เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 21 มาไวเกินไป



บทที่ 21 มาไวเกินไป

เสิ่นเฉียวกระชับสัญญาในมือ นิ้วสีขาวซีด เปิดฝาปากกา ลงชื่อลงที่ท้ายสัญญาแล้วยื่นให้

เขา

เยโม่เซินเลิกคิ้วด้วยความพึงพอใจ “ผู้หญิง หน้าเงินนี่ซื้อง่ายจริง ๆ”

เสิ่นเฉียววางสัญญาลงบนโต๊ะทำงาน เย่โม่เซิ นขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ

“ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อฉัน ที่ฉันอยู่ตระกูล เย่ก็เพื่อสิ่งที่ฉันต้องการ ขอบคุณนะที่คุณไม่ได้ บังคับให้ฉันทำแท้ง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันจะขายตัวเองเพื่อเงิน!”

“อ้อ” เยโม่เซินพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ เย้ยหยัน “ผู้หญิงอย่างเธอน่ะเหรอที่ชีวิตนี้ไม่ได้ อยู่เพื่อเงิน?”

“นี่คุณ!” เสิ่นเฉียว กำหมัดแน่นอยากจะแย้ง คำพูดของเขาแต่ก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วตอบ กลับ “ก็จริง ในเมื่อคุณมองว่าฉันเป็นคนแบบนั้น ฉันก็จะเป็นคนแบบนั้นแหละเราก็แค่ทำในสิ่งที่ ตัวเองต้องการ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะยังไง สัญญาก็เซ็นไปแล้วพอถึงเวลานั้นเมื่อไหร่ฉันจะ ไปเอง”
เธอต้องหาทางแก้ปัญหาในระยะเวลาสั้น ๆ นี้

ให้ได้

“ดี ฉันตั้งตารอวันนั้นมาก”

ร่างเล็กเดินออกไปโดยที่ไม่ได้เอาเช็คบน โต๊ะนั่นไปด้วย

ดวงตาเรียวเล็กของเย่โม่เซินเหล่มองตาม

เธอไม่แม้แต่จะมองดูเช็คที่เขียนเงินไว้ จำนวนมากเลยด้วยซ้ำ เธอแสร้งทำหรือว่า…ไม่ สนใจเงินจริง ๆ?

ถ้าไม่สนใจเงิน แล้วเธอจะแต่งเข้าตระกูลเย่ ทำไม? หลังจากเซ็นสัญญา ความสัมพันธ์ของเสิ่น

เฉียวกับเย่โม่เซินก็ถือว่าเป็นเพียงตามในสัญญา เท่านั้น หลังจากที่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง นาย ท่านเย่ก็แต่งตั้งให้เธอไปเป็นผู้ช่วยของเย่โม่เซิ นที่บริษัท

เสิ่นเฉียวไม่ได้เป็นคนโง่อะไรนักอีกทั้งยัง ทำงานพอไปวัดไปวา เพียงแค่ให้โอกาสเธอได้ เรียนรู้ก็จะทำได้ด้วยตัวเอง

ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ เซียวซู่ก็มองผู้หญิงคน นี้กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“คุณชายเย่เธอเป็นคนมีความสามารถครับ”
เยโม่เซิน เย้ยหยัน “เหรอ”

เซียวซู่พยักหน้า “งานที่คุณชายเย่สั่งให้เธอ ทำทั้งหมดออกมาไม่เลวเลยครับ”

ทำได้ดีและเป็นระเบียบเรียบร้อย

“แต่งเข้าตระกูลเย่มีเหรอจะไม่มีสมอง?” คำพูดนี้ทำให้เซียวซู่เกือบสำลักตาย ไม่ได้

ตอบกลับคำถามนั้นหันไปมองดูตารางงานแทน “เย็นวันนี้มีงานเลี้ยงครับ คุณชายเย่จะพาคุณหนู

ไปด้วยไหมครับ?”

“พาเธอไปด้วย?” เย่โม่เซินเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ ทำงาน ดวงตายังคงตรงไปที่งานในแล็ปท็อป “จะพาเธอไปให้อายคนเขาทำไม?”

เซียวซูเงียบไม่กล้าพูดอะไร หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยงานเรื่องอื่นกันต่อ

เซี่ยวซู่กำลังจะเดินออกจากห้อง เยโม่เซินก็สั่งออกมาอย่างรวดเร็ว “ตามเสิ่น

เฉียวมา”

“ครับ” เซียวซู่ทำหน้ามู่ทู่เดินออกมาจากห้อง ทำงาน

ช่วงนี้รู้สึกเหมือนถูกคุณชายเย่ตบหน้าอยู่ บ่อยครั้ง เมื่อกี้ยังบอกว่ากลัวเสิ่นเฉียวทำให้ขาย หน้า แต่ตอนนี้เขากลับให้ตามเข้าไปหา หรือว่าจะไปงานเลี้ยงกับเธอ?

เสิ่นเฉียวทำงานอยู่ที่ห้องถัดไป ตอนที่เซียว ซูโทรไปเธอกำลังยุ่งอยู่กับเอกสาร

“อีกสองนาทีฉันจะรีบไปค่ะ”

“คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?” เซียวซู่ เอนหลังแล้วพูดอย่างจริงจัง “คุณชายเย่เรียก คุณเข้าไปหาคุณกล้าที่จะไปสายเหรอ?”

เสิ่นเฉียวทำได้เพียงทำหน้ามุ่ยแล้ววาง เอกสารลง หายใจเฮือกใหญ่ “เข้าใจแล้วค่ะ”

แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องทำงาน

เสิ่นเฉียวพึ่งจะเข้าไปในห้องทำงาน เซียวซู่ก็ เข้าไปเอาหูอิงกับประตูเพื่อแอบฟัง

“คุณชายเย่เรียกหาฉันเหรอคะ?” เย่โม่เซิน ให้เธอทำงานที่บริษัทตามคำสั่ง อยู่ที่ทำงานเธอ เป็นเพียงผู้ช่วยของเขาเท่านั้นจะให้คนอื่นรู้ความ สัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้ เมื่อพบกันต้องให้ เกียรติและเรียกเขาว่าคุณชายเย่เหมือนกับคน อื่น ๆ

ช่วงแรก ๆ เสิ่นเฉียวยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ มา ช่วงหลังที่เรียกบ่อย ๆ ก็เริ่มมึน

เยโม่เซินไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงยื่นบัตรเชิญ สีทองให้เธอ
เส้นเฉียวนิ่งไปสักพักถึงเข้าไปรับมาดูแล้ว ถาม “คุณชายเย่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงนี้เหรอคะ?” สมองของเสิ่นเฉียวพลันหมุนวน ดวงตาสวยส่อง ประกาย “ฉันจำได้ว่า บริษัทตระกูลลู่ก็ได้รับเชิญ ไม่แน่เขาอาจจะไปร่วมงานนี้ด้วย คุณชายเย่ คุณสามารถใช้โอกาสนี้พูดคุยกับเขาเรื่องการ ร่วมงานกันก่อนได้นะคะ

เกิดประกายแวววาวผ่านดวงตาสีดำหมึกของ เย่โม่เซิน

อึม รีแอคชั่นของผู้หญิงคนนี้เร็วจริง ๆ ความ จำก็ไม่เลว

“อือ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเตรียมการให้เดี๋ยวนี้ เลยค่ะ”

“คุณไปกับผม”

เสิ่นเฉียวกำลังจะเดินออกจากห้องแล้ว พอ ได้ยินเย่โม่เซินพูดแบบนั้นก็ต้องหยุดกะทันหัน แล้วกลับไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “คุณชายเย่ จะให้ฉัน…?”

“ผมไม่ได้ไปงานเลี้ยงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการ ร่วมงานกันกับคนอื่น ดังนั้นคุณต้องไปด้วย”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวจึงเข้าใจแล้วพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าใกล้ถึงแล้วฉันจะโทรบอก ประธานลู่ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนค่ะ”

“มี” ดวงตาเย็นชาของเย่โม่เซินจ้องมองเธอ ตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตานั่นทำให้รู้สึกอึดอัดจึง หนีบขาทั้งสองข้างเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

“เปลี่ยนชุดด้วย”

เขาขมวดคิ้ว

เสิ่นเฉียวสำรวจเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่ ทั้งหมด เป็นเสื้อผ้าที่เธอมีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ค่อยแพง เท่าไหร่

แต่มันสวมใส่สบาย อีกอย่างจนถึงทุกวันนี้ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเสิ่นเฉียวจึงใส่ชุดพวกนี้มา

ตลอด

เธอกัดริมฝีปากล่าง “เข้าใจแล้วค่ะ หลังเลิก งานฉันจะไปเปลี่ยนที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ นี้”

“เซียวซู่! ”

เซียวซูที่แอบฟังอยู่ที่ประตูตัวสั่น อะไรกัน? เขาจับได้อีกแล้วเหรอ?

แอบฟังสองครั้งก็ถูกจับได้ทั้งสองครั้ง เซียว ซู่สาบานจะไม่แอบฟังอีกแล้ว

เชียวซูไม่โอ้เอ้ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปข้างใน

“คุณชายเย่”

เพียงแค่ดวงตาเย็นชาของเย่โม่เซินจ้องไป เซียวซู่ก็เข้าใจความหมายทันที “คุณชายเย่ ถ้า อย่างนั้นให้ผมพาคุณหนูเสิ่นไปเปลี่ยนชุด สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ไหมครับ?”

“อือ”

เซียวซูโล่งใจที่ทายถูก “ถ้าอย่างนั้นผมขอ

ไปเตรียมตัวก่อนครับ”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ทั้งสามคนไปที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน

เสิ่นเฉียวเดินตามเย่โม่เซิน พวกเขาเดินเข้า ร้านแบรนด์หรูร้านหนึ่ง การตกแต่งภายในร้านดู ทันสมัยอีกทั้งยังเลือกเปิดเพลงได้ดี

แม้ว่าเยโม่เซินจะนั่งอยู่บนวีลแชร์ เสื้อผ้าที่ เขาใส่มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าราคาแพง อีกทั้ง ยังมีสง่าราศี พนักงานของร้านปรากฏตัวพร้อม รอยยิ้มอย่างรวดเร็ว

“ยินดีต้อนรับค่ะคุณลูกค้า”

เยโม่เซินไม่สนใจ ดวงตาของเขาไม่ได้มองที่ พนักงานคนนั้นเลย เป็นเซียวซู่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขาพูดขึ้นมา “หาชุดที่เหมาะกับงานเลี้ยงให้เธอสักชุดทีนะ”

เสิ่นเฉียวแอบอยู่ข้างหลังเซียวซู่ ความจริง แล้วเธอแอบกลัวนิดหน่อย

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาร้านแบบนี้ การตกแต่ง ภายในร้านแล้วก็ไฟที่ส่องแสงอยู่นั่นทำให้เธอ ลืมตาไม่ขึ้น จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนเธอกับเพื่อนสนิท เคยมาที่นี่บ่อย ๆ แต่ตั้งแต่ได้แต่งงานกับหลิน เจียงเธอก็ลืมช่วงเวลาแบบนี้ไปนานแล้ว

บนใบหน้าของพนักงานยังคงมีรอยยิ้มแต่ พอได้มองชุดที่เสิ่นเฉียวใส่ รอยยิ้มบนใบหน้านั่น ก็หายไป

“คุณผู้หญิงท่านนี้เหรอคะ?”

“ครับ” เซียวซูพยักหน้าแล้วพูดอย่างจริงจัง “เลือกให้ดี อย่าให้มีอะไรผิดพลาด”

“ค่ะ ค่ะ คุณลูกค้าเชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานพาเสิ่นเฉียวเข้าไปข้างใน

จากนั้นไม่นาน เสิ่นเฉียวสวมชุดกระโปรงสี ขาวดำออกมา เพราะบอสเย่ เป็นคนพาเธอมา พนักงานจึงพาเธอออกมาถามความเห็นจากเย่โม่ เซ็น

เยโม่เซินตีหน้าเย็นชา “เปลี่ยน!” เสิ่นเฉียวหน้าถอดสี หันกลับไปเปลี่ยนอีกชุดหนึ่ง

ชุดที่เปลี่ยนครั้งนี้เป็นสีดำ เยโม่เซินขมวดคิ้ว

มือของเสิ่นเฉียวกำแน่นแล้วหันหลังกลับ

เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก คิ้วของเย่โม่เซินขมวด แน่น อุณหภูมิในร้านปกคลุมไปด้วยความเยือก เย็นจากตัวของเขา

พนักงานพาเธอออกมาอีกครั้ง เย่โม่เซินก็ปา นิตยสารลงบนโต๊ะ

เสิ่นเฉียวตกใจจนกัดริมฝีปากของตัวเอง โดยไม่รู้ตัว

“ฉันว่า….ไม่ต้องลองแล้วไหม ฉัน…”

เย่โม่เซินไม่สามารถสบตาเธอได้ ทำให้เสิ่น เฉียวต้องก้มหน้าลงมา เธอรู้ว่าเธอไม่มีราศีพอที่ จะใส่ชุดพวกนี้ อารมณ์ของเธอตอนนี้ไม่สามารถ กลั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว

เธอได้สวมกระโปรงราคาแพงเหล่านี้ก็ถือว่า เป็นเรื่องตลกแล้ว

แล้วเยโม่เซินก็พูดคำที่ไม่คิดว่าเขาจะพูด ออกมา “ชุดแก่ ๆ พวกนั้นไม่ต้องเอามาให้เธอ ลองแล้ว เธอพึ่งจะอายุสามสิบไม่ใช่ห้าสิบ”

เมื่อพูดจบ สายตาคมของเย่โม่เซินก็จับจ้อง อยู่ที่หนักงานคนนั้น
พนักงานรับรู้ถึงความกดดันบนไหล่ของตัว เอง ใบหน้าเธอซีดลงแล้วพยักหน้ารับ “เข้าใจ แล้วค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ