เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1561 ทรมาน



บทที่1561 ทรมาน

หาน จื่อมองไปทางเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ทางด้านหลังร้างของทาง หยวนหยวนคนนั้น จากสายตาของเธอก็สามารถเข้าใจได้เลย เพราะว่าตอนนั้นตัวเธอเองก็เคยมีสายตาแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ตอนนั้นเป็นตอนที่เธอเพิ่งจะแต่งเข้าตระกูลเย่มาใหม่ๆ สภาพ จิตใจก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน

เพิ่งเขือเฟยรู้สึกได้ถึงสายตามองสำรวจจากหานคู่จื่อที่มอง เข้ามา ก็ยิ่งหดตัวหลบไปทางด้านหลังด้วยความหวาดกลัวยิ่ง กว่าเดิม

“เฟยเฟยงั้นหรอ? คนที่เป็นเพื่อนสนิทกับหยวนหยวนมาหลาย ปีคนนั้นหรอ?” หานมู่จื่อพยายามให้เสียงของตัวเองดูผ่อนคลาย ลง ฟังดูแล้วมันดูอ่อนโยนน่าคบหาขึ้นอย่างมาก

เป็นไปอย่างที่คิด หลังจากที่เพิ่งเขือเฟยได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็

พยักหน้าออกมาเล็กน้อย

“ค่ะ”

“ได้ยินที่หยวนหยวนบอกมาว่าเธอดูแลเอาใจใส่เธอมาก ไหนๆก็มาแล้ว ก็ตามสบายนะ อยู่ที่นี่ไปสักสองสามวันเถอะ หยวนหยวน หนูอยากนอนด้วยกันกับเธอมั้ย?”

ถางหยวนหยวนรีบโอบบ่าของเพิ่งเขือเฟยเอาไว้ด้วยความ เริงร่า “ค่ะ ให้เฟยเฟยกับหนูนอนด้วยกันเถอะ”
“อืม งั้นฉันให้คนไปจัดเตรียมให้นะ

คืนวันนั้น เพิ่งเขือเฟยกินข้าวร่วมกับทุกคน ตอนที่กินข้าวกัน เพิ่งเขือเฟยก็ไม่กล้าจะคืบอะไรเลยสักอย่างกลัวว่าตัวเองจะทำ อะไรผิดไป

โชคดีที่ถางหยวนหยวนคอยดูแลเธออยู่ตลอด คีบอาหารมา วางในชามให้เธออยู่ตลอด ส่วนคู่พ่อแม่คู่นั้นของอ นอกจากหาน จื่อแล้ว คนที่หยวนหยวนเรียกว่าอาโม่เป็นก็ดูเย็น ชาออกมา ทำเพียงแค่พยักหน้าให้เธอเล็กน้อยแล้วพูดไปคำนึง แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอย่างอื่นออกมาอีก

ตอนแรกเพิ่งเขือเฟยคิดว่าตัวเองจะไม่เป็นที่ชื่นชอบนัก แต่ต่อ มาก็ได้พบว่าความจริงแล้วอาโม่เป็นคนนี้เป็นอย่างนี้กับทุกคน แม้แต่ท่าทีที่มีต่อลูกชายของเขาเองก็แย่เสียยิ่งกว่า เธอก็เลยซิน แล้ว

ตอนเย็นเสียวโต้วหยาได้ข่าวว่าถางหยวนหยวนจะนอนด้วย กันกับเมิ่งเขือเฟย ก็ร้องโวยวายออกมาว่าเธอเองก็อยากนอน ด้วยเหมือนกัน จากนั้นเด็กผู้หญิงทั้งสามคนก็ได้นอนด้วยกัน

จนมาถึงเวลาก่อนนอน ตอนที่เพิ่งเขือเฟยพบว่าตัวเองไม่ได้ เอาเสื้อผ้ามา ถางหยวนหยวนก็หยิบเสื้อผ้าสามชุดเข้ามา

“นี่เป็นชุดที่น้ามู่จื่อเตรียมให้พวกเราทั้งสามคน เหมือนกัน ทั้งหมด เฟยเฟย นี่เป็นไซส์ของเธอ” ถางหยวนหยวนขึ้นชุดนอน สีฟ้าตัวหนึ่งมาให้เพิ่งเขือเฟย

“อ้า ฉันก็มีกับเขาด้วย?”
เพิ่งเขือเฟยรู้สึกประหลาดใจกับการให้ความสำคัญอย่างไม่ คาดฝันนี้ นึกไม่ถึงว่าน้าจอคนนี้จะอ่อนโยนถึงขนาดนี้ หลังจาก ที่รับชุดมาแล้ว ความรู้สึกในใจของเธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา

จากนั้นเด็กอีกสองคนก็ลากเพิ่งเขือเฟยเข้าห้องอาบน้ำไปด้วย

กันอย่างเริงร่า เด็กสาวทั้งสามคนอาบน้ำด้วยกัน ตอนแรกเพิ่งเขือเฟยก็รู้สึก

ไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่นัก ควบคุมตัวเองอย่างมาก จนเด็กสาวทั้ง สองคนสาดน้ำมาที่เธอ ทุกคนถึงได้ร่วมกันเล่นสนุกด้วยกันจริงๆ

หลังจากที่อาบน้ำกันแล้ว เด็กสาวทั้งสามคนก็ได้เปลี่ยนชุด นอนแบบเดียวกันเข้าไปนอนด้วยกัน หลังจากที่แสงไฟได้ปิดลง จู่ๆเสียวโต้วหยาก็ถามโง่ๆออกมา

“พี่หยวนหยวน พี่เฟยเฟย หลังจากที่พวกพี่โตขึ้นแล้ว อยาก ทําอะไรกันอ่ะ?”

นี่แทบจะเป็นหัวข้อสนทนาที่เด็กสาวทั้งหลายจะมาพูดคุยกัน เลย เพราะถึงยังไงเด็กน้อยแต่ละคนต่างก็มีความมุ่งหวังต่อ อนาคตของตัวเองกันทั้งนั้น

เสียงของถางหยวนหยวนดังนำขึ้นมา “กินของอร่อยๆบนโลก

นี้ให้หมด แล้วก็เปิดร้านเฟรนไชส์ขึ้นมาเอง!

เสียวโต้วหยากะพริบตาปริบๆ ถามไปด้วยความอยากรู้ “พี่ หยวนหยวน แต่อาหารอร่อยๆบนโลกนี้มันเยอะมากเลยนะ พี่ อยากเปิดแบบไหน?”
ถูกเธอถามมาอย่างนี้ ถางหยวนหยวนไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงขึ้น มาทันที เป็นความจริงที่อาหารบนโลกนี้มันมีเยอะมาก เธอทำได้ เพียงแค่เอ่ยออกไป “ถึงตอนนั้นก็ค่อยเปิดหลายๆร้านเอาก็ได้ เธอล่ะ?”

“เสี่ยวโต้วหยาก็ไม่รู้เหมือนกัน ขอแค่ได้อยู่กับแด๊ดดี้หม่ามี เสียวโต้วหยาก็มีความสุขแล้ว แต่เดี๋ยวโต้วหยาอยากจะไปร้อง เพลงอยู่นิดหน่อย”

“ร้องเพลง?” ถางหยวนหยวนแปลกใจอยู่เล็กน้อย “ตอนนี้เธอ ไม่ใช่ว่ากำลังเรียนเต้นอยู่หรอ ทำไมจู่ๆถึงสนใจด้านดนตรีขึ้น มาล่ะ?”

เสียวโต้วหยากัดริมฝีปากตัวเอง ไม่ได้พูดต่อออกมา ผ่านไปได้สักพัก เธอก็ถามออกมาอีกครั้ง “พี่เฟยเฟยล่ะ?” “จริงเฟยเฟย เธอยังไม่พูดของเธอเลยนะ”

อันที่จริงเพิ่งเขือเฟยไม่ได้คิดที่จะเข้าร่วมหัวข้อบทสนทนาของ พวกเธอ เหมือนกับพวกเด็กยากจนอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรไปมอง ไปถึงอนาคตกันล่ะ? วันเวลา ในตอนนี้ทำได้เพียงมีชีวิตไปวันๆ ไม่แน่ว่าวันไหนที่อยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วเลิกเรียนกลางคันก็ยังไม่ แน่นอน จะไปมีเวลามาคิดอะไรมากมายที่ไหน

“เฟยเฟย?”

เพิ่งเขือเฟยได้สติกลับมา เอ่ยยิ้มจางๆออกไป “ฉันก็ไม่รู้ เหมือนกัน อนาคตจะเป็นยังไง ฉันไม่เคยคิดมาก่อน แค่ใช้ชีวิตให้ดีไปวันๆเถอะ”

เสียวโต้วหยาเพราะอะไรก็ไม่รู้ ได้ตอบไปประโยคนึงด้วย ความใสซื่อไร้เดียงสาสุดๆ

“ความต้องการของพี่เฟยเฟยสุดยอดไปเลยนะ ใช้ชีวิตให้ดี ในทุกๆวัน ฉันก็อยากได้เหมือนกัน!

เพิ่งเขือเฟยทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มขมขื่นออกไป อย่างที่คิดเด็กที่ ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงม จะไปเข้าใจความเศร้าในใจ ของคนอย่างเธอได้ยังไง

เด็กสาวทั้งสามคนพูดคุยกัน เสี่ยวโต้วหยาคือคนที่นอนหลับ

ไปก่อนใครเพื่อน ต่อมาถางหยวนหยวนก็นอนหลับไปเหมือนกัน

ข้างๆมีเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของทั้งสองคนดังเข้ามา แต่ เพิ่งเขือเฟยกลับมองไปยังผนังที่ดำมืด ผ่านไปอยู่นานก็ไม่อาจ หลับลงไปได้สักที ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายท่ามกลางความมืด จนดูน่ากลัวเล็กน้อย

เธอจะสามารถปรารถนาอะไรในอนาคตได้

เธออยู่ในห้องหรูหราใหญ่โตนี้ ก็เหมือนกับหนอนแมลงตัว หนึ่งที่เกิดขึ้นมาในความมืด ไม่อาจย้ายไปเสนอหน้าออกไปได้ เธอมีโอกาสที่จะออกจากโรงเรียนกลางคันได้ตลอดเวลา มี โอกาสที่จะต้องได้รับความกดดันจากสังคมได้ตลอดเวลา

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เพิ่งเขือเฟยหลับตาลง ภายในใจรู้สึกทุกข์ใจอย่างมาก
ชีวิตคนเรามันไม่ยุติธรรมกันเลยใช่มั้ย บางคนก็ถูก ประคบประหงมมาตั้งแต่เด็ก ทุกสิ่งทุกอย่างก็มีคนจัดเตรียมให้ เธอทั้งนั้น เธอก็แค่เดินไปตามทางที่คนอื่นเขาปูให้ก็ได้แล้ว

ส่วนเธอนั้นเกิดมาอะไรก็ไม่มีสักอย่าง ข้างหน้าก็ไม่มีใครมา แหวกโค่นดงหนามให้เธอ ข้างหลังก็ไม่มีใครร้องให้การ สนับสนุนเธอ เธอตัวคนเดียว แต่คงต้องพยายามจนสุดท้ายแล้ว ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของคนอื่นเขา

น่าอนาถเสียเหลือเกินเลยนะ

แล้วยังมีสิ่งนี้ที่เธอสวมอยู่บนร่าง เงินสำหรับชุดตัวนี้เกรงว่าจะ เป็นค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของเธอเลยทีเดียว

ดูสิ เสื้อผ้าคนมีตังค์ ก็คือค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของเธอเลย ส่วน เธอแต่ละเดือนนั้นกลับยังคิดอยู่ว่าค่าใช้จ่ายของตัวเองจะต้อง ใช้จ่ายไปยังไงถึงจะไม่สิ้นเปลือง

คืนนี้ เป็นค่ำคืนที่เพิ่งเขือเฟยผ่านไปได้อย่างทรมานที่สุด ไม่รู้ เหมือนกันว่ากี่โมงกว่าจะนอนหลับไป รู้เพียงแค่ว่าต่อจากนั้น เหนื่อยมาก แล้วก็หลับตาลงอย่างสะลึมสะลือแล้วค่อยๆ นอน หลับไป

ต่อจากนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่านอนไปนานแค่ไหน ได้ยินเสียง จากด้านนอก เธอตกใจขึ้นมา รีบตกใจตื่นขึ้นมาทันที จากนั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่อยู่ด้านนอก

เพิ่งเขือเฟยมองฟ้าที่มืดครึ้มไปแวบนึง แล้วมองดูเวลาอีกที เพิ่งจะตีห้ากว่าๆเอง เวลานี้ทำไมถึงได้มีเสียงฝีเท้าได้
เธอแอบย่องลงจากเตียงเบาๆ จากนั้นก็เดินย่องออกไปยัง ด้านนอกอย่างระมัดระวัง

ตอนแรกก็มองสํารวจดูรอบๆแล้ว แต่ก็ไม่เจอใคร เมิ่งเซอเฟย นึกว่าตัวเองหูแว่วไป ตอนที่เตรียมจะกลับไป ก็ได้ยินเสียงเรียบๆ ของผู้ชายเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“ตื่นตั้งแต่เช้าเลย?”

แผ่นหลังของเมิ่งเขือเฟยแข็งค้าง รีบหันร่างกลับไปทันที จึงได้ พบว่าเป็นเฉือนั่นเอง เขาเปลี่ยนมาอยู่ในชุดออกกำลังกาย บนเท้าก็เหยียบอยู่บนรองเท้าออกกำลังกาย ดูท่าทางแล้วคงจะ ออกไปวิ่งตอนเช้า

ไม่สิ เธอไม่ควรคิดเรื่องนี้ เธอรีบโบกมืออธิบายออกไปทันที “ขอ ขอโทษค่ะ ฉันได้ยินเสียง ก็เลยออกมาดู ฉันไม่ได้ต้องการ จะ…”

“อืม ยังเช้าอยู่ กลับไปนอนต่อเถอะ

เพิ่งเขือเฟยก็ถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว “คุณจะออกไปวิ่งตอน เช้าใช่มั้ยคะ?”

“อืม”

“อ้อ ค่ะ โอเคค่ะ”

หลังจากที่เพิ่งเขือเฟยตอบรับออกไป เธอก็หันกลับห้องไป หลังจากที่ปิดประตูลง หัวใจของเธอก็ยังคงเต้นแรงอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ