เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่211 มานี้



บทที่211 มานี้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ห่างจากวันนั้นที่เสิ่น เฉียวทั้งไป ตั้งแต่ตอนที่เย่โม่เซินตบหน้านั้น ก็ผ่านไป เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้ว เสิ่นเฉียวตั้งแต่ตอนที่ยอมรับ ต่อหน้าหานเส่โยวว่าตัวเองชอบเย่โม่เซิน และต้องการ จะปกป้องเขาในวันเวลาที่เหลืออยู่

หัวใจของเธอก็ค่อยๆ สงบลง

บางที ตอนแรกอาจจะเพราะว่าตัวเธอเองคิดมาก เกินไป ขออะไรมากเกินไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ระหว่างทั้งสองคนถึงได้มีเรื่องขัดแย้งกันมากมาย

ถ้าเกิดว่าเธอไม่สนใจอะไรสักอย่าง อะไรก็ได้ บางทีในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก เธอกับเย่โม่เซินอาจ จะได้เป็นคู่สามีภรรยาที่ธรรมดาๆ ไม่ได้สลับซับซ้อน อะไรก็ได้

เพราะฉะนั้นเสิ่นเฉียวก็เลยเข้าใจแล้ว การอยู่ด้วย กันอย่างสงบสุข ดีกว่าการมานั่งถือสากันในเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ เยอะเลย

เธอไม่เอาเรื่องสบายใจมาใส่ใจได้แล้ว แต่ว่าเย่ โม่เซินกลับโดนเธอทำให้สับสนงุนงงไปหมด

เขาเป็นคนที่หยิ่งยโส เมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเฉียวก็ ไม่เคยยอมรับเลย หรือบางทีเขาอาจจะยังไม่รู้เลยด้วย ซ้ำว่าสรุปแล้วเขารู้สึกยังไงกับเสิ่นเฉียวกันแน่ ตอนแรก เธอเป็นแค่เหยื่อสังเวยในการแต่งงานเพียงเท่านั้น แล้วมันก็ค่อยๆ เหมือนกับว่าเรื่องราวมันจะไม่ได้เป็นแบบ นั้นอีกแล้ว

แต่ว่าถ้าจะให้พูดอย่างอื่น ก็เหมือนจะไม่มีอะไร จะพูดอีกแล้ว ตอนแรกก็อยากจะเห็นเธอหึงอย่างบ้าคลั่ง แต่

ใครจะไปรู้ว่าหลังจากผ่านวันนั้นไปเธอจะกลายเป็นคน สงบนิ่งไม่เหมือนคนปกติ ตอนตื่นนอนก็เห็นเธอ แถม เธอยังทักทายเขาอีกด้วย

หลังจากนั้นก็ลงจากเตียงไปอาบน้ำอย่างเมินเฉย ที่บริษัทก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรอีก ทุกวันต่างก็ตั้งใจทำงาน ตั้งใจกินข้าง ตั้งใจเลิกงาน

หลังจากเลิกงานแล้วก็ตั้งใจไปห้างสรรพสินค้า เพื่อวิจัยรูปแบบตลาด

ทั้งหมดนี้ เย่โม่เซินเห็นอยู่ในสายตาตลอด ดวงตาที่มีสีเหมือนน้ำหมึกก็หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ

“เธอเป็นบ้าไปแล้วหรอ? ” จู่ๆ เย่โม่เซินก็ถาม ประโยคนี้ออกมา

เซียวซู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังเย่โม่เซินก็ตะลึงไปนิด หน่อย ไม่เข้าใจว่าประโยคนี้ของเย่โม่เซินหมายความว่า ยังไง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ตอบสนอง เธอถามออกมา เสียงเบาๆ ” คุณชายเย่หมายถึงคุณนายน้อยสองหรอ ครับ ?”

เยโม่เซินตอบกลับอย่างรำคาญ “หรือว่ามีคนอื่น

อีกล่ะ? ”
“เอ่อ” อารมณ์ฉุนเฉียวที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนั้น ทำให้คนกลัว

เซียวซู่กลับไปย้อนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพักนี้ แล้วก็ลูบหัวของตัวเอง “เปล่านิครับช่วงนี้คุณนายน้อย สองปกติดีไม่ใช่หรอครับ?”

ทุกวันก็พูดคุยกับเยู่โม่เซินสงบนิ่ง ต่อให้เย่โม่ เซินถากถางเธอ เธอก็ไม่ได้ไปโต้เถียงกับเย่โม่เซินเลย แต่ว่าเธอกลับกลายเป็นอ่อนโยนอย่างมาก เพราะฉะนั้น เซียวซูถึงได้รู้สึกว่าแบบนี้ดีมากเลย

ถ้าเกิดว่าทั้งสองคนอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพ กันในฐานะสามีภรรยาแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็จะเกิดความ รู้สึกต่อกันขึ้นได้

ใช่ไง ปกติจะตาย

สายตาของเย่โม่เซินเย็นชาขึ้น ก็เพราะว่ามัน ปกติเกินไป มันถึงได้ผิดปกติ

“ปกติ? ” เย่โม่เซินถามอย่างไม่พอใจ เซียวซู่อึ้งไป “หรือว่าไม่ธรรมดาหรอครับ? ”

“ สมองหมู”ดูเหมือนว่าจะพูดอะไรไม่ออกเวลา คุยกับเขา เย่โม่เซินหรี่ตาลงขี้เกียจจะไปสนใจเขาแล้ว

หลังจากนั้นเซียวซู่ก็คิดอยู่กับตัวเองสักพัก ถึงได้ พูดออกมาว่า “คุณชายเย่กำลังโกรธที่คุณนายน้อยสอง ไม่ทะเลาะกับคุณหรอครับ?”

เยโม่เซิน : “.
เซียวซูลูบคางของตัวเองพลางไตร่ตรอง “ยังไง ซะเมื่อก่อนเธอก็ทะเลาะกับคุณบ่อย แล้วจู่ๆ ช่วงนี้ก็ไม่ ตอบโต้คุณชายเย่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณชายเย่ก็เลยไม่ ชินหรอครับ? ”

เยโม่เซิน “นายหุบปากได้แล้ว”

เซียวซู่ท่าทางเงอะงะ แต่ว่าเย่โม่เซินก็ไม่ อนุญาตให้เขาพูด เขาก็ไม่พูด ได้แต่รู้สึกหดหู คิดอยู่ว่า ควรจะพูดถึงเสิ่นเฉียวต่อมั้ย

เพราะฉะนั้นอาศัยโอกาสตอนที่เสิ่นเฉียวไปชง กาแฟที่ห้องเบรกในเวลาว่าง เซียวซู่ก็แอบเข้าไป หลัง จากนั้นก็ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องในช่วงนี้

” คุณนายน้อยสอง ช่วงนี้คุณ….เป็นอะไรหรอ ครับ?”

“อะไรนะ?” เสิ่นเฉียวคนกาแฟอยู่ สีหน้าเรียบ

เฉย

“เหมือนกับว่าจู่ๆ คุณนายน้อยสองก็เปลี่ยนเป็น อีกคนหนึ่งไปเลยอะครับ”

พอได้ยินดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ชะงัก หลังจากนั้นเธอ

ก็ยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่ดีหรอ? ทุกวันมีแต่เรื่อง สงบจิตสงบใจแบบนี้ ฉันว่าดีจะตาย” อย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องมานั่งเศร้าเสียใจกับเรื่อง

ไร้สาระพวกนี้อีกแล้ว

“สงบจิตสงบใจงั้นหรอครับ? ” เซียวซู่มองเธอเหมือนกับว่าเห็นอารมณ์อีกแบบหนึ่งจากดวงตาที่เย็น ชาของเธอ ตอนนั้นเองเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองดูผิ ดรึเปล่า เขาจึงถามด้วยความงุนงงว่า “คุณนายน้อยสอง จิตใจสงบจริงๆ หรือว่าเป็นแค่การแสดงออกเท่านั้นหรอ ครับ? ”

เสิ่นเฉียว เซียวซู่ นายอยากจะพูดอะไรกันแน่? ”

พอโดนเธอถามแบบนี้ เซียวซู่รับโบกมือแล้ว อธิบายทันที “เปล่าครับ ผมก็แค่อยากจะเตือนคุณนาย น้อยนิดหน่อย คุณชายเย่…ที่จริงแล้วสำหรับเขาแล้ว คุณไม่เหมือนคนอื่นๆ แล้วอีกอย่างผมก็หวังดีกับพวก คุณ เพราะฉะนั้น ….”

เขายังไม่ทันจะพูดจบ สายตาของเสิ่นเฉียวก็ แปลกไป เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าเซียวซู่จะดู เกรงใจเธออยู่บ้าง แต่ว่าเขาไม่ชอบเธอ แถมยังบอกไม่ ให้เธอถามในสิ่งที่ไม่ควรถามอีกด้วย

“ฉันยังมีงานอีกเยอะ แล้วอีกอย่างฉันจะเอา กาแฟไปให้คุณชายเยด้วย ไปก่อนนะ”เสิ่นเฉียวไม่อยาก จะคุยกับเขาลึกขึ้นไปในหัวข้อนี้ หลังจากพูดไม่กี่ ประโยคก็ออกมาจากห้องเบรก

หลังจากเธอไปแล้ว เซียวซู่ก็เกาหัวตัวเองอย่าง แรง สีหน้าดูหงุดหงิดโมโห

เขาพูดอะไรผิดไปยังงั้นหรอ?

เมื่อก่อนเซียวซู่ก็ไม่ชอบเสิ่นเฉียวจริงๆ แต่ว่า หลังจากได้คบค้าสมาคมกันไปเรื่อยๆ เขาก็รู้สึกว่าเสิ่นเฉียวเองก็น่าสงสารมากเหมือนกัน สามีคนก่อนก็เป็นผู้ ชายชั่วๆ แต่ว่าเธอก็ปกป้องลูกของเธอมาตลอด แถมยัง เซ็นต์สัญญากับคุณชายเยอีกด้วย

แล้วอีกอย่างวันเวลาช่วงนี้ เธอทำกับคุณชายเย่ ยังไงบ้างเซียวซู่ก็เห็นอยู่เหมือนกัน

เธอไม่ใช่ผู้หญิงโลภในอำนาจและเห็นแก่ตัว เหมือนที่พวกเขาคิดไว้ตอนแรก

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเจอมา มันไม่ใช่ความเต็มใจ ของเธอเองด้วยซ้ำ ได้แต่โทษโชคชะตา หรือบางที… อาจจะเป็นเพราะว่าเธอตาบอดเอง

ในห้องทำงาน

ด้านหน้าหน้าต่างแนวฝรั่งเศส เย่โม่เซินนั่งอยู่บน รถวีลแชร์แล้วมองไปที่วิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง เหมือน กับว่าดวงตาสีน้ำหมึกของเขาจะมองไปด้านล่าง แต่ว่า ถ้าเกิดว่าสังเกตอย่างละเอียดละก็ จะสังเกตได้ว่าตอนนี้ สายตาของเขาไม่ได้โฟกัสอยู่กับอะไรเลย

ตั้งแต่หลังจากที่เสิ่นเฉียวเปลี่ยนเป็นปกติ เขาก็ พบว่าตัวเองกลับเปลี่ยนไปไม่ปกติ ทุกวันต่างหาเรื่องไป ทุ่มเทเธอ แต่ว่าปฏิกิริยาโต้ตอบของเธอทุกครั้งได้บอก เขาว่า การที่เขาตีตันฝ้ายแบบนี้ มันไม่ได้มีประโยชน์ อะไรเลย

ก๊อกๆ –

ประตูถูกเปิดออก เสิ่นเฉียวถือกาแฟเข้ามา เธอ เดินไปที่โต๊ะทำงานโดยที่ไม่ได้เหล่มองอะไร วางกาแฟลง หลังจากนั้นก็พูดออกมาอย่างสงบ “คุณชายเย่ กาแฟ ของคุณค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ฉันออกไปก่อนนะ คะ”

หลังจากพูดจบ เสิ้นเฉียวก็เดินออกไปด้านนอก เยโม่เซินเหล่มองเธอ ยังคงทำตามหน้าที่จริงๆ

เลย

“หยุดก่อน”

เสิ่นเฉียวหยุดเดิน แล้วก็หันหน้ามา “คุณชายเย่ ยังมีอะไรจะสั่งอีกหรอคะ? ”

“มานี่”

ขนตาของเสิ่นเฉียวขยับ ฝีเท้าไม่ได้ขยับเลย

แม้แต่นิดเดียวเหมือนกับว่ามีรากงอกอยู่ตรงนั้น ผ่านไป ซักพักเธอถึงได้ถามออกมาอีกครั้ง “คุณชายเย่ มีอะไรจะ สั่งหรอคะ? พูดมาได้เลยค่ะ”

“ให้เธอมาตรงนี้ ต้องพูดอะไรให้มากมายขนาด นั้นด้วยรึไง? ” น้ำเสียงของเย่โม่เซินเยือกเย็น หรี่ตาจ้อง หน้าเธออย่างอันตราย

เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา ก็พบว่าตอนนี้ ท่าทางของเขาเหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อ ของตัวเองอยู่ สายตานั้นเหมือนกันเป๊ะเลย ช่วงนี้.เธอ อยู่กับเขาอย่างสงบสุข แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้…เขาจะ เริ่มเกิดโทสะขึ้นอีกแล้วหรอ?

ไม่มีทางเลือก เสิ่นเฉียวก็จำเป็นต้องก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาช้าๆ “คุณชายเย่ ฉันมาแล้วค่ะ มีเรื่อ งอะไรรึเปล่าคะ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ