เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 70 ถ้าไม่เชื่อมาพนันกัน



บทที่ 70 ถ้าไม่เชื่อมาพนันกัน

“เฉียวเฉียว พูดแบบนี้…หมายความว่ายัง ไง? “รอยยิ้มตรงมุมปากของหานเส่โยวแข็งที่อไป ทันใด : “ฉันไม่มีเจตนาแอบแฝงเลยนะ เธอสงสัยฉันเห รอ?”

ไม่ใช่แบบนั้น ! “เสิ่นเฉียวส่ายหัว : “ฉันจะไป สงสัยเธอได้ยังไง ?”

เธอแค่เป็นห่วงเรื่องระยะห่างของหานเส่โยวที่ใกล้ เยโม่เซินมากจนเกินไป เย่โม่เซินอาจจะลงมือกับเธอได้ ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกว่า คำพูดที่เยโม่เซินพูดออกมานั้น ไม่ใช่การล้อเล่นแน่

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่ได้ยินมาก็อาจจะไม่เป็นความ จริงเสมอไป

เรื่องที่เขาพิการอาจเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องที่เขาไร้ สมรรถภาพทางเพศ–ดูเหมือนจะเป็นแค่ข่าวลือ

“เฉียวเฉียว เธอไม่สงสัยฉัน แล้วทำไมเธอถึงพูด ออกมาแบบนั้นล่ะ ? “ท่าทีของหานเส่โยวเปลี่ยนไปเป็น ความอึดอัด เธอก้มหน้าก้มตาแล้วทำเสียงต่ำ : “เป็น เพราะคำพูดที่ป้าแกพูดเลยทำให้เธอเข้าใจผิดใช่มั้ย ? แต่ ฉันบอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ ป้าแกก็แค่พูดเล่นเท่านั้น เอง ? ถ้าเธอไม่เชื่อ ครั้งหน้าฉันจะพาหลี่โย่หมิงมาพูดกับ เธอด้วยตัวเอง”

เส้นเฉียวนิ่งเงียบ แล้วขมวดคิ้วจ้องไปทางเธอ เท่านั้น อยากจะอธิบายให้ฟัง แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากไหน
หานเส่โยวคิดว่าเธอไม่เชื่อ จึงรีบหยิบโทรศัพท์มือ ถือออกมาจากในกระเป๋า

“ฉันจะโทรหาหลี่โย่หมิงเดี๋ยวนี้ล่ะ ! ”

เสิ่นเฉียวหยุดเธอเอาไว้ หานเส่โยวเงยหน้ามอง เธอ

“เธอไม่ต้องโทรหาเขาหรอก ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจ เธอนะ แต่ฉันแค่ ….”เธอจะพูดยังไงดี หรือควรจะพูดไปว่า เธอเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเย่โม่เซินจะลงมือกับเธอ? แต่ ขึ้นพูดแบบนี้ออกไป ก็เท่ากับว่าเธอขายเยโม่เซินน่ะสิ

“แต่อะไร ? “หานเส่โยวเห็นเธอกระอักกระอ่วน จึง ถามขึ้นมา

เสิ่นเฉียวกัดปากอย่างร้อนรนใจ : “ฉันไม่รู้จะ อธิบายกับเธอยังไงดี แต่เส่โยว พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่ เหรอ ? เธอฟังฉันหน่อยได้มั้ย? อยู่ให้ห่างจากเขาไว้ !’ เถอะ !

สีหน้าท่าทางของหานเส่โยวนิ่งไปทันที่ : “เฉียว เฉียว เธอชอบเขาแล้วเหรอ?”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวถึงกับหายใจไม่ ออก : “เธอพูดว่ายังไงนะ ? ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอชอบเขา แล้วเธอจะมาบอกให้ ฉันอยู่ห่างๆเขาไปทำไม ? อีกอย่างนะ ฉันยังไม่ได้เข้าใกล้ เย่โม่เซินเลยด้วย? แต่เธอทำตัวแบบนี้ เทียบกับคนที่ชอบ ใครซักคนแล้วเธอก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากคนพวกนั้นเลย”

เสิ่นเฉียวเบิกตาโพลง เธอชอบเย่โม่เซิน ? นั่นเป็น เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การพูดการจาของเขาก็ไม่เข้าหู และเหตุผลที่เธอห้ามปรามเสี่ยวนั่นก็เพราะเธอกลัวว่าเย่โม่ เซินจะลงไม้ลงมือกับเส่โยว ไม่มีเหตุผลอื่นใดเลย

“ไม่ใช่แบบนั้น ! แต่ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เธอ เข้าใจ !

ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วล่ะ”หานเส่โยวเบือนหน้า หนี ไม่มองเธออีก แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ของเธอไม่ดีเอา มากๆ : เฉียวเฉียว ฉันคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน การไว้ใจกันในเรื่องแบบนี้ถือเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งเลย ฉัน นช่วยเธอมาก็หลายเรื่อง แต่อยู่ๆเธอกลับคิดว่าฉันคิด อะไรกับเย่โม่เซินแบบนั้นเหรอ ?”

เสิ่นเฉียวหน้าซีดเผือด เธอดึงมือของหานเส่โยว เอาไว้ : เส่โยว ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจเธอนะ และไม่ได้คิด ว่าเธอคิดอะไรกับเย่โม่เซินเลย เพียงแต่….

หานเส่โยวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วหันไป จับมือของเธอ แล้วพูดกับเธอเบาๆ : “เธอคิดว่าทำไมฉัน ถึงชวนเขาออกมากินมื้อเช้ากับพวกเราล่ะ ? ทั้งหมดที่ฉัน ทำไปก็เพื่อเธอ

เพื่อ ฉัน ?”

“ถึงแม้ว่าอีกครึ่งปีหลังพวกเธอจะต้องหย่ากัน ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เธอก็ยังมีศักดิ์เป็นภรรยาของ เขา เธออาศัยในบ้านตระกูลเย่ ฉันเลยหวังว่าจะได้สาน สัมพันธ์อันดีกับเย่โม่เซิน และเพื่อให้เธอมีวันที่ดีๆกับ คนในบ้านตระกูลเย่บ้าง เฉียวเฉียว จริงๆแล้วเธอเห็นถึง ความตั้งใจจริงของฉันบ้างมั้ย ?

เสิ่นเฉียว :
“ฉันแค่หวังว่าครึ่งปีหลังจากนี้เธอจะอยู่ในบ้านตระ กูลเยได้อย่างปลอดภัย พวกเราก็เหมือนพี่เหมือนน้อง หรือว่าเธอไม่เคยรับรู้เลย ?”

“เล่โยว…ฉันขอโทษ”ที่จริงเสิ่นเฉียวไม่คิดเลยว่า เธอจะคิดเพื่อตัวเองขนาดนี้ เธอนึกถึงตอนแรกๆที่หานเส่ โยวเอ่ยปากชวนเย่โม่เซินและเย่หลิ่นหานด้วยความสุภาพ และไม่ทันคิดเลยว่าหานเส่โยวจะคิดเพื่อขนาดนั้น แต่ตัว เธอเองภายในใจเธอกลับคิดเป็นอกุศลแบบนี้ไปซะได้

เธอรู้สึกว่าคำพูดของคุณป้าเจ้าของร้านแทงบาด เข้ามาในแก้วหู

คิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาจากภายใน รอบตาเธอแดงขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว : “เส่โยว ฉันไม่ได้ เข้าใจเธอผิดนะ ที่ฉันขอให้เธออยู่ห่างจากเขา ….เพราะมี ความลำบากใจบางอย่าง”

“เอาเถอะ ฉันเข้าใจแล้วว่าเธอลำบากใจ ฉันจะไม่ โทษเธอ แต่ว่า ..อย่าห้ามให้ฉันช่วยเธอ ตกลง มั้ย ? “หานเสี่ยวพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เสิ่น เฉียวเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง จึงได้แต่พยักหน้าตอบไป

“งั้นพวกเรากลับกันเถอะ อย่าให้พวกเขารอนาน”

“โอเค”

หลังจากกลับไป เสื่นเฉียวและหานเส่โยวทั้งสองก็ แยกกันนั่ง

ยังไงซะเส้นเฉียวก็เป็นภรรยาของเย่โม่เซิน ต้อง นั่งข้างเย่โม่เซินอยู่แล้ว แต่พอกันเธอกำลังจะสัมผัสลงไป บนเก้าอี้ น้ำเสียงที่เย็นชาของเย่โม่เซินก็ลอยมา
“ประหม่าจนต้องไปวางแผนรับมือกับเพื่อนเลย?

ได้ยินแบบนั้น ท่าทางของเสิ่นเฉียวก็หยุดนิ่ง เธอ หันไปมองทางเย่โม่เซิน

เยโม่เซินหันหน้ามาข้างๆ แล้วจ้องมองเธอย่างจัง ริมฝีปากบางๆโค้งขึ้นเล็กน้อย : ไม่ได้ผลหรอก”

เสิ่นเฉียวหน้าซีด และไม่ตอบเย่โม่เซิน

“เพื่อนของเธอ เห็นได้ฉันว่าเธออยากยั่วยวนฉัน เชื่อฉันมั้ย ?”

เสิ่นเฉียวไม่สนใจเขา แต่คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆเย่โม่เซิน จะเล่นแบบนี้ ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาค่อยๆเอียงมาทาง เธอ ริมฝีปากที่บางนั้นกระซิบมาที่ข้างหูของเธอเบาๆ ลม หายใจอุ่นๆที่ออกมานั้นผสมปนเปกับน้ำลายที่กระเด็นมา โดนตรงคอเธอ มันจักจี้

รูปร่างที่เรียวเล็กของเสิ่นเฉียวสั่นเทา เธออยากจะ หนีไปให้ไกลจากเขา แต่กลับถูกเยโม่เซินจับแขนเอาไว้

“ถ้าไม่เชื่อ เรามาพนันกันหน่อยมั้ย”

พนัน ? เสิ่นเฉียวกะพริบตาปริบๆ กัดปากตอบไป ว่า : “เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นฉันจะไม่พนันอะไร กับคุณทั้งนั้น ไร้สาระ ! ”

“เฮอะ”เย่โม่เซินพูดออกมาอย่างเปิดเผย : “ถ้าเธอ แพ้ ต้องทำแท้งลูกนอกสมรสในท้องของเธอซะ” เสิ่นเฉียวทำตาโตขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่ง

ที่ได้ยิน เธอกำหมัดแน่นอยู่ใต้โต๊ะ เธอกัดริมฝีปากตอบไป

ว่า : ไม่มีทาง ! ”
“ทำไม ? กลัวงั้นสิ ?

น้ำเสียงของเย่โม่เซินทั้งถากถางและไร้เยื่อใย เสื่น เฉียวนั่งหลังตัวตรง : “การพนันแบบนี้มันน่าเบื่อ ฉันไม่ขอ ร่วม”

“นั่นมันเรื่องของเธอ ยังไงก็ตาม ลูกนอกคอกกับ เพื่อนของเธอเลือกมาอย่างเดียว เธอ..จะเลือกใคร ?”

เสิ่นเฉียว : “…เย่โม่เซิน ให้มันน้อยๆหน่อย”

“คุณสัญญากับฉันแล้ว ว่าให้ฉันอุ้มท้องและอยู่ที่ บ้านตระกูลเย่ได้ และพวกเราก็เซ็นสัญญากันแล้ว ฉันแค่ ต้องอยู่ที่บ้านตระกูลเย่แค่ครึ่งปีแล้วเราก็จะหย่ากัน เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับเส่โยวเลยแม้แต่น้อย ทำไมคุณต้องลากเธอ เข้ามาเกี่ยวด้วย?”

เสิ่นเฉียวโมโหเอามากๆ หานเส่โยวคิดเพื่อเธอ ขนาดนั้น แต่อยู่ๆเย่โม่เซินกลับให้เธอเลือกมาระหว่างลูก ในไส้กับเส่โยว

“ในเมื่อเกมเริ่มแล้ว ดังนั้นกฎของเกมก็ขึ้นอยู่กับ ฉัน ตั้งแต่วินาทีที่เธอแต่งงานมาอยู่บ้านตระกูลเย่แทนน้อง สาวของเธอ ชะตาชีวิตของเธอก็ถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ทำไม ? ยังไม่รู้สถานะของตัวเองอีก ?”

เสิ่นเฉียวกัดฟันแน่น เล็บที่กำแน่นอย่างไร้ซึ่งเสียง แทบจะกดเข้าไปในเนื้อ

“คุยอะไรกัน ? “เย่หลิ่นหานที่นั่งอยู่ตรงข้ามเห็นทั้ง สองคนนั่งคุยกันอย่างใกล้ชิด ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา แล้วแซวว่า : “โม่เซินกับน้องสะใภ้รักกันดีจริงๆ”

ได้ยินแบบนั้น เสื่นเฉียวก็ขยับตัวออกห่างเย่โม่เซินโดยทันที แล้วคิดในใจว่าใครมันจะอยากมารู้สึกดีกับคน โรคจิตแบบนี้กัน ?

แขนเธอถูกเยโม่เซินกำไว้อย่างแน่น เขายิ้มให้เย่ หลิ่นหานแล้วส่งสายตาที่อ่อนโยนให้ : “ใช่ครับ ต้อง ขอบคุณพี่จริงๆ ผมเลยได้ภรรยาที่ดีแบบนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ