็รู้ว่าท่าทางแบบนี้ของเสี่ยวเหยียนแสดงว่าเธอ ร้อนอกร้อนใจมากจริงๆ

ถ้าเกิดว่ารู้แต่แรกว่าเรื่องนี้จะทำให้สาวน้อยมีปฏิกิริยาตอบ สนองมากขนาดนี้ ตอนนั้นเขาก็น่าจะควบคุมตัวเองไว้ให้ได้

“เหยียนเหยียน หยุดก่อเรื่องได้ไหม? ”

ถึงแม้ว่าเขาก็มีความผิด แต่ว่าหานซึ่งไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้มันจะ ทำให้ถึงขั้นเลิกกันได้

“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าเหยียนเหยียน” เสี่ยวเหยียนถอยหลัง ไปหลายก้าว สีหน้าหมองหม่น เธอยืนหรี่ตาอยู่ตรงนั้น ความดุร้ายปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเธอ “พอมันออกมาจากปากของ คุณ ฉันได้ยินแล้วสะอิดสะเอียน”

ตั้งแต่ตอนที่เขายอมรับว่าตัวเองมีคู่หมั้นนั้น เสี่ยวเหยียน รู้สึกว่าตัวเองเป็นมือที่สาม แล้วก็สูญเสียความเคารพที่มีต่อหาน ชิงไป

น่าจะเพราะว่าโกรธมากเกินไป ถึงได้เลือกคำพูดไม่ถูกแบบนี้ หานซึ่งก็คงไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดจารุนแรงขนาดนี้ เขาขมวด คิ้วแน่นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ

“เพราะเรื่องแค่นี้ เธอก็จะเลิกกับฉันเลยงั้นเหรอ? ไม่ยอมฟัง ฉันอธิบายเลยแม้แต่ประโยคเดียว? ”

แค่??

เสี่ยวเหยียนจับคำนี้ของเขาได้อย่างว่องไว พร้อมกับมองไปที่ หานชิงด้วยสายตาน่าขัน เหมือนกับว่าเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ สำคัญอะไร ก็จริง ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย คนที่ถูกด่า ก็มีแค่เธอ คนเดียว

ยังไงก็ตัดสินใจจะเลิกกับเขาแล้ว ดังนั้นคำพูดของเสี่ยวเหยี ยนเลยไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย

“ใช่ เพราะว่าเรื่องนี้แหละ ฉันก็เลยจะเลิกกับคุณ คุณรู้สึกว่า มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรใช่ไหม? แต่ฉันรู้สึกว่ามันร้ายแรงมาก ร้าย แรงจนขั้นที่ว่าฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก พอใจรึยัง? ฉันพูด จบแล้ว ท่านประธานหานผู้ยิ่งใหญ่ คุณกลับไปได้แล้ว! ”
ดุร้ายปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเธอ “พอมันออกมาจากปากของ คุณ ฉันได้ยินแล้วสะอิดสะเอียน”

ตั้งแต่ตอนที่เขายอมรับว่าตัวเองมีคู่หมั้นนั้น เสี่ยวเหยียน รู้สึกว่าตัวเองเป็นมือที่สาม แล้วก็สูญเสียความเคารพที่มีต่อหาน ชิงไป

น่าจะเพราะว่าโกรธมากเกินไป ถึงได้เลือกคำพูดไม่ถูกแบบนี้ หานซึ่งก็คงไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดจารุนแรงขนาดนี้ เขาขมวด คิ้วแน่นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ

“เพราะเรื่องแค่นี้ เธอก็จะเลิกกับฉันเลยงั้นเหรอ? ไม่ยอมฟัง ฉันอธิบายเลยแม้แต่ประโยคเดียว? ”

แค่??

เสี่ยวเหยียนจับคำนี้ของเขาได้อย่างว่องไว พร้อมกับมองไปที่ หานชิงด้วยสายตาน่าขัน เหมือนกับว่าเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ สำคัญอะไร ก็จริง ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย คนที่ถูกด่า ก็มีแค่เธอ คนเดียว

ยังไงก็ตัดสินใจจะเลิกกับเขาแล้ว ดังนั้นคำพูดของเสี่ยวเหยี ยนเลยไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย

“ใช่ เพราะว่าเรื่องนี้แหละ ฉันก็เลยจะเลิกกับคุณ คุณรู้สึกว่า มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรใช่ไหม? แต่ฉันรู้สึกว่ามันร้ายแรงมาก ร้าย แรงจนขั้นที่ว่าฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก พอใจรึยัง? ฉันพูด จบแล้ว ท่านประธานหานผู้ยิ่งใหญ่ คุณกลับไปได้แล้ว! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ