เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 750ผู้ช่วยเลขา



บทที่ 750ผู้ช่วยเลขา

พูดคุยกับเสี่ยวเหยียนอีกพักหนึ่ง หานคู่จื่อจึงวางสาย จากนั้นเธอก็เข้าในเว็บไซต์ของบริษัทตระกูลยคือ เข้าไปใน หน้าของตนเอง มีข้อความที่ไม่ได้อ่านอยู่

หานอกดเข้าไปอ่าน พบว่าประวัติส่วนตัวที่ตนกรอกทิ้งไว้มี การตอบรับกลับมาแล้ว

อีกฝ่ายแจ้งว่าให้เธอเข้าไปสัมภาษณ์พรุ่งนี้แปดโมงเช้า เห็นประกาศแจ้งให้ไปสัมภาษณ์ มุมปากของหาน จื่อก็ค่อย ยกขนมา

ดูแล้ว เธอจะเข้าใกล้เป้าหมายของตนเอง ใกล้ นอีกก้าว

วันต่อมา หานมจื่อมาถึงบริษัทตระกูลซื่อตรงต่อเวลา ไปที่ เคาน์เตอร์ ใช้ภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วในการสื่อสารกับอีก ฝ่าย คิดไม่ถึงว่าพนักงานที่เคาน์เตอร์จะใช้ภาษาจีนกับเธอ

“คุณเป็นคนจีนเหรอ มาสัมภาษณ์ใช่มั้ย”

หาหมอพยักหน้าอย่างแปลกใจ

“อย่างนั้นคุณก็ถือว่าตาถึง บริษัทตระกูลถือเป็นบริษัทที่ดี ที่สุด สวัสดิการที่ให้พนักงานก็ดีมากเป็นพิเศษ
ได้ยินเช่นนั้น ท่านมอ ไม่เลวก็เลยมาสมัคร ก็ยิ้มบางๆ ใช่ค่ะ ฉันเห็นว่าสวัสดิการ

“ฮาๆ อย่างนั้นก็ไม่เลวจริงๆ ใช่แล้ว คุณมาสมัครตำแหน่ง อะไร

“ผู้ช่วยเลขานุการค่ะ”

“ห้า ที่แท้เธอมาสมัครตำแหน่งผู้ช่วยเลขาเหรอ ฉันจะบอกให้ นะ นับตั้งแต่ที่คนๆนั้นมา ก็มีคนมายื่นใบสมัครมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันจะบอกเธอให้ หน้าตาสวยๆอย่างเธอ จะลำบากไปทำไม ผู้ ช่วยเลขา ไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะ

พนักงานที่เคาน์เตอร์เหลือบมองเธออย่างเห็นใจ จากนั้นพูด ว่าเธอขึ้นลิฟต์ตัวCไปที่ชั้น5ที่นั่นก็คือที่สัมภาษณ์

“ขอบคุณค่ะ”

หานอพยักหน้า จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าลิฟต์ไป คิดไม่ถึงว่าคนที่เคาน์เตอร์จะหันไปกระซิบกระซาบกับคนข้าง หลังว่า น่าเสียดายจังเลย! ”

หานคู่จื่อหาอยู่พักหนึ่ง ก็เห็นลิฟต์ตัวที่พนักงานที่เคาน์เตอร์ บอกมีผู้คนยืนรอกันอยู่มากที่สุด เธอตกใจเล็กน้อย เห็นด้าน หน้าลิฟต์มีผู้คนเต็มไปหมด และทั้งหมดยังเป็นหญิงสาววัยรุ่นที่ หน้าตาสะสวย

ที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเธอฉีดน้ำหอมกันหนักมือมาก
ผู้คนเกาะกลุ่มกันอยู่ กลิ่นแรงจนน่าตกใจ หาน จื่อคิดถึงเรื่อง ที่ตนกำลังตั้งท้อง จึงค่อยๆถอยออกมาจากบรรยากาศที่ตอบ อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอม จากนั้นเงยหน้ามองชั้นที่ลิฟต์

“ขอโทษนะคะ คุณเป็นคนจีนหรือเปล่าคะ

ทันใดนั้น ก็มีคนข้างๆถามออกมา

ทานจื่อหันหน้ามา พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามตนมาที่ ด้านข้าง เมื่อเทียบกับบรรดากลุ่มคนเหล่านั้น ท่าทางเธอดูไม่ ค่อยเข้าพวกเท่าไหร่นัก เพราะคนอื่นต่างแต่งหน้าแต่งตัว สวยงาม แต่หล่อนกลับใส่ชุดที่ธรรมดามาก ใบหน้าเล็กเท่า ฝ่ามือ เครื่องหน้าสวยดูดี ดูแล้วน่าจะอายุยังน้อยมาก

เห็นหล่อนมองตัวเองอยู่ หานมอจึงแน่ใจว่าหล่อนกำลังพูด กับตนเองอยู่

เธอพยักหน้า ส่งเสียง

หญิงสาวได้ยินก็ดีใจ เป็นฝ่ายยื่นมือออกมาหาเธอเอง

“ฉันชื่อหลัวลี่ เธอล่ะ

สาวน้อย หลัว ออกเสียงจีนคล้ายสาวน้อย)เหรอ? นี่มีคน กล้าใช้ชื่อนี้จริงๆเหรอเนี่ย แม้ว่า….จะบอกว่าหล่อนกับชื่อนี้นั้น เหมาะสมกันดี ในเมื่อเป็นคนตัวเล็กมากๆ

“สวัสดีค่ะ ฉันซือมู่จื่อ”

“ดีจังเลย เธอก็มาสมัครงานตำแหน่งผู้ช่วยเลขาใช่มั้ย ฉันก็เหมือนกัน อีกเดี๋ยวพวกเราไปพร้อมกันนะ

ที่หานจอมาที่นี่ เติมก็เพื่อเย่ไม่เป็น รอจนเย่ไม่เป็นฟื้นคืน ความทรงจํา เธอกับเขาก็จะกลับประเทศพร้อมกัน ดังนั้นเธอคง ไม่อยู่ที่นี่นานนัก

ในเมื่อบริษัทตระกูลเย่ ยังต้องรอให้เย็ไม่เดินกลับไป

มองผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้า หานมู่จื่อพูดตรงไปตรงมา เธอ สมัครตำแหน่งเดียวกับฉันเลย พวกเราตอนนี้ต้องเริ่มการแข่งขัน กันนะ”

อาจจะเพราะคิดไม่ถึงว่าเธอจะเอ่ยออกมาอย่างนั้น ทำเอาผู้ หญิงที่ชื่อหลัวอึ้งไปเล็กน้อย ต่อมาก็ยิ้มออกมาอีก ไม่เป็นไร นี่ คงไม่มีผลต่อการรู้จักกันของพวกเรานะ ในเมื่อผู้ใหญ่เป็นคน เลือกผู้ที่จะได้ตำแหน่งนี้

คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีทัศนคติที่ดีมาก หาน จ่อยิ้มบางๆ พยัก หน้าเบนสายตาไปทางอื่น

ก็ไม่รู้ว่าเธอแสดงท่าที่ไม่ชัดเจนหรืออย่างไร หลัวก็ยังคงยืน อยู่ข้างเธอ บางครั้งก็คุยกับเธอสองสามประโยค ด้วยท่าที่เป็น กันเองมาก

บางครั้งหาน จื่อก็ตอบกลับหล่อนสองสามประโยค

แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจพวกที่เข้ามาทำเป็นที่สนิทแบบนี้เท่า ไหร่นัก แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายอายุยังน้อย ก็ออกมาหางานทำแล้ว จึงรู้สึกว่าไม่ง่ายเลย
และยังได้พบคนบ้านเดียวกันในต่างประเทศ คงต้องตื่นเต้น ใจมากแน่

ดังนั้นหาน จื่อจึงโต้ตอบกับหล่อนบ้างสองสามประโยค

รอจนลิฟต์มา ทุกคนต่างเบียดกันเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เป็น เพราะหานซื้อกำลังตั้งท้อง ดังนั้นจึงยืนรออยู่ข้างๆ ไม่ได้ไป เบียดกับคนอื่นๆเข้าลิฟต์

หลัวมองเธออย่างแปลกใจเธอดูใจเย็นมากเลย เธอเป็นคน ที่ฉันเห็นว่าสงบนิ่งที่สุดในบรรดาคนที่มาสมัครงานคนหนึ่ง และ….ก็ไม่ได้บรรจงแต่งเนื้อแต่งตัวอะไรเยอะ แต่แบบนี้เธอก็ สวยมากแล้ว บุคลิกดีมาก

หาหมู่จื่อ……

เธอเหลือบมองอีกฝ่าย ตอนที่หลัว ชมเธออยู่นั้น สีหน้าดู จริงใจน่ารัก

หานคู่จื่อรู้สึกเขินขึ้นมา ยื่นมือมาม้วนผมที่ห้อยอยู่ข้างๆตาม

สัญชาตญาณ เอ่ยอย่างเขินๆว่า “ขอบคุณ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก พวกเราเข้าไปเถอะ”หลวคล้องแขน เธอเดินไปข้างหน้า

หาน จื่อเดินไปพร้อมกับหล่อน

ตอนที่เดินมาถึงประตู มีกลิ่นอะไรบางอย่างที่รุนแรงจนหา นมู่จื่อขมวดคิ้ว เธอกลั้นหายใจตามสัญชาตญาณ เพราะหลัว เดินเข้าไปก่อน ดังนั้นหานมู่จื่อเป็นคนสุดท้าย
แต่คิดไม่ถึงว่าพอเธอเดินเข้าลิฟต์ ลิฟต์ก็ดังขึ้นมา

“อ้าว น้ำหนักเกินแล้วมีคนด้านในร้องออกมา เพราะทุกคน เห็นว่าทานจื่อเป็นคนสุดท้ายที่เดินเข้ามา ดังนั้นตอนนี้เมื่อ ได้ยินเสียง สายตาของทุกคนต่างมองไปที่เธอ

เวลานั้น สายตาของทุกคนมองมาที่ตัวเธอ หาหมู่จื่ออายมาก และแน่ใจว่าตนเองเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไป เธอก้าลังคิดจะเดินออก

ก็ได้ยินเสียงคนด้านหลังพูดว่า “เธอเป็นอะไรของเธอ น้ำหนัก เกินแล้วยังไม่ไปอีก”

“ก็ใช่นะสิ ชักช้ารออะไรอยู่ เธอคิดว่ารออยู่ในลิฟต์แล้วน้ำ

หนักจะไม่เกิน จากนั้นก็จะพาเธอขึ้นไปได้หรือไง”

หาน จ่อขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปากแดงเดินออกไป เธอก็แค่ยืนอยู่ครู่เดียวเท่านั้น ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร คนพวก

ดูท่าแล้ว วันนี้คนที่มาสมัครวันนี้จะมีท่าทีเป็นศัตรูกับตนเอง มาก มองอีกฝ่ายอย่างไม่ถูกชะตา

หลังจากที่หาน จื่อออกมา หลัวพี่เองก็ดูเหมือนไม่ค่อย สบายใจ ถอนหายใจเบาๆ เดินตามออกมา

“ฉันไม่เป็นไร เธอไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉันก็ได้ ฉันรอลิฟต์รอบต่อไปก็ได้

หลัวไม่เข้าไป กระพริบตาปริบๆพูดว่า “ไม่เป็นไร พวกเราเป็น พวกเดียวกัน ฉันรอลิฟต์รอบต่อไปเป็นเพื่อนเธอแล้ว”

หล่อนพูดมาขนาดนี้แล้ว หาน จื่อจึงไม่พูดอะไรอีก หลังจาก ลิฟต์ปิดลง จู่ๆหลัวก็มากระซิบข้างๆเธอว่า

“ฉันรู้ว่าแถวนี้ก็มีลิฟต์อีกตัว ขึ้นไปชั้นห้าที่สัมภาษณ์ได้

หานมู่จื่อ”? ”

“เธอตามฉันมา” หลัวลากมือเธอ จากนั้นเดินไปด้านหน้า หานมู่จื่อได้แต่เดินตามหล่อนไป

ทางเดินข้างหน้าเงียบสงบลงมาก หลังจากถึงที่หมายแล้ว หา นมจื่อมองเห็นลิฟต์ตรงหน้าไม่เหมือนกับเมื่อครู่ ที่นี่ไม่มีใครสัก คน

“พวกเราขึ้นจากตรงนี้ไปที่ชั้นห้าได้เลย พูดจบ หลัวก็ลากเธอเข้าไปในลิฟต์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ