เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1370 ตื่นเต้นอะไร



บทที่1370 ตื่นเต้นอะไร

เธอผลักไหล่เขาอย่างบ้าคลั่ง โวยวายขึ้น “ไม่เอา!”

หลังจากไปเที่ยวกลับมาแล้ว ทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก เสี่ยวเหยียนเองก็ไม่ได้ใฝ่ฝันถึงมัน อีกทั้งทุกครั้งหานซึ่งก็ทำท่า ทีเงียบสงบใจ ถ้าตัวเธอเองไม่ท้อง เธอก็คงรู้สึกว่าระหว่างเขา กับเธอมันช่างเป็นความรักที่บริสุทธิ์

นั่นมันก็ไม่เชิง อย่างน้อยหานซึ่งก็ยังจูบเธอ อีกทั้งเวลาจูบเธอ ก็จูบราวกับกระหาย

แต่เขาอาจจะกลัวอะไรบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่กล้าจะทำอะไร

มันเนิ่นนาน จนเสี่ยวเหยียนก็แทบจะลืมเลือนไป ดังนั้นสิ่งที่ กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างพวกเธอตอนนี้ มันทำให้เธอประหลาดใจ เล็กน้อย

อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่คนๆเดียว เธอกำลังท้องอยู่

หลังจากที่ท้องเธอก็สืบหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตไว้มากมาย เมื่อเห็นเนื้อข่าวว่าสามเดือนแรกเด็กจะยังไม่แข็งแรง ดังนั้นจึง ทําอะไรแบบนั้นไม่ได้

ก่อนหน้านี้ที่เธอเห็นเธอก็ไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้จู่ๆก็คิดขึ้นมา ได้ ลูกในท้องของเธอยังไม่แข็งแรงคงที่ ถ้าหากทำแบบนั้นกับ หานชิง ถึงตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง
แต่สิ่งเหล่านี้นั้นหานซิงไม่รู้ คงคิดว่าสาวน้อยเพียงแค่ขี้อาย ดังนั้นเขาจึงไม่หยุดเท้า เสี่ยวเหยียนมองไปที่ห้องนอนที่ใกล้ขึ้น มาเรื่อยๆ ก็ร้อนใจ พยายามที่จะดิ้นลงมา

หานซึ่งจับข้อมือเธอ พูดด้วยเสียงแหบพร่า: “ตื่นเต้นอะไร?” “ฉะ ฉันไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย”

“งั้นนี่เธอกำลังกลัวเหรอ?”หานชิงจ้องมองเธอ สายตาลึกซึ้ง ราวกับมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“ไม่ได้กลัว!”เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เขาได้ยังไง จึง ส่ายหน้าไม่หยุด “แต่ว่ามันไม่ได้นะ!”

“ก่อนหน้านี้ตอนอยู่เมืองนอก เธอก็เป็นคนเริ่มเองไม่ใช่เห รอ?” หานซิงหรี่ตา โน้มตัวเข้าไปใกล้เธอก่อนจะพ่นลมหายใจ รอแก้มของเธอ: “ตอนนั้นเชิญชวนฉันหน่ะ ลืมไปแล้วเหรอ?”

หา?

ถูกเขาพูดแบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็นึกย้อนกลับไปในตอนนั้น เมื่อ ภาพปรากฏขึ้นในสมองของเธอ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกไม่กล้าสบตา

ในตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่กันแน่นะ ตอนนั้นเธอทั้งไม่อายแถม ยังกระตือรือร้นที่จะรุกเขาเสียด้วย

“จำไม่เห็นได้เลย” ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธหมดสิ้น มองเธอ ปฏิเสธแข็งขันแบบนั้น หานซึ่งจึงบีบแก้มเธอ “แน่ใจเหรอว่าจำ ไม่ได้หน่ะ?”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้า: “อิ่ม จําไม่ได้จริงๆ

“ดี” หานซิงอุ้มเธอขึ้นมาอีกครั้ง เสี่ยวเหยียนกอดคอเขาด้วย ความตกใจ “คุณจะทำอะไร? ฉันบอกว่าไม่ได้ยังไงหล่ะ? ปล่อยฉันเลยนะ

“จำไม่ได้ก็ดี เดี๋ยวฉันฟื้นความจำให้ ใช้ร่างกายเนี่ยแหล่ะ เธอจะได้จําได้”

เสี่ยวเหยียนตกใจ รีบโวยวายขึ้นมาทันที “อย่านะ ฉันบอกว่า ไม่ได้ยังไงเล่า ตอนนี้ฉันป่วยอยู่นะ”

ถึงห้องนอนแล้ว ระยะห่างจากเตียงนอนก็ยิ่งใกล้ขึ้น

“ปล่อยฉันลงนะ! ไม่ได้จริงๆ!

ตัวของเธอหมุนกลางอากาศ หานซิงกดตัวเธอลงบนเตียงหนา นุ่ม จับแขนของเธอทั้งสองข้างไว้เหนือหัว ก่อนจะประกบปาก ลงที่ริมฝีปากของเธอ

“ฉันก็ป่วยเหมือนกัน ดังนั้นก็ไม่เป็นไร เธอไม่กลัวติด ฉันเองก็ ไม่กลัวเหมือนกัน”

“ไม่ ไม่ ไม่นะ” เสี่ยวเหยียนผลักเขา ส่ายหน้า “ไม่ได้จริงๆ”

หานชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความไม่เข้าใจเธอ บรรยากาศ ดีๆก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้พังทลายลง ความคิดที่อยากจะสาน สัมพันธ์กับเธอ แต่ตอนนี้มันถูกทำลายลงไปแล้ว

เขาเองก็ไม่คิดจะทําต่อ เพียงแต่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาว ทำไมถึงปฏิเสธที่จะอยู่ใกล้เขาแบบนี้

หากถ้าเป็นเพราะอาการหวัด ก่อนหน้านี้ที่เขาจูบเธอ เธอก็ไม่ ได้ปฏิเสธ ทั้งยังคล้อยตาม

แต่พอเป็นเรื่องนี้ กลับปฏิเสธหัวชนฝา

พอคิดไปคิดมา หานซึ่งก็คิดออกถึงความน่าจะเป็นอย่างหนึ่ง เขาขมวดคิ้วมองเสี่ยวเหยียนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้น “ทำไมเธอถึงไม่ยอม? ครั้งก่อนฉันทำเธอเจ็บเหรอ?” หา?

เดิมทีเสี่ยวเหยียนก็คิดอยากจะอธิบาย แต่จู่ๆเมื่อได้ยิน ประโยคเมื่อครู่ เธอก็ชะงักหน้าแดงเถือกไปหมด

“อะ หึม” หานซึ่งดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย มันค่อนข้างจะ

เป็นหัวข้อส่วนตัว แต่ในนี้ก็มีแค่เราเพียงสอง ดังนั้นก็น่าจะพูด

ให้มันชัดเจน

ทั้งสองยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปอีกนาน ต่อไปมันก็อาจจะ กลายเป็นเรื่องปกติ

รออยู่ครู่ เขาจึงพูดขึ้น: “ตอนนั้นถูกวางยา นั่นก็เลยอาจจะ ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้าเธอกลัว ครั้งนี้ฉันจะทำเบาๆ

เสี่ยวเหยียนแทบจะสำลักน้ำลาย หน้าแดงไปหมด

“คุณพูดบ้าอะไรเนี่ย?”
“ไม่ได้พูดบ้าๆ หานซิงพูดเสียงต่ำ จูบลงไปที่คางของหญิง สาว “ต่อไปเรื่องอย่างนี้มันก็จะยิ่งมากขึ้น อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ พร้อมแล้ว”

“ว่า ว่าไงนะ?”

พร้อมอะไร? เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ

“พร้อมเข้าพิธีการ”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆ ใส่เข้ามาที่มือของเธอ เธอชะงักด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกว่ามันคืออะไร แต่ไม่กล้าที่จะ เชื่อ ทำได้เพียงมองจ้องไปที่ใบหน้าของหานชิง

“มะ เมื่อกี้คุณสวมอะไรที่มือฉันหน่ะ?”

หานซึ่งยิ้มน้อยๆ แววตาหวานเยิ้ม เต็มไปด้วยความหมาย

หลากหลาย

“ลองมองเองดูสิจะได้รู้

แต่เสี่ยวเหยียนกลับไม่กล้าขยับ สักพักเธอจึงยิ้มแห้งๆ “คุณ คงไม่ใช่อยากได้ฉันใช่ไหม?”

“หืม?”

“จริงๆแล้วสิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือ…..

“แต่งงานกับฉันไหม?”

หานซิงพูดตัดบท เสี่ยวเหยียนได้ยินตากแดงขึ้นทันที มองเขา อย่างไม่อยากจะเชื่อ หัวใจดวงน้อยๆเต้นรัว ริมฝีปากสั่นระริก”มะ เมื่อกี้คุณบอก……

เธอขยับมือเข้ามาใกล้ ดังนั้นจึงมองเห็นสิ่งๆนั้นได้อย่าง ชัดเจน

มันเป็นแหวนเพชรวงหนึ่ง

ที่มีขนาดกำลังพอดี ราวกับทํามาเพื่อสวมให้เธอโดยเฉพาะ เม็ดเพชรส่องประกายระยิบระยับ

เมื่อเห็นมัน เสี่ยวเหยียนก็ฝืนทนตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตา ที่อัดอั้นไว้ก็รินไหลลง

“ออ ทําไมคุณ ทำไมจู่ๆคุณ…..

“ไม่ใช่จู่ๆหรอก กลับมาจากต่างประเทศฉันก็เตรียมแล้ว เพิ่ง จะได้มาไม่กี่วันนี้เอง แต่หาโอกาสไม่ได้เลย”

พูดจนถึงตรงนี้ หานซึ่งก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เสี่ยวเหยียน เข้าใจเขา เพียงแต่ไม่คิดว่าจู่ๆเธอจะฉลองวันเกิดเขา ท้ายสุดก็ ทะเลาะกันเรื่องเกี่ยวกับคู่หมั้น ทำให้ความรู้สึกของทั้งสองแทบ จะแตกออกจากกัน

“ก็เลยให้ตอนนี้ ดังนั้นมันเลยไม่มีพิธีรีตรองอะไร เอาไว้ค่อย ชดเชยให้ตอนงานแต่งก็แล้วกันนะ”

“งะ งานแต่ง?” เสี่ยวเหยียนราวกับตัวเองอยู่ในความฝัน เธอ จะได้แต่งงานกับหานซิงอย่างนั้นเหรอ?ราวกับเธอไม่เคยคิดถึง วันนี้มาก่อนเลย
“ไม่ตกลงเหรอ?” หานซึ่งยิ้มน้อยๆ จับไปยังมือของเธอ “ไม่มี โอกาสให้ไม่ตกลงแล้วนะ เพราะเธอสวมแหวนไปแล้ว”

“หา?”

“จัดงานแต่งก่อน แล้วไว้ค่อยไปจดทะเบียนกันนะ?”

เสี่ยวเหยียน:

รอก่อนนะ ทำไมมันชั่งรวดเร็วอะไรขนาดนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น

เนี่ย!!

ไม่ใช่อยากจะนอนกับเธอหรอกเหรอ! ทำไมจู่ๆถึงมาขอแต่งงานได้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ