เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่214 ไม่อยากหลอกลวงเธอ



บทที่214 ไม่อยากหลอกลวงเธอ

“ไม่เกี่ยวกับฉันงั้นหรอ? ”

หลังจากที่เธอพูดประโยคนี้ออกมา เย่หลิ่นหานก็ ตะลึงไปในทันที ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะพูดอะไรที่ ทำร้ายจิตใจเขาขนาดนี้

” เฉียวเฉียว เธอลองคิดดูดีๆ อีกทีนะ ประโยคเมื่อ ก็ที่เธอพูดออกมามันเป็นสิ่งที่เธอคิดจริงๆ รึเปล่า? “เย่ หลิ่นหานคว้าข้อมือของเธอไว้ พลางไล่ถามต่ออย่างไม่ ยอมแพ้

เสิ่นเฉียวเงยหน้ามองเขา “พี่ใหญ่ ก่อนหน้านี้ฉัน ก็เคยบอกพี่แล้ว ว่าระหว่างพวกเรามันเป็นไปไม่ได้ ทำไมพี่ยังไม่ยอมแพ้? แล้วอีกอย่างฉันกับโม่เซินก็เป็น สามีภรรยากัน เขาจะทำยังไงกับฉัน และฉันจะรู้สึกยังไง มันก็เป็นเรื่องของฉัน”

เย่หลิ่นหาน : “.

“เขาทำกับเธอแบบนั้น เธอไม่สนใจจริงๆ หรอ? ไม่ว่าเขาจะทำให้เธออับอายหรือหลอกใช้เธอ เธอก็ไม่ แคร์งั้นหรอ? เสิ่นเฉียว ทำไมเธอถึงได้โง่แบบนี้? ”

เสื่นเฉียวเม้มปากไม่พูดอะไร เย่หลิ่นหานไม่ พอใจ ก้าวขึ้นไปด้านหน้าแล้วกอดเธอเอาไว้

“เธอมาอยู่ข้างฉันเถอะ ฉันจะมอบความสุขที่เธอ ต้องการ ฉันจะดีกับเธอมากกว่าที่โม่เซินทำพันเท่าหมื่น เท่า”
“เหอะ”

หลังจากพูดจบ เย่หลิ่นหานก็ได้ยินเสียงหัวเราะ

เยาะ

เขาถอยออกมาอย่างประหลาดใจ หลังจากนั้นก็ เห็นรอยยิ้มที่ถากถางบนใบหน้าของเฉินเฉียว

“พี่ใหญ่เอาแต่พูดว่าอยากทำดีกับฉัน บอกว่าเย่ โม่เซินหลอกใช้ฉันและทำให้ฉันอับอาย ถ้าลองเอามา เทียบกันดูแล้ว พี่ใหญ่พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ไง? ”

เย่หลิ่นหานตะลึง “เธอพูดอะไร? ”

สีหน้าของเสิ่นเฉียวสงบนิ่ง ดึงมือของตัวเองกลับ มา “ฉันพูดผิดหรอ? ไม่ว่าเย่โม่เซินจะทำยังไง หรือพูด อะไร ฉันก็เป็นแค่เหยื่อระหว่างการต่อสู้ของพวกคุณ สองพี่น้องเท่านั้น”

เย่หลิ่นหานขมวดคิ้วแน่น “เธอคิดแบบนี้ได้ยัง ไง? ”

“ไม่ใช่ว่าทำไมฉันถึงคิดแบบนี้ แต่ว่ามันคือความ จริง ยังจำตอนที่ฉันพึ่งแต่งงานเข้าตระกูลเย่ไม่นานแล้ว นายท่านเรียกฉันไปได้มั้ย? ตอนนั้นพี่ใหญ่เองก็อยู่ใช่ มั้ย? ความหมายของนายท่านก็คือให้ฉันเฝ้าติดตามการ เคลื่อนไหวของโม่เซินอย่างใกล้ชิด การแต่งงานครั้งนี้ก็ เพราะว่าพวกคุณพยายามหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ฉัน ได้อยู่ข้างๆ เย่โม่เซินเพื่อเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าพวกคุณไม่ได้คิดว่า ฉันไม่ได้มีไว้ให้พวกคุณใช้เพราะฉะนั้น….พี่ก็เลยเปลี่ยนกลยุทธ์ นึกว่าถ้าเกิดว่าดี กับฉัน อ่อนโยนกับฉันแล้วฉันก็จะรับใช้พี่ ใช่มั้ยเย่หลี่ นหาน ?”

ประโยคนี้เธอพูดอย่างมีพลัง ถึงแม้ว่าเสียงของ เธอจะนุ่มนวลและบางเบา แต่ว่ามันเหมือนกับก้อนหิน ตกลงในหัวใจของเย่หลิ่นหาน เหมือนกับว่าตบหน้าเขา

เย่หลิ่นหานมองไปที่เสิ่นเฉียวที่มีสายตาเย็นชา และชัดเจนสดใส ริมฝีปากเขาขยับแต่ก็พูดอะไรไม่ออก เป็นเวลานาน

“ดูเหมือนว่าฉันน่าจะพูดสินะ” รอยยิ้มของเสิ่น เฉียวเปลี่ยนเป็นเยาะเย้ยมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็ เอื้อมมือไปกดลิฟต์

ก่อนที่เธอจะกดลิฟต์นั้น เย่หลินหานก็กดนิ้วของ เธอไว้ หลังจากนั้นก็มีเสียงที่เหนื่อยล้าดึงขึ้นมาด้าน หลังหูของเธอ

“ใช่ เธอวิเคราะห์ได้ไม่ผิดเลย เริ่มแรกฉันก็เข้า ใกล้เธอเพราะว่ามีเป้าหมายนี้ แต่ว่าพอเวลาผ่านไปฉัน กลับรู้ว่า ฉันไม่สามารถควบคุมความรักความห่วงใยที่ มีต่อเธอได้ เสิ่นเฉียว ฉันได้หักหลังความตั้งใจเดิมของ ฉัน ตอนนี้ในใจของเย่หลิ่นหานเต็มไปด้วยความชอบที่ บริสุทธิ์ใจเท่านั้น นอกจากเรื่องนี้ ก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว”

เขากล่าวออกมาด้วยความรัก ใครฟังก็ต้องรู้สึก ซาบซึ้งกันทั้งนั้น

แต่ว่าเสิ่นเฉียวกลับรู้สึกว่าเขาแค่แสดงละครเท่านั้นเอง เธอยกริมฝีปากแล้วพูดว่า “ประโยคที่น่าฟัง ใครกันบ้างล่ะที่พูดไม่ได้? ในเมื่อพี่รู้สถานะของฉันแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ใช่แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ธรรมดาๆ พวก เปลือกเคลือบน้ำตาลอะไรนี่ไม่ได้มีผลกับฉันหรอกนะ”

หลังจากพูดจบ เสิ่นเฉียวก็สะบัดมือของเขาออก หลังจากนั้นก็กดลิฟต์ชั้นที่ใกล้ที่สุด พอลิฟต์ถึงชั้นนั้น เธอก็รีบเดินออกไปทันที

“เธอไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไรหรอก! ” เย่หลิ่นหาน เห็นว่าเธอกำลังจะไป ก็พูดออกมาอย่างร้อนรน “แต่ว่า ตอนนี้ฉันชอบเธอจริงๆ ฉันยอมให้เวลาเธอ! ฉันจะรอวัน ที่เธอเข้าใจหัวใจของฉัน แต่ว่าก่อนจะถึงวันนั้นเธอ รับปากฉันหน่อยได้มั้ย ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ให้โม่ เซินหลอกใช้เธอและทำให้เธออัปยศอดสู? ”

พอได้ยินดังนั้น เฉินเฉียวก็หยุดเดิน แล้วก็หัน กลับไปมองเขา

“ที่พี่ใหญ่คิดว่ามันคือความอัปยศเพราะว่าพี่ยัง ไม่เปลี่ยนความคิดให้มันดี แต่ว่าพี่เคยคิดมั้ยว่าฉันชอบ เยโม่เซิน? เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นการหลอกใช้ ฉัน ก็ เต็มใจ”

“เธอพูดอะไรนะ? เธอชอบโม่เซิน? ”

“ใช่ไง” เสิ่นเฉียวยักหน้า “ฉันชอบเขา เพราะ ฉะนั้นฉันก็เลยอยากจะทำแบบนี้ และมันก็เป็นเรื่องของ ฉัน หวังว่าพี่ใหญ่จะไม่มายุ่งเรื่องของฉันอีก สำหรับเงิน ที่พี่ให้แม่ฉัน3แสนนั้น ฉันจะหาทางใช้คืนให้เร็วที่สุดพร้อมกับดอกเบี้ย”

หลังจากพูดจบ เสิ่นเฉียวก็ไม่อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป เดินออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้เย่หลิ่นหานได้ พูดอะไรอีก

เย่หลิ่นหานยังคงยืนอยู่ที่เดิมคนเดียว สายตา มองไปที่ร่างเล็กที่กำลังเดินออกจากลิฟต์ด้วยความเศร้า

ใจ

ดึ้ง–

พอประตูลิฟต์ปิดลงอีกครั้ง สายตาของเย่หลี นหานก็จมดื่มลง เหมือนกับทะเลลึกยังไงยังงั้น

*

เดิมที่เสิ่นเฉียวก็แค่อยากจะออกมาเท่านั้นเอง ใครจะไปรู้ว่าจะมาถึงแผนกการเงินพอดี ตอนที่เดินออก มานั้นก็ได้เจอกับเสี่ยวเหยียนที่พึ่งเดินออกมาจากห้อง พักเบรก เมื่อทั้งสองคนสบตากันในอากาศ ทั้งคู่ก็ต่างอึ้ง ไป หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็เป็นคนคลี่ยิ้มออกมาก่อน

“เฉียวเฉียว เธอมาหาฉันหรอ? ”

“เอ่อ….” เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากของตัวเองอย่าง เก้อเขิน ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามของเธอยังไงดี

เธอสามารถตอบได้มั้ยว่าเธอบังเอิญมาที่แผนก การเงินโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ?

พอเห็นว่าเธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เสี่ยวเหยียนก็ วางแก้วในมือลงแล้วก็วิ่งเข้าไปหาเธออย่างตื่นเต้นหลังจากนั้นก็กอดเธอไว้ “ดีจังเลย ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอ ไม่มีทางไม่สนใจฉันอย่างโหดร้ายได้หรอก เฉียวเฉียว ฉันดีใจจังเลย”

เสิ่นเฉียว : “.”

จิตใจที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เช่นนี้ เสิ่นเฉียวทน ไม่ได้ที่จะทำลายมัน ก็เลยได้แต่พยักหน้า

” เฉียวเฉียว หลายวันมานี้เธอไม่สนใจฉันเลย ฉัน ก็นึกว่าต่อจากนี้ไปพวกเราจะไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อีกแล้ว ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาหาฉันวันนี้ ใช่สิ เดี๋ยวฉันจะ ไปเธอไปตรงนั้น ฉันซื้อของขวัญมาให้เธอด้วย”

หลังจากพูดจบเสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้สนใจท่าที ของเธอแล้วก็ลากเธอไปที่อาณาบริเวณของตัวเองทันที เสิ่นเฉียวรู้สึกไม่มีทางเลี่ยง ก็ได้แต่เดินตามเธอไป

สุดท้ายเสี่ยวเหยียนก็ยื่นถุงหนึ่งใส่มือของเธอ “ฉันรู้ว่าฉันใจร้อนเกินไปหน่อย ฉันไม่ควรจะไปพูดมั่วๆ กับเธอโดยที่ไม่มีหลักฐาน แต่ว่า….ฉันก็หวังดีกับเธอ ฉันไปซื้อสิ่งนี้ที่ห้างเพราะจะเอามาชดใช้ให้เธอ แต่ฉัน กลัวว่าเธอจะไม่สนใจฉัน ฉันก็เลยไม่ได้ไปหาเธอเลย”

เสิ่นเฉียวกัมหน้าแกะกล่องออก และก็พบกับเข็ม กลัดที่ประณีตและสวยงาม

แปลกประหลาด เธอรู้สึกเริ่มแสบจมูก ดวงตาก็ เริ่มเปียกชั้น

เสี่ยวเหยียนปฏิบัติต่อเธออย่างจริงใจขนาดนี้ แต่ ว่าช่วงนี้เธอกลับ…..ไม่เคยคิดว่าอยากจะคุยกับเธอเลยไม่ผิด ที่จริงแล้วเธอถือสา เธอแม้แต่รู้สึกว่าเธอไม่อยาก จะได้เพื่อนที่ชอบวิจารณ์เหมือนกับเสี่ยวเหยียน

เธอกับหานเส่โยวเป็นพี่น้องที่ดีกันมาหลายปี มัน ไม่สามารถทำลายได้แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำ เพราะ ฉะนั้นเธอก็เลยเลือกเสีโยวอย่างโหดร้าย แต่ไม่คิด เลยว่าเสี่ยวเหยียนจะรอเธอมาโดยตลอด

พอคิดแบบนี้ เสิ่นเฉียวก็หายใจเข้าลึกๆ

“หา? เธอร้องไห้หรอ? ” เสี่ยวเหยียนพึ่งเห็นว่า ตาเธอแดง ทันใดนั้นก็เครียดขึ้นมาทันที “ขอโทษด้วย นะ ฉันพูดอะไรผิดไปรึเปล่า? ”

เสิ่นเฉียวมองหน้าเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ พูด อย่างสะอื้นว่า “ที่จริงแล้ว ….วันนี้ฉันมาที่แผนกการเงิน โดยบังเอิญ ฉัน.ไม่อยากจะหลอกลวงเธอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ