เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่933อยากดูเหลน



บทที่933อยากดูเหลน

เธอรู้

เธอรู้อยู่แล้ว ถึงเสี่ยวเหยียนไม่ได้เจอหานชิงแค่ครั้งแรกก็หลง รักเลย แต่ก็ใกล้เคียงแล้ว

อีกอย่างก่อนที่จะบอกรัก เธอก็แอบชอบมานานมากแล้ว ถือว่าเป็นความรักที่ไม่กล้าพูดอย่างแจ่มแจ้ง จู่ๆ ต่อมาเธอก็ใจ กล้าขึ้นมาเลย

อาจจะเป็นเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้างกายของหานซึ่งไม่มี ใครเลย ส่วนเธอเองนอกจากหานซิง ก็ไม่เจอใครที่สามารถ ทำให้หัวใจเต้นแรงสักที ดังนั้นถ้ายืดเยื้อต่อไป ก็เสียดายวัยและ วันเวลาของตัวเองเฉยๆ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็เลยเลือกที่จะบอก รักอย่างใจกล้า

แสวงหาความรัก แสวงหาความสุขไม่ได้มีความผิดอะไรสัก หน่อย

อีกอย่างเสียวเหยียนยังเป็นเพื่อนรักของตัวเองด้วย หานมู่จื่อ เชื่อใจในคุณสมบัติประจำตัวของเธอ บวกกับพี่ชายที่เก็บตัวของ เธอ ถ้าสามารถอยู่กับผู้หญิงที่เร่าร้อนเหมือนไฟ ดูเหมือนว่าก็จะ สามารถเพิ่มชีวิตชีวาให้เขาได้

ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ดูไร้ชีวิตชีวาทั้งทั้งวัน

พูดตามตรง ตอนที่หาน จื่ออยู่กับเขาก็ยังรู้สึกหานชิงนอกเหนือจากรักและเอ็นดูน้องสาวอย่างตัวเอง แทบจะกลายเป็นคน ที่ไม่มีเลือดไม่มีเนื้อแล้ว

หาน จื่ออยากให้ หานซิงเจอคนที่ตัวเองรักมากกว่าคนไหนๆ เสียอีก

เพราะกำลังทั้งหมดของเขาได้ทุ่มเทมาที่เธอหมด ถ้าให้เขาใช้

ชีวิตที่เหลือแบบนี้ งั้นมันไม่ยุติธรรมกับเขาเกินไป ถึงหานชิงไม่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม แต่หาน จื่อจะต้องละอายใจ

จนตายแน่

แย่แล้ว ถ้าเธอไม่เอ่ยถึงนี่ฉันลืมไปเลยนะเนี่ย รู้สึกเหมือนมือ ถือของฉันจะปิดเครื่องไว้ เวลานี้พี่ชายเธอต้องพบว่าฉันกับเสี่ยว หมี่โต้วไม่อยู่แล้วแน่ๆเลย ไม่รู้ว่าเขาจะโทรหาฉันหรือเปล่า? ”

พอพูดจบ เสี่ยวเหยียนรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ และพุ่งกลับไปที่

ห้องนอน

เสี่ยวเหยียนวิ่งเข้าไปหามือถือที่ห้องของตัวเอง กดไปทีหนึ่ง ปรากฏว่ามือถือได้ปิดเครื่องไว้จริงๆ เธอได้แต่เปิดเครื่องใหม่ พอเปิดเครื่อง กลับแสดงว่าแบตไม่เพียงพอ แถมยังมีสายที่ไม่ได้ รับและข้อความที่ไม่ได้อ่านด้วย

เสี่ยวเหยียนจึงได้แต่ก้มลงไปหาสายชาร์ตและชาร์ตแบตให้ มือถือ จากนั้นก็นั่งเปิดดูมือถือ

มีสายที่ไม่ได้รับหลายสายเลย นอกจากสายเรียกเข้าของ พนักงานบริษัทและลูกค้า ที่เหลือเป็นสายเรียกเข้าของหานชิงที่สีหน้าเย็นชาเหมือนยมบาลหมด

เสี่ยวเหยียนเลื่อนลงมาดูข้อความ

ข้อความที่หาเชิงส่งมาเรียบง่ายมาก

{เสี่ยวหมี่โต้วอยู่กับคุณหรือเปล่า?

{ตอนนี้พวกคุณอยู่ไหน?

มีแค่สองข้อความ หลังจากสองข้อความนี้ก็ไม่มีข้อความอย่าง อื่นแล้ว ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้หานซึ่งจะโมโหจนเกลียดเธอหรือเปล่า?

เดิมทีเธอกะว่าจะมาถึงแล้วค่อยส่งข้อความบอกทานชิง กะว่า จะทำโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตแล้วค่อยรายงานทีหลัง แต่ต่อมา เกิดเรื่องมากมาย เธอเลยลืมเรื่องนี้ไปเลย

พอคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนยื่นมือใช้แรงทุบศีรษะตัวเอง

“โง่ๆๆ! โง่จริงๆเลย เขาเป็นเทพบุตรของเธอเชียวนะ ไม่นึก เลยว่าเธอจะลืมเทพบุตรของตัวเอง สำนึกผิดหนึ่งนาที

หนึ่งนาทีผ่านไป

เสี่ยวเหยียนตอบข้อความหานชิงอย่างมือสั่น

หลังจากตอบข้อความไปไม่มีการตอบกลับใดๆ เสี่ยวเหยีย นกุมมือถืออย่างตื่นเต้นไปหลายนาที ก็ยังไม่ได้รับข้อความของ หานชิงสักที

หรือจะโกรธจริงๆ หรือว่ากำลังทำงานอยู่เลยไม่เห็นข้อความ
เสี่ยวเหยียนคํานวณเวลา เวลาของที่นี่ห่างกับเวลาของใน ประเทศเจ็ดชั่วโมง พวกเธออยู่ที่นี่ใกล้เที่ยงแล้ว งั้นในประเทศก็ ควรจะเที่ยงคืนแล้ว

งั้นหาน งต้องพักผ่อนอยู่ถึงจะถูก ไม่ตอบข้อความที่เป็น เรื่องปกติ

คิดถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนโล่งอกไปที หลังจากหานชิงตื่นก็ คงจะเห็นข้อความเองแหละ

เสี่ยวเหยียนจึงเอามือถือชาร์ตแบตไว้ในห้อง จากนั้นก็ออกมา จากห้องนอน

ตอนที่กลับมาถึงโต๊ะทานข้าว หานซื้อพบว่าสีหน้าของเสียว เหยียนค่อนข้างกลุ้มใจ อีกทั้งสีหน้ายังซีดเซียวด้วย

เธอทานอาหารที่เสี่ยวเหยียนตั้งใจทำให้อย่างเอื่อยเฉื่อยไป ด้วย และถามเธอไปด้วย: “เป็นไงบ้าง?

“พี่ชายเธอโทรหาฉันหลายสายเลยอ่ะ

พูดได้ยินปุ๊บ หาน จื่อก็อดขำไม่ได้ “งั้นก็ดีเลยไม่ใช่เหรอ? แสดงว่าพี่ชายฉันรู้จักเป็นฝ่ายโทรหาเธอก่อนแล้ว?

เสี่ยวเหยียนฟังปุ๊บ เงยหน้าขึ้นมาจ้องเธอทันที “รู้จักเป็นฝ่าย หาฉันบ้าบอน่ะสิ ที่เขาเป็นฝ่ายโทรหาฉันก่อน ไม่ใช่เพราะเสี่ยว หมี่โต้วอยู่กับฉันหรอกหรือ ถ้าไม่ใช่เสี่ยวหมี่โต้ว เขาไม่โทรหา ฉันหรอก”

หานซึ่งไม่ชอบเธอ แถมยังปฏิเสธเธอด้วย ปฏิเสธได้อย่างเฉียบขาดและไร้ความปราณีมาก

แต่ว่า ตัวเธอกลับยังไม่เปลี่ยนใจ

เพราะแอบรักของสิ่งนี้ ไม่ใช่แค่วันสองวัน เธอชอบทานซึ่งมา นานขนาดนี้ มันยากที่จะเปลี่ยนใจตั้งนานแล้ว

เห็นเธอที่อารมณ์หม่นหมอง หาน จื่อรู้สึกอาหารที่ทานเข้า ปากก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้นแล้ว ได้แต่ปลอบใจเธอ

“เธอก็อย่าคิดมากเลย ถึงแม้คนที่เขาคิดถึงคือเสี่ยวหมี่โต้ว แต่สําหรับเธอแล้วมันก็เป็นโอกาสนี้ หรือว่า………เธอจะไม่เอา โอกาสแบบนี้?”

“เอา!” เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้น “ฉันต้องเอาอยู่แล้ว เธอพูดถูก นี่ล้วนแต่เป็นโอกาสทั้งนั้น ถึงคนที่เขาคิดถึงคือเสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่ เป็นไร ฉันก็จะตัวติดกับเสี่ยวหมี่โต้วไว้ คอยให้เขาคิดถึงฉันทุก วันด้วย!”

พอพูดจบ การต่อสู้ เสี่ยวเหยียนก็กลับคืนสู่สีหน้าที่มีจิตวิญญาณแห่ง

หานมู่จื่อไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอก้มหน้าทานข้าวต่อ

ในเวลานี้ เสียงกริ่งของประตูกลับดังขึ้น

เสี่ยวเหยียนมองหาน จื่อทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “เธอทานข้าว เถอะ ฉันไปเปิดเอง

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นไปเปิดประตู
หานมู่จื่อก็ไม่ได้ไปสนใจมากขนาดนั้น เสี่ยวเหยียนไปเปิด ประตู งั้นตัวเองก็นั่งทานข้าวก็พอ แต่ไม่นานเสี่ยวเหยียนก็วิ่ง กลับมา

“มู่จื่อๆ!”

พอได้ยินปุ๊บ หาน จื่อเงยหน้า เห็นเสี่ยวเหยียนที่ตื่นตระหนก ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกวิ่งมาหาตัวเอง เธอค่อนข้างแปลกใจ “ทําไมหรอ มีอะไร?”

เพิ่งพูดจบ หานมู่จื่อก็เห็นคนสองคนที่เดินตามเสี่ยวเหยียนมา

หานมู่จื่ออึ้ง ไม่นึกเลยว่าจะเป็นฉือจินกับหยูโป

เสี่ยวเหยียนที่วิ่งมาข้างกายเธอกำลังส่งสายตาให้เธอ แถมยัง พูดเสียงเบาด้วย: “คุณตาของคุณชายเย่มา เขาจะมาหาเรื่องเธอ หรือเปล่า ให้ฉันตามคุณชายเย่กลับมามั้ย?”

หานอยิ้มอ่อนๆ ปฏิเสธข้อเสนอที่หวังดีของเสี่ยวเหยียน พร้อมส่ายหน้า: “ไม่ต้องหรอก ถ้าเธอกลัวก็กลับห้องก่อน ฉันอยู่ ต้อนรับเอง”

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้าทันที พร้อมพูดเสียงต่ำ: “ไม่ได้! สถานการณ์คับขันแบบนี้ ฉันจะทิ้งเธอได้ยังไง? เพื่อกันไม่ใช่ทำ กันแบบนี้นะ”

พอพูดจบ เสี่ยวเหยียนรีบไปกอดแขนของหาน จื่อไว้แน่น

หาน จื่อค่อนข้างปวดหัว รู้สึกจนปัญญากับเสี่ยวเหยียน เธอ อยากให้เสี่ยวเหยียนตอบโอเคและกลับไปที่ห้องทันทีเลย
“คุณตา ลุงหยู”

พอพวกเขาเดินเข้ามาใกล้แล้ว หาน จื่อถึงพูดทักทายกับพวก

เขา

ฉือจินได้ยินคําว่าคุณตาปุ๊บ ก็เหมือนสิงโตที่โมโหขนตั้งเลย “คุณตา ใครคือคุณตาของเธอ?”

เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆ

คุณตาของคุณชายเย่นดุจริงๆซะด้วย เมื่อก่อนมู่จื่อคงเจอเรื่อง นําบากเยอะมากเลยมั้ง

ฉือจีนเย่อหยิ่งเสร็จ เห็นเสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างก างกายของหา นอขมวดคิ้วมองตะแก่อย่างเขาไว้ เขาจึงกระแอมเสียงใส หนึ่ง แล้วพูดอย่างเย็นชา “อยากเป็นหลานสะใภ้ของฉัน ยังต้อง ดูการทำตัวของเธอในวันข้างหน้าอีก

ไฟในอย่านออก ไฟนอกอย่านำเข้าถึงแม้หญิงคนนี้ไม่ใช่ อะไรของมู่จื่อ แต่ว่าถ้าให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คุณตาที่ดี นั่นก็ เป็นการทําลายชื่อเสียของเขานะ

หานมู่จื่อยิ้มอ่อนๆ แต่ไม่ได้ถือสาอะไร

“คุณตากับหยูโปมานี่คือ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”

“ทำไมเหรอ บ้านหลังนี้เป็นของเธอหรอ? ฉันมาไม่ได้ยังไง?” ส่วนหยูโปได้พูดด้วยรอยยิ้ม: “นายท่านอยากมาดูเหลนของ เขาครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ