เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่8สัญญาสามข้อ



บทที่8สัญญาสามข้อ

เสิ่นเฉียว เงียบไปสักพัก เธอจ้องมองไปที่คน รับใช้คนนั้น

ดูก็รู้ว่าเธอคนนั้นตั้งใจชนใส่เธอ

เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไรออกมา เธอค่อยๆยืนขึ้น

แล้วเดินออกไป

“คิดว่าตัวเองแต่งเข้าตระกูลเย่แล้วจะสูงส่ง เป็นหงส์ฟ้าอย่างนั้นหรอ? ถ้าคุณชายสองของ พวกเราไม่ชอบ เธอก็ยังเทียบกับคนรับใช้อย่าง พวกเราไม่ติดหรอก”

“นั่นนะสิ ดูจากสภาพของเธอ ฉันได้ยินมาว่า เมื่อคืนเธอโดนคุณชายสองไล่ให้ไปนอนนอก ห้องด้วยล่ะ ถ้าฉันเป็นเธอละก็ฉันคงจะเก็บ กระเป๋าออกจากที่นี่แล้วกลับบ้านไปแล้ว อยู่ที่นี่ ต่อก็อับอายขายขี้หน้าตัวเองเปล่าๆ”

“ผู้หญิงแบบนี้จะรู้จักคำว่าอับอายขายขี้หน้า รึเปล่า? ในสายตาของพวกเธอคงมีแต่เงินนี่ แหละ!”

เมื่อเดินออกมาไกลจากพวกคนรับใช้ เธอก็ ไม่ได้ยินคำนินทาจากพวกเธอแล้ว สีหน้าของ เสิ่นเฉียวขาวซีดจนดูน่ากลัว เธอเอามือจับไปที่ หน้าอกแล้วค่อยๆนั่งยองอยู่ที่ประตู
ทำไมกัน?

ทำไมเธอต้องมาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้ ด้วย? เป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่เคยหย่าอย่าง นั่นหรอ?

เสิ่นเฉียวเอาหน้าซุกเข้าไปในเข่า คำพูด นินทาของคนรับใช้เหล่านั้นแว่วเข้ามาในหูของ เธอ เธอนึกถึงภาพที่เธอพึ่งหย่าแล้วกลับมาที่ บ้าน แต่เธอกลับโดนพ่อแม่บังคับให้แต่งงานใหม่ อีกทั้งเรื่องในคืนนั้น….

อยู่ๆก็เริ่มรู้สึกไม่สบายท้อง เสิ่นเฉียวเงยหน้า ขึ้นมาทันที

ไม่ ไม่ได้นะ!

วันพรุ่งนี้เธอจะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล เธอจะท้องไม่ได้ ไม่ได้นะ!

เมื่อเสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้น ประตูห้องก็ถูกเปิด ออกพอดี เซียวซู่เข็น เย่โม่เซินเข้ามาในห้องพอดี เสิ่นเฉียวได้ยินเสียงจึงเงยหน้าขึ้นไปมองเขา

เยโม่เซินเหลือบไปมองเธอ ภาพของน้ำตาที่ อยู่ในดวงตาอันงดงามคู่นั้นของเสิ่นเฉียวได้ สะท้อนเข้าไปในตาของเขา ราวกับเป็นหินก้อน เล็กๆ ก้อนหนึ่งที่ถูกโยนลงไปในผิวน้ำของ ทะเลสาบที่นิ่งสงบ ทำให้เกิดคลื่นน้ำเป็นวงค่อยๆกระจายเป็นวงกว้างออกไป

หน้าตาของเสิ่นเฉียว ไม่ขี้เหร่ แต่กลับ สวยงามมาก โครงหน้าของเธอสวยกำลังดี ขนตายาวเป็นแพสวย ดวงตาของเธอใสราวกับ น้ำบริสุทธิ์ ราวกับว่าจิตวิญญาณทั้งหมดได้รวม อยู่ในดวงตาคู่นั้น

แต่ทว่า น้ำบริสุทธิ์นี้น่าจะเป็นน้ำที่เยือกเย็น

ปกติแล้วในแววตาของเธอจะส่งความรู้สึกที่ เย็นชาบางอย่าง ไม่มีเสน่ห์ของผู้หญิงแม้แต่น้อย

แต่ในตอนนี้ขนตาอันเรียวยาวของเธอเลอะ หยดน้ำตาอยู่ เบ้าตาที่แดงก่ำ ทำให้เธอแลดูเป็น ผู้หญิงที่อ่อนแอ

ร่างกายเล็กๆของเธอนั่งขดตัวเป็นก้อนเล็กๆ อยู่ตรงนั้น มันทำให้เขาอดที่จะรู้สึกเจ็บปวดแทน เธอไม่ได้

ทั้งสองคนจ้องมองกันแต่ไม่มีคำพูดใดใด

สักพักก็มีเสียงเล็กๆของเสิ่นเฉียว ดังขึ้นมา “คุณ คุณจะออกไปหรอ?”

เสียงของเธอแหบแห้งและอู้อี้ เย่โม่เซินเม้มปากแล้วพยักหน้าตอบ “อืม”

“อืม”เสิ่นเฉียว ไม่พูดอะไรออกมาอีก เธอก้มหน้า ลง จ้องมองไปที่ปลายเท้าของตัวเองอย่างเหม่อ ลอย

เย่โม่เซินจ้องมองเธอ แววตาของเขานิ่งสงบ

ลง

“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าอย่ามาทำตัว อับอายขายขี้หน้าที่นี่ไม่ใช่หรอ?”

เมื่อฟังจบ เสิ่นเฉียวค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้ว มองไปที่เขา “แต่ว่า เราสองคนก็คุยกันแล้วนี่ คุณเองก็ตอบตกลงกับฉันแล้วไม่ใช่หรอ?”

“หี” เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันเคย ตอบตกลงงั้นหรอ? ตอนไหน?”

อยู่ๆเสิ่นเฉียว ก็พูดไม่ออก เหมือนกับว่า เขา จะยังไม่ได้ตอบตกลงเธอจริงๆ ในคืนนั้นเขาออก จากห้องไปแต่ไม่ได้ตอบอะไรเธอ

ดังนั้น เธอเข้าใจผิดมาตลอดสินะ? เมื่อนึกถึงจุดนี้ เธอก็ก้มหน้าลง กัดริมฝีปาก ล่างแน่น

ทันใดนั้น

“ก่อนที่ฉันจะหาผู้หญิงคนนั้นเจอ ฉันจะให้ เธออยู่ที่นี่ต่อก็ได้ แต่เราสองคนต้องทำสัญญา กันสามข้อ”
เสิ่นเฉียว รีบเงยหน้าขึ้น “หาใครหรอ?” แววตาของเย่โม่เซินแลดูมืดมนจนน่ากลัว “อะไรที่ไม่ควรถามก็อย่าถามจะดีกว่า”

เสิ่นเฉียว ก้มหน้าลงอีกครั้ง ใช่แล้ว เขาจะ ตามหาใคร มันจะไปเกี่ยวอะไรกับเธอ? เธอจะ ถามเรื่องพวกนี้ไปทำไมกัน ระหว่างพวกเธอสอง คนก็ใช้คำว่าสามีภรรยาแค่ชื่อเฉยๆ

ขอเพียงแค่เธอได้อยู่ที่นี่ต่อก็เพียงพอ

“โอเค คุณว่ายังไงก็เอาอย่างนั้น” เสิ่นเฉียว พูดด้วยเสียงอันทุ้มต่ำ

“เตียงเป็นของฉัน ส่วนเธอจะนอนตรงไหนก็

ไปคิดเอาเอง”

“ข้าวของของเธอให้ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง ตลอด ห้ามเอามาวางไว้ในตู้ของฉัน”

“ห้ามมาแตะต้องตัวฉัน” อึม ไม่ให้นอนบนเตียงก็ปูเสื่อนอน

ก็ได้ ข้าวของไม่ให้ไว้ในตู้ของเขา งั้นเธอซื้อตู้ใหม่ มาอีกใบก็ได้

ห้ามแตะต้องตัวเขา?

เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาที่ ประหลาดใจ ใครจะไปอยากแตะต้องตัวเขากัน?
ถึงแม้ว่าเย่โม่เซินจะหน้าตาดี แต่เธอเสิ่น เฉียว ไม่ใช่ผู้หญิงที่กระหายอยากผู้ชายสักกัน หน่อย

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวก็ตอบตกลงอย่าง สบายใจ “ได้ ฉันตกลงค่ะ”

“เซียวซู่”

“ครับ”

“ไปกันเถอะ”

เซียวซูเข็น เย่โม่เซินออกไป

เธอได้ตกลงกฎสามข้อกับเย่โม่เซินแล้ว นั่น หมายความว่าเธอก็สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้แล้วสินะ

เสิ่นเฉียว ยืนขึ้นแล้วเดินไปลากกระเป๋า สัมภาระเข้ามาในห้อง

วันที่สอง หลังจากที่เสิ่นเฉียวตื่นขึ้นมา เธอ สวมชุดที่ดูเรียบตาที่สุด จากนั้นใส่หมวกแล้ว ออกจากบ้าน

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูบ้าน ก็เจอกับเย่หลิ่ นหานที่กำลังจะขับรถไปบริษัท

“เสิ่นเฉียว? จะไปบริษัทหา โม่เซินหรอครับ? ให้ผมไปส่งคุณมั้ยครับ?”

เสิ่นเฉียวนึกไม่ถึงว่าจะเจอกับเขา พอนึกถึงที่ที่เธอจะไป เธอก็รีบส่ายหัวแล้วพูด “ขอบคุณพี่ ชายมากค่ะ แต่ฉันไม่ได้ไปบริษัทค่ะ”

“งั้นหรอครับ? งั้นคุณจะไปไหนล่ะ? เดี๋ยวผม ไปส่ง”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ชาย ที่ที่ฉันจะไปมันคนละ ทางกับบริษัท ไม่ใช่ทางเดียวกันค่ะ”

“โอเคครับ คุณระวังตัวด้วยนะครับ”

เสิ่นเฉียวเดินมาตั้งนานกว่าจะมาถึงถนนใหญ่ เธอขึ้นมาบนรถเมล์จากนั้นก็สวมใส่ผ้าปิดปาก

เธอรู้สึกผิดและกลัวมาก

เมื่อวานหลังจากที่เธอเห็นผลตรวจ มันทำให้ เธอเครียดมาก เมื่อคืนเธอจึงนอนไม่สนิททั้งคืน

หวังว่าผลตรวจจะออกมาผิดพลาด

หลังจากที่เธอเดินทางมาถึงโรงพยาบาล เสิ่น เฉียวก็ไปกดบัตรคิวแล้วรอนั่งคิว คนรอบๆตัวเธอ ต่างมองเธอด้วยสายตาที่น่าสงสัย

เสิ่นเฉียว ไอออกมาเบาๆหนึ่งที เธอหยิบเอา แว่นตาในกระเป๋ามาสวมใส่

คนรอบตัวเธอยิ่งพากันมองเธอด้วยความน่า สงสัยมากขึ้นไปอีก

ลองจินตนาการดู ผู้หญิงคนหนึ่งมาแผนกสูตินรีเวชคนเดียว แต่งตัวประหลาด อีกทั้งสวม หมวกสวมผ้าปิดปาก สวมแว่นตา ราวกับว่าไม่ ต้องการให้ใครรู้ตัวตนของเธอ

เสิ่นเฉียวยิ่งนึกก็ยิ่งก้มหัวต่ำลง การกระทำ เช่นนี้ของเธอทำให้เธอดูโดดเด่น ยิ่งทำแบบนี้ก็ ยิ่งดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย

ในที่สุดก็ถึงคิวพบหมอของเธอ หมอมองเห็น คนที่อยู่ตรงหน้าปิดบังใบหน้ามิดชิดโผล่ให้เห็น แค่ดวงตา หมอก็คิ้วขมวดแล้วถาม “คุณมาที่นี่ทำ อะไร? ตรวจหรอ?”

เสิ่นเฉียว ไอเบาๆออกมา จากนั้นก็ผ้าปิดปาก ออก “หมอคะ ฉันมาตรวจค่ะ”

“ทำไมต้องทำตัวลึกลับขนาดนี้ ..ให้คนอื่น เห็นหน้าไม่ได้หรอ?” หมอถามต่อ จากนั้นเขาก็ หรี่ตามองดูเธอ “ทำอาชีพแบบนั้นหรอ?”

เมื่อฟังจบ เสิ่นเฉียวก็อึ้งไปสักพัก เธอยังคง ไม่ได้ตอบ “หา?”

“หมอถามว่าเธอทำอาชีพแบบนั้นรึเปล่า? นี่ก็ ฟังไม่รู้เรื่องรีไง?”

เสิ่นเฉียว ทำท่านึก ค่อยๆดึงสติกลับมา “คุณ หมอคะ ฉัน…”

“ท้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจสินะ? อย่างนั้นคงต้องทำแท้งนะ” หมอถอนหายใจออกมา “พวกเธอนี่ นะ ทำไมไม่รักร่างกายตัวเองให้มากๆ? เมื่อวานก็ มีคนที่อาชีพเดียวกับเธอมาหาหมอ เธอพลาด ท้องมาห้าหกรอบแล้ว ในชีวิตนี้คิดจะทำแท้งไปี รอบกัน? ไม่กลัวร่างกายจะทนไม่ไหวหรอ?”

“ฉันไม่ใช่….” เสิ่นเฉียวอยากจะอธิบายว่า เธอไม่ได้ทำอาชีพนั้น แต่เมื่อเธอกำลังจะเปิด ปากพูดก็มีชายชุดดำพุ่งเข้ามาในห้อง คนที่อยู่ ในห้องต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เมื่อมีคนเข้ามา เสิ่นเฉียวก็รีบเอาผ้าปิดปาก มาใส่ทันที จากนั้นลุกขึ้นค่อยๆแอบเดินออกจาก ห้อง

“ยืนหยุดอยู่กับที่เดี่ยวนี้”

ใครจะไปรู้ว่ากลุ่มคนที่พุ่งเข้ามาในห้องเหล่า นั้นจะมุ่งตรงเดินมาหาเธอ เห็นว่าเธอกำลังจะเดิน ออกจากห้องก็รีบมาขวางทางเธอเอาไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ