เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 702 ชอบก่อความวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ



บทที่ 702 ชอบก่อความวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ

หาน จื่อรู้สึกว่า ตัวเองหดตัวจนจะถึงพื้นอยู่แล้ว น่าเสียดายที่เธอไม่มีความสามารถในการขุดพื้น ไม่อย่างนั้น เธอจะเจาะทะลวงเข้าไปแล้ว

ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยซ้ำ เธอล หมวกตัว เองลงแล้วก็นั่งอยู่แบบนั้น พยายามทำให้ตัวเองดูมีตัวตนน้อย ที่สุด

และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอจู่ๆ ก็ลุกขึ้น หานมู่จื่อไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ว่าแป๊บเดียวคนๆนั้นก็นั่งลง อีกครั้งหนึ่ง หาน จื่อถึงได้สบายใจ

เพราะว่าเอาแต่ก้มหน้า ก็เลยไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อคิด อย่างรอบคอบแล้ว เย่โม่เซ็นน่าจะเดินผ่านที่นั่งเธอไปแล้วถึงจะ ถูก

ดังนั้นหาน จื่อก็เลยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา อยากจะสำรวจ บรรยากาศรอบๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ก็ได้พบกับนัยน์ตาสีหมึกที่ เย็นชาคู่หนึ่ง

ดวงตาทั้งสองคู่สบตากัน

เงียบ

ม่านตาของหาน จื่อขยายออกกว้างมาก หลังจากนั้นเธอก็ตอบสนอง ค่อยๆ ก้มหน้าลง แล้วก็หดตัวอยู่ตรงนั้นต่อ ท่า เหมือนกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น

เย่ไม่เป็นที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอเห็นภาพเหตุการณ์นี้ อดไม่ได้ที่จะ หัวเราะเยาะเย้ยออกมา

“กล้าจะขึ้นเครื่องมา แต่ไม่กล้ามองหน้าฉันงั้นเหรอ? หานมู่จื่อ : “.…..

เสียงของเขาดุเดือดและรุนแรงจนทำให้หนังศีรษะชาไปเลย หานคู่จื่อกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง แล้วก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา อีกครั้ง

“ฉัน ฉันเคยบอกแล้วว่าจะไปกับคุณด้วย แต่ว่าคุณไม่ยอม ฉัน ก็เลย……มาเองเลยไง

เย่ไม่เป็นเผยอริมฝีปากออก และหัวเราะอย่างเย็นชา “แอบขึ้น เครื่องมาอย่างลับๆ ล่อๆ? แถมยังซื้อที่นั่งชั้นประหยัดอีกยังงั้นเห รอ? ”

หานมู่จื่อ :

สายตาของคนรอบๆ มองมาที่พวกเขาเหมือนกับว่ามีคนจำ ได้ว่าหลายวันมานี้เห็นเขาทั้งสองคนที่ทางเข้ารถไฟใต้ดินเมือง เบี้ย แล้วก็เคยเห็นทั้งสองคนนี้เป็นตัวเอกในโปสเตอร์บนหน้าจอ ที่อยู่บนตึกสูง แล้วก็มีคนค่อยๆ แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป พวกเขา

พอเห็นเหตุการณ์นี้ สีหน้าของหาน จอก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เธอรีบก้มหน้าลง แล้วก็ไผหน้าเข้าไปในอ้อมอกของเย่ไม่เป็น

การที่จู่ๆ เธอก็พุ่งเข้ามาที่อกของตัวเองทำให้เย่ไม่เป็นอึ้งไป เล็ก แต่หางตาของเขาก็เห็นกล้องโทรศัพท์จากด้านข้างของเขา อย่างรวดเร็ว

เย่ไม่เป็นหรี่ตาลง แล้วก็มองไปที่คนๆนั้นด้วยสายตาที่ดุเดือด

และรุนแรง

ปกติแล้วเขาก็มีออร่าที่น่าเกรงขามมากอยู่แล้ว แถมตอนนี้ยัง มีสายตาของฆาตกรอีก ผู้หญิงคนนั้นมือไม้อ่อนทันที โทรศัพท์ ในมือของเธอก็ตกลงอย่างรวดเร็ว เธอก้มลงหาโทรศัพท์ของตัว เองอย่างตื่นตระหนก

ตอนนี้เย็ไม่เป็นถึงได้หันหน้ากลับมามองผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ ซ่อนอยู่ในอ้อมอกของตัวเอง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเธอ

สักหน่อย

“ตอนตัวเองแอบหนีออกมาไม่กลัว ตอนนี้รู้จักกลัวเป็นแล้วนั้น เหรอ? ”

ทานชื่อไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ได้แต่กระซิบถาม “ยังมีคนแอบ ถ่ายอยู่รึเปล่า? “

“เธอก็เงยหน้าขึ้นมาดูเองสิ? ”

ตอนนี้หาน จื่อถึงได้ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองผู้หญิงคนนั้น ก็ พบว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังก้มตัวหาโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ เธอถึง ให้รู้สึกโล่งอก พร้อมกับเอามือนายหน้าอกของตัวเอง
หลังจากนั้นก็หันกลับมามองใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเย่ ไม่ เป็น “แต่ถึงยังไงฉันก็มาแล้ว คุณคงจะไม่ได้โยนฉันลงจากเครื่อง ไปหรอกใช่ไหม? ”

“เธอเตือนฉันเลยนะเนี่ย นี่ก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน”

หลังจากพูดจบ เย่ไม่เป็นก็จับข้อมือที่ขาวละเอียดของหา นมู่จื่อ หานมู่จื่อตกใจ เธอเบิกตากว้างและพยายามดึงมือกลับ

“ตอนนี้รู้จักกลัวได้แล้วเหรอ? แล้วเมื่อตอนที่ฉันทำไมไม่รู้ กกลัวล่ะ? ” เย่โม่เซินขยับเข้าไปใกล้เธอ สายตาที่เฉียบคม ออ ร่าที่วนเวียนอยู่รอบตัวเขาก็ดูแข็งแกร่งขึ้นอีก

หานมู่จื่อ

เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง แล้วก็หลับตาลง

“ก็ได้ คุณลากฉันลงเครื่องบินไปเลย ยังไงตอนที่คุณลากฉัน ลงไปคุณก็ต้องลงไปเหมือนกัน คุณไม่อยากให้ฉันไป ถ้ายังงั้น ทุกคนก็ไม่ต้องไปกันแล้ว”

ตอนนี้เธอคิดว่าไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้วก็ให้มันหักไปเลยดีกว่า หาหมอกะว่า ถ้าเกิดว่าลากเธอลงไปจริงๆล่ะก็ เธอจะกอดเขา ไว้ให้ตายก็ไม่ยอมปล่อย ยังไงก็ไม่ยอมให้เขาขึ้นเครื่องได้หรอก

จนถึงตอนนั้นทั้งสองคนก็ไม่ต้องไปทั้งคู่

แต่ว่ารออยู่นาน ก็ดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
หาน จื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นดวงตาสีหมึกของเย่ไม่เป็น เต็มไปด้วยความจําใจ เขายังคงจับข้อมือของเธออยู่ แต่ว่าแรงที่ จับนั้นน้อยลงไปเยอะเลย

เห็นท่าทางยอมหักไม่ยอมงอของเธอแบบนี้แล้ว เย่ไม่เซ็น ถอนหายใจออกมาและพูดว่า

“ทำไมจู่ๆ เธอถึงได้เปลี่ยนไปจนเหมือนเด็กน้อยขนาดนี้ล่ะ? พักนี้……….วันยิ่งชอบก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ

พอเย่ไม่เซินพูดแบบนี้ หานมอก็กลับไปย้อนคิดถึงการกระ ท่าของตัวเองในช่วงนี้ เหมือนกับว่า………เป็นเรื่องจริงนะ……..

เธอไม่ได้เปลี่ยนไปแค่ชอบก่อเรื่องวุ่นวาย แถมยังเอาแต่กิน แล้วก็ขี้เกียจทํางาน วันๆ เอาแต่อยากจะนอน ไม่แม้แต่อยากจะ ทํางานด้วยช้า

นี่เธอเป็นอะไรไป?

หรือว่า…….เพราะว่าได้คบกับเย่ ไม่เซ็นแล้ว ก็เลยคิดว่าเย่ ไม่ เซินสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ก็เลยขี้เกียจยังงั้นเหรอ?

พอคิดแบบนี้ จู่ๆ หานมอก็รู้สึกไม่ดี เธอไม่อยากจะมีชีวิต แบบเอาแต่กินแต่ขี้เกียจทำงานแบบนี้ต่อไป

แต่ยังไงเมื่ออยู่ต่อหน้าเยโม่เป็นก็ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว เธอดึง มือตัวเองกลับ กัดฟันแน่น “ใครชอบก่อเรื่องวุ่นวายกัน? ฉันก็แค่ เป็นห่วงคุณก็เลยจะไปด้วยเท่านั้นเอง แต่ว่ายังไงคุณก็ไม่ยอม ก็ แค่ขึ้นเครื่องบินเท่านั้นเอง แต่จะเป็นจะตายคุณก็ไม่ยอมให้ฉันขึ้น ใครกันแน่ที่ก่อเรื่องวุ่นวาย?

หลังจากพูดจบ ทานงอกหันหน้าหนี มองไปนอกหน้าต่าง ไม่ มองเย็ไม่เป็นอีกต่อไป

“พอแล้ว ไม่ทะเลาะกันแล้ว รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหน? อยากไปก็ไปเถอะ แต่ว่าถ้าเกิดว่าถึงแล้วห้ามไปไหนมั่วซัวเด็ด

ขาด”

นี่คือการตกลงยังงั้นเหรอ? หาน จื่อมองหน้าเย่ไม่เป็นด้วย ความลังเล แล้วก็พยักหน้า “ได้เลย! ”

ทั้งสองบรรลุฉันทามติด้วยวิธีนี้ หานคู่จื่ออยากจะไปไหนมั่วซั่ว ที่ไหนกันล่ะ เธอคิดรู้สึกว่าเปลือกตาตัวเองกระตุกหนักมาก ก็ เลยไม่สบายใจที่จะให้เยู่ไม่เป็นไปคนเดียวเท่านั้นเอง เพราะ ฉะนั้นก็เลยอยากจะอยู่ข้างๆ เขา แค่ได้เห็นเขาสุขสงบและ ปลอดภัยในทุกๆ วัน จนถึงหลังวันแต่งงาน เธอก็คงจะวางใจได้ ลงเยอะเลย

เครื่องบินบินนานมาก ผ่านไปแป๊บเดียวหาหมอก็เริ่มง่วงแล้ว ตอนที่พิงเก้าอี้แล้วหลับไปนั้น หัวของเธอกลิ้งเป็นลูกมะนาว เ โมเงินเห็นดังนั้น ก็เลยดึงเธอมาจึงไหล่ของตัวเองไว้

ตอนที่ไปถึงนั้น ก็เป็นกลางดึกแล้ว

เยโมเงินเรียกเธอให้ตื่น หานซื่อก็พึ่งเขาอย่างสะลึมสะลือ หลังจากนั้นก็ถูกเขาพาขึ้นรถ แล้วพาไปที่พัก ระหว่างทางเธอก็ เผลอหลับไปอีกครั้ง เย่ไม่เป็นก็อุ้มเธอกลับห้องด้วยตัวเอง
ทานจื่อหลับมาทั้งทาง ทันทีที่หัวของเธอสัมผัสกับหมอนนุ่มๆ เธอก็ยื่นมือออกไปกอดผ้าห่ม แล้วก็หลับไป

เย่ไม่เป็นก็เก็บคำพูดที่จะเรียกเธอไปอาบน้ำ มองหาน จื่อที่ อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้แล้วก็รู้สึกประหลาดใจ

ช่วงนี้…..เหมือนว่าเธอจะง่วงตลอดเวลาเลยนะ

บนเครื่องบินก็หลับ ขึ้นรถก็หลับ มาถึงที่พักก็ยังหลับต่ออยู่อีก งั้นเหรอ?

แต่ว่าหลังจากนั้นเย่ไม่เป็นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดซะว่าเมื่อ คืนเธอน่าจะเป็นกังวลจนนอนไม่หลับ ดังนั้นก็เลยปล่อยเธอไป หานมู่จื่อฝันร้ายอีกแล้ว ตอนที่ตื่นขึ้นมานั้นทั้งหัวใจและ

เปลือกตาของเธอก็เต้นเร็วมาก ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็เอื้อมมือไป

แตะข้างๆ ทันที แต่ว่ามันก็ว่างเปล่า

เธอก็เลยลุกขึ้น ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หา

นมจื่อย้อนกลับไปคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอรู้ว่าที่นี่เป็นที่พักที่ เย่ไม่เชินพาเธอมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อย ทานจื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็เห็นเสี้ยว

เหยียนวิดีโอคอลมาพอดี

เธอก็รับสายด้วยท่าที่ยุ่งเหยิง

“จริงๆ เลย มู่จื่อ…ที่เธอวิ่งไปไหนอีก? ทำไมเสี่ยวหมี่โต้วถึง ถูกส่งกลับมาที่บ้านเข้าขนาดนี้หะ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ