เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่111 เขาที่อ่อนโยน



บทที่111 เขาที่อ่อนโยน

“ฉันจะถามผู้ช่วยเสื่นว่า เตียงของประธานเย่– มันปืนง่ายไหม?”

หนึ่งในนั้นแต่งตัวเซ็กซี่ยั่วยวน เอื้อมมือไปไล้ผม ที่แก้มของตัวเอง และมองไปที่เส้นเฉียวด้วยสายตาดูถูก

อย่างมาก

เมื่อเสิ่นเฉียวได้ยินเช่นนั้นใบหน้าก็พลันซีดขาว

“เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

“หมายความตามตัวอักษรนั่นแหละ เธอใช้วิธีนี้ เพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้ช่วยใช่ไหม?” หญิงสาวคนนั้น หัวเราะอย่างเหยียดหยาม: “ก่อนหน้านี้ว่าเธอมีเส้นสาย แต่ไม่คิดว่าเส้นเธอจะใหญ่ขนาดนี้นะ”

“ตายแล้ว พี่เฉียงเวย อย่างเธอมันเรียกว่ามีเส้น ได้ที่ไหน? มีเส้นสายคือมีคนคอยหนุนอย่างเธอรูปร่างก็ งั้น ๆ หน้าตาก็บ้าน ๆ จะมีเส้นสายที่ไหนกัน? พี่ไม่เห็นเห รอว่าเธอยังต้องมากินข้าวที่โรงอาหาร? ยังวิ่งขึ้นลงรถ ของประธานเย่ คิดว่าตัวเองจับประธานเย่ได้แล้วสิ? หน้า ไม่อาย”

ริมฝีปากเสิ่นเฉียวซีดขาว เธอกำตะเกียบในมือ แน่นอย่างเงียบๆ

“แนะนำหน่อยสิ เธอทำยังไงให้คนอย่างประธาน เย่ที่ทั้งพิการและหมดสมรรถภาพแบบนั้นหลงเสน่ห์เธอ ได้?”
เสิ่นเฉียว: “เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ?”

“ก็ขอคำแนะนำเธอไง พวกเราก็อยากจะนั่งอยู่ใน ตำแหน่งผู้ช่วย ดังนั้นเธอแนะนำหน่อยสิ”

เมื่อครู่ที่พวกเธอสบประมาทเธอนั้นเสิ่นเฉียว เพียงแค่รู้สึกโมโห แต่ตอนนี้เธอกลับได้ยินพวกเธอที่ พูดถึงเรื่องส่วนตัวว่าเย่โม่เซินเป็นคนพิการหรือไร้ สมรรถภาพ ทำให้เธอโกรธจนหน้าของเธอแทบจะบิด เบี้ยว เธอวางตะเกียบเสียงดัง

“พวกเธอว่าใครพิการไร้สมรรถภาพ?”

รัศมีความโกรธที่รุนแรงอย่างฉับพลันจากเสิ่น เฉียวทำให้พวกผู้หญิงเหล่านั้นตกใจกลัว ยืนนิ่งมองเธอ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับมาแล้วหัวเราะเยาะ “ใคร พิการและไร้สมรรถภาพเธอไม่รู้เหรอ? ทำไมจะต้อง แกล้งถามด้วย?”

“ตายแล้ว ตอนนี้คนเขาเป็นถึงคนดังข้างกาย ประธานเย่นะ เธอพูดอะไรเกรงใจหน่อยสิ”

“ฉันจะกลัวทำไม? ก็แค่เมียน้อยไม่ใช้รึไง?”

พิการ ไร้สมรรถภาพ เมียน้อย หลังจากที่คำพูด

ไม่เข้าหูพวกนี้ดังขึ้นเสิ่นเฉียวไม่สามารถอดทนได้อีก

ต่อไป เธอจ้องมองหญิงสาวเหล่านั้นด้วยสายตาเย็นชา

“คิดไม่ถึงว่าพวกเธอจะต่ำขนาดนี้”

“อะไรนะ? กล้าทำแต่ไม่กล้ารับคำพูดคนอื่นงั้นเห รอ?” หนึ่งในกลุ่มหญิงสาวมองเธออย่างไม่เข้าตา แล้วหยิบถ้วยใส่น้ำซุปร้อน ๆ สาดตรงเข้าใส่เธอ

ด้วยความรวดเร็วของเธอ และเดิมทีที่เธอนั่งอยู่ ในตอนเสิ่นเฉียวลุกขึ้นไม่เห็นว่าเธอจะลงมืออย่างทันที ทันใด เธอเพียงเบี่ยงไหล่โดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่าเธอสาด ถ้วยน้ำซุปใส่เธอ

แต่น้ำซุปร้อนก็ยังหกใส่ไหล่และหลังเธอ

โดยตรง

อา..

น้ำซุปเพิ่งจะตักขึ้นมา ถูกสาดลงไปที่ไหล่ของ เสิ่นเฉียว เพียงครู่เดียวก็ทำให้ไหล่ขาวเนียนของเธอถูก ลวกจนแดง นอกจากนั้นบวกกับเสื้อที่เปียกแล้วติดกับผิว ของเธอทำให้มันยิ่งแย่

“ห์ ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนอยู่รีไง?”

“ไม่รู้จักไปถามดูบ้างรึไง พวกเราเป็นใคร!” เสิ่นเฉียวกุมไหล่ของเธอ และกัดริมฝีปากด้วย

ความโกรธ

แผลเดิมที่ยังไม่หายดีก็ต้องแตกออกอีกแบบนี้ เธอจ้องไปที่หญิงสาวที่สาดน้ำซุปใส่เธอ

คิดว่าแกล้งเสิ่นเฉียวมันสนุกมากงั้นสิ?

เสิ่นเฉียวไม่คิดอะไรทั้งนั้น เธอคว่ำจานใส่หญิง สาวสามคนตรงข้ามเธอ

“ว้าย! !”
“แกทำอะไรน่ะ?”

เสียงกรีดร้องของหญิงสาวสามคนนั้นดังทั่วโรง

อาหาร

คนทั้งโรงอาหารต่างหันไปที่ต้นเสียงนั้น

อาหารนั้นเป็นอาหารที่เสิ่นเฉียวเพิ่งจะตักมา ใน บทที่เธอคว่ำจานใส่ผู้หญิงทั้งสามคนนั้น ทั้งข้าว กับข้าว มัน ๆ และน้ำซุปต่างประสมปนเปราดไปบนตัวของพวก เธอ ไม่มีใครรอดสักคน

เพราะเธอสาดเข้าไปตรงกลาง ซึ่งมันโดนคนที่ สาดน้ำซุปใส่เธอเข้าอย่างจัง

น้ำของกับข้าวอยู่บนผมของเธอ มันหยดจาก เส้นผมของเธอ แล้วหยดลงบนใบหน้าของเธอ

“ว้าย!!นังคนสารเลว”

พวกเธอเหล่านั้นส่งเสียงกรีดร้องแล้วพุ่งเข้าใส่ เสิ่นเฉียว คว้าจับผมเธอแน่น เสิ่นเฉียวก็ไม่ยอมอ่อนข้อ เข้าไปคว้าผมของอีกฝ่ายไว้ เธอมีแรงไม่น้อย เพียงไม่ นานก็จิกให้ฝ่ายตรงข้ามต้องร้องโหยหวน

“เจ็บ พวกเธอรีบมาช่วยเอามือเธอออกไปที!”

“ปล่อย พี่เฉียงเวย นะนางสารเลว!”

มีคนคว้ามือของเสิ่นเฉียวไว้ เธอรู้สึกได้ถึงความ เจ็บแต่เธอไม่สามารถจะปล่อยมือได้ เมื่อเธอโล่งใจ ทั้ง สามคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็พุ่งเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง เช่น นั้นคนโจมตีก็ไม่ใช่เธออีกแล้ว
เกิดความโกลาหลขึ้นในโรงอาหาร มีหลายคน อยากจะเข้ามาสงบศึก แต่เพราะภาพของทั้งสี่คนที่ ทะเลาะกันนั้นดูน่ากลัวเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้ามา ห้าม

แต่ก็ยังมีไทยมุ่งรุมล้อมอยู่บ้าง

“พวกคุณทำอะไรกันนะ?”

เสียงดังถามขึ้นด้วยความร้อนรน

มีคนช่วยลากเสิ่นเฉียวออกมา อีกสามคนก็ถูก ลากไปเช่นกัน

ทั้งสามคนเละเทะไปหมด แต่ชัดเจนว่าดูแย่กว่า เสิ่นเฉียวมาก

คนที่มานั้นคือเย่หลิ่นหาน ชายหนุ่มที่อบอุ่นและ เจิดจรัสดั่งหยกอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเสิ่นเฉียว ในสภาพนั้น เขาถามขึ้นด้วยความขุ่นเคือง: “เกิดอะไร ขึ้นกันแน่? ทะเลาะกันทำไม?”

เสิ่นเฉียวยื่นมือออกไปเช็ดเลือดที่มุมปากและไม่ พูดอะไร

ทันใดนั้นซูซูที่พยุงเฉียงเวย ก็เดินออกมาแล้วชี้ ไปที่เสิ่นเฉียว

“รองประธานเย่จู่ๆ ผู้ช่วยเสิ่นก็เทกับข้าวใส่พวก เราค่ะ พวกเราโกรธจนทนไม่ไหวก็เลยทะเลาะกับเธอ ค่ะ!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเย่หลิ่นหานหันไปมองเธอ”จริงเหรอ?”

ซูซู ถอยหลังไปสองก้าวต้องสยบกับสายตาเขา เช่นนั้น ปกติแล้วรองประธานเย่เป็นคนสุภาพอ่อนโยน จากที่ปกติแล้วเขาไม่เคยแสดงอารมณ์โมโหออกมาเลย แต่ตอนนี้เขามีแววตาที่ดุดันขึ้นทันที รังสีความเย็นชาแผ่ ออกมาจากตัวเขา แตกต่างจากเขาที่อ่อนโยนก่อนหน้า โดยสิ้นเชิง

“รอง…รองประธานเย่ คือว่า คนอื่นก็เป็นพยานให้ พวกเราได้นะคะ!” ซูซู อาศัยความที่เธอเป็นพนักงานที่ ทำงานที่นี่มานาน จึงสามารถคุยโวได้

เย่หลิ่นหานกลับมองไปที่เสิ่นเฉียว แล้วพูดด้วย น้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าหลายเท่าตัว : “มันเกิดอะไรขึ้นกัน แน่? พวกเธอรังแกคุณรึเปล่า?”

คำพูดเหล่านั้น เสิ่นเฉียวจะพูดกับเย่หลิ่นหานได้ อย่างไรกัน?

พวกคนน่ารังเกียจและไร้ยางอายพวกนั้น เธอเม้ม ปากของเธอแน่นและพยายามจะเก็บการแสดงออกทาง สีหน้าไว้อย่างดื้อดึง แต่สายตาของเธอกลับจ้องไปหญิง สาวสามคนนั้นอย่างเลือดเย็น

เย่หลิ่นหานรู้สึกจนใจ เขาถอดเสื้อสูทของเขา ออกเพื่อคลุมให้เธอ: “ไม่อยากพูดก็ยังไม่ต้องพูดก็แล้ว กัน ผมพาคุณไปทำความสะอาดก่อนดีกว่า”

เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร และถูกเย่หลิ่นหานพยุงเดิน ออกไป”รองประธานเย่ เธอลงมือตบตีพวกเราก่อนจริง ๆ นะคะ ทำไมคุณถึงปกป้องผู้หญิงแบบนั้น?”

“รองประธานเย่!”

เย่หลิ่นหานพาเสิ่นเฉียวมาที่ห้องพักผ่อนของ เขา “ที่นี่มีห้องน้ำ คุณเข้าไปทำความสะอาดก่อน ผมจะ ให้ผู้ช่วยของผมจัดเตรียมเสื้อผ้าให้”

เสิ่นเฉียวยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เย่หลิ่นหาน ขมวดคิ้ว “เป็นอะไร? หรือว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนรี เปล่า?”

พูดเสร็จ เขายื่นมือออกไปเพื่อจับตัวเธอ

เสิ่นเฉียวที่กำลังก้ม หน้า มองดูร่างกายที่สกปรก เลอะเทอะของตัวเอง เธอตกใจจึงก้าวถอยห่างสองก้าว

“คุณอย่าโดนตัวฉัน ตัวฉันสกปรกค่ะ”

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะแค่โดนน้ำซุปสาด แต่ หลังจากนั้นตอนที่พวกเธอกำลังดีกัน ตัวของเธอก็ เลอะเทอะไปด้วยสิ่งของอื่นมากมาย มันสกปรกเสียจน เหมือนกับออกมาจากกองขยะ

เย่หลิ่นหานที่ทั้งสะอาดและเรียบร้อยแบบนั้น ซึ่ง ดูแล้วทั้งสง่างามราวกับหยกแวววาวแบบนั้น จะมาโดย ตัวผู้หญิงอย่างเธอได้อย่างไร?

เย่หลิ่นหานตกตะลึงครู่หนึ่ง แต่ทันใดนั้นเขายัง คงยื่นมือออกมาและยืนยันจะกุมไหล่เธอเอาไว้ “เด็กโงรี ไง? ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณจะสกปรก บอกผมสิ บนตัวคุณมีตรงไหนได้รับบาดเจ็บรึเปล่า? หรือว่าผมควรจะพา คุณไปโรงพยาบาลก่อนดี?”

จะให้เธอไปโรงพยาบาลในสภาพแบบนี้น่ะเหรอ?

เสิ่นเฉียว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าไปทำความ สะอาดก่อนนะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ