เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 739 คุณได้ยินประกาศอย่างเป็นทางการว่า เขาตายไปแล้วหรือ



บทที่ 739 คุณได้ยินประกาศอย่างเป็นทางการว่า เขาตายไปแล้วหรือ

ทุกคนต่างพากันมองไปที่เย่หลิ่นหาน

ทว่าเย่หลิ่นหานเพียงมองไปที่หานมู่จื่อเท่านั้น แต่ ทว่าเธอกลับไม่มองเขาเลยสักนิด เพียงแค่พลิกดู เอกสารตรงหน้าด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ

ท่าทางทั้งหมดนี้ดูราวกับว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ยิ่งทำให้ไฟภายในใจของเย่หลิ่นหานลุกโชนขึ้นมา

เพียงแค่นี้ก็เริ่มที่จะเกลียดชังและรังเกียจเขาแล้วเห รอ?

ถ้าเขายังทำเรื่องข้างหลังนี้ต่อไปอีกล่ะ?

“ได้ฟังความหมายที่คุณลุงทุกท่านได้ว่ามา คิดว่า ผมไม่มีความสามารถเพียงพองั้นเหรอ? ความจริงผมรู้ อยู่แล้ว ว่าพี่ชายอย่างผมเมื่อเปรียบเทียบกับน้องชาย อย่างไม่เซินแล้ว ความสามารถบางอย่างของผมไม่เพียง พอแน่นอนอยู่แล้ว ทว่าในช่วงหลายปีมานี้ผมเองก็ผ่าน ประสบการณ์มาแล้ว ตอนนี้โม่เซินไม่อยู่ ตระกูลเย่ไม่ สามารถปล่อยให้ไม่มีคนดูแลจัดการไปได้ตลอด ทุก ท่านในตอนนี้ก็สูงวัยมากแล้ว เรื่องราวมากมายนี้คงจะ เหนือบ่ากว่าแรงเกินไปมาก ดังนั้นหลิ่นหานเพียงแค่ อยากจะสมัครเป็นประธานรักษาการไปก่อน ไม่ได้มี เจตนาที่จะเข้ามาแทนที่ คุณลุงทุกท่านได้โปรดอย่า เข้าใจผิดไปเลยครับ”

ทั้งคำพูดและน้ำเสียงเขาฟังดูจริงใจอย่างยิ่ง ทว่าผู้อาวุโสเฉินก็ไม่ได้คิดที่จะเชื่อเขาอยู่แล้ว เมื่อ ได้ยินดังนั้นเขาจึงเค้นเสียงเย็นชาออกมา

“นายคิดว่าพวกฉันเป็นเด็กหรือไง? กล่าวคำพูดออก มาซะสวยหรูอย่างนี้”

เซียวซู่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “กรรมการเฉินพูดได้ ถูกต้องเลยครับ ประธานรักษาการอะไรนั่นก็ฟังดูดีอยู่ หรอกนะ เรื่องความขัดแย้งระหว่างคุณชายใหญ่เย่กับ คุณชายเย่ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้ อื้ม ไม่สิ… ตอนนี้คุณไม่ใช่ คุณชายใหญ่ตระกูลเย่แล้ว ก็ในเมื่อไม่กี่ปีก่อนคุณออก ไปจากตระกูลเย่แล้วนิ

“คุณ! ”

เย่หลิ่นหานคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดจาได้น่าชังขนาดนี้ ในเวลานั้นสีหน้าของเขาก็ดูแปรเปลี่ยนเป็นดูน่าเกลียด ขึ้นมาในทันที

นายท่านตระกูลเย่ก็ถึงกลับเป่าเคราด้วยความโมโห “รู้จักเกรงใจกันบ้าง นายเป็นเพียงผู้ช่วยตำแหน่งเล็กๆ ทำไมถึงกล้าพูดขนาดนี้?”

พูดจบนายท่านตระกูลเย่ก็หันไปมองทางหานมู่จื่อ พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดุดัน “ใครอนุญาตให้เธอ มานั่งที่เก้าอี้ตำแหน่งนี้กัน? ต่อให้เธอเป็นภรรยาของเย่ โม่เซินก็ช่าง เธอไม่มีสิทธิ์มานั่งแทนที่ตำแหน่งของเขา!

“ใช่แล้ว แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาของคุณชายเย่ แต่ ถึงอย่างไรคุณก็ไม่มีอำนาจอะไร การที่คุณจะมานั่ง ตำแหน่งนั้นแทนที่คุณชายเย่เรื่องนี้มันดูจะไม่สมเหตุสม ผลเลยนะ” ทุกคนเริ่มที่จะประท้วงขึ้นมา หานมู่จื่อมอง สถานการณ์ตรงหน้า รู้ว่าถ้าในเวลานี้ยังไม่นำเอกสาร ออกมาคงไม่ดีแน่ เธอยกยิ้มริมฝีปาก “ถ้าฉันบอกว่าใน มือฉันมีหุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่อยู่ล่ะ?”

“อะไรนะ?”

ทุกคนต่างพากันตกใจ “ในมือคุณจะไปมีหุ้นส่วน ของบริษัทตระกูลเย่ได้ยังไงกัน?”

“หรือว่าเป็นเย่ไม่เซินมอบมันให้กับเธอเหรอ?”

เย่หลิ่นหานเองก็ถึงกลับหน้าเปลี่ยนสี หลังจากนั้น เขาก็หรี่ตาลงมองมาอย่างอันตราย

ก่อนหน้าเขาไม่เคยคาดคิดเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้มา ก่อน เขาแค่รู้สึกว่าเย่โม่เซินไม่ใช่คนประเภทนี้ ต่อให้ ชอบหานมู่จื่อยังไงก็ไม่น่าจะถึงขั้นที่ยอมมอบหุ้นส่วน บริษัทให้กับเธอ

ยิ่งไปกว่านั้นงานแต่งก็ยังไม่ทันได้จัดขึ้นอย่างเป็น ทางการ เขาจะยอมมอบหุ้นส่วนให้กับหานผู่จื่อได้ยังไง กัน?

“ต่อให้เย่โม่เซินมอบหุ้นส่วนให้เธอแล้วยังไง? พวก เราที่นั่งอยู่ตรงนี้มีใครบ้างที่ไม่มีหุ้นส่วน? แต่ก็ไม่เห็นจะ มีพวกเราคนไหนไปนั่งแทนที่ตำแหน่งของคุณชายเย่ เลยนิ”

หานมู่จื่อก้มหน้า เอาแฟ้มเอกสารในมือส่งให้กับผู้ อาวุโสเฉินที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ และยังเป็นตำแหน่งที่อยู่ ใกล้เธอมากที่สุด ในเวลานั้นเซียวซูก็เดินไปมาระหว่าง หานมู่จื่อกับผู้อาวุโสเฉินได้อย่างเหมาะสม ผู้อาวุโสเฉินคิดว่านี้คงจะเป็นหนังสือโอนหุ้นส่วน ใน ตอนแรกคิดว่าถึงจะมอบให้จริงแต่ก็คงจะเป็นการมอบ ให้เพียงบางส่วน แต่เมื่อได้อ่านเนื้อหาในสัญญาแล้ว ผู้ อาวุโสเฉินก็ถึงกลับเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัว เอง

ทุกคนต่างก็พากันมองด้วยความอย่างรู้อยากเห็น นึกอยากจะทราบเนื้อหาในนั้นจริงๆ

ผู้อาวุโสเฉินส่งสัญญานั่นกลับไป หลังจากนั้นก็พยัก หน้ามาทางหานมู่จื่ออย่างเคร่งขรึม

“เธอมีสิทธิ์ที่จะนั่งอยู่ตรงนี้จริงๆ

ทุกคน “???”

เย่หลิ่นหานขมวดคิ้วแน่น เนื้อหาในข้อตกลงนั่นมัน คืออะไรกันแน่? ถึงกลับสามารถทำให้ผู้อาวุโสเฉิน เปลี่ยนสีหน้าได้เลยเหรอ?

“ทุกท่าน อำนาจในหุ้นส่วนบริษัทที่อยู่ในมือของคุณ ชายเย่ ได้ถูกโอนให้เป็นของเธอทั้งหมดแล้ว อย่าว่าแต่ จะมานั่งแทนที่คุณชายเย่ในการประชุมเลย ตอนนี้เธอมี สิทธิ์ในการบริหารและดูแลบริษัทได้ทั้งหมด”

ทุกคน “???”

อะไร? นี่เป็นพวกเขาที่ฟังผิดไปหรือเปล่า?”

คุณชายเย่มอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้กับหานมู่จื่องั้นเห รอ?

นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง? “โกหกหรือเปล่า? คุณเห็นว่าคุณชายเย่เกิดเรื่อง ดัง นั้นจึงได้จงใจพูดออกมาแบบนี้? ถึงยังไงเขาก็ตายไป แล้ว ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้งั้นเห รอ?”

คนที่อยู่ด้านข้างของลุงหลินลุกขึ้นยืนก่อนจะพูด ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงลนลาน

ก็ไม่รู้ว่าคำพูดไหนของเขาที่ไปเหยียบหางของหา นมู่จื่อเข้า เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปที่ คนนั้นด้วยความโกรธ พลางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็น ชา “ใครบอกคุณกันว่าเขาตายไปแล้ว?”

คนนั้นที่ถูกออร่าความโกรธของหานมู่จื่อทำให้ ตกใจก็ถึงกลับพูดไม่ออก ทำได้เพียงพูดตะกุกตะกัก “กะ… ก็ไม่ใช่ว่าเครื่องบินนั้นมีปัญหาเหรอ?”

หานมู่จื่อลุกขึ้นยืน เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะ เยือก “คุณไม่เห็นคนที่มีชีวิตรอดเหรอ? คุณได้ยิน ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาตายแล้วหรือไง? ถ้าไม่ ทำไมถ้าได้พูดเรื่องเหลวไหลแบบนี้ออกมา? ถ้าขืนคุณ พูดคำว่าตายออกมาอีกหนึ่งคำ เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องร้อง คุณข้อมหาหมิ่นประมาทและทำร้ายผู้อื่น?”

อีกฝั่งถูกคำพูดประกาศกร้าวของหานมู่จื่อจนพูดไม่ ออก คนด้านหลังจึงลากเขากลับไป เขาถึงจําต้องถอย กลับอย่างทำอะไรไม่ถูก

เมื่อเซียวซู่เห็นภาพฉากนั้น เขาก็แอบชื่นชมเธอ เงียบๆ อยู่ภายในใจ

วิธีการของคุณผู้หญิง ทำให้เขารู้สึกพอใจมากจริงๆ หานมู่จื่อมองไปรอบๆ “ทุกคนคะ ในตอนนี้ดิฉันเป็น ผู้ถือหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของบริษัทตระกูลเย่ ในระยะ เวลาสั้นๆ ที่เย่โม่เซินไม่อยู่ที่บริษัทนี้ ฉันจะเข้ามาทำงาน แทนตำแหน่งของเขา ในอนาคตไม่ว่าเรื่องเล็กใหญ่ยังไง ก็ขอให้ผู้อาวุโสทุกท่านโปรดชี้แนะให้ดิฉันด้วย

ผู้คนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นจิ้งจอกเฒ่า ทำไมจะไม่ เข้าใจว่าเย่หลิ่นหานเชิญผู้อาวุโสตระกูลเย่มาที่นี่เพื่อ อะไร? เพียงแต่มีบางส่วนที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย หรือต่อให้ เข้าร่วมก็ไม่ได้จริงจัง ทั้งหมดเพียงแค่ต้องการรอชมการ ต่อสู้ของเสือภูเขาเท่านั้น

เมื่อลุงเฉินได้ยินดังนั้นเขาก็ลุกขึ้นพูดนำให้กับเธอ “แม้ว่าพวกเราจะยังไม่เคยมีประธานเป็นผู้หญิง แต่

ในเมื่อ… ตอนนี้โม่เซินก็ไม่อยู่ที่นี่ ก็คงไม่มีทางเลือกอื่น ในกรณีนี้ระหว่างที่รอโม่เซินกลับมาเธอก็เป็นประธาน รักษาการชั่วคราวไปก่อนเถอะ”

ตั้งแต่แรกลุงเฉินก็ให้การสนับสนุนอย่างมาก สำหรับเขาแล้วหานมู่จื่อจึงยอมลดสถานะตัวเองลงด้วย ความสมัครใจ พูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณคุณลุงเฉินค่ะ แต่ว่า… ประวัติส่วนตัวของฉันดูจะไม่ค่อยเหมาะสมกับ ตำแหน่ง นั้นฉันจะอยู่ในตำแหน่งรองประธาน ในส่วน ของตำแหน่งประธานนั้น… ไว้รอให้เย่โม่เซินกลับมา”

“โอเค”

“หากว่ามีใครยังคงสงสัยในสถานะของฉัน เมื่อถึง เวลานั้นก็สามารถติดต่อกับทนายของฉันได้โดยตรง” ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก นายท่านตระกูลเย่โมโห จนเป่าเคราจ้องมองมาอย่างดุดัน ก่อนจะตบโต๊ะเสียงดัง “ก่อเรื่องวุ่นวาย บริษัทตระกูลเย่ของฉันจะยอมปล่อยใน ตกไปอยู่ในมือผู้หญิงนอกตระกูลอย่างเธอได้ยังไง? พวกนายเลอะเลือนกันไปหมดแล้วเหรอ? ”

ผู้อาวุโสเฉินมองไปที่นายท่านตระกูลเย่ “ความ หมายของคุณท่านก็คือผู้ที่ถือหุ้นมากที่สุดไม่สามารถ ครอบครองบริษัทตระกูลเย่ได้ ต้องยกให้คนตระกูลเย่ รับช่วงต่องั้นเหรอครับ?”

นายท่านตระกูลเย่ “โม่เซินเกิดเรื่อง หุ้นส่วนเหล่านั้น ธรรมดาแล้วต้อง…

ประโยคหลังยังพูดไม่ทันจบ เซียวซูก็รีบแทรกคำต่อ อย่างรวดเร็ว “คุณท่านครับ เรื่องของคุณชายเย่คุณท่าน ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ คุณชายเย่ได้วางแผนเรื่อง ทั้งหมดเอาไว้ดีแล้ว คุณท่านกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก คนชราเถอะครับเพื่อสุขภาพที่ดี ส่วนคุณชายใหญ่เย่ ใน เวลาแบบนี้คุณยังไม่คำนึงถึงสุขภาพของคุณท่านจะได้ รับอันตราย ยังฝืนพาคุณท่านออกมาเพื่อให้การ สนับสนุนคุณ แบบนี้… มันไม่ค่อยดีหรือเปล่าครับ?”

คำพูดถากถางที่แอบซ่อนอยู่ในประโยคใช่ว่าทุกคน จะฟังแล้วไม่เข้าใจ ผู้อาวุโสเฉินเมินเฉยแสร้งทำเป็นไม่ ได้ยินอะไร

ลุงหลินที่นึกอยากจะช่วยเย่หลิ่นหาน ทว่าในเวลานี้ ก็กลับกลายเป็นพูดอะไรไม่ออก

สงครามยังไม่ทันเริ่มก็จบลงซะแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ