เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่655 กลุ้มใจ



บทที่655 กลุ้มใจ

ได้ยินเรื่องนี้ เสี่ยวเหยียนจึงกระแอมขึ้น”ฉันหากุนซือตัวเอง เรียบร้อยแล้วล่ะ ไม่พลาดแน่นอน”

“เธอรู้ก็ดี อย่าลืมแปะประกาศฝ่ายบุคคลด้วยล่ะ รีบๆหาผู้ช่วย เถอะ”

“อืม….ก็ได้ บริษัทยิ่งขึ้นทุกวัน พอเธอไม่อยู่เนี่ยนะ ฉันก็มีน หัวเลยทีเดียว หามาอีกคนเถอะ”

พอสองคนคุยกันถูกประเด็น หานมู่จื่อก็คิดถึงเรื่องกลุ้มใจของ ตัวเองขึ้นมาทันที เธอจึงนั่งลงตรงหน้าโต๊ะอาหาร มองดูเสี่ยวเห ขียน เธอเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เก็บ เงียบไว้

“เกิดไรขึ้นเหรอ มีอะไรก็พูดมา อย่านั่งเป็นยายเพิ่งอมทุกข์ แบบนั้น ดีนะที่ฉันเป็นผู้หญิงไม่งั้นคนเขาคงคิดว่าฉันเป็นผู้ชาย เฮงซวยที่ไปเอาเปรียบเธอแน่เลย

หาน จื่อ..

เสี่ยวเหยียนวางเอกสารในมือลงข้างตัว จากนั้นจึงเก้าอี้ออก มานั่งลงข้างๆหาน จื่อ

ว่ามาสิ ทุกข์ใจเรื่องอะไรล่ะ ให้ฉันช่วยแบ่งเบาไหม

ท่านจื่อมองดูเสี่ยวเหยียน”ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะคุยกับ

เธอไงดีอะ”เสี่ยวเหยียนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในไม่กี่วันนี้ จึงถาม ขึ้น เธออยู่กับเขาแล้วเหรอ”

แม้ว่าจะลำบากใจ แต่หานอกเม้มปากพยักหน้า ในใจยัง คงลังเล พอพยักหน้าแล้ว หานมอจึงถามขึ้นอีก

“ฉันโง่มากใช่ไหม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับ ไปอยู่กับเขาอีก ยังไงซะความเจ็บปวดที่เขาทำไว้ให้ฉันก่อนหน้า

เธอหลุบตาลง รู้สึกผิด ฉันเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้

พอเห็นท่าทางหลุบตาหน้าตาหม่นหมองของเธอ เสี่ยวเหยีย นก็รู้สึกสะเทือนใจ จับมือเธอไว้ พูดเบาๆ แล้วไงล่ะ ความรักเป็น เรื่องที่ควบคุมไม่ได้สักหน่อย การที่จะรักชอบใครคนหนึ่งปิดไม่ มิดหรอกนะ ห้าปีมานี้ฉันรู้ว่าในใจเธอยังมีเขา ฉันก็เลยเชียร์ให้ กลับไปอยู่ด้วยกัน ที่จริง ทุกคนก็เหมือนกันนั่นแหละ เวลาที่เรา รักชอบใครจริงๆสักคน รู้ทั้งรู้ว่ากองไฟอยู่ตรงหน้า ก็ยังกระโจน เข้าไป

ก็เหมือนกับเธอ รู้ทั้งรู้ว่าหานซึ่งไม่ได้ชอบเธอ และก็ไม่มีทางที่

จะชอบ แต่เธอก็ไม่

สามารถตายใจได้

เธอก็รู้ว่าถ้าวางมือเร็วหน่อย ตัวเองก็จะทุกข์น้อยลง

แต่ว่าในใจเธอมีแต่หานซิงนี่นา ราวกับว่าในใจเธอปรากฏขึ้น แต่ภาพของเขาเพียงคน เดียวแล้วเธอจะทำอย่างไร หรือว่าจะวางมือแล้วอยู่ตัวคนเดียว

เสี่ยวเหยียนรู้ดี ตัวเองรักเขาได้นานขนาดนี้ ชั่วชีวิตนี้คงจะรัก ใครไม่ได้เท่ากับรักหานซิงอีกแล้วล่ะ เพราะฉะนั้น…..ในช่วงที่ยัง มีโอกาส เธอจะต้องตั้งใจ

เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ รู้ทั้งรู้ว่ามีแต่ตายกับตาย แต่พอ เห็นแสงสว่างก็อดที่จะบินถล่ไม่ได้

ที่คือสัญชาตญาณ

ก็เหมือนมู่จื่อที่ชอบเย่ไม่เซ็น เย่ไม่เป็นก็ชอบมู่จื่อแบบนั้น

ผ่านไปห้าปี ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เป็นสิ่งที่ลิขิตเอาไว้

“ที่จริง หลายปีมานี้ มีเรื่องนึงที่ฉันไม่ได้บอกเธอ” หาน จื่อเงียบงันอยู่นาน แล้วโพล่งขึ้นมาคำหนึ่ง

“เรื่องอะไรเหรอ มีเรื่องที่ฉันไม่รู้ด้วยเหรอ”

ที่จริงในสายตาทุกคน เวลาที่ใครเห็นว่าเสี่ยวหมี่โต้วหน้าตา เหมือนเย็ไม่เป็น ก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะว่าในสายตาพวกเขา เธอกับเย่ ไม่เซ็นเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว พอหย่าก็คลอดลูก ใครๆย่อมต้องคิดว่าเด็กเป็นลูกของเย่ ไม่เซ็น

แต่ว่า เรื่องนี้ หาน จื่อเองไม่รู้ตัว ก่อนหน้าเธอโดนเสียว หลอก ก็เลยคิดมาตลอดว่าเด็กคนนี้มาจากการพูดมั่วของเย่หลิ่นอกจากนี้ ในคืนวันฝนตกเข่ไม่เป็นเองก็ไม่รู้ตัว คนทั้งโลก เลยคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูก ของสามีภรรยาคู่นี้

มีแต่สองสามีภรรยาเท่านั้นที่ไม่รู้

ตอนนี้พอหาน จื่อรู้ความจริงแล้ว เหลือแต่เย่ไม่เป็นผู้เป็นพ่อ

เท่านั้นที่ไม่รู้

“เรื่องอะไรเหรอ ว่ามาส”มือของเสี่ยวเหยียนแกว่งไกวอยู่ตรง

หน้าเธอ

หาน จื่อคืนสติกลับมา ส่ายหน้า ห้า เมื่อฉันว่าอะไรนะ ฉัน

ลืมไปเลย”

ไม่พูดแล้วดีกว่า ในเมื่อพวกเธอรู้ดีอยู่แล้ว พูดไปก็ไม่มีความ

หมาย

เก็บอารมณ์อ่อนแอเข้าไว้ดีกว่า

“ลืมอะไรไปเหรอ แป๊บเดียวก็เงียบไม่พูดแล้ว

“ที่จริงฉันอยากถามว่า ถ้าให้พวกเขาพ่อลูกได้เจอหน้ากัน ฉัน จะต้อง…….จัดงานอะไรไหม

เสี่ยวเหยียน……ลูกพบหน้ากัน ในที่สุดเธอก็ยอมให้เสียว หมี่โต้วเจอกับเย่ ไม่เซ็นแล้วเหรอ เธอไม่กลัวหรือไง ก็จริงนะ เธอ ก็อยู่กับเขาแล้ว ต่อให้เย่ ไม่เซ็นเจอเสี่ยวหมี่ โต้วเขาก็คงไม่แย่ง ลูกไปหรอก เพียงแต่ว่า……เรื่องนี้เธอพูดกับพี่ชายเธอหรือยังหานซิงเขาไม่เห็นด้วยตลอดที่เธอจะอยู่กับเย่ไม่เซิน เรื่องครั้ง นี้เกิดขึ้นกะทันหันไป หน่อย มักจะเป็นตัวตัดสินว่าช่วงเวลาไหน

“พี่ชายเธอน่ะหวงแหนเธอยังกับอะไรดี ฉันว่าเธอหาเวลาบอก เขาเถอะ ไม่อย่างนั้น………กลัวว่าถึงเวลาจะทะเลาะกันเปล่าๆ เสี่ยวเหยียนพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ

หานคู่จื่อกัดริมฝีปาก “ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะพูดกับเขายัง ไงดี อีกอย่างนะ……..ฉันว่าฉันจัดการชีวิตตัวเองได้ ต่อให้เป็นพ่อ แม่ ก็มายุ่งมากขนาดนี้ไม่ได้หรอก”

“แต่พี่ชายเธอก็เป็นพี่ชายเธออยู่ดี เขาดีกับเธอมากนะ”

“ฉันรู้น่า” หานมู่จื่อพยักหน้า ก็เพราะว่าเขาดีกับฉันมากน่ะสิ ที่ ผ่านมาฉันเลยทําตามที่เขาบอกตลอด วันนี้ ฉันก็อยากตัดสินใจ เองบ้าง เสี่ยวเหยียน ถ้ามีโอกาส เธอช่วยฉันพูดบ้างก็ได้นะ

พอเสี่ยวเหยียนฟัง สีหน้าซีดยังกับเถ้าถ่าน เดิมทีให้เสี่ยวหมี่ โต้วพาไปหาหานซึ่งก็หน้า ด้านจะตายอยู่แล้ว ถ้าไปพูดเรื่องนี้ต่อ หน้าหานซิงอีก ไม่เท่ากับไปยั่วโมโหฬานชิงหรอก หรือ

“ไม่ได้นะ ฉันปฏิเสธ เรื่องนี้ฉันไม่ช่วยเธอ เธอไปหาโอกาสเอง

แล้วกัน”

“รู้อยู่แล้วว่าต้องปฏิเสธ ฉันหาโอกาสเองแล้วกัน

ในเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่เย่ ไม่เซินกลับไป ก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องประชุมอีก ได้ยิน เขียว บอกว่าทุกคนต่างแยกย้ายกัน ไปเองแล้ว เขาก็ไม่ได้โมโหอะไร ได้แต่เรียกประชุมใหม่

จากนั้นจึงประชุมต่อ

ในขณะที่ดำเนินการประชุม เย่โม่เซินก็เหม่อลอยขึ้นอีก

คนแก่สองสามคนเริ่มถูกกัน ถูกไปถูกมากลายเป็นโต้แย้ง จากนั้นก็ทะเลาะกันจนหูตาแดงก่ำ

เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องปกติในที่ประชุมไปแล้ว เย่ไม่เซ็น เองก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเอาเป็นว่ารอจนพวกเขาทะเลาะกัน เสร็จ พูดกันอีกสองสามค่าก็โอเคแล้ว

เพียงแต่ว่าตอนนี้ ในหัวของเธ่โม่เซ็นมีแต่เรื่องอื่นเต็มไปหมด

เขาจะหาของขวัญอะไรให้กับลูกชายที่กำลังจะพบหน้ากันดี

หนอ

ก่อนหน้าตอนอยู่ที่สนามบินได้เตรียมเอาไว้ดิบดีแล้ว ที่จริงเย่

ไม่เป็นแค่อยากแสดงให้ จื่อดูเท่านั้น

เขาเป็นพ่อคนครั้งแรก แต่ยังไม่เคยเจอหน้าลูกเลย

เขาจะไปรู้ได้ไงว่าควรจะให้อะไรเป็นของขวัญกับเด็กถึงจะดี

ค่อนข้างเป็นความลับ แต่ไม่อยากให้อรู้ก็แค่นั้นเอง

คิดมาถึงตรงนี้ เย่ ไม่เป็นก็ปวดหัว เม้มปาก

“คุณชายเย ความเห็นผมเมื่อกี้ คิดว่าอย่างไร”เย่ไม่เป็นเงยหน้าขึ้นมอง แล้วพูดออกไปว่า

“เด็กส่วนใหญ่ ชอบอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ