เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 864 กระตุ้นความทรงจำ



บทที่ 864 กระตุ้นความทรงจำ

ครุ่นคิดไปมา สุดท้ายหาน จื่อไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของเย่ไม่ เซิน ในเมื่อเขายอมให้ความห่วงใยตัวเองขนาดนี้ งั้นหล่อนก็ ควรยอมรับไว้ดีกว่า

หลังจากที่คิดได้เช่นนั้น หานมู่จื่อจึงเดินตามเย่ไม่เป็นออกไป

ทั้งสองยืนรออยู่ที่หน้าประตู มีเครื่องบินลงจอดแทบทุกนาที ผู้คนมากมายยืนอยู่ที่ประตูทางออก หาน จื่อมองดูผู้คนจำนวน มากตรงหน้า ยังรู้สึกไม่สบายใจกลัวว่าจะหาสังอานไม่เจอ

จนกระทั่งตอนที่สูงอานปรากฏตัวที่หน้าประตูทางออก หา นมู่จื่อจําหล่อนได้ทันที

สั่งอานตัวสูงใหญ่กว่าคนในกลุ่มนั้นมาก แม้ว่าจะมีอายุพอ สมควรแล้ว แต่ก็ยังมีผิวพรรณที่ดีกว่ากลุ่มคนอายุเดียวกันมาก ไม่ต้องพูดถึงคนอายุเท่ากัน ถ้าหล่อนแต่งตัวดีกว่านี้สักนิด สามารถเทียบได้กับหญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆได้เลย อีกทั้งเสน่ห์ และรูปลักษณ์ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทุกคนมี

นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หานคู่จื่อแอบทอดถอนใจ ไม่เสียชื่อที่เป็น คนของตระกูลยฉือ

สงอานสวมแว่นกันแดด เดินออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ หล่อนก็เป็นเหมือนหานคู่จื่อ เดินออกมาจากประตูทางออกก็เห็น คู่รักวัยรุ่นหญิงสาวได้อย่างชัดเจน
เพราะลักษณะพิเศษของทั้งสองคน แค่ยืนอยู่เฉยๆ ที่หน้าประตู ก็สามารถดึงดูดสายตาของคนจํานวนมากได้ ลมพัดมาจากอีก ด้านหนึ่ง เย่ โม่เซินรูปร่างสูงใหญ่บังร่างของหญิงสาวตัวเล็ก อย่างหานมู่จื่อไว้ เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางสายลม

เมื่อเห็นลูกชายของพี่สาวตัวเอง สั่งอานตกตะลึงไปทันที

หล่อนรู้สึกพิเศษกับเด็กน้อยคนนี้มาก เพราะตัวเองไม่ได้ แต่งงานมาตลอด หลังจากที่พี่สาวเสียชีวิต หล่อนก็เอ็นดูเย่ไม่ เซินเหมือนเป็นลูกชายของตนเอง

หลังจากเขาได้ยินข่าวเรื่องอุบัติเหตุทางเครื่องบินของเขา หล่อนกังวลใจและกระวนกระวายมาก แต่ร้อนใจไปก็ไม่มี ประโยชน์อะไร

เมื่อได้ข่าวว่าเขาปลอดภัยสบายดี สั่งอานก็สบายใจขึ้นมา ทันที แต่เมื่อได้ยินว่าเขารื้อฟื้นสถานะความเป็นผู้ถือเป็นขึ้นมา งอานรู้สึกสับสนขึ้นมาทันที

ตระกูลฉือ….

ถ้าเป็นไปได้ หล่อนคิดว่าทั้งชีวิตนี้ ตัวเองจะไม่กลับมาที่นี่อีก แล้ว

แต่สุดท้ายก็กัดฟันตัดสินใจ ถ้าหล่อนจะหลบไปตลอดชีวิต ถึง ตอนนั้นเย่ไม่เห็นจะทำอย่างไร? พี่สาวของหล่อนคงโกรธแค้น หล่อนมากแน่นอน

สั่งอานลังเลอยู่นานสักพัก สุดท้ายจึงตัดสินใจกลับมาอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายการหลบหนีก็ไม่ใช้วิธีแก้ไข ปัญหา

“น้าสง”

เมื่อเห็นสังอาน หานมู่จื่อรีบ โบกมือเรียก เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตัวเองอยู่ตรงนี้

สั่งอานละสายตาอันเป็นกังวลออก ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเดิน ตรงเข้าไปหาทั้งสอง

เย่ไม่เป็นก็มองตามสายตานั้นไป อันที่จริงเมื่อครู่เขาก็ถูก สะกดด้วยสายตาของผู้หญิงคนนี้ เมื่อมองไปที่หล่อนกลับสัมผัส ได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคย

แต่เมื่อมองไปอีกครั้ง ความรู้สึกเช่นนี้ก็เลือนหายไป

ตอนนี้เห็นหล่อนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของตัวเอง ถอดแว่น ดออก ทั้งๆที่หาน จื่อเป็นฝ่ายมารับเพื่อน แต่สายตาของหล่อน กลับมองมาที่เขา

เย่โม่เชินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เกิดความรู้สึกสงสัยและแปลกใจ ขึ้นมา

ในฐานะที่เป็นน้าของเขา สูงอานรู้ดีว่าสายตาคู่นั้นและใจของ เย่โม่เซินส่องสว่างเป็นประกายมากขนาดไหน ขึ้นมองต่อไป ความลับคงถูกเปิดโปงแน่นอน

ดังนั้นหล่อนจึงมองเพียงไม่กี่ครั้งก็ละสายตาออก จากนั้นก็ จ้องมองไปที่หานมู่จื่อ
“นี่ก็คือคนที่เธอเคยเล่าให้ฉันฟังเมื่อก่อน?”

“ห้ะ?” หานมู่จื่อตกตะลึงกับคำพูดของหล่อน ผ่านไปนานจึง ตั้งสติกลับมาได้ จากนั้นจึงพยักหน้าลงอย่างมึนงง “ใช่ค่ะน้าสัง

สั่งอานยิ้ม จากนั้นยื่นมือให้เย่ไม่เป็น “สวัสดีจ้ะ ฉันคือน้าขอ

งมู่จื่อ”

หาน จื่อที่ยืนอยู่ด้านข้าง: “”

คุณน้า…

การแนะนำตัวเองเช่นนี้ทำให้เยโมเงินถึงกับต้องหรี่ตาลง ดู เหมือนว่าจะมีเสียงอันอ่อนโยนบางอย่างแวบเข้ามาในหัว

“คุณน้า แม่ของผมยังไม่ตาย

เสียงและภาพเหตุการณ์แบบอย่างแวบเข้ามาในหัวอย่าง รวดเร็ว เย่ ไม่เซินยังไม่ทันจับใจความ เสียงและภาพเหล่านั้นก็ จางหายไปทันที

เย่โม่เซินยังคงยืนเหม่อลอยอยู่ คิ้วขมวดแน่นเหมือนกำลัง ครุ่นคิดบางอย่างกับตัวเองอยู่ หานมจือกับสังอานสบตามองกัน ไปมา จากนั้นหาน จื่อยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของเขา: “เป็น อะไรเหรอ?”

รู้สึกเหมือนถูกใครบางคนดึงแขนเสื้อของตัวเองอยู่ เย่ไม่เป็น ตั้งสติขึ้นมาได้ หันไปเห็นหานคู่จื่อมองมาที่ตัวเองด้วยสายตาใส ชื่อ: “มีอะไรเหรอ?”
เย่โม่เซินยังคงเลิกคิ้วขึ้น แต่ไม่นานนักก็กลับสู่สภาพปกติ ใน เมื่อเป็นน้าของมู่จื่อ งั้นก็ต้องให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

เขายื่นมือออกไปด้วยสีหน้าเย็นซา: “สวัสดีครับ ผมถือเป็น

เป็นแฟนของมู่จื่อครับ”

เขาพูดสั้นกระชับ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงสถานะและความคิด ของตัวเอง อีกทั้งยังทักทายส่งอานด้วยความเคารพให้เกียรติ

ส่งอานอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าเยโม่เป็นจะ แนะนำตัวเองได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

“น้าส่ง น้าเพิ่งลงมาจากเครื่อง คงยังไม่ได้ทานข้าว ใช่ไหมคะ? พวกเราไปทานข้าวกันก่อน แล้วค่อยช่วยน้าจองโรงแรม แบบนี้ดี ไหมคะ?”

สั่งอานพยักหน้า จากนั้นพูดขึ้น “มู่จื่อ เรียกฉันว่าน้าเลยได้ ไหม? ทุกครั้งต้องเติมชื่อแซ่ ถ้าไม่รู้คงคิดว่าเราเป็นเพื่อนบ้าน กัน”

แท้จริงแล้วสั่งอานทราบดีว่าหานคู่จื่อจงใจเรียกเช่นนี้ เพราะ ก่อนหน้านี้ทั้งสองยังไม่ได้คุยปรึกษากันดีๆ ตอนนี้หล่อนตั้งใจ เรียกแบบนี้ คงหวังให้สั่งอาช่วยเล่นละครต่อ จึงจะไม่ทำให้รู้สึก แปลกเกินไป

หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของสงอาน หานมู่จื่อแอบคิดในใจว่า ส้งอานช่างมีไหวพริบฉลาดเหลือเกิน หล่อนเพียงแค่เรียกไป เฉยๆ อีกฝ่ายกลับเข้าใจได้ และยังพูดได้เป็นธรรมชาติขนาดนี้
หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากและยิ้ม ราวกับเด็กเอาแต่ใจ

“หนูไม่เรียก หนูเรียกแบบนี้จนชินแล้ว”

ฟังบทสนทนาของสองด้วยความสนใจ จู่ๆเย่ไม่เป็นที่ยืนอยู่ ด้านข้างรู้สึกว่าตัวเองที่เป็นแฟนดูเหมือนกลายเป็นส่วนเกิน ยัง โชคดีที่คนที่เข้ามาคุยอย่างสนุกสนานกับหาน จื่อไม่ใช่ผู้ชาย

ริมฝีปากของเย่โม่เซินขยับขึ้น “เอากระเป๋ามาให้ผมเถอะ ครับ”

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปหยิบกระเป๋าเดินทางจากส้ งอาน จากนั้นเดินก้าวไปข้างหน้า เพื่อให้พื้นที่กับผู้หญิงทั้งสอง

หลังจากที่พวกเขาห่างกัน สั่งอานเขยิบเข้าไปใกล้หานคู่จื่อ พูดกระซิบ: “ไหวพริบไวมาก

หานมู่จื่อกระพริบตามองหล่อน: “น้าส่งก็เช่นกันค่ะ”

เมื่อทั้งสองทำความเข้าใจกันแล้ว สบตามองกันสักพัก สั่งอาน จึงพูดขึ้น: “ต่อจากนี้ฉันจะใช้สถานะในความเป็นน้าคอยอยู่ เคียงข้างเธอ เมื่อครู่ฉันเห็นว่าเขามีปฏิกิริยาตอบโต้บางอย่าง ตอนที่ได้ยินคำว่าคุณน้า

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าซีดเซียวเรียวเล็กของหาน จื่อจริ งจังขึ้นมาทันที “อืม หนูก็รู้สึกเหมือนกัน”

“ช่วงนี้ที่เธอคบกับเขา เขาไม่มีท่าทีจะย้อนความทรงจำขึ้นมา ได้บ้างเลยเหรอ? ”
หาน จื่อส่ายหน้า ท่าทางจนปัญญา “ดูเหมือนว่าจะมีหนึ่งครั้ง แต่นอกจากครั้งนั้นแล้ว ก็ไม่มีอีกเลย”

เห็นหล่อนทำสีหน้าเสียใจเป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ สั่งอานจึงทำได้เพียงแค่ปลอบหล่อน: “เธอก็อย่าคิดลบจนเกินไป ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว ก็ต้องปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไป

หานมู่จื่อพยักหน้า: “มู่จื่อทราบดีค่ะ”

สั่งอานหันไปมองหล่อนอีกครั้ง เทียบกันครั้งที่แล้วที่เจอ ครั้งนี้ หานคู่จื่อดูผอมลงไปมาก แม้ว่าหน้าจะแดงระเรื่อ ขอบตาไม่ดำ แต่หน้าของหล่อนตอบลงไปเยอะมาก

เมื่อมองดูถึงตอนนี้ สั่งอานจึงรู้สึกสงสารขึ้นมา

“ช่วงนี้ ลำบากเธอหน่อยนะ ต่อไปน้าจะช่วยเธอสุดความ สามารถ และรวมถึงเรื่องฝั่งฉือจินด้วย”

เมื่อพูดถึงฉือจิน สายตาอันอ่อนโยนของสั่งอานกลับเลือน หายไปทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ