เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 61 จะช้าจะเร็วก็ต้องหย่า



บทที่ 61 จะช้าจะเร็วก็ต้องหย่า

หลังจากเย่โม่เซินเดินเข้ามา เสิ่นเฉียวก็เริ่มวิตก กังวล เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น เพราะเมื่อกี้กำลังพูดถึง เรื่องที่เขาไร้มนุษยธรรม แต่พูดไม่ทันขาดคำเขาก็มา ปรากฏตัวอยู่ตรงประตูหน้าห้องคนไข้ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยิน

มั้ย

ถ้าเกิดได้ยินขึ้นมา แล้วเธอจะทำยังไงดี ?

แล้วถ้า เขาได้ยินประโยคก่อนหน้านี้อีกล่ะ ? พอ คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเสิ่นเฉียวก็ซีดลง เธอกำผ้าปูที่นอน บนเตียงไว้แน่น

พอเยโม่เซินเดินเข้ามา ก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดที่ตัวเสิ่นเฉียว

“ทำไมประตูถึงล็อค?”

ได้ยินดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ใบหน้าของเธอซีดเผือด

เย่โม่เซินหรี่ตามองไปที่เธอ เหอะ เป็นผู้หญิงที่ซื่อ บื้อซะจริงๆ ปกปิดความลับได้ไม่เนียนเอาซะเลย แค่เพียง คำถามเพียงคำถามเดียว ก็สามารถทำให้เธอหลุดปากพูด ออกมาได้

หานเส่โยวที่ยืนอยู่ข้างๆพอได้ฟัง ก็รีบเดินเข้ามา แก้ต่างให้กับเสิ่นเฉียว : “เมื่อกี้เสิ่นเฉียวกำลังเปลี่ยน เสื้อผ้าค่ะ เลยต้องล็อคประตู ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยคะ ?”

สายตาของเย่โม่เซินยังคงจ้องไปที่เสิ่นเฉียวด้วย สายตาแข็งกร้าวอยู่อย่างนั้น ราวกับกำลังจับผิด
เสิ่นเฉียวไม่กล้าสบตาของเขา ทำได้แต่ก้มหน้าก้ม

ตา

ไม่มีทาง เธอหวาดผวาเกินไปจริงๆ

เสิ่นเฉียวมีโรคประจำตัวอยู่อย่างหนึ่งคือ เวลาที่ เธอกำลังหวาดกลัวเธอจะไม่กล้าสบตากับคนอื่น ไม่อย่าง นั้น…เธอจะเผลอพูดออกมาอย่างง่ายดาย

ดูเหมือนภายในห้องคนไข้จะตกอยู่ทางตัน แค่พอ เยโม่เซินเดินเข้ามาอุณหภูมิภายในห้องก็ลดลง เสิ่นเฉียว นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับไปไหนราวกับเป็นผู้ต้องหา หานเส่โยวมองแล้วก็เจ็บปวดแทน จึงเดินขึ้นมาแล้วกระ แอมเบาๆ

“..เฉียวเฉียวเป็นภูมิแพ้ แล้วในนี้ก็มีแค่พวกเราผู้ หญิงสองคนไม่มีใครอื่น และหลังจากที่คิดอย่างรอบคอบ แล้วก็เลยล็อคประตู เย่….คุณชายรอง ? คุณคงเข้าใจนะ คะ?”

หานเส่โยวยืนขวางอยู่หน้าเสิ่นเฉียว เพื่อบดบังสาย ตาของเย่โม่เซิน

เย่โม่เซินมองไปที่หญิงสาวตรงหน้า เธอแตกต่าง ไปจากเสิ่นเฉียวตรงที่ เธอแต่งหน้าแต่งตา เสื้อผ้าที่สวม ใส่ทั้งหมดเป็นของแบรนด์เนม และยังมีหุ่นที่เซ็กซี่ ดูแล้ว ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที

แต่เสิ่นเฉียวที่ถูกเธอยืนขวางอยู่ข้างหลังที่อยู่ใน ชุดคนไข้สีซีด ไม่เพียงใบหน้าที่ขาวซีดขนาดปากก็ยังซีด เผือด ผมเผ้ารุงรัง

การเปรียบเทียบนี้เห็นได้อย่างชัดเจน
เย่โม่เซินละสายตาจากตรงนั้น และไม่ได้ตอบกลับ หานเส่โยว แต่มองไปที่เสิ่นเฉียวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ชาว่า : “ป้าเฉินล่ะ ? ”

พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็ชะงักไป แล้วเงยหน้าขึ้นมา “ป้าเฉินเธอ….กลับไปพักผ่อนก่อนแล้วค่ะ”

เย่โม่เซินขมวดคิ้ว

“วันนี้มีเส่โยวอยู่เป็นเพื่อน แล้วฉันก็อาการดีขึ้น แล้ว ก็เลย….”

เดิมที่เขามาเพื่อจะมาหาป้าเฉิน มิน่าละ….แต่ ทำไมอยู่ๆถึงมาหาฉันได้ ?

“โอเค”เย่โม่เซินยกกรามขึ้นเล็กน้อย เป็นสัญญาณ บอกเซียวซู่ว่าจะไปจากที่นี่ เชียวซูไม่ตอบกลับ แต่เอาถุง ที่อยู่ในมือวางไว้บนโต๊ะ : “ผู้ช่วยเสิ่น นี่เป็นของใช้อาบน้ำ ที่ผมเตรียมไว้ให้เมื่อกีครับ ผมวางไว้ตรงนี้นะครับ หมอบ อกว่าคุณต้องอยู่เพื่อรอดูอาการอีกสองวัน ดังนั้นสองวันนี้ คุณต้องอยู่ที่โรงพยาบาล”

“อ้อ ขอบคุณมากนะ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมกับคุณชายเยขอตัวกลับก่อน นะครับ”

พูดเสร็จเซียวซูก็ดันเยโม่เซินออกจากห้องไป หลัง ออกมาจากห้องคนไข้เซียวซู่ก็อดทนต่อไปไม่ไหว แล้ว พูดขึ้นมาตรงๆว่า : “คุณชายเย่ พวกเราไม่ได้มาหาเธอ หรอกเหรอครับ ? ทำไมถึงได้รีบไปนักล่ะครับ ?”

ได้ยินดังนั้น สายตาของเย่โม่เซินก็นิ่งไป : “ยังไม่ตายก็ดีแล้ว นายอยากจะอยู่ต่องั้นสิ ?”

เซียวซู่ : “..แต่คำถามเมื่อกี้ที่คุณชายเย่ถามไป มันชัดเจนมากว่าอาจจะทำให้ผู้ช่วยเสิ่นเข้าใจผิดว่า คุณมา หาป้าเฉินไม่ใช่เธอนะครับ”

“แล้วฉันไม่ได้มาหาป้าเฉินเหรอ?”

เซียวซู่ : “..*

ตามใจ คุณมีความสุขก็พอ

ภายในห้องคนไข้

รอจนคนเดินออกไป หานเสี่ยวก็ไปนั่งข้างๆเสิ่น เฉียว : “ฉันได้ยินนะว่าลูกน้องของเขาเรียกเธอว่าผู้ช่วย เสิ่น มันเกิดอะไรขึ้น ? เพราะถ้าเอาตามตำแหน่งที่เธออยู่ ในบ้านตระกูลเย่แล้ว เขาควรจะเรียกเธอว่าคุณนายน้อย สองไม่ใช่เหรอ?”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวก็หัวเราะออกมาอย่าง ขมขึ่น : “เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ ? ฉันไม่ใช่คุณนายน้อย สองจริงๆของตระกูลเย่นะ อีกไม่นานก็ต้องหย่าแล้ว”

น่าแปลก หัวใจที่บีบรัดแน่นของหานเส่โยวกลับ คลายตัวลง เธอยิ้มร่า : “นั่นสิ เดี๋ยวพวกเธอก็ต้องหย่ากัน แล้วนี่นะ”

เธอเองก็รู้เรื่องสัญญาครึ่งปีของเสิ่นเฉียวกับเย่โม่ เซิน ครึ่งปีหลังจากนี้เสิ่นเฉียวก็ต้องออกจากตระกูลเย่ พอ ถึงตอนนั้นเย่โม่เซินก็เป็นคนๆเดียว

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอารมณ์ที่เก็บกดอยู่ในใจของ หานเส่โยวกลับหายเป็นปลิดทิ้ง
คิดถึงตรงจุดนี้ หานเส่โยวก็กุมมือของเสิ่นเฉียวเอา ไว้แน่น : “วางใจเถอะ ฉันจะต้องช่วยเธอหาพ่อของเด็ก ให้เจอให้ได้ให้พวกเธอกลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า พร้อมตาอีกครั้ง”

เสิ่นเฉียวนิ่งไป พร้อมหน้าพร้อมตา ?

“แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร มีบางครั้งที่ฉัน กำลังคิดนะว่า…..เรื่องเราตัดสินใจกันแบบลวกๆเกินไป มั้ย ? ถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายแต่งงานแล้วล่ะ? หรือ เขาอาจ กำลังแบกรับอะไรบางอย่างอยู่…”

สุดท้ายก็เป็นแค่วันไนท์สแตนด์

วันไนท์สแตนด์ของแบบนี้จะพูดให้ถูกนั้นยาก ภาย ใต้แสงไฟที่มืดสลัวนั้น อีกฝ่ายเป็นใครคุณไม่มีทางรู้ได้ เลย

“ฉันคิดว่าไม่นะ อีกฝ่ายน่าจะเป็นคนที่มีระดับ อีก ฝ่ายจะมีหรือไม่มีภรรยา รอถึงเวลาก็ค่อยดูกันอีกที ถ้าไม่ โอเคจริงๆ แถมเธอยังตั้งท้อง ต่อให้มีภรรยาอยู่แล้ว เธอก็ สามารถแย่งเขามาได้ ! ”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวก็อดไม่ได้ที่จะทำตาโต”เส่ เส่โยว….เธอพูดอะไรของเธอ?”

หานเส่โยวยกมุมปากขึ้น : “เป็นอะไรไปจะ ? ฉัน พูดอะไรผิดไปเหรอ ? ของที่อยากได้ก็ต้องได้สิ หรือว่า เธออยากให้ลูกในท้องของเธอกลายเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อ ล่ะ?”

เสิ่นเฉียว : ”

เป็นครั้งแรกที่เห็นหานเส่โยวพูดจาแบบนี้ เธอไม่อาจจะยอมรับได้

“เป็นอะไร ? ทำไมใช้สายตาแบบนั้นมองมาที่ฉัน ล่ะ ? “หานเส่โยวมองกลับไปที่เธออย่างสงสัย

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากแล้วตอบไปว่า : “เส่โยว เธอรู้ ใช่มั้ยว่าทำไมหลินเจียงถึงขอหย่ากับฉัน ?”

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าที่ยิ้มแย้มของหานเส่โยวก็ ค่อยๆเลือนหายไป สายตาถูกความเล็กลักและตื่นตระหนก เข้าปกคลุม

“ขอโทษนะเฉียวเฉียว เมื่อกี้ฉันไม่ทันคิด ฉันไม่ได้ หมายความว่า…เธอเป็นมือที่สามอะไรแบบนั้นนะ ฉันแค่ รู้สึกว่า มันเป็นความผิดของผู้ชายคนนั้นตั้งแต่แรก เป็น เพราะเขาทำเธอท้อง ถ้าหาตัวเจอเมื่อไหร่จะต้องให้เขามา รับผิดชอบให้ได้ ฉันไม่มีความคิดอะไรแบบนั้นแน่นอน เธอ อย่าโกรธฉันเลยนะ”

เสิ่นเฉียวนั่งอึ้งพูดไม่ออก

“เรื่องของหลินเจียงมันเป็นเพราะความไม่รู้จักรับ ผิดชอบของเขาแต่แรก เธอคิดดูนะ ทั้งๆที่เขามีแฟนเป็น ตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่กลับมาบอกกับเธอว่าตัวเองเป็นหมัน แต่งงานมาตั้งนานไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวเธอ สุดท้ายถูก หวยแล้วก็เขี่ยเธอทิ้ง แต่เพราะเธอคุยเอาไว้ดีแต่แรก หรอกนะ อย่าเอาตัวเองไปเหมารวมกับมือที่สามแบบนั้น เลย เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย ?”

เสื่นเฉียวพยักหน้าตอบ : “ฉันเข้าใจแล้ว”

“เฉียวเฉียว เธอต้องเชื่อใจฉันนะ ฉันอยู่ข้างเธอ เสมอ ความคิดทั้งหมดของฉันหมุนวนอยู่รอบๆตัวเธอกับผลประโยชน์ของเธอนะ ดังนั้นถ้า ฉันไม่ทันระวังแล้ว พูดอะไรไม่ถูกต้องออกไป เธออย่าโกรธฉันนะ”

เสิ่นเฉียวเห็นท่าทางที่หดหูใจของเธอ จึงตระหนัก ได้ว่าเธอเองคงจริงจังเกินไป เลยจับมีอของเธอ กลับ : “เอาล่ะ ฉันรู้นะว่าเธอทำเพื่อฉัน แต่ว่าหลังจากนี้คำ พูดพวกนั้นห้ามพูดออกมาอีกนะ ถ้าอีกฝ่ายมีครอบครัวอยู่ แล้วจริงๆล่ะก็ งั้นพวกเราก็ทำเป็นว่าเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิด ขึ้นมาก่อน โอเคมั้ย ? ”

“อั้ม”หานเส่โยวพยักหน้า : “ฉันจะเชื่อฟังเธอ แต่ วางใจเถอะ ฉันจะต้องหาตัวผู้ชายเฮงซวยคนนี้แทนเธอให้ เจอให้ได้ ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ