เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1338 เธอทําเพื่อเขา



บทที่1338 เธอทําเพื่อเขา

“อุ๊บ”

คำพูดตรงท่อนสุดท้ายของซูจิ๋วไม่มีโอกาสได้พูดออกมา ก็ถูก มือของเสี่ยวเหยียนเอื้อมเข้ามาปิดเอาไว้

ซูจิ๋วส่งยิ้มมาให้เธอ เสี่ยวเหยียนหน้าแดงออกมาจนเหมือน กับลูกแอปเปิลไม่มีผิด

“เลขาซู ฉันขอเถอะนะคุณอย่าพูดอีกเลย

ในแววตาที่คาดหวังของเธอ ซูจิ๋วพยักหน้าออกมา เสียวเหยี ยนถึงได้ปล่อยมือออกไป แต่ทันทีที่คลายมือออกไปซูจิ๋วก็ได้เอ่ย ยิ้มๆออกมา “ดูเหมือนว่ามันจะถูกไม่สิบก็มีแปดมีเก้าจากที่ฉัน คาดเดาเอาไว้สินะ”

“เลขาซู!”

“เอาเถอะๆ ฉันไม่พูดแล้วโอเคมั้ย? จริงสิ วันนี้สวี่เย็นหวั่นจะ ออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่มั้ยล่ะ?”

“อืม” เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “เธอไม่ยอมพักต่อ อยากกลับไป

ทํางาน”

“เธอรู้ว่าหล่อนทำงานที่บริษัทใช่มั้ย?”

“รู้สิ หานซึ่งเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังเยอะเลย พูดมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนเผยสีหน้าเสียดายออกมา“เธอเพียงคนเดียวมันก็ยากอยู่ แต่ฉันกับเธอก็ได้แลกวีแชทกัน แล้ว หวังว่าหลังจากนี้จะสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ล่ะมั้ง

นั่นถึงยังไงก็เป็นคนที่หานซิงรู้จักตั้งแต่เด็ก แล้วเสี่ยวเหยียน สามารถได้ยินจากปากของหานซึ่งได้ ความสัมพันธ์ของตระกูล สวี่กับตระกูลหานก็ลึกซึ้งกันมากๆ และเขาก็ยังดีกับคนตระกูลส เอามากๆ

งั้นสวีเย็นหวั่นกลายเป็นแบบนี้ หานซึ่งก็คงจะต้องเป็นห่วงเธอ ถึงจะถูก

ในเมื่อเธอเป็นแฟนเขา งานของเขายังเสียอย่างนั้น งั้นเธอก็ จะช่วยหานชิงดูแล สวีเย็นหวั่นอย่างดีเลย

นี่เองก็เป็นสาเหตุว่าทําไมช่วงนี้เสี่ยวเหยียนถึงได้มาโรง

พยาบาลอยู่บ่อยๆ

เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน? ซูจิ๋วอยากจะบอกไปว่าน้องสาวเธอน่ะ ช่างไร้เดียงสาเสียจริง แต่คิดๆดูแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ไปช่วยสเย็นหวั่นเก็บของ ความ จริงสวี่เย็นหวั่นก็ไม่ได้มีของอะไรที่จะต้องเก็บข้าวของตอนนี้ของ เธอก็น้อยมาก มีแค่เสื้อผ้ากับของที่ใช้ล้างหน้าแปรงฟันเท่านั้น

แต่ตอนที่เสี่ยวเหยียนเข้ามาช่วยนั้น สวีเย็นหวั่นก็ได้มองเธอ มาอย่างเหม่อๆอีกครั้ง

ช่วงหลายวันนี้ที่ได้อยู่ด้วยกันนั้น สวีเย็นหวั่นก็ได้พบว่าความ บาปในใจของเธอมันยิ่งมีมากขึ้น เพราะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความระแวงต่อเธอเลยแม้แต่น้อยจริงๆ

และเธอก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงภัยที่จะคุกคามเข้ามาจากที่ข้าง กายแฟนของตัวเองมีผู้หญิงเพิ่มมาอีกคนอะไรพวกนั้นเลย ปฏิบัติต่อเธออย่างจริงใจและพยายามอย่างสุดความสามารถ

สวี่เย็นหวั่นไม่รู้ว่าทำไม ในขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความ

อบอุ่น และต่อต้านไปด้วย

เธอมองเบื้องหลังของเสี่ยวเหยียน ในตอนนี้ภายในห้องพักผู้ ป่วยก็มีเพียงแค่เธอกับเสี่ยวเหยียนแค่สองคน เธอยืนเงียบอยู่ สักพักนึง จากนั้นก็พูดเบาๆออกมา “ช่วงหลายวันมานี้ลำบาก เธอแล้วนะ”

จู่ๆเธอก็พูดออกมา เสี่ยวเหยียนเองก็ยังแปลกใจสุดๆ เธอเผย รอยยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรน่า ไม่ลำบากเลย ฉันคิดว่าบรรยากาศ ที่ทุกคนได้อยู่ด้วยกันก็ดีมากๆอยู่นะ

งั้นหรอ?

ก็คงเป็นเพราะไม่มีแผนการอะไร ก็เลยรู้สึกว่าบรรยากาศมันดี เอามากๆล่ะมั้ง

ริมฝีปากของสวีเย็นหวั่นยิ้มบางๆออกมา “เพื่อเขาเธอถึงได้ มาดูแลฉันที่โรงพยาบาลใช่มั้ย?”

ทันทีที่คำพูดหลุดออกไป การกระทำในมือของเสี่ยวเหยียน

ได้หยุดชะงักไป

จากนั้นเธอก็หันหน้ากลับไปอีกครั้ง มองสวี่เย็นหวั่นไปอย่างนิ่งค้าง

“ใช่มั้ย?” สวีเย็นหวั่นถามออกมาอีกครั้ง เหมือนกับว่าจะ

กำลังยืนยันอะไรบางอย่าง เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง สีหน้าดูสับสนเล็ก น้อย หลังจากที่คิดไตร่ตรองอยู่ได้สักพักก็ได้ตอบสเย็นหวั่น

กลับไปด้วยความจริงจัง

“แน่นอนว่าสาเหตุส่วนใหญ่จะเป็นเพราะเขา ถึงยังไงก่อนหน้า นี้คุณกับเขาก็เป็นเพื่อนเก่ากัน แล้วงานของเขาก็ยังยุ่งมากเสีย ขนาดนั้น ปกติฉันไม่ได้มีธุระอะไรอยู่แล้ว ก็เลยมาดูแลคุณ แต่ คุณอย่าเข้าใจผิดเลยนะคะ ฉันไม่ได้หมายความว่าจะคิดทำตัว เป็นเจ้าข้าวเจ้าของเลย ฉันก็แค่คิดว่าตอนนี้คุณผู้หญิงเพียง ลำพังมันไม่ง่ายเลย ความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณเป็นความรู้สึกที่ เห็นใจกันอะไรจําพวกนั้น ไม่ได้มีอะไรอื่นใด

“เห็นใจกันงั้นหรอ?” ริมฝีปากของสวี่เย็นหวั่นกับคำพูดพวกนี้ ออกมา รอยยิ้มค่อยเปลี่ยนจากเรียบนิ่งเป็นอบอุ่นออกมา “ก็ ต้องขอบคุณเธอนะ ที่ทุ่มเทดูแลฉันตั้งขนาดนี้ ฉันกับหานซึ่งเป็น เพื่อนเล่นสมัยเด็กกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลก็ไม่เลว ตอนนี้พอเห็นว่าเขาสามารถหาแฟนที่ทั้งฉลาดแล้วยังมีน้ำใจ แบบนี้ได้ ก็ดีใจแทนเขาจริงๆ

พูดจบ ไม่รอให้เสี่ยวเหยียนได้ตอบกลับไป สวีเย็นหวั่นก็ได้ เดินเข้าไป “เก็บเรียบร้อยหมดแล้วล่ะมั้ง? ฉันเองก็ไม่ได้มีของ อะไร วันนี้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ช่วงหลายวันมานี้อยู่ที่นี่อุดอูมากจริงๆ อยากออกไปสูดอากาศแล้ว”

ของที่เสี่ยวเหยียนถืออยู่ในมือถูกสวีเย็นหวั่นรับมันไป จากนั้น สวี่เย็นหวั่นก็เดินออกไปทางด้านนอก ดูไปแล้วดูสบายใจ ท่าทางก็ดูเหมือนกับหลุดพ้นจากอะไรบางอย่าง

แต่ไม่รู้ว่าทำไม เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าเมื่อกี้นี้ตอนที่สวีเย็นหวั่น พูดกับตนนั้น มีความอึมครึมออกมาจากร่างแรงมาก ดวงตาคู่ นั้นดูเศร้าเสียจนเหมือนกับว่าน้ำตาใกล้จะไหลพรากออกมาไม่มี ผิด

แต่พอมองอีกที ก็หายไปแล้ว

เธอเซนส์ผิดไปหรอ?

“เสี่ยวเหยียน ไปกัน

จนตอนที่เสียงของสวี่เย็นหวั่นดังเข้ามาจากด้านนอกประตูอีก ครั้ง เสี่ยวเหยียนถึงจะได้สติกลับมา มาแล้ว”

หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจ เขกหัวตัวเองออกมา หานซึ่งพูด ถูก เธอเอาแต่คิดเพ้อเจ้ออยู่ตลอดจริงๆ

ถึงแม้ว่าเมื่อกี้นี้สวี่เย็นหวั่นจะแสดงสีหน้าเศร้าออกมา นั่นมัน ก็เป็นเรื่องปกติ ถึงยังไงเธอก็ได้สูญเสียคนใกล้ตัวไป ตอนนี้ใน ตอนที่อยู่คนเดียวก็มักจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดเรื่องนั้น

สวีเย็นหวั่นออกจากโรงพยาบาลสำเร็จ ซูจิ๋วก็ได้กลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง
สวีเย็นหวั่นหายไปหลายวัน อีกทั้งวันที่หายไปวันนั้นก็ยังถูก หานซึ่งช่วยอุ้มออกมา ข้างๆ ก็ตามมาด้วยเสี่ยวเหยียน คนใน บริษัทเป็นพยานเห็นทุกอย่างกับตา

กลุ่มคนเม้าท์มอยกันไปทั่ว แต่เพราะว่าช่วงหลายวันมานี้ส เย็นหวั่นไม่ได้ปรากฏตัวที่บริษัทเลย แม้แต่เสี่ยวเหยียนเองก็ไม่ มาเลย ดังนั้นกลุ่มคนพวกนั้น ในตอนนี้สามารถพูดได้เลยว่าได้ แพร่กระจายกันไปหมดแล้ว

“ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรกันเนี่ย? วันนั้นทั้งสามคนออกไปด้วย กัน เมียหลวงเมียน้อยได้เจอกัน ช่วงหลายวันนี้นอกจากประธาน หานแล้วแต่ละคนต่างไม่มีใครเข้าบริษัทเลย มีใครสามารถบอก ฉันได้บ้างหรือเปล่าว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

“ใช่ๆ อยากรู้มากๆเลย ใครสักคนช่วยมาตอบปริศนานี้ให้ พวกเราหน่อยเร็ว!

“พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ล่ะ? ปกติหลอนข่าวไวที่สุดเลย ไม่ใช่หรอ? รีบเรียกหล่อนมาถามหน่อยสิ”

สาวประชาสัมพันธ์หน้าเคาน์เตอร์มองโทรศัพท์ ปวดหัวจริงๆ เธอเองก็อยากรู้เหมือนกัน

แต่เจ้าเรื่องไม่มาบริษัท เธอจะไปหามาจากที่ไหน? ไม่รู้เลยว่า วันนั้นพวกเธอไปไหนกัน อีกอย่างเธอก็ไม่มีทางตั้งใจโดดงาน เพื่อออกไปตามหาคนโดยเฉพาะหรอก

“พวกเธออย่ามาถามเลย ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน ฉันก็อยากลองถามพี่เหวินเหวินดู คู่หมั้นของประธานหานคนนั้นไม่ใช่คนของเธอหรือไง? ช่วงหลายวันมานี้เธอก็ไม่ได้โทรถาม สถานการณ์เธอหรอ?”

ช่วงหลายวันมานี้เจียงเหวินเหวินก็ไม่ได้ออกมาคุยกันเลยนี่สิ

หลักๆแล้วหลังจากที่เธอรู้สถานะของสวีเย็นหวั่นแล้ว คิด ว่าการพูดคุยกันในกลุ่มตัวเองยังต้องระวังกันอีกสักนิด หลีก เลี่ยงคนที่มีแผนร้าย ถึงตอนนั้นแล้วแคปรูปเอามาเป็นหลักฐาน หรือไม่ก็อะไรทำนองนั้น ถ้าคิดจะทำลายเธอขึ้นมานั่นจะไม่ดีเอา

แล้วช่วงนี้จริงๆเธอก็ได้ติดต่อกับสวีเย็นหวั่น อีกฝ่ายบอกว่า เธอกำลังอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากที่เจียงเหวินเหวินบอกให้เธอ พักฟื้นให้ดีๆแล้วก็ไม่ได้รบกวนอีกฝ่ายอีก

ถึงยังไงเจียงเหวินเหวินก็สามารถยืนยันแน่ใจแล้วว่าสวี่เย็น หวั่นกับหานชิงสองคนนั้นเป็นคนรู้จักกัน

วันนั้นหานซึ่งเป็นคนอุ้มสวีเย็นหวั่นออกไป

ตรงจุดนี้ ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์สถานะของเธอแล้ว

เพียงแต่ตอนนี้เจียงเหวินเหวินยังไม่ได้ทำให้ชัดเจน เป้าหมาย ของสวีเย็นหวั่นคืออะไรกัน?

เธอเข้าบริษัทมา เป้าหมายจะต้องไม่มีทางตั้งใจมาทำงานที่นี่ อย่างบริสุทธิ์ใจขนาดนั้นแน่ แต่เธอก็ให้ทั้ง ให้ทั้งสองคนเจอกันอย่าง หน้าตาเฉยอีก

ให้หานชิงรู้เรื่องที่เธออยู่บริษัทนี้ และก็ไม่รู้ว่าทิศทางลมหลัง จากนี้มันจะหมุนไปในทางไหน?
ยิ่งคิด เจียงเหวินเหวินก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้รับการ คอนเฟิร์ม ดังนั้นแล้วก็เลยถือโอกาสตีมึนอยู่ในกลุ่มไปเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ