เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 661 ด้วยการจูบประทับริมฝีปาก



บทที่ 661 ด้วยการจูบประทับริมฝีปาก

อีกทั้งเขายังได้ซื้อของขวัญเสร็จแล้ว และรอตัวเองอยู่ทางด้าน นั้น เธอที่อยู่ทางด้านนี้กลับ……..

คิดถึงฉากนี้ ในใจของหาน จื่อก็เริ่มรู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมา เธอ ได้คิดและกัดริมฝีปากไว้ ใจลอยไปถึงตอนที่ได้พบกับเย่ไม่เป็น เอาเรื่องจริงบอกกับเขาไปก็ได้แล้วดีไหม

แต่ว่า…….หลังจากพูดล่ะ?

อ้างอิงจากอารมณ์ของเขาแล้ว เขาจะโกรธอย่างกะทันหันไหม หลังจากนั้นก็ไม่สนใจตัวเองแล้ว?

หานมู่จื่อปวดหัว จากนั้นก็ได้ยื่นมือออกมาบีบแล้วบีบอีกไปยัง หัวคิ้วของตัวเอง และได้ถอยอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วย ความจนปัญญา

“เป็นแฟนหนุ่มโทรศัพท์ให้เธอใช่ไหม?” คุณอาได้มองเธอ แล้วที่หนึ่ง และตัดสินใจคุยเล่นกับเธอไปกี่ประโยค

หาน จื่อไม่มีชีวิตชีวาอะไร และได้พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ด้วยความหดหูไม่มีชีวิตชีวา

ถ้าเช่นนั้นแฟนของเธอก็สนใจเธอดีนี่ เพียงแต่ว่าที่รถติดนี้ก็ คือไร้หนทาง

“อืม”
เพราะว่าหาน จื่อไม่มีจิตใจที่จะพูดกับเขาจริงๆ ดังนั้นคุณอา ก็ไม่ได้ทําสิ่งที่ไม่เหมาะสมทำให้ตัวเองอับอายอีกแล้ว รถได้ เคลื่อนย้ายไปทางด้านหน้าทีละครั้งทีละครั้ง หาน จื่อรอจน หงุดหงิดแล้ว ทำได้เพียงพิงหลับตาพักผ่อนอยู่ตรงนั้น

ก็ไม่รู้ว่าตอนไหน นึกไม่ถึงว่าเธอได้หลับไปแล้ว และได้ยิน เสียงคุณอาเรียกเธอเสียงหนึ่ง เธอถึงได้ตื่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“ใกล้ถึงแล้ว”

หาน จื่อมองไปทางด้านนอกแล้วที่หนึ่ง และได้พบว่าสิ่งปลูก สร้างบริเวณรอบไปเปลี่ยนไปจนคุ้นเคยขึ้นมา จากนั้นก็ได้ขยี้ตา ไปมา และได้พบว่าทุกทิศทางก็ได้มีดลงมาแล้ว รถไปราบรื่นไป ทางด้านหน้า และได้ค่อยๆเข้าใกล้ชุมชน

ที่ไกลออกไป หาน จื่อได้เห็นถึงเงาของคนหนึ่งที่สง่าสูงใหญ่ ยืนอยู่ตรงประตูชุมชน รูปร่างที่สูงและตรงได้ดึงดูดสายตาของ คนที่ได้จับจ้องไปเข้ามาไม่น้อย

เพราะว่าได้เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้ว ดังนั้นไฟทางของประตู ชุมชนก็ได้สว่างแล้ว เงานั้นก็ได้ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงประตู เงาที่ อยู่ไกลออกไปถูกไฟทางได้ลากจนยาวมากยาวมาก แสงไฟสี เหลืองสลัวได้ตกไปอยู่บนตัวของเขาราวกับว่าให้คนนี้มีรัศมีมาก หนึ่งชั้น ทำให้ลายเส้นของเย่ ไม่เป็นก็ได้ดูเหมือนอ่อนโยนขึ้นมา

หาน จื่อมองฉากนี้ไว้ ทันใดนั้นจมูกก็รู้สึกเหมือนกับว่ามี ความตื้นตันใจอยู่หน่อย

เธอได้เม้มริมฝีปากแล้วเม้มอีก หลังจากที่รอรถจอดก็ได้เปิดประตูรถเดินเข้าไปทางเย่ ไม่เซ็น

ได้ยินเสียงดังขึ้น หน้าด้านข้างของผู้ชายที่สง่าก็ได้ขยับแล้ว ขยับอีก หลังจากนั้นก็ได้มองเข้ามาทางเธอ

เดิมทีลูกตาด่าที่ดำมืดหลังจากที่ได้เห็นถึงเธอแล้ว ในสายตา ก็ได้มีสีสันสว่างเพิ่มมากขึ้นแล้ว ไม่ได้รอให้หาน จื่อเดินเข้าไป เย่ไม่เป็นก็ได้เดินก้าวเท้ายาวๆมาถึงตรงหน้าเธอแล้ว หลังจาก นั้นก็ได้กุมมือเล็กๆเย็นๆของเธอเอาไว้

เพิ่งจะเรียกหาน จื่อแค่คำเดียว ก็ได้ถูกเย็ไม่เป็นลากเดิน เข้าไปทางด้านในของชุมชน เธอไม่ทันได้มีท่าที่โต้ตอบ ก็ได้ ประมาณว่าเป็นเพราะว่าใจอ่อน ดังนั้นจึงทำได้เพียงเดินตามอยู่ ทางด้านหลังของเขาไว้ ม่านตาได้ห้อยลงมองฝีเท้ากับเงาของ คนทั้งสองด้านล่างไว้ด้วยสติปัญญาเดี๋ยวหลุดเดี่ยวโผล่

จนกระทั่งได้เข้าไปในลิฟต์แล้ว เย่โม่เซินยังคงไม่ได้พูดอะไร กับเธอแม้แต่ประโยคเดียว และได้มีจิตใจเคร่งขรึม ในการยืนอยู่ ตรงนั้น หาน จื่อสามารถรู้สึกได้ถึงไอเย็นที่เบาบางที่ได้นุ่มบ่าม ออกมาจากบนตัวของเขา ยังมี……..ความโกรธ

เธอได้กัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้ ปล่อยให้มือของตัว เองได้ถูกเขาจับไว้แน่น แต่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

จนถึงตอนออกจากลิฟต์ หานซื้อได้ถูกเขาลากไว้เดินออกไป ด้วยกันแล้ว หาน ออดไม่ได้แล้ว จากนั้นก็ได้เงยหัวขึ้น “เย่โม่ เขิน ฉัน…..”
คําพูดยังพูดไม่จบ คนนั้นตรงด้านหน้าก็ได้หมุนตัวเข้ามา อย่างกะทันหัน เธอกตอยู่บนกำแพงทางด้านหลัง หลังจากนั้น ก็ได้กดเข้ามาแล้ว

ตรงหน้าได้ต่ำลง ริมฝีปากของหาน จื่อได้ถูกปิดไว้แล้ว

จูบของเย่โม่เซินก็แทบจะตกลงมาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ริม ฝีปากที่ร้อนแผดเผาได้พลิกไปพลิกมาทีละรอบอยู่ที่เธอ มือ ใหญ่ๆข้างหนึ่งได้กลัดอยู่บนเอวที่เล็กๆ บางๆ มืออีกข้างหนึ่งก็ได้ คลึงอยู่ด้านบนคางของเธอ งัดริมฝีปากและตของเธอให้เปิด ออก

หานมู่จื่อได้มีท่าทีโต้ตอบเข้ามา และได้กระซิกๆคิดที่จะผลัก เขาออก ไม่ขยับก็ยังดี เมื่อขยับก็เหมือนกับคือเป็นสัมผัสกับ การกลับหัวของท่อนนั้นของเย่ ไม่เซ็นแล้ว ร่างกายที่หนักของเขา ได้กดเข้ามา หาน จื่อรู้สึกว่าหลังของตัวเองได้ถูกกดบีบแน่นไว้ เดิมทีเสื้อเชิ้ตบางๆก็ขวางความเยือกเย็นของกำแพงไว้ไม่ได้

ความเยือกเย็นของหลังกับความร้อนทางด้านหน้าล้วนแตก ต่างกันโดยสิ้นเชิง จูบของผู้ชายทั้งโหดทั้งเหี้ยม นำเธอโจมตีจน ไม่มีที่ที่จะหลบได้

ช่วงเวลาหลังจากนี้ ลมหายใจกับสายตาที่มืดครึ้มของเขา เหมือนกับเสือดาวที่โหดเหี้ยมตัวหนึ่ง

“ให้โอกาสเธอสารภาพครั้งหนึ่ง ไปไหนมาแล้ว?
ริมฝีปากของหาน จื่อได้ถูกเขาจูบจนมีความเจ็บและบวมอยู่ บ้าง หลังจากถูกเขาถามเช่นนั้นแล้ว ชั่วขณะม่านตาก็ได้น้อยลง มาอยู่บ้าง ที่จริงเธอกลับคือเคยคิดต้องการที่จะสารภาพกับเขา แต่ว่าเมื่อเธอเพิ่งจะเปิดปากล่ะ คำพูดก็ไม่ได้พูดออกมาก็ถูกเขา ลากขึ้นไปด้านบนแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ถูกกดและจูบอยู่ที่นี่

เธอนี้ยังไม่ได้พูดล่ะ เขาก็ได้โมโหละเมิดออกมาเต็มตัวแล้ว หากว่าเธอพูดจริงๆแล้ว ถ้าเช่นนั้นเขา…….ก็จะไม่ได้ทำเธอจน

ตาย?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ พลังของหาน จื่อก็ได้อ่อนแอลงมาแล้ว เดิมที ก็ไม่กล้าที่จะไปตีเสมอกับเย่ไม่เป็น

“พูดไม่พูด?” มือของเย่ โม่เป็นที่บีบอยู่ที่คางของเธอก็ได้ ออกแรงบ้างแล้ว แม้ว่าจะหนัก แต่กลับไม่เจ็บ แต่ก็ได้ทำให้หา นมู่จื่อเงยหัวขึ้นมาแล้ว สายตาของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เพิ่งจะถูกเขา จูบก็ได้มีความไม่ชัดเจนอยู่ ริมฝีปากแดงได้บวมเล็กน้อย ลิปสติกก็ได้ถูกเขากินหมดไปนานแล้ว เพียงแต่ว่ามุมปากก็ได้ เปียกชื้นอยู่บ้าง ทำให้เมื่อมองขึ้นมาเธอก็ได้สวยหยาดเยิ้มไป แล้วส่วนหนึ่ง

หาน จื่อมองเขาไว้ตาปริบๆ “ถ้าเช่นนั้นฉันพูดแล้วนายจะ โกรธไหม?”

เย่ ไม่เซ็นได้ชะงักงันและเสียงแหบไปแล้ว ส่วน

“ดูสถานการณ์”
สถานการณ์…….

ถ้าเช่นนั้นก็คือยังอาจจะโกรธได้

หาน จื่อกัดฟันแล้วกัดฟันอีก จากนั้นก็ได้พูดวิงวอนเบาๆ “นอกจากนายรับปากฉันว่าไม่โกรธ ฉันถึงจะพูด”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่ไม่เป็นก็ได้หรี่ตาขึ้นอย่างอันตราย และ ยกคิ้วแล้วยกอีกหันไปทางด้านคนตรงหน้า “ใช้อำนาจคุกคาม

ฉัน?”

“เช่นนั้นนายรับปากไหม?”

เย่โม่เซิน:

หาหมู่จื่อ ใช้สายตาที่สวยสดงดงามแบบนี้มองเขา แต่เดิมก็มี ความไม่ชัดเจนอยู่ เธอก็ยังมีท่าทีวิงวอนด้วยความระมัดระวังอีก เพราะกลัวว่าจะเป็นท่าทางที่ทำให้เขาโกรธ

ท่าทางกับแววตาแบบนี้…….

กล่องเสียงของเย่โม่เป็นได้เดือดพล่าน น้ำเสียงก็ยิ่งมีเสียง แหบแล้ว

“ได้ รับปากเธอ”

ชีวิตก็สามารถให้เธอได้ ยังมีอะไรไม่สามารถรับปากได้

“นายรับปากแล้วจริงๆ?” ดูเหมือนว่าหาหมู่จื่อจะมีความไม่ กล้าที่จะเชื่ออยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้ก็ได้ยืนยันกับเขาอีกรอบ: “ถ้าเช่น นั้นฉันพูดแล้วนานห้ามโกรธนะ ฉัน…ได้พบกับเย่หลิ่นหานแล้ว……”

ตอนที่พูดถึงชื่อนี้ หานมู่จื่อรู้สึกว่าลมหายใจของคนตรงหน้า ได้เย็นลงมาแล้วโดยฉับพลัน

เธอได้รีบเปลี่ยนคำพูด: “นายพูดแล้วว่าไม่โกรธ ห้ามคืนค่

เมื่อเย่ไม่เป็นได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทำได้เพียงกดความโกรธไว้ อยู่ในใจ และได้มองคนตรงหน้าไว้ หลังจากนั้นล่ะ?”

“หลังจากนั้น…….ดูเหมือนว่าเขาป่วยแล้ว ฉันก็เลยเรียกรถ พยาบาล น่าเขาส่งไปถึงโรงพยาบาลแล้ว

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ความโกรธสุดขีดของเย่ไม่เซินได้กลับ กลายเป็นยิ้ม และเป็นรอยยิ้มของความถากถาง: ” ดังนั้นเธอก็ เลยไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนแล้ว?

หานมู่จื่อรีบร้อนส่ายหัว “ฉันไม่ได้ไปเป็นเพื่อนด้วยกัน ฉันคือ ภายหลังได้เรียกรถไป อย่างไรเสียเขาก็ได้ล้มลงอยู่ตรงหน้าฉัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉันก็ไม่อาจจะไม่สนใจไยดีได้ใช่ไหม? เพียง แต่ว่าฉันสามารถรับประกันกับนานได้ ก็แม้ว่าที่ล้มอยู่บนพื้นวันนี้ เป็นคนผ่านทางคนหนึ่ง ฉันก็จะไปดูเขาที่โรงพยาบาล ยิ่งไม่ต้อง พูดถึง……

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็ได้ลังเลแล้วครู่หนึ่ง สายตาของเย่ไม่ เซ็นได้หรี่ขึ้น “ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอะไร?”

“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉันกับเขารู้จักกัน หากว่าแม่ไปดูก็ไม่ไปดูสัก หน่อย ถ้าเช่นนั้น…….ก็ไม่สมเหตุสมผลไม่สามารถอธิบายได้แล้วใช่ไหม?”

“เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ก็แม้ไม่ไปดู เขาก็ไม่สามารถเอา เธอมาทํายังไงได้ ใครก็ไม่มีสิทธิ์ว่าเธอ

“แต่ว่าฉันก็ได้เห็นเขาล้มลงตรงหน้าของฉันอย่างชัดเจน ฉัน ทําไม่ได้ นายเข้าใจฉันได้ไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ