เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 851 ฉันจะแต่งงานกับเขา



บทที่ 851 ฉันจะแต่งงานกับเขา

ใช่สิ ทําไม?

ตวน เจ๋อก็ไม่เข้าใจ

หานมู่จื่อได้ลดสายตาลง มองปลายนิ้วของตัวเองไว้

“ฉันไม่เคยสูญเสียความทรงจำ ฉันไม่รู้ว่ารสชาติของการสูญ เสียความทรงจําเป็นยังไง แต่…….หากว่ามีวันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมา พบว่าแม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร และก็ไม่รู้จักทุกคนข้างกาย แล้ว ถ้าเช่นนั้นฉันจะต้องหมดหนทางมากแน่ๆ

น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่ใส่ใจ แต่ว่าเฉียวซื้อกลับรู้สึกไม่ สบายใจมาก

“ก็แม้ว่าข้างกายจะมีคนดูแลฉันมาตลอด บอกกับฉันว่าฉันคือ ใคร เขาคือใคร ทุกสิ่งของฉันก็จัดการโดยคนอื่นอย่างชัดเจน ฉันเห็นคนๆหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าคนนี้คือใคร จนต้องให้คนอื่นมาบอก ฉัน การใช้ชีวิตแบบนี้ พวกนายต้องการเหรอ?”

พูดถึงตอนท้าย เธอได้เงยหัวขึ้นเผชิญหน้ากับเฉียวจื้อกับตัวน มู่เจ๋อ

สายตาที่ใสสะอาดอ่อนโยนของเธอ ไม่มีสารเจือปนเลยแม้แต่ น้อย อารมณ์ด้านในบอกได้ชัดเจนมาก

ด้วยเหตุนี้ ตวนมู่เจ๋อกับเฉียวจื้อทั้งคู่ได้มองหน้ากันแวบหนึ่งต่างฝ่ายก็ล้วนอยู่ในสายตาของฝ่ายตรงกันข้ามและได้เห็นถึงค่ สามคําว่าไม่เต็มใจ

ชีวิตที่ถูกคนจัดการอย่างชัดเจน หากว่าตัวเองมีสติ ใครจะ

อยากต้องการ?

ยกเว้นจะถึงขั้นที่สูญเสียความทรงจำจนจำอะไรไม่ได้จริงๆ

“เดิมที การที่เขาสูญเสียความทรงจำไปก็น่าเวทนามากแล้ว หากว่าฉันยังบีบบังคับให้เขาแต่งงานกับฉันอีก ถ้าเช่นนั้นไม่ใช่ ว่าจะยิ่งน่าสงสารมากขึ้นเหรอ? ไม่มีความเป็นตัวเองเลยสักนิด

ทันใดนั้นเฉียวซื้อก็รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ได้ประกาศฐานะของตัว เองตั้งแต่แรก

“พี่สะใภ้ พี่คือทุ่มเททั้งกายและใจจริงๆ ฮือๆๆ ฉันรู้สึกตื้นตัน

ใจมาก”

เมื่อพูดจบ เฉียวจื้อก็ได้กุมหน้าไว้แสร้งทำเป็นร้องไห้โฮขึ้นมา แล้วยังถือโอกาสล้มไปบนตัวของตวนเพื่อที่อยู่ด้านข้าง

หน้าของเขาได้พิงไปอยู่ตรงไหล่ของตวนเจ๋อ สีหน้าของสวน เจ๋อได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย “อย่าพึ่งฉัน”

“ฮือๆๆ ฉันตื้นตันใจจนร้องไห้แล้ว นายล่ะ?”

ตวนมเจ๋อ :

เขาระงับอารมณ์ของตัวเองไว้ ยกริมฝีปากขึ้น พูดกับเฉียว อด้วยใบหน้าที่หล่อราวกับปีศาจ
“หากยังพิงต่อไปอีก เชื่อไหมว่าฉันจะขอให้นายรับผิดชอบต่อ

ฉัน?”

เฉียวจื้อ

ชะงักงันไปครึ่งวินาที เขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และมองเขาไว้ ด้วยใบหน้าที่อึ้งพูดไม่ออก

“เห้ย นายก็โหดร้ายเกินไปแล้วเถอะ? ไม่ใช่ก็แค่พิงตรงไหล่ ของนายครู่เดียวเองเหรอ? นายก็รังเกียจฉันขนาดนี้?”

ตวนมเจ๋อยิ้มอย่างเย็นซา: “เป็นใครรังเกียจใครกันแน่?

หาน จื่อที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตรงด้านหนึ่ง “ นายได้ฟังที่ฉันพูดไหม?” …พวก

“ฟังๆๆ!” เฉียวจื้อรีบพยักหน้าทันที และได้นั่งตัวตรง: “ถ้าเช่น นั้นพี่สะใภ้ ถัดไปพวกเราต้องทำยังไง?”

หาน จื่อมองไปทางตวนเจ๋อ “นายต้องการขอให้ฉันกับเขา แต่งงานเร็วหน่อย ฉันรับปากนายไม่ได้ อีกทั้งความคิดของน้อง สาวของนายหากว่าการแต่งงานก็สามารถชี้ขาดได้ละก็ เกรงว่า จะไม่เกิดเรื่องอย่างวันนี้แล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ตวนเจ๋อก็ขมวดคิ้วขึ้น “งั้นเธอมีคำ แนะนําที่ดีกว่านี้ไหม?”

หานมู่จื่อส่ายหัว: “ไม่มี”

หัวคิ้วของตวนเจ๋อยิ่งยับย่นลึกขึ้น
“เรื่องนี้ดูเหมือนว่าไม่เกี่ยวข้องกับฉันเถอะ? เรื่องที่น้องสาว ของนายทำผิด ทำไมต้องให้พวกเรามารับผิดชอบ? ก็แม้ว่าจะ ต้องตัดขาดความคิดของเธอ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา”

หานคู่จื่อได้เผชิญหน้าอย่างมั่นคงกับผู้ชายรูปงามที่มีดวงตาคู่ จิ้งจอก

“ฉันเห็นว่าทัศนคติของนายก็ถูกต้อง ก็ควรรู้เหตุผลที่ว่าไม่ สามารถฝืนใจคนอื่นได้ใช่ไหม?”

ไม่รู้ว่าเป็นเธอที่เข้าใจผิดไหม หลังจากที่เธอพูดประโยคนี้จบ และได้เผชิญหน้ากับไอดที่มากขึ้นภายใต้สายตาของตวนเจ๋อ แต่ว่าในชั่วอึดใจก็ได้หายไปแล้ว บนใบหน้าของเขายังคงแขวน ด้วยรอยยิ้มไว้

“ที่เธอพูดก็ถูก ฉันไม่ควรฝืนใจคนอื่นจริงๆ ในเมื่อพวกเธอไม่ ตัดสินใจรีบแต่งงาน ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”

เมื่อพูดจบสวนเจ๋อก็ลุกขึ้นตรงๆ “ที่บริษัทฉันยังมีสิ่งที่ต้อง ทํา ไปก่อนแล้ว”

เฉียวจื้อ : “ไปเถอะ ไปเถอะ

ก่อนตวนเจ๋อจะไป ก็ได้หันหัวกลับมามองหาน จื่อทีหนึ่ง คิด แล้วคิดอีกและยังคงพูดออกมาประโยคหนึ่ง อย่าดื้อดึงจนเกิน ไปแล้ว”

รอหลังจากที่เขาไป เฉียวซื้อก็อดพูดแขวะไม่ได้ “เห้ย พี่สะใภ้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดว่าพี่ใจแคบ? เขาหมายความว่าอะไรเนี่ย?”

พอดีกับเวลานี้ที่พนักงานบริกรได้ส่งน้ำผลไม้เข้ามา ทานอ ได้ยกน้ำผลไม้ขึ้นแกว่งไปมา และได้จ้องสีสันที่สวยงามที่ได้ทะลุ ออกมาจากในแก้วไว้ และได้ยิ้มแล้วยิ้มอีก “พูดๆไปแบบนั้น เถอะ ทำไมเธอถึงมาด้วยกันกับเข้าได้ล่ะ?”

เฉียวจื้อ “ยังคงไม่ใช่เพราะว่าตวนเสเหรอ ไม่อย่างนั้น ฉันกับเขาก็มี800กว่าปีที่ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หานมู่จื่อได้ชำเลืองมองเขาที่หนึ่ง “แปด ร้อยกว่าปี? ขอถามปีนี้ท่านอายุเท่าไหร่?”

ถูกหาน จื่อหยอกล้อ ดูเหมือนว่าเฉียวจื้อจะมีความเขินอาย อยู่บ้าง กกหูก็แดงขึ้น หลังจากนั้นก็ได้โบกมือพร้อมพูด “พี่ สะใภ้ ฉันพูดเรื่องหนึ่งกับพี่ ตวนมเสคนนั้นอาจจะมีปัญหาทาง จิตใจ ดังนั้นในเวลาถัดมาพวกเราจะต้องป้องกันเธอไว้เป็น พิเศษ”

มีปัญหาทางจิตใจ?

หานคู่จื่อก็รู้สึกว่าเธอมีความผิดปกติอยู่หน่อย กับก่อนหน้านี้ ตอนที่ได้พบกันรู้สึกไม่เหมือนกันเลยสักนิด ไอพิฆาตบนตัวเธอ หนักมาก อีกทั้งของการใช้กำลังยื้อแย่งก็ชัดเจนมาก ตอนที่พบกันครั้งแรก ดูเหมือนว่าตวนเสวี่ยังไม่ได้เป็นเช่นนี้ เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็ได้เม้มริมฝีปาก พยักหน้า

“ตวนมเจ๋อพูดกับฉันแล้ว เขาจะพยายามช่วยให้คำปรึกษาทางจิตวิทยากับควนเสว เพียงแค่ว่าไม่แน่ว่าจะมีประโยชน์ ดัง นั้นเขาถึงได้คิดให้เธอกับฉือแต่งงานกันเร็วหน่อย เพื่อให้น้อง สาวของเขาตัดขาดจากความคิดนี้

หานมู่จื่อดื่มเครื่องดื่มไปคำหนึ่ง “ฉันจะแต่งงานกับเขา แต่ว่า ไม่ใช่เพราะว่าคนอื่น

เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาสองคนอยากแต่งงานเท่านั้น หากว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไรอย่างอื่น ถ้าเช่นนั้นงานแต่งงานนี้ ไม่แต่งก็ไม่เห็นมีอะไรเลย

“พี่สะใภ้ ฉันสนับสนุนพี่!” เฉียวซื้อพูดได้เหมือนกับเป็นแฟน คลับที่บ้าดารายังไงยังงั้น

“วันนี้กลับไปก่อนเถอะ

หานมู่จื่อก็ได้ดื่มน้ำผลไม้ไปอีกกี่คำ หลังจากนั้นก็ได้กลับไปที่ บริษัท เฉียวซื้อก็ได้ตามอยู่ด้านหลังของเธอเพื่อเตรียมตัวไปหา เย่ไม่เซินด้วยกัน

เพราะว่าลิฟต์ที่หานมู่จื่อขึ้นไม่ใช่ลิฟต์พิเศษ ดังนั้นตอนอยู่ใน ลิฟต์ก็ได้เจอกับหลัวแล้ว

เมื่อเห็นถึงหลัวลี่ แววตาของเฉียวจื้อก็ได้ส่องแสงทันที และได้

อิงเข้าไปตรงๆ มือเดียวต้อนสาวเข้ามุม หลว

“สวัสดี คนสวย ยังจำฉันได้ไหม?”

หลัวลี่:
เดิมทีก็ได้เสแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา หลัวได้ค้อนตาขาว อยู่ในใจ หลังจากนั้นก็ได้มองไปทางอื่น

เฉียวจื้อที่ถูกเมินจนรู้สึกได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นก็ได้มองไป ทางหานมู่จื่อ

“หรือว่าเสน่ห์ของฉันหายไปแล้วเหรอ? ทำไมฉันเย้าแหย่

หญิงคนหนึ่งแบบนี้ก็ไม่เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีท่าที่โต้ตอบ?”

หานมู่จื่อที่อยู่ด้านหนึ่งก็ได้มองฉากนี้ไว้อย่างน่าขำขัน แต่ก็ไม่ ได้พูดอะไร

เธอรู้ว่าเฉียวซื้อไม่ได้มีจิตใจที่เลวร้าย และก็ไม่ได้มีความ จริงจังอะไร ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจ

ใครจะรู้ว่าหลัวจะตอกกลับตรงๆกับเฉียวซื้อ

“เสน่ห์หายไป? ขอถามหน่อยนายเคยมีเสน่ห์ของพวกนี้ตอน

ไหน?”

เฉียวจื้อ :

เซี้ย!

รู้สึกหัวใจได้ถูกเข็มจำนวนมากแทงแล้ว เขาพูดว่าเสน่ห์ของ ตัวเองหายไปก็ช่างแล้ว คิดไม่ถึงว่าคนสวยจะพูดว่าเดิมทีเขาก็ ไม่มีเสน่ห์พวกนี้

เฉียวจื้อกัดฟัน “เธอกล้าพูดว่าฉันไม่มีเสน่ห์พวกนี้? เธอคือไม่ เคยเห็นหน้าท้องแปดแพ็คของฉันละสิ?
หน้าท้องแปดแพ็ค เมื่อหลัวได้ยิน กกหูก็ได้แดงขึ้นมาทันที

“ใครอยากดูหน้าท้องแปดแพ็คของนาย?”

เห็นเธอหน้าแดง ความคิดหยอกล้อของเฉียวจื้อจึงได้ผุดขึ้น จากนั้นบนใบหน้าก็ได้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏออกมา “คนสวย รอเธอดูเสร็จแล้ว ถึงตอนนั้นเธอก็จะรู้สึกว่าเสน่ห์ของฉันมีรอบ ด้าน ไม่สามารถขวางกั้นไว้ได้!”

เมื่อพูดจบ เขาก็ได้ค่อยๆถลกเสื้อเชิ้ตของตัวเองขึ้นต่อหลัว ต้องการให้เธอมองกล้ามเนื้อหน้าท้องของตัวเอง

สีหน้าของหลวลี่เปลี่ยนไปมาก กำลังคิดที่จะร้องตะโกน ประตู ลิฟต์กลับได้มีเสียงติ่งเปิดออกแล้ว

เย่ไม่เป็นยืนอยู่ด้านนอกลิฟต์ด้วยสีหน้าที่ดำขลับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ