เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1274 คุณจงใจบิดเบือนความหมายของฉัน



บทที่ 1274 คุณจงใจบิดเบือนความหมายของฉัน

อยากทําอะไรก็ได้ทั้งนั้น?

ขอบตาของเสี่ยวเหยียนประดับไปด้วยคราบน้ำตา มองไป ทางเขาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

“หรือว่าเธอไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของฉันเลยใช่มั้ย?” หานซึ่ง ถามออกมาอีกครั้ง

เสี่ยวเหยียนรีบส่ายหน้าออกมา “ไม่ใช่นะคะ ฉันจะไม่ใส่ใจ กับคำพูดของคุณได้ยังไงกัน ทุกคำที่คุณพูดออกมา ฉันจำได้ทั้ง นั้น”

“แล้วทำไมถึงได้กลัวฉันขนาดนั้น?

เสี่ยวเหยียนพูดไม่ออก

ความเศร้าเกิดขึ้นก็เพราะความรัก ความกลัวเกิดขึ้นเพราะ ความรัก

ไม่อาจพูดได้เลยว่าเป็นเพราะเธอรักเขามากเกิน ช่วงแรกๆก็ ยังเจอกับค่าปฏิเสธออกมาเยอะมาก เธอก็เลยกลัว ไม่มีความ รู้สึกปลอดภัย บางครั้งก็ตื่นขึ้นมากลางดึก ถึงขนาดที่คิดว่านี่คง เป็นแค่ความฝันฉากหนึ่ง

เพราะว่าฝันฉากนี้มันสวยงามเกินไป สวยงามเสียจนไม่ เหมือนความจริงเลยแม้แต่น้อย
เธอถึงขนาดที่ว่ามีบางครั้งก็ยังคิดเลยว่าจะเป็นพื้นที่อยู่ในพื้น ฐานของความเป็นจริงหรือเปล่า โลกไหน ที่จะเป็นโลกแห่งความ จริง?

“เด็กโง่” หานซิงถอนหายใจออกมา แขนยาวก็จับหญิงสาว เข้าสู่อ้อมกอด คางกระทบเข้ากับศีรษะของเธอ น้ำเสียงแฝงไป ด้วยน้ำเสียงของความจนปัญญาอย่างมาก “เธอต้องมีความเชื่อ มั่นต่อฉันให้มากหน่อย หรือไม่ก็เชื่อมั่นในตัวเองให้มากหน่อย

เสี่ยวเหยียนถูกเขากอดอยู่ในอ้อมแขน หลับตาลงไปเบาๆ

“ไม่ใช่เพียงแค่เธอชอบฉัน แต่ฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน”

เสียงของเขาอ่อนโยนอย่างมาก น้ำเสียงต่ำลง พูดความรู้สึก ที่แท้จริงในส่วนลึกที่สุดภายในใจออกมากับเธอด้วยความจริง จังสุดๆ

ความรู้สึกภายในใจของเสี่ยวเหยียนก็ได้ถูกเติมเต็มความ รู้สึกขึ้นมาช้าๆ พยักหน้าออกมาเล็กน้อย “อืมๆ

“หลังจากนี้จะยังหลบอีกมั้ย?” หานชิงถาม

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้าออกมาอย่างแรง “ไม่หลบแล้ว ปัญหา ทั้งหมดฉันจะเผชิญหน้าไปกับคุณ ไม่หลบแน่

ความจริงคิดๆไปแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เพียงแต่ตัวเธอเองก็กระวนกระวายไม่สบายใจเกินไป ดังนั้นแล้ว ก็เลยคิดมากไปเอง
ต่อจากนี้เธอจะต้องเอาชนะความคิดพวกนี้

“งั้น ในตอนนี้ พวกเราก็มาลองคุยกัน…กับเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี้

หา?

คุยเรื่องที่เพิ่งพูดไป?? เรื่องอะไร???

เสี่ยวเหยียนกะพริบตางุนงงออกมา เกิดสัญชาตญาณบาง อย่างที่ไม่ค่อยจะดีนัก

หานชิงและร่างออกมาเล็กน้อย มองจ้องเธอ “เมื่อกี้นี้เธอพูด ว่า…”

สีหน้าของเขาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้พูด ออกมาให้ครบ แต่ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็แดงออกมาอย่าง รวดเร็ว เธอยกมือขึ้นมาปิดปากของหานชิงทันที ร้องตกใจออก มา “คุณอย่าพูดเหลวไหลไปเลย เมื่อกี้นี้ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยสัก หน่อย”

“อ้อ?” หานชิงยิ้มจางๆออกมา พ่นลมหายใจออกมาในกลาง ฝ่ามือของเสี่ยวเหยียน ร้อนมากๆ แผดเผามือเธออย่างกับไฟ

แทบจะแผดเผาเธออยู่แล้ว

เสี่ยวเหยียนถูกทำให้ตกใจเสียจนเตรียมที่จะเก็บมือกลับไป แต่ข้อมือขาวบางได้ถูกหานชิงจับกุมเอาไว้แน่น

“หลบอะไร?” เสียงของเขาแทบห้าวออกมา “ไม่ใช่ว่าบอกว่าจะไม่หลบอีกไม่ใช่หรอ เพิ่งจะพูดจบ ก็ลืมอีกแล้ว?

เสี่ยวเหยียน หลบที่พวกเราพูดกันเมื่อกี้นี้ มันไม่เหมือนกับ อันนี้..”

สิ่งที่เธอพูดออกไปก็คือจะไม่หัวแหลมแล้ว แทนที่ตอนนี้จะมา เป็นแบบนี้นะ “คุณจงใจบิดเบือนความหมายของฉัน!

“บิดเบือนที่ไหนกัน? หรือว่าคำพูดนั้นไม่ใช่เธอนั้นหรอที่เป็น คนพูด?”

แต่เสี่ยวเหยียนพูดออกมาอย่างนี้แล้ว หานซึ่งก็เหมือนราวกับ ไม่มีวี่แววที่จะปล่อยเธอไปเลย ลมหายใจในระหว่างที่พูดใกล้ กับเธอมาก ลมหายใจของทั้งสองคนประสานกัน

“ถึง ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนพูด…แล้วมันจะยังไง! ฉัน ฉันก็

“จะอะไรก็ไม่สำคัญ” หานซึ่งกุมข้อมือของเธออีกครั้ง โน้มตัว ลงไป ริมฝีปากบางแนบลงไปบนหน้าผากของเธอ “ถึงยังไงแค่ เป็นสิ่งที่เธอพูดก็พอแล้ว”

เสี่ยวเหยียนเกิดความรู้สึกว่าตัวเองได้เสียเปรียบขึ้นมา เธอในตอนนั้นก็แค่พูดเรื่อยเปื่อยไปก็เท่านั้น แต่หานซึ่งก็คง ไม่ลากเธอออกไปจริงๆหรอกมั้ง?

ในตอนที่เสี่ยวเหยียนตกอยู่ในห้วงความคิด หานซึ่งก็ได้อุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นก็ออกจากห้องพักไป

เสี่ยวเหยียน “!!”

“เดี๋ยวก่อน!” เธอเอื้อมมือออกไปจับคอปกเสื้อของเขาเอาไว้ อย่างรีบร้อน นัยน์ตาสวยเบิกกว้างออกมา “คุณเอาจริงหรือ? ฉัน ก็แค่พูดไปอย่างนั้นเท่านั้นเอง คุณ… ”

ฝีเท้าของทานซึ่งหยุดชะงักลงเล็กน้อย จ้องมองเธอด้วยสีหน้า ที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม

“พูดไปเท่านั้นเอง? แต่ฉันคิดจริงทำยังไงดีล่ะ?”

“คิด คิดจริง? จะเป็นไปได้ยังไง?” เสี่ยวเหยียนแทบจะหาเสียง ของตัวเองไม่เจอ ริมฝีปากบนและริมฝีปากล่างกระทบกัน แม้แต่ คำพูดเองก็ยังพูดออกมาได้ไม่คล่องนัก

“ไม่เชื่อ?” หาเชิงวางเธอลงไปบนโซฟา สองมือวางลงไปบน

สีข้างของเธอ กลิ่นอายเข้มข้นของผู้ชายก็ได้กักเธออยู่ด้านใน

อย่างนี้

ไหล่ของเสี่ยวเหยียนสั่นออกมาอย่างไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่รู้ ว่าอะไรที่มันเรียกว่าว้าวุ่นไปหมด

ล้อเล่นเถอะ ที่นี่มันห้องทำงานนะ

เธอไม่ได้ปล่อยตัวขนาดนั้น

ที่แห่งนี้เธอมาเป็นประจำ ถ้าเกิดทำอะไรกับหานชิงที่นี่เพียง นิดขึ้นมาจริงๆ หลังจากนี้จะให้เธอมองห้องทำงานกับโซฟานี้ได้ยังไง

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนคิดว่าตนจะต้องพูดอะไรออก ไปสักนิดเพื่อกอบกู้สถานการณ์สักหน่อย

“ได้ยังไง…ที่นี่มันห้องทำงานนะ ที่นี่ไม่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่…

“งั้นหรอ?” ริมฝีปากของหานซึ่งแสยะออกมาเล็กน้อย “เธอไม่

คิดว่าที่นี่ดีสุดๆไปเลยหรอ?”

ในระหว่างที่พูด เขาก็ได้แนบตัวเข้ามา

มือของเสี่ยวเหยียน คอปกเสื้อของเขาออกมาอย่างไม่รู้ตัว ตื่นเต้นประหม่าแทบจะไม่ไหว

“คุณ คุณฟังฉันอธิบายก่อน ที่นี่มันไม่ดีจริงๆนะคะ ไม่ งั้น….พวกเราเปลี่ยนที่กันดีกว่านะ?”

เธอกำลังพูดอะไรอยู่

จะว่ายังไงเธอก็ดูเหมือนกับว่าจะคาดหวังอย่างมากไม่มีผิด? เสี่ยวเหยียนอยากจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายไปซะ ฮือๆๆ….

เสี่ยวเหยียน ในตอนที่ประหม่าเสียจนแทบจะร้องไห้ออกมา จู่ๆ หานชิงก็ได้แนบลงมาตรงซอกคอของเธอหัวเราะออกมาเบาๆ หลังจากนั้นก็เข้าไปจัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อย มือใหญ่กอบ กุมท้ายทอยของเธอ ลูบไปเบาๆ

“เอาล่ะ อย่ากลัวไปเลย ฉันจะให้เธอต้องมาทุกข์ใจอยู่ที่นี่ได้ ยังไง?”
เอ๊ะ? นี่หมายความว่าจะไม่ต่อ? เสี่ยวเหยียนก็โล่งอกขึ้นมา หัวใจที่เต้นรัวก็ค่อยๆสงบลง

“เด็ก”

เขาปลอบประโลมเธอด้วยเสียงนุ่ม จูบลงไปบนหน้าผากเธอ เบาๆ “เก็บของกันก่อน มู่จื่อมาหาฉันก็คงจะมีธุระอะไร

พูดถึงมู่จื่อ เสี่ยวเหยียนก็นึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ที่เธอได้ ทิ้งเธอไป ก่นด่าเธอว่าเป็นเพื่อนเลวอย่างโกรธเคืองอยู่ภายใน ใจหลายค่า

“งั้น งั้นคุณจะไปหามู่จื่อเลยหรือเปล่า?”

“ไปช่วงเย็นๆสักหน่อย ไปกินข้าวกับเธอก่อน แล้วไปส่งเธอ กลับบ้าน”

“อ๋อ”

หลังจากผ่านไปสิบนาที

เสี่ยวเหยียนก็เดินตามหานชิงออกมาพร้อมกันจากในห้อง ทํางานด้วยใบหน้าแดงเลือก ทั้งสองคนลงลิฟต์กันไป แต่ก็ได้ เจอเข้ากับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นที่เตรียมจะออกไป เหมือนกันเข้าพอดี

เห็นพวกเขา เสี่ยวเหยียนก็ดีดตัวเข้าไปหลบด้านหลังทานซึ่ง แทบจะทันที ไร้หนทางที่จะเจอหน้าใครได้เลย

หานชิงพยักหน้าให้กับพวกเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นก็พาสาวน้อยของตนเข้าไปในรถแล้วออกไปด้วยกัน

หลังจากที่พวกเขาไปกันแล้ว ผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นก็พากัน

มองหน้ากัน “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมท่านประธานหานถึงลงมาเร็วขนาด

“หรือว่าประธานทานของเราที่เห็นยังหนุ่มยังแน่นอย่างนี้ แต่ อันที่จริงแล้ว?”

หางเสียงท่อนหลังลากยาว แต่คนพวกนั้นก็เข้าใจความหมาย ของเขาได้อย่างรวดเร็ว มีหน้าที่ปรากฏออกมาบนใบหน้าดูไม่ ค่อยดีนักออกมา

ความรู้สึกเหมือนกับว่ารู้เรื่องที่แย่มากอะไรสักอย่างเข้า

“ชู คำพูดพวกนี้อย่าให้ประธานหานได้ยินเข้าล่ะ ไม่อย่างนั้น ถึงตอนนั้นแล้วพวกเราเจอดีแน่”

“รีบไปรับไปสิ”

“เอ๊ะ ก็แค่คิดว่ามันน่าเสียดายเอง ท่านประธานหานของเราก็ อายุยังไม่เยอะ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ