เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่971เข้าใจอย่างลึกซึ้ง



บทที่971เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ไม่สําคัญจริงๆ

มีอะไรสำคัญกว่าคนสองคนอยู่ด้วยกัน และใจอยู่ด้วยกันล่ะ?

ไม่มี ล้วนไม่มีแล้ว

หาน จื่อยิ้มอ่อนๆ “ความทรงจำเป็นแค่ข้อเพิ่มเติม ถ้าคุณ อยากฟื้นคืนความทรงจำจริงๆ งั้นฉันพาคุณกลับไป ฉันจะพาคุณ ไปที่ๆเมื่อก่อนเราเคยไปด้วยกันทุกวัน สักวันคุณต้องนึกขึ้นมาได้ แน่นอนค่ะ”

“โอเคครับ”

เสี่ยวเหยียนและพวกไม่รู้รออยู่ที่ด้านนอกนานเท่าไหร่ ด้านใน ไม่มีความเคลื่อนไหวสักที พวกที่อยู่ด้านนอกนี้ต่างก็ยอมรับอยู่ ในใจเงียบๆไว้ไม่พูดจา

ผ่านไปสักพัก เสี่ยวเหยียนจิ้มนิ้วของตัวเองด้วยความกังวล กัดริมฝีปากล่างมองดูทุกคน อยากพูดแต่ก็หยุดชะงักไว้

สุดท้าย ในที่สุดเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงเบา “เอ่อ…….เขาสองคนอยู่ด้านในจะเกิดเรื่องอะไรรึเปล่า? พวก ….จะเข้าไปดูมั้ยคะ?”

ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่ออกมาอีก เสี่ยวเหยียนรู้กเป็นห่วงจริงๆ

ทุกคนไม่ได้พูดจา เหมือนเอาแน่เอานอนไม่ได้ยังไงอย่างงั้น

เสี่ยวเหยียนได้พูดขึ้นอีก “ยังไงซะตอนนี้มีชื่อก็เป็นสตรีตั้ง ครรภ์ ฉันกลัวเธออารมณ์วาม………. เพิ่งพูดจบ หานซิงที่ยืนนิ่งไม่ขยับก็ได้ก้าวเท้าหันหลังเดินไป

ยังทิศทางของด้านในแล้ว

เสี่ยวเหยียน: ”

เขาช่างเป็นห่วงน้องสาวของตัวเองจริงๆ

แต่ว่าเธอไม่ทิ้งจื่อหรอก แค่รู้สึกอิจฉาเฉยๆ

ถ้าความเป็นห่วงที่หานซึ่งมีให้มู่จื่อสามารถแบ่งให้เธอหนึ่ง เปอร์เซ็นต์ เธอก็รู้สึกพึงพอใจมากๆแล้ว

ในขณะที่ผู้คนเตรียมตัวเข้าไป ด้านในกลับมีเสียงเท้าเดินก้อง

มา

เสี่ยวเหยียนหยุดฝีเท้า เห็นหาน จ่อกับเยโม่เซินเดินออกมา ด้วยกัน

สีหน้าของเย่ไม่เซินดีกว่าก่อนหน้านั้นเยอะเลย นาทีนี้มือได้ โอบอยู่ที่เอวของหาน จื่อ ความเยือกเย็น ในแววตาจางหายไป ไม่น้อย

เห็นทุกคนต่างก็รออยู่ที่นี่ ดูเหมือนยังมีทีท่าจะเดินเข้าไปด้าน ในด้วย หานอยิ้มให้พวกเขาอ่อนๆ พร้อมพูดเสียงเบา “วันนี้ลําบากทุกคนแล้ว พวกเรากลับกันเถอะค่ะ”

ถึงแม้ใบหน้าเธอประดับด้วยรอยยิ้ม แต่ใครก็ดูออกว่าเบ้าตา เธอแดงก่า เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของการร้องไห้

ไม่เพียงเท่านี้ ริมฝีปากก็บวมเล็กน้อยด้วย

ผู้คนต่างก็ก้มหน้าก้มตาด้วยความเก้อเขิน นาทีนี้ก็รู้ดีแก่ใจ

แล้ว

มีพริบตาหนึ่งที่เสี่ยวเหยียนรู้สึกอึ้ง ไม่นึกเลยว่าเธอยังอยาก พุ่งเข้าด้วยซ้ำ ยังดีที่ไม่ได้พุ่งเข้าไป

ถ้าหากเธออดทนไม่ไหวพุ่งเข้าไป งั้นไม่ไปขัดจังหวะเรื่องดี ของพวกเขาหรอ?

จากนั้นทุกคนได้ขึ้นรถพร้อมกัน เพราะขับรถมาสองคัน แต่เ

โม่เซินกับหานมู่จื่อจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว

เซียวซูเป็นผู้ช่วยของเย่โม่เซิน ย่อมต้องช่วยเยโม่เซ็นขับรถ อยู่แล้ว

หลังจากด้านหลังของรถฝั่งนี้นั่งลงมาสองคน ก็นั่งเพิ่มอีกสอง คนไม่ได้แล้ว

ดังนั้นหานชิงกับเสี่ยวเหยียนจึงต้องนั่งรถอีกคัน

นี่ถือเป็นโอกาสดีมากสำหรับเสี่ยวเหยียน เธอเขยิบไปที่ด้าน หลังของหานชิงอย่างกระโดดฝีเท้าถึงข้างรถ เตรียมขึ้นรถพร้อม กับเขา
เจสันที่อยู่ข้างๆเห็นภาพนี้แล้วหรี่ตาเล็กน้อย สายตามองไป ทางเซียวซูโดยที่ไม่รู้ตัว จู่ๆรู้สึกสงสารเขาขึ้นมาในทันที

เซียวซูได้ขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับแล้ว แต่สายตาอดไม่ได้ที่จะมอง ไปนอกหน้าต่าง จ้องมองเสี่ยวเหยียนกับหานซิงที่ขึ้นรถของเจสัน พร้อมกัน

เขาหลุบตาลง เก็บอารมณ์ที่แปรปรวนของสายตาไว้

จู่ๆเจสันนึกอะไรได้ เดินไปที่ข้างรถพร้อมยิ้มร้ายๆ โน้มตัวลง มาเอากุญแจรถโยนให้เซียวซู

“เพื่อนรัก อย่าบอกว่าฉันไม่ช่วยนายล่ะ ไปเถอะ เซียวซูรับกุญแจที่เขาโยนมา สายตาค่อนข้างประหลาดใจ

“ไปสิ ไขว่คว้าโอกาสไว้ดีๆ

ติ่งหูของเซียวซูร้อนผ่าวเล็กน้อย มองไปทางทั้งสองที่นั่งอยู่ เบาะนั่งหลัง “คุณชายเย่ คุณนายน้อย………..

เย่ไม่เป็นไม่อยากแสดงความคิดเห็น เขากอดหาน จื่อไว้คอย เล่นเส้นผมของเธอ หาน จื่อค่อนข้างอึดอัด เธอยิ้มแห้งๆแล้ว พูด: “เซียวซู นายอยากไปก็ไปเถอะ”

“ซิ” เจสันที่โน้มตัวอยู่ขอบกระจกรถเห็นภาพนี้แล้ว ส่ายหน้า อย่างจนปัญญาพร้อมพูดแขวะ “ถ้าไม่ใช่เพื่อช่วยเพื่อนรัก ฉันไม่ อยากขึ้นรถคันนี้มาดูคนรักสาดความหวานใส่เลยจริงๆ

นี่ยังไม่ขึ้นรถก็ถูกโชว์ความหวานใส่ เดี๋ยวตอนที่ขับรถจะไม่ไปกว่านี้หรอ?

เกรงเขาคงต้องอ้วกเพราะความหวานของสองคน

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย่ ไม่เซ็นมองเขาอย่างเย็นชาหนึ่ง แววตา นั้นแฝงด้วยแหลมคม ว่าเรื่องที่เขาได้ ได้

ຈື່ໆ

เจสันส่ายหน้าอย่างจนปัญญา เอาสายที่ขอความช่วย เหลือมองที่หานจื่อ

“สะใภ้ท่านผมเขายังโทษผมไปห้องพวกพี่แล้ว……ใครบางคนรู้สึกเจ็บใจกับเรื่องเสร็จ

พอพูดจบ เซินยิ่งหรี่ตา

ด้วยความเฉียบคม“นายอะไร”

ไม่นึกเลยว่าหมอนี่จะยุยงเขาต่อ

หานอย่อมสามารถเข้าใจอารมณ์ของเยโม่เป็นแล้ว และ

รู้ว่าเพื่อนของเขาได้ยุยง แค่หยอกล้อพวกเขาเฉยเพราะเธอไม่ได้โกรธ ยิ่งไม่พูดต่อด้วยรอยยิ้มๆ

ถึงจะเจ็บใจแล้วทำไมเพราะยังไงเรื่องนี้ถูกรู้เข้าแล้ว ต่อไปเขาอยากทำอีกทำได้แล้ว วันขอบคุณนะ ถ้าแชร์ตำแหน่งให้เซียว พวกเราไม่หาถึงนี่ ไม่ว่าจะยังไงเรื่องก็คลี่คลายแล้ว”

หานมู่จื่อยื่นมือไปหยิกเยโม่เซ็น พอพูดจบ หา

“ตอนนี้คุณยังไม่พึงพอใจอีก หรือคำพูดที่พูดอยู่ด้านในล้วน แต่หลอกฉันทั้งนั้น?”

เผชิญหน้ากับหานมู่จื่อ เย่ ไม่เซ็นรีบยอมจำนน: “เปล่า คำพูด ของเมื่อกี้พูดจากใจจริงแน่นอน แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการที่ผมรู้สึก คนๆนี้ขวางหูขวางตา อีกอย่างเมื่อคุณไม่ได้ยินหรอ เขากำลัง รังเกียจพวกเรา ให้เขาเดินกลับไปเป็นข้อเสนอที่ดีมาก

พอพูดจบ เย่ โม่เซินก็ได้ยื่นมือไปโอบเอวเธอไว้ เอาหน้ามุดลง ไปที่ซอกคอของเธอ เหมือนเด็กคอยดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวของ เธอด้วยความโลภ

หวานแหววต่อหน้าคนนอก หาน จื่อรู้สึกก็ยังรู้สึกไม่เป็น ธรรมชาติมาก เธอตบมือของเย่ไม่เป็นทิ้ง แล้วใช้มือดันหน้าผาก และผลักเขาออก “นั่งดีๆ”

เยโม่เซ็นมองเธออย่างโลภไม่รู้จักพอขึ้นรถเถอะ เตรียมตัว กลับไปแล้ว”

เจสันมองดูเย่ไม่เป็นที่พ่ายแพ้แล้วยิ้ม พร้อมเอ่ยปากพูด “พี่

สะใภ้นี่เห็นแก่ส่วนรวมจริงๆ ไม่เหมือนใครบางคน………….

เขาถือกุญแจรถไว้แล้วเปิดประตูนั่งเข้าไปที่นั่งคนขับ สตาร์ท รถไปด้วยและถอนหายใจไปด้วย

“คิดไม่ถึงว่าคนที่โสดมานานตอนนี้ก็เป็นฝ่าเป็นฝั่งแล้ว นิสัยที่มองผู้หญิงเหมือนอสรพิษอย่างนาย ฉันยังนึกว่าชาตินี้นายจะ ไม่มีทางแต่งงาน ถึงจะแต่งงาน ก็คงจะเอาผู้ชายเป็นเมียเสีย อีก?”

พอพูดจบ เจสันยังหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอย่างอารมณ์เบิกบาน เย่ไม่เป็นหน้ามืดหน้าอย่างไม่ไว้หน้า “หุบปาก”

ความทรงจําที่ผ่านมาของเขาล้วนไม่มีแล้ว ถึงแม้เขาอยาก รู้มากว่าที่ตัวเองที่ผ่านมาเป็นคนยังไง แต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดของ เจสัน รู้สึกว่าเขากำลังจงใจใส่ร้ายป้ายสีตัวเอง

เจสันมองหานมู่จื่อผ่านกระจกมองหลังหนึ่ง “พี่สะใภ้ เขาลืม อดีตไปแล้วไม่รู้เรื่อง แต่พี่สะใภ้น่าจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งอยู่มั้ง?

พอพูดจบ หานมู่จื่ออิ้ง นึกถึงตอนที่เธอเพิ่งแต่งเข้าตระกูลเ

ใหม่ๆ ตอนนั้นเธอสามารถบอกได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ในน้ำลึกไฟร้อน

ตอนนี้นึกคิดแล้วยังทอดถอนใจอย่างที่สุดเลย

ตอนนี้เธอกับเยโม่เซินเกิดความเข้าใจอันใหญ่หลวง มัน ช่าง……

คิดถึงตรงนี้แล้ว เธอคล้อยตามด้วยรอยยิ้ม: “ใช่ เข้าใจอย่าง ลึกซึ้งจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ