เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 894 ผมมัดเงื่อนตายไว้



บทที่ 894 ผมมัดเงื่อนตายไว้

เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ทุกคนก็รู้โดยปริยายแล้ว

ฉือจีนเงียบไปพักหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “หยุโป นายรีบนำคนไป หาบริเวณใกล้ๆ ถ้าไม่พบ ให้หาไกลขึ้นไปอีก ยังไงก็ต้องหาให้ เจอ”

หยูโป พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

รับทราบครับนายท่าน จะรีบไปเดี๋ยวนี้

หยูโปเดินออกไปแล้ว สั่งอานไม่วางใจที่จะรอตรงนี้ ก็เตรียม ตัวจะออกตามไป แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านฉือจีนก็ถูกเรียกตัว

ไว้

“เธอเพิ่งมาที่นี่ ลำพังเธอหาเขาไม่เจอหรอก”

ฟังดังนั้นส่งอานก็หยุดเดิน หันไปมองฉือจีนด้วยสายตาเย็น

“แล้วไงล่ะ”

“กลับบ้านไปกับผมเถอะ หนูโปส่งคนไปหาแล้วเดี๋ยวก็ได้ข่าว คราวแหละ”

ส่งอานปฏิเสธโดยไม่คิด พูดอย่างเฉยชาว่า “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้ใจเย็นเหมือนคนแก่อย่างคุณ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยัง ใจเย็นนั่งรอฟังข่าวได้
ยู อจิน ..……

คิดไม่ถึงว่าเธอจะปฏิเสธความหวังดีของตน ลูกสาวเกลียด เขาขนาดไหนเขารู้ดีมาตลอด แต่วันนี้เจอเธอปฏิบัติแบบนี้กับ เขา ในหัวใจคนเป็นพ่อ ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี

ตอนนี้สั่งอานคิดถึงแค่คู่จื่อเท่านั้น เขาออกมากับตน แถมยัง พลอยต้องมาซวยเพราะเรื่องของตน ถ้าหากคราวนี้เกิดอะไรขึ้น กับเธอ ตนต้านทานไม่ได้แน่ๆ

พอนึกถึงผู้หญิงร่างกายอ่อนแอและกำลังตั้งท้อง สั่งอานก็ยิ่ง ร้อนใจและพูดตะคอกเสียงดัง

“สรุปคือ ถ้าหากเธอและลูกของเธอเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว ตระกูลเฉือต้องโดนชดใช้อย่างสาสม

พูดจบสั่งอานก็ก้าวยาวๆออกไป

ในขณะที่เยโม่เซนโทรเข้ามาอีกครั้ง สั่งอานรับสายอย่างไม่ ลังเล

“มู่จื่อเหรอ”

เสียงสูขุมของผู้ชายที่ดังมาจากอีกด้านหนึ่งทำให้สั่งอานข มวดคิ้วและพูดเสียงเบา “ฉันเอง”

เสียงอีกฝั่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงโม่เป็นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “คุณน้าสั่งมือถือของมู่จื่อมาอยู่ที่คุณได้ยังไงครับ

“เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ…”
สั่งอานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เยโม่เป็นฟังคร่าวๆ จนมั่นใจ ว่าอีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจแล้ว จึงพูดต่อว่า “ขอโทษจริงๆนะ ไม่คิดว่า จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะความแค้นส่วนตัวของฉัน จึง……

เดิมที่สั่งอ่านก็ลังเลว่าจะบอกเรื่องตนเองกับตระกูลยถือดีไหม แต่ไหนๆก็ถึงขั้นนี้แล้วจะไม่เล่าก็ไม่ได้แล้ว ดังนั้นพอพูดถึงตระ กูลยคือเธอจึงบอกแค่ว่าเมื่อก่อนเคยบาดหมางกับตระกูลนี้ แต่ ไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดออกมา

ทีแรกสั่งอานคิดว่าเขาจะถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับตระกูล ฉือ แต่ไม่เดินกลับไม่ถาม

“ผมทราบแล้ว ผมจะรีบส่งคนออกไปตามหาครับ หลังจากวางสายเย่ไม่เป็นก็รีบโทรหาเฉียวซื้อ

ในเวลานี้ เฉียวซื้อกำลังทานข้าวอยู่กับหลัว เพราะว่าเขาทำ ตามสัญญาที่ให้ไว้ เดือนนี้ทั้งเดือนเขาต้องเลี้ยงข้าวหลัวทุก ครั้ง

พอของที่สั่งมาเสิร์ฟ มือถือของเฉียวซื้อก็ดังขึ้นพอดี เขาเห็นว่าเป็นสายจากเย่ ไม่เซินจึงรีบรับสายทันที

“วันนี้ลมอะไรพัดมา นายถึงได้…… แต่แล้วเฉียวจื้อไม่ทันพูดจบก็ถูกอีกฝ่ายนึงซึ่งพูดก่อน

ได้ฟังดังนั้น สีหน้าของเขาก็แย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็แย่จนดู

ไม่ได้
หลัวที่นั่งอยู่ด้านข้าง สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ” ได้ยินเสียงหลัวลี่ เขาถึงจะตั้งสติได้ เมื่อนึกถึงเรื่องที่ต้องไปทำ

เขาก็รู้สึกผิดทางแววตา “ขอโทษด้วย วันนี้ทานเป็นเพื่อนไม่ได้

แล้ว แต่อาหารก็มาครบแล้ว คุณอยากทานอะไรอีกก็สั่งเพิ่มได้

เลย ลงบัญชีผมไว้ละกัน”

แต่คิดไม่ถึงว่าหลัวจะวางตะเกียบลง “คุณยังไม่บอกฉันเลย ว่าเกิดอะไรขึ้น รุนแรงไหม”

พอพูดถึงเรื่องนี้ หน้าตาของเฉียวซื้อก็เพิ่มความโกรธขึ้น “ใช่ เรื่องนี้ร้ายแรงมาก ผมต้องรีบไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ พูดจบเฉียวจื้อก็ลุกขึ้น

หลัวเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นตาม “ฉันจะไปกับคุณด้วย

เห็นคนอื่นลุกลนขนาดนี้ จะให้เธอนั่งทานอาหารอยู่ก็รู้สึกไม่ ได้ ถึงแม้หลัวลี่จะเป็นคนห่วงการกินมาก แต่หลายๆเรื่องเธอก็ เข้าใจ

“ต๊ะ”เฉียวจื้อรู้สึกงงงวย คุณจะไปกับผมเหรอ”

“ใช่ หนึ่งคนก็เพิ่มหนึ่งแรงนะ ให้ฉันไปเถอะ อย่ามองว่าฉัน เป็นผู้หญิงเลย หลายๆเรื่องฉันก็พอจะช่วยได้นะ”

เฉียวจื้อ “…..แล้วอาหารเธอไม่กินแล้วเหรอ”

“ไม่กินแล้ว ช่วยคุณสำคัญกว่า ฉันก็ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจนะ
เมื่อมองไปที่ใบหน้าจริงจังของเธอ แล้วคิดถึงความสัมพันธ์ ของเธอกับพี่สะใภ้ เฉียว อคิดว่าพาหล่อนไปด้วยก็ไม่เป็นไร ครุ่นคิดครู่นึงเฉียวจื้อก็พยักหน้า “งั้นได้ พวกเราไปด้วยกัน แต่ ว่าถ้าเจอเหตุการณ์ที่อันตราย คุณต้องอยู่ห่างๆนะ

มีอันตรายเหรอ หลวคิดแล้วก็พูดว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉัน

วิ่งหนีเก่งเกินใครล่ะ เฉียวอยิ้มเจื่อนๆ “พูดยังกะคุณวิ่งหนีบ่อยอย่างนั้นแหละ

“ใครบอกว่าไม่ใช่ละหลัวแย้งขึ้นมา

“อะไรนะ”

หลัวลื่นึกได้ว่าตัวเองพูดผิดจึงรีบอธิบาย พูดไปอย่างนั้น แหละ ไหนว่าจะไป เร็วๆ ชักช้าอยู่ได้”

ทั้งสองเดินออกจากร้านพร้อมกัน พอออกจากห้องวีไอพี พนักงานก็เรียกพวกเขา “คุณชายเฉียว ……

“เรามีธุระต้องรีบไป ลงบัญชีผมไว้ อาหารบนโต๊ะทุกคนก็แบ่ง

กันกินได้เลย”

พนักงานงุนงงแล้วก็ยิ้มตามมา “ขอบคุณครับคุณชายเฉียว

เจ็บ……..

หานมู่จื่อรู้สึกตัวแล้วก็รู้สึกเจ็บที่ท้ายทอย อยากจะเงยหน้าไป จับท้ายทอยดูแต่ปรากฏว่าขยับมือไม่ได้
เธอขยับไปมา แต่พบว่ามือของตนเองถูกมัดไว้ หาน จื่อ

พยายามลืมตาขึ้นมา ภาพที่เธอเห็นเป็นสถานที่แปลกตาที่หนึ่ง ตอนนี้เธอนอนอยู่บนพื้น มือและเท้าถูกมัดไว้แน่น ขยับเขยื้อน ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

ความทรงจำในสมองผุดขึ้นมาเหมือนน้ำหลาก ในที่สุดเธอก็ สามารถเรียบเรียงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นได้ เธอไปกินข้าวกับ งอาน ระหว่างนั้นไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาก็เจอพวกที่จะเชิญ เขาไปเป็นแขกในช่วงเช้า พอเธอกำลังจะพูดก็โดนตีจนหมดสติ ไป

เธอโดนลักพาตัวเหรอ

หานคู่จื่อโล่งใจไปนิดหน่อย ถ้าเป็นพวกเขา พวกเขาต้องการ จับเธอมาต่อรองกับสั่งอานให้กลับตระกูลถือเท่านั้น ตัวเธอไม่ น่าจะมีอันตรายอะไร

แต่ทำไมต้องมัดมือเท้าไว้แน่นด้วยล่ะ

เจ็บจังเลย…..

หาน จ่อขมวดคิ้ว จะลองดิ้นดู ปรากฏว่ายิ่งดิ้นเชือกยิ่งแน่น

ในขณะที่เธอกำลังดิ้น ก็มีเสียงผู้หญิงที่แผ่วเบาดังขึ้นมาจาก ด้านหลัง “หยุดดิ้นเถอะ ฉันมัดเงื่อนตายไว้ ถ้าเธอมีมือเธออาจ จะแกะมันออก แต่ตอนนี้เธอก็ไม่มีมือ ยิ่งเธอดิ้นมันก็จะยิ่งแน่น เสียงนี้มัน…..หาน จื่อหยุดนิ่งและหันไปมอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ