เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 877 ไม่โทษเขาให้โทษใคร



บทที่ 877 ไม่โทษเขาให้โทษใคร

เมื่อพูดถึงเยโม่เช่น ดวงตาของ ยูฉือจีน ก็ลุกโชนด้วยความ โกรธ และพูดด้วยความโมโหว่า “นายตัวแสบคนนี้ทำมากเกิน ไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะทำร้ายเธอถึงขั้นนี้ เสี่ยวเสว… ไม่ต้อง กังวลไป คุณปู่จือจะให้เธอเป็นคนตัดสินใจอย่างแน่นอน เขา ทําให้เธอได้รับบาดเจ็บถึงขั้นนี้ เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องรับผิดชอบ สิ่งนี้ด้วย!”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ ฉือจิน พูดแบบนี้ ตวนเสวก็เอื้อมมือออกมา เช็ดน้ำตาที่ออกจากมุมตาเบา ๆ “คุณปู่จื่อ แล้วฉันสามารถ อาศัยอยู่ที่นี่ในช่วงเวลานี้ได้ไหม? ฉันกลัวว่าคุณปู่และพี่ชาย ของฉันรู้ว่าต่อจากนั้นจะ…”

พอพูดถึงจุดนี้ เธอจึงไม่ได้พูดต่อไปอีกอย่างฉลาด และถือ จิน ก็พูดต่อไปว่า “เธอสบายใจได้เลย เป็นหลานชายของฉันที่ ทำให้เธอบาดเจ็บขนาดนี้ คุณปู่ถือเป็นคนมีเหตุผล และจะไม่ เพิกเฉยต่อเธอ นอกจากนี้ เธอยังเป็นถึงว่าที่หลานสะใภ้ตระกูล ฉือของฉัน ฉันจะไปพูดคุยกับคุณปู่และพี่ชายของเธอทางนั้น เอง ”

“ ขอบคุณค่ะคุณปู่”

ตวนมเลวสีหน้าอ่อนโยนและก้มศีรษะลง ทว่าดวงตาของเธอ กลับเปล่งประกายแสง คุณปู่ถือคงจะไม่รู้เรื่องที่เธอวางยาเยโม่เซ็น สมมติว่ารู้ พอถึงตอนนั้นเธอก็จะไม่ยอมรับ ถึงอย่างไรก็ตามแก้วน้ำชาใบนั้น

เป็นคนรับใช้ของตระกูลฉือที่ยื่นให้เขา เธอได้คุยกับคนรับใช้

คนนั้นไปแล้ว และคนรับใช้คนนั้นก็รับเงินก้อนใหญ่ของเธอไป

แล้ว สมมุติว่าให้ตายเธอก็จะไม่พูด และเย่ โม่เซิน ได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว เขาก็คงจะไม่ใช่คน ที่เอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้าคนอื่นแบบนั้นหรอก

เธอ แค่ต้องการรอการรับผิดชอบเท่านั้น

ในเวลานี้พอดี เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“ ใคร?” ฉือจินอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นน้ำเสียงของเขาจึงเริ่ม เบื่อหน่ายขึ้นมา

หยุโป ยืนอยู่หน้าประตู มองไปที่ ถือจีน ด้วยความเคารพ

“คุณท่าน คุณชายเซินกลับมาแล้ว”

เมื่อได้ยิน ดวงตาของตวนเสวก็สว่างขึ้นมา เขากลับมาแล้ว เหรอ?

ในใจของเธอมีความสุข ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว แต่ไม่นาน ตวนมู่เสวก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เล็กน้อยขึ้นมา

เพราะว่าเธอเห็นคุณค่าของโอกาส ในเมื่อคืนนี้ครั้งนั้นมาก ดังนั้นเธอจึงใส่ยาเป็นจำนวนมากให้กับเยโม่เป็น ตอนนั้นตวน เสวมีเพียงแค่ความคิดเดียว นั้นก็คือจะต้องรักษาเย่ไม่เซ็นไว้ให้ ได้
แต่แล้วคิดไม่ถึงว่าเขาจะผลักตัวเธอเองจนล้ม ตัวเธอศีรษะ กระแทกจนมีดาวสีทองขึ้นมาในสมองก็ไม่ว่า พอตอนที่กลับมา มีสติอยากจะไปหาเขานั้น ก็ไม่มีเงาของเขาแล้ว

หลังจากนั้นเย่ไม่เป็นก็หายตัวไปทั้งคืน และตอนนี้เขากลับมา แล้ว

คืนนี้ … แค่คิดก็รู้ว่าถูกใครเอาเปรียบเสียแล้ว

คิดๆดูแล้ว ตวนมเสวโมโหจนกำหมัดแน่น คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเธอจะปิดทองหลังพระให้คนอื่นซะแล้ว

แต่แล้วอย่างไรล่ะ ใครใช้ให้เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูล ตวนมู่ล่ะ

ฉือจีนได้ยินการกลับมาของเยโม่เซิน ราวกับว่าถูกกระตุ้น

ให้หงุดหงิด ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “เขายังมีหน้ากลับมาเอง งั้นก็

ดี ตอนนี้ฉันจะไปดูว่าเขาคิดอย่างไรบ้าง!

“คุณปู่กู่ฉือ” ทว่าตวนมู่เสาเรียกเขาเบา ๆด้วยเสียงอ่อนโยน หนึ่งครั้ง พูดขอร้องแทนเยโม่เป็น ท่านอย่าไปโทษพี่เป็นมาก เกินไปนะคะ เรื่องนี้จะโทษเขาทั้งหมดไม่ได้”

“ไม่โทษเขาให้โทษใคร? เธอพักผ่อนที่นี่ให้เต็มอิ่ม รอคุณปู่ ไปจัดการเขาก่อน”

หลังจากพูดเสร็จ เฉือจีนก็ออกจากห้องไป คุณหมอก็ให้ตัวน จื่อพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วก็เดินออกไปด้วย และพ่อบ้านหยูโปที่อยู่ด้านหลังของฉือจินก็เดินลงไปข้างล่าง ขณะที่เดินก็ได้ยินเสียงคุณท่านพูดด้วยความโกรธ “หยู โป ถือไม้เท้าขึ้นมา”

หยูโป “…คุณท่าน คุณชายเป็นโตขนาดนี้แล้ว ใช้ไม้เท้าไม่ ค่อยเหมาะสมกระมังครับ

ความคิดของคุณท่านค่อนข้างดั้งเดิม ดังนั้นตระกูลยคือ ใน

ตอนนี้จึงยังมีไม้เท้าอยู่ เมื่อ ฉือจีน ได้ยินเช่นนี้ ฝีเท้าก็หยุดลงโดยทันที และมองไป

ที่ หยูโป อย่างไม่พอใจ

“หยูโป นายพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? แม้ว่าเขาจะโต ขนาดนี้แล้ว แต่ว่าเขาทำร้าย เสี่ยวเสว ถึงขนาดนี้ ถ้าไม่โดนไม้ เท้า เขาก็จะไม่รู้ว่านามสกุลของเขาคืออะไร”

เมื่อได้ยิน หยูโป ก็เอื้อมมือไปแตะจมูกตามจิตใต้สำนึก พูด

แทนเย่ ไม่เป็นสองสามประโยค

“แม้ว่าคุณชายเงินจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน แต่ กลับมองออกว่า คุณชายเซ็น ดูไม่เป็นคนหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณหนูตวน ก็ยังเป็นผู้หญิง ต่อให้คุณชายเงินจะ โกรธเพียงใด ก็ไม่น่าจะลงไม้ลงมือกับ คุณหนูสวนได้

หยูโป และ ยูฉือจีน มีความคิดที่ต่างกัน เขาเป็นแค่พ่อบ้านคน หนึ่ง เรื่องนี้สำหรับเขานับว่าเป็นคนนอก

คนนอก มักจะมองเห็นสิ่งต่างๆชัดเจนกว่าคนในเสมอ ไม่เหมือนกับฉือจีน ที่ในสมองเต็มไปด้วยความคิดดื้อรั้นของตัวเอง และจากนั้นก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่หลานชายของเขาทํามัน มากเกินไป

แต่สำหรับ หยูโปแล้ว คุณชายเซ็นดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่ สามารถทําเรื่องแบบนี้ได้เลยสักนิด

แต่ถึงอย่างไรถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ คือจินได้ยินเขาพูดแบบนี้ นิดหน่อย ก็ดูเหมือนจะตาสว่างขึ้นทันทีเช่นกัน เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย กลับจ้องไปที่ หยูโป ด้วยสายตาที่เต็ม

ไปความขุ่นเคืองอย่างดุดัน

“ ดังนั้น … นายหมายถึง

หยูโป กระแอมเบา ๆ หนึ่งครั้ง “ผมเดาว่าอาจจะมีความ เข้าใจผิดในเรื่องนี้เกิดขึ้น คุณท่าน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคุณชาย เซินเป็นถึงหลานชายที่ท่านตามหากลับมาได้ไม่ง่าย คุณท่านไม่ ต้องเป็นเพราะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง…มาทำร้ายจิตใจของคุณชาย เซินเลย ”

ยูฉือจิน “… ”

อดที่จะพูดไม่ได้ว่า หยูโป สมกับเป็นคนที่สามารถอยู่เคียง ข้างเขามานานได้ขนาดนี้จริงๆ คำพูดเหล่านี้ถือได้ว่าพูดแทน ความรู้สึกในใจของ ยู่ฉือจิน โดยสิ้นเชิง

บางครั้งเขาก็รู้สึกว่า ตัวเขาเองทำเช่นนี้กำลังบังคับหลานชาย คนนี้อย่างเย่ไม่เป็น ไม่เร็วก็ช้าเขาก็จะถูกบังคับจนทนไม่ไหว แต่แล้วเมื่อนึกคิดๆดู โศกนาฏกรรมของคุณแม่ของเขาในตอนนั้น

ยูฉือจีนก็รู้สึกว่า แม้ว่าเขาจะทำให้คนฟังไปหน่อย แล้วจะมี อะไรที่ทำไม่ได้อีกล่ะ? เขาหวังว่าหลานชายคนนี้จะอยู่เคียงข้าง เขาตลอดไป

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉือจีน ก็ถอนหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง “ฉันเข้าใจ ในความหมายของนาย พอแล้ว นายไม่ต้องพูดอีกแล้ว ฉันมี ความคิดของตัวเอง”

ในห้องโถงชั้นล่าง มีเฉียวจื้อ และ เย่ โม่เซิน ที่มาได้สักพัก แล้ว หยูโป ก็เลยไปตาม นายท่านถือแล้ว

ในไม่ช้า หยูโป ก็พาคุณท่านมา

เมื่อเห็นทั้งสองคนค่อยๆเดินใกล้พวกเขาเข้ามา เยโม่เป็น ก็ ลุกขึ้นยืน

ผลัวะ!

ยู่ฉือจิน ยกมือขึ้น และใช้ไม้เท้าฟาดเข้าไปที่ไหล่ของเย่โม่เซิน

เชีย!

เฉียวจื้อห้ามไม่ทันโดยสิ้นเชิง จนกระทั่งเขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่า ฉือจิน เคลื่อนไหวอย่างไร จู่ๆไม้เท้าก็ตกลงมาบนไหล่ของเยี่โม่ เซินแล้ว

เสียงทุ้มๆเช่นนั้น ได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวด

เฉียวจื้อลุกขึ้นโดยทันที “เฉือ นายไม่เป็นไรนะ?”
หยูโป ที่เดินตามหลังจองคุณก็ถึงกับผงะ เดิมทีเขานึกว่าคำ พูดพวกนั้นที่เขาพูดไปคุณท่านน่าจะฟังบ้างไม่มากก็น้อย ใครจะ รู้ว่าเพียงแค่เจอหน้าก็ออกมาเป็นแบบนี้แล้ว

และมองไปที่ท่าทางของเย่ไม่เป็นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาไม่มี ทีท่าว่าจะหลบ

มิฉะนั้นตามความสามารถของคุณชายเซ็น คาดว่าเขาน่าจะ หลบได้ หยู โป แอบคิดอย่างเงียบ ๆ หยูโ

เย่ไม่เป็นไม่อยากที่จะหลบจริงๆ ตราบใดที่ไม่ได้บังคับให้เขา หมั้นกับสวนเสวมันก็ดีแล้ว โดนฟาดด้วยไม้นี้ก็ไม่เป็นไร พอไฟ ความโมโหของ เฉือจีนดับลงแล้ว อีกสักครู่หนึ่งการสนทนาก็จะ ง่ายขึ้นนิดหน่อย

จริงๆแล้วเขาก็มีแผนของตัวเองอยู่

ฉือจินคิดไม่ถึงว่า เขาจะไม่หลบหลีก ยืนโดนฟาดอยู่นิ่งๆ แบบนั้น

ไม้เท้าที่เขาฟาดลงไปในครั้งนี้นั้นไม่ได้เบาเลย นึกว่าเจ้าตัว แสบคนนี้จะหลบซะอีก ใครจะไปรู้ว่า…

ทันใดนั้น ฉือจิน ก็รู้สึกสงสารเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ แสดงออกมา เขากลับเอ่ยเสียงดุว่า “ไอ้สารเลวคนนี้ ทำร้าย เสียวเสวีถึงขนาดนี้ นายยังกล้ากลับมาอีก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ