เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1027 ในที่สุดพ่อก็ฟื้นขึ้นมา



บทที่1027 ในที่สุดพ่อก็ฟื้นขึ้นมา

รอให้สูญเสียก่อนจึงจะรู้สึกเสียใจขึ้นมา

เรื่องโง่ๆแบบนี้ หล่อนไม่อยากเผชิญหน้าเจออีกแล้ว ดังนั้นรอให้พ่อฟื้นขึ้นมา เสี่ยวเหยียนจะคอยดูแลเขาอย่างดี ขอโทษเขา และต่อไปจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น

สองแม่ลูกพูดคุยกันไปมา หลัวหุ้ยเหม่ยก็เริ่มเช็ดน้ำตาอีกครั้ง “หวังว่าพ่อของลูกจะฟื้นขึ้นมาได้ในเร็ววัน ถ้าเขาไม่ตื่นขึ้นมา แม่ คงไม่มีทางวางใจได้เลย”

“แม่ คุณหมอบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว เดี่ยวสองสามวันก็ ฟื้นแล้ว”

เสี่ยวเหยียนพูดพลางหยิบกระเป๋าลุกขึ้นยืน “ไปกันเถอะค่ะ พวกเราไปตลาดก่อน พวกเราต้องรีบซื้อของให้ครบก่อนที่พ่อจะ ฟื้นขึ้นมา ถ้าพ่อฟื้นขึ้นมาแล้ว จะได้ทำอาหารบำรุงร่างกายให้ เขาได้”

หลัวหุยเหม่ยรีบถือกระเป๋ามาออกไปพร้อมกับหล่อน ตอนที่ลงมาถึงชั้นล่าง บังเอิญเจอกับคุณน้าข้างบ้านพอดี

“อ้าว เสี่ยวเหยียนกลับมาแล้วเหรอ?” เมื่อคุณน้าข้างบ้านเห็น เสี่ยวเหยียน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เสี่ยวเหยียน นี่เธอไม่ได้ กลับมานานแค่ไหนแล้ว ฉันได้ยินแม่ของเธอบอกว่า ช่วงไม่กี่ปีที่เขาบอกว่าที่อยู่ต่างประเทศมักเธอ

เสี่ยวเหยียน”…”

หล่อนกลับมาตั้งหลายวันแล้ว เป็นครั้งแรกหล่อนป้าจาง

ป้าจางเป็นเพื่อนบ้านทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นคนชอบนินทา เมื่อก่อนตอนที่เสี่ยวเหยียนอยู่ที่บ้านมักจะเจอป้าจาง อยู่บ่อยๆ

นั้นจางชอบถามหล่อนบ่อยว่าแฟนแล้วยัง ให้ป้า จางแนะนำให้ไหม

เสี่ยวเหยียนมาบ้านหล่อน บอกว่าลองคุยกับหล่อนดู ทำให้เสียว เหยียนตกใจไปสักพักใหญ่จนต้องเดินอ้อมเมื่อเจอป้าจาง

ตอนนี้เสี่ยวเหยียนเจอหล่อน ถ้าหล่อนว่าตัวเองโสด ของหล่อนคงมีความสงบสุข

เมื่อเช่นนี้ เสี่ยวกลับแล้วอยู่ที่ต่างประเทศค่ะ ได้กลับมาด้วย

เมื่อหุยเหม่ยอยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนั้น จึงหรี่ตาลงมอง หล่อนด้วยความแฟนของลูกอยู่ที่ต่างประเทศ? ไม่ใช่ถูก ทิ้งแล้วเหรออย่างลูก…
หล่อนยังไม่ทันพูดจบ สีหน้าของเสี่ยวเหยียนก็เปลี่ยนไป

“แม่!”

หลัวหุยเหม่ยปิดปาก เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองเกือบเปิดโปงความ จริงที่ลูกสาวตัวเองถูกทิ้ง ยังไงก็ต้องรักษาหน้าไว้ แม้ว่าหล่อนไม่ ต้องการแต่ลูกต้องการแน่นอน

จากนั้นหลัวหุยเหม่ยพูดเสริม: “นั่นสีๆ แฟนของลูกอยู่ที่ต่าง ประเทศ ครั้งนี้เป็นเพราะเกิดเรื่องกับตาจาง ฉันก็เลยให้ลูกกลับ มา”

“ใช่ค่ะ ป้าจาง พวกเรายังต้องไปซื้อกับข้าว ขอตัวก่อนนะคะ

เมื่อพูดจบ เสี่ยวเหยียนกอดแขนของหลัวหุ้ยเหมียและเดินลง มาด้านล่าง ไม่สนใจป้าจางอีกเลย

ป้าจางกลับบ่นพึมพำลับหลังทั้งสอง: “อะไรกัน เป็นแฟนกัน จริงๆต้องพากลับมาอวดแล้ว ยังยอมให้อยู่ที่ต่างประเทศอีกเห รอ? ฉันว่าต้องถูกผู้ชายทิ้งก็เลยกลับมาอยู่ที่นี่มากกว่า”

หล่อนพูดซุบซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ยังพอที่จะทำให้เสียว เหยียนได้ยิน

หล่อนหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาทันใด อยากจะหยุดเดินเดี๋ยวนั้น แต่คิดไม่ถึงว่าหลัวหุ้ยเหม่ยกลับดึงหล่อนให้เดินไปข้างหน้า พลางพูดขึ้น: “อย่าหยุดเพื่อไปต่อปากต่อคำกับหล่อนเลย ปาก ของหล่อนลูกก็รู้ดีว่าเป็นอย่างไร? ถ้าลูกไม่พอใจหล่อน และยัง ไปหาเรื่องหล่อน หล่อนต้องพูดถ้อยคำที่ทำให้ลูกเกลียดมากขึ้นแน่นอน”

ไม่นานนัก เสี่ยวเหยียนก็ถูกแม่ลากมาถึงชั้นล่าง พูดด้วย ความโมโห “งั้นลูกก็ไม่ต้องพูดอะไรเลย? ให้หล่อนพูดนินทาลูก ลับหลังแบบนี้?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของหลวยเหมียกลับมองหล่อนด้วย ความเศร้า “จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ หล่อนก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสัก หน่อย”

เสี่ยวเหยียน”…”

“แม่ แม่เป็นแม่ของหนูจริงรึเปล่า? ทำกับลูกสาวแบบนี้เห รอ?”

“เสี่ยวเหยียน แม่จะบอกลูกให้นะ แม่ก็คือแม่ของลูก แม่ไม่

สนใจเรื่องความรักหลอกลวงอะไรนั่นหรอก แม่เชื่อเพียงแค่

ความจริง”

เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองบน พูดอย่างจน ปัญญา: “จริงมากๆเลยล่ะ”

หลังจากที่ทั้งสองไปซื้อของที่ตลาดเสร็จ ก็หิ้วของทั้งหมดกลับ ไปที่บ้าน หลัวหุยเหม่ยจัดของพลางพูดขึ้น “ลูกไปที่โรง พยาบาลก่อน เรื่องที่บ้านแม่จัดการเอง ไม่เช่นนั้นถ้าพ่อตื่นขึ้นมา แล้ว จะไม่มีใครคอยดูแลเขา

เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงพยักหน้าลง: “โอเคค่ะ งั้นหนู ไปโรงพยาบาลก่อนนะ”
“เดี๋ยวแม่เอาข้าวไปให้ตอนกลางวัน

“ขอบคุณค่ะแม่”

เสี่ยวเหยียนกลับไปเอากระเป๋าที่ห้อง จากนั้นออกจากบ้านไป ที่โรงพยาบาล

เป็นเพราะพ้นขีดอันตรายแล้วพ่อจางจึงถูกย้ายไปที่ห้อง ธรรมดา เมื่อเสี่ยวเหยียนเดินเข้าไปพ่อจางยังคงนอนหลับให ลอยู่ คงเป็นเพราะต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดพ่อจางใน สายตาของหล่อนเวลานี้จึงดูซูบผอมมาก มองดูแล้วทำให้หล่อน รู้สึกปวดใจเหลือเกิน

เสี่ยวเหยียนลากเก้าอี้เข้ามานั่งข้างเตียง จากนั้นนั่งมองดูพ่อ บนเตียงคนไข้เงียบๆ ตรงหน้าหล่อนค่อยๆมีหมอกลอยขึ้นมา

ถ้าตอนนั้นหล่อนรู้จักคิดสักหน่อย กลับมาตอนปีใหม่สักครั้ง

ตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้แล้ว

เสี่ยวเหยียนยังคงจำคำพูดที่เจอญาติในตอนนั้นได้ คำพูด ประโยคแรกก็คือ

“เสี่ยวเหยียนทําไมเธอถึงไม่มาเจอพ่อนานหลายปีขนาดนี้? และไม่ติดต่อเขาบ้างเลย เธอยังรู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองก็เป็นลูกคน หนึ่ง? พ่อแม่ของเธอเลี้ยงดูจนเธอเติบโตมาขนาดนี้ เธอกลับ ทำตัวในฐานะลูกแบบนี้? ขอพูดอะไรที่ฟังไม่เข้าหูหน่อยนะ ถ้า ครั้งนี้พ่อของเธอเป็นอะไรไปจริงๆ เธอคงหลุดพ้นมลทินนี้ไปได้ ยาก”
“นั่นสิเสี่ยวเหยียน ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ พวกเธอสองคน พ่อลูกก็จากกันไปตลอดกาลเลยนะ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ ต่อ ไปห้ามดื้อแบบนี้อีกแล้วนะ”

แม้ว่าตอนนั้นเสี่ยวเหยียนมั่นใจว่าพ่อของตัวเองไม่เป็นอะไร แต่เมื่อบรรดาญาติพูดเช่นนั้น กลับทำให้หล่อนรู้สึกกลัวขึ้นมา จริงๆ

หล่อนรู้สึกผิด รู้สึกผิดไปแล้วจริงๆ

หล่อนไม่ควรดื้อรั้นแบบนั้น ดังนั้นครั้งนี้หล่อนตัดสินใจดีแล้ว ขอเพียงแค่พ่อฟื้นขึ้นมา หล่อนจะขอโทษพ่ออย่างจริงจัง

จากนั้น ต่อไปหล่อนก็จะอยู่บ้านดูแลพ่อและแม่อย่างดี จะไม่ ไปไหนอีกแล้ว

เมื่อคิดถึงตอนนี้ เสี่ยวเหยียนตาแดงขึ้นมา น้ำตาค่อยๆไหล พรากลงมาทีละหยด เสี่ยวเหยียนยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา สูด หายใจเข้าลึก เงยหน้าขึ้น

สายตาของหล่อนมองไปที่ใบหน้าของพ่อจางอีกครั้ง แต่ ทันใดนั้นหล่อนกลับหันไปสบตากับดวงตาที่ดูแก่มาก

เสี่ยวเหยียนตก ใจตะลึง นั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ใจของหล่อน เต้นกระทบกับหน้าอกอย่างแรง

ตึกตักๆ

พ่อจางฟื้นแล้ว ตอนที่ลืมตาขึ้นมา ยังขยับได้อย่างยากลำบาก อีกทั้งยังปรับแสงสว่างที่สาดส่องมาไม่ได้ แต่เมื่อเขาปรับตัวได้หน่อยแล้ว ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาหันไปเห็นคนที่นั่งอยู่ ตรงหน้า ลูกสาวที่ไม่ได้เจอกันมาห้าปี

พ่อจางตกอยู่ในภวังค์ และจำไม่ได้ว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ จำได้เพียงว่าลูกสาวที่ไม่ได้เจอกันห้าปี ยังโกรธเขา และไม่ยอมเจอหน้าเขาอยู่ แต่ตอนนี้หล่อนกลับมาปรากฏตัวอยู่ ตรงหน้าตัวเองพ่อจางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่

แต่ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือเรื่องจริง เมื่อเห็นลูกสาวของตัว เอง สายตาของพ่อจางก็ไม่หันไปมองอะไรอีก

“เสี่ยวเหยียน?”

เสียงแหบของเขา พูดเรียกชื่อเสี่ยวเหยียนออกมา

เสี่ยวเหยียนที่เพิ่งจะหยุดร้องไห้ ก็กลับมาเสียน้ำตาอีกครั้ง หล่อนยืนเหม่ออยู่ที่เดิมนานสามวินาที จากนั้นก็โผเข้ากอดพ่อ จาง

“พ่อ ในที่สุดพ่อก็ฟื้นแล้ว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ