เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่317 คุณยังจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาอีกหรอ



บทที่317 คุณยังจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาอีกหรอ

แยจ่ออึ้งไปสักพัก จากนั้นจึงขยับตัวหันข้างเพื่อ หลีกทางให้สายตาของเย่หลิ่นหาน เธออธิบายด้วยน้ำ เสียงอันแผ่วเบา “ก่อนที่ท่านรองประธานเย่จะตื่น คุณ หนูเสิ่นได้ดื่มโจ๊กไปเรียบร้อยแล้ว ร่างกายของเธอก็ไม่ ได้เป็นอะไรแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว อีกทั้งมองเห็น เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ถึงแม้สีหน้าจะขาวซีด แต่ก็ดูออกว่า สภาพจิตใจของเธอดีกว่าเมื่อคืนที่มีไข้สูงอยู่มาก

ริมฝีปากบางๆอันขาวซีดของเย่หลิ่นหานขยับไป มา ริมฝีปากแลดูแห้งเหือด “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

“ท่านรองประธานเย่ดื่มน้ำก่อนเถอะ”

เขาไม่ขยับตัว สายตาของเขาเอาแต่จ้องมองไป ที่เสิ่นเฉียว

เสิ่นเฉียวก็จ้องมองเขา เดิมทีเธอแค่ต้องการจะ อยู่ดูว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย แต่เมื่อมองเห็นสายตา อันเร่าร้อนของเขาแล้วเธอก็รู้สึกอึดอัดใจมาก แยจื่อยื่น แก้วน้ำให้กับเขา แต่เขาไม่ได้รับ เขาเอาแต่จ้องหน้าเธอ

“แค่กแค่ก…” เสื้อเฉียวรู้สึกผิดเล็กน้อยแล้วไอ เบาๆออกมา จากนั้นดึงผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นมาเพื่อลง จากเตียง

เธอเดินไปอยู่ข้างๆแยอ แยจื่อยิ้มแฉ่งแล้วยื่น แก้วน้ำให้กับเธอ เสิ่นเฉียวจ้องมองไปที่เธอ เธอได้สบตากับแยจ่อ แยจ่อให้คำแนะนำดีดีผ่านสายตาของเธอ จากนั้นยึดตัวแล้วพูด “ฉันไปซื้อของหน่อยนะ เดี๋ยวกลับ มา”

พูดจบ เธอก็ก้าวเท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงอยู่ออก

ไปจากห้อง

หลังจากที่ แยจ่อเดินออกไปแล้ว แววตาของเย่ หลิ่นหานก็แฝงไปด้วยรอยยิ้ม เลขาคนนี้เมื่อถึงเวลา หน้าสิ่วหน้าขวานมักจะรู้ว่าต้องทำยังไงซึ่งถูกใจเขา เสมอ

“คือพี่ใหญ่ คุณพึ่งตื่นขึ้นมา ดื่มน้ำหน่อยเถอะ” เสิ่นเฉียวยื่นแก้วน้ำให้กับเขาเพื่อบ่งบอกว่าให้เขาดื่มน้ำ

เย่หลิ่นหานไม่พูดจาอะไร อีกทั้งไม่ยื่นมือไปรับ อีกด้วย เขาเอาแต่จ้องหน้าเธอ

“ไม่ ไม่ดื่มหรอ?” เสิ่นเฉียวที่ยกแก้วน้ำอยู่เริ่ม ทำตัวไม่ถูก

“ไม่มีแรง” เย่หลิ่นหานพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา

เมื่อฟังจบ ในตอนแรกเสิ่นเฉียวยังไม่เข้าใจความ หมาย แต่เมื่อผ่านไปสักพักเธอจึงเข้าใจว่าเย่หลิ่นหาน บอกว่าตัวเองว่าไม่มีแรงหยิบแก้วคือต้องการให้เธอป้อน เขาดื่มน้ำอย่างนั้นหรอ?

เสิ่นเฉียวหน้าแดงทันที เย่หลิ่นหานเห็นว่าเธอ กำลังรู้สึกอึดอัดใจมาก เธอตื่นเต้นจนวางแก้วน้ำไว้บน โต๊ะ
เขาสังเกตเห็นพฤติกรรมของเธอ แสงสว่างใน แววตาของเย่หลิ่นหานมืดลงเล็กน้อย ต่อมาริมฝีปาก ของเขาเริ่มขยับ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ

บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยเต็มไปด้วยความ อึดอัด ความสัมพันธ์ระหว่างเสิ่นเฉียวกับเขาคือไม่ สามารถที่จะป้อนน้ำให้แก่กันได้ เธอทำได้มากสุดคือยื่น แก้วน้ำไปให้แล้วให้เขาดื่มน้ำเอง

“หรือไม่….ฉันไปเรียกพยาบาลมา!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวราวกับว่าได้คว้าฟาง เส้นหนึ่งที่ช่วยชีวิตของตัวเองเอาไว้ จากนั้นเธอจึงหัน หลังแล้วจะเดินออกไปเรียกพยาบาล เย่หลิ่นหานที่มอง เห็นภาพนั้นไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพื่อน้ำหนึ่งแก้ว เธอถึงกับต้องไปเรียกพยาบาลมา นี่มันก็เกินไป

“กลับมา” เย่หลิ่นหานเรียกเธอ

ฝีเท้าของเธอหยุดชะงัก เธอหันหน้าพร้อมกับกัด ริมฝีปากแล้วมองไปที่เขา

ดูสภาพเช่นนี้แล้วช่างน่าสงสารเหลือเกิน ราวกับ ว่าเย่หลิ่นหานได้ยื่นข้อเสนอที่ทำให้เธอลำบากใจมากๆ แต่เขาเองก็รู้ดีว่าเขาได้ทำให้เธอลำบากใจจริงๆ

เย่หลิ่นหานยิ้มอ่อนๆ “ฉันแค่ล้อเล่นกับคุณน่ะ คุณจะไปหาพยาบาลเลยหรอ?”

“ฉัน….

“เมื่อตะกี้ฉันแค่มีความคิดชั่ววูบน่ะ ดังนั้นเลยพูดล้อเล่นกับคุณ ตอนนี้ไม่พูดล้อเล่นแล้วล่ะ….ขอโทษด้วย นะ”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมามองเขา หลัง จากมองเห็นแววตาที่รู้สึกผิดของเขาแล้ว เธอจึงรู้สึก อึดอัดใจแล้วก้มหน้าลง “คนที่ควรจะพูดว่าขอโทษคือ ฉันต่างหาก คุณช่วยฉันเอาไว้ ทำอะไรเพื่อฉันมากมาย แต่ฉันกลับ…

ไม่ยอมแม้แต่จะป้อนน้ำให้กับเขา

แต่..ว่า…. เธอทำไม่ได้จริงๆนี่!

เย่หลิ่นหานไม่ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจอีก เขาลุก ขึ้นแล้วจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ เสิ่นเฉียวเห็นเช่นนั้น แล้วจึงรีบพุ่งเข้าไปหยิบแก้วน้ำแล้วยื่นให้กับเขา

ในจังหวะที่เย่หลิ่นหานยื่นมือไปรับแก้วน้ำ เขา เผลอไปแตะโดนมือของเธอ เสิ่นเฉียวตกใจมากจึงรีบ หดมือกลับมา โชคดีที่เย่หลิ่นหานรับแก้วน้ำไว้แล้ว เมื่อ สังเกตเห็นพฤติกรรมของเสิ่นเฉียวแล้ว แววตาของเขาก็ ดูมืดมนมากขึ้น

เขายกแก้วน้ำมาจิบน้ำหลายที่เพื่อให้รู้สึกชุ่มคอ จากนั้นเขาจึงเปล่งเสียงพูดใหม่ “ฉันไม่ทำอะไรคุณ หรอก คุณไม่ต้องกลัวฉันขนาดนี้ก็ได้”

เขาไม่พูดก็ยังโอเค พอดูออกมาเช่นนี้แล้วเสิ่น เฉียวรู้สึกอึดอัดใจมาก เธอไม่ได้ตอบรับคำพูดของเย่หลิ่ นหาน เธอเอายืนนิ่งอยู่ด้านข้าง

หลังจากที่เย่หลิ่นหานดื่มน้ำเรียบร้อยแล้ว เธอจึงยื่นมือไปรับแก้วน้ำ เย่หลิ่นหานพูด “คุณกลับไปนอนพัก เถอะ

มือของเสิ่นเฉียวค้างอยู่กลางอากาศ เมื่อผ่านไป สักพักเธอจึงดึงมือกลับมา “ขอโทษนะ… ” ผ่านไปนานพอสมควร เธอจึงพูด

ขอโทษกับเย่หลิ่นหาน จากนั้นจึงหันหลังแล้วเดินกลับ

ไปที่เตียงของเธอ

เย่หลิ่นหานจ้องมองแผ่นหลังของเธออยู่ๆจึงพูด

“เฉียวเฉียว”

เมื่อได้ยินเขาเรียก ฝีเท้าของเธอหยุดชะงักทันที เธอไม่ได้หันหน้าไปมอง

“คุณจะยังจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขามั้ย?”

เสิ่นเฉียวเงียบไปสักพัก จากนั้นหันหน้ามา “ฉัน เคยออกมาด้วยหรอ? ฉันมีเรื่องมากมายที่ยังไม่ได้คุยให้ ชัดเจนกับเขา ฉันต้องถามให้ชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ถามให้ชัดเจนแล้วหลังจากนั้นล่ะ? สัญญาการ หย่าฉบับนั้น ฉันเห็นแล้วล่ะ”

มือของเสิ่นเฉียวกำแน่นโดยไม่รู้ตัว เธอกัดฟัน แน่น

“เขาอยากจะเลิกกับคุณ ถ้าคุณยังกลับไปหาเขา มันก็ไม่ต่างกับการที่คุณเอาศักดิ์ศรีโยนไว้ใต้เท้าของ เขาให้เขาเหยียบย่ำเล่นหรอกหรือ?”

“เขาไม่ทำอะไรที่ไร้เหตุไร้ผลขนาดนั้นหรอก ในเรื่องนี้จะต้องมีสาเหตุอะไร พี่ใหญ่ คุณช่วยฉันไว้ คุณพักผ่อนดีดีเถอะ ฉันไม่แอบหนีไปไหนหรอก หลัง จากที่ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้วฉันค่อยไปหาเขา”

เมื่อพูดจบเสิ่นเฉียวก็กลับไปที่ของตัวเอง จากนั้น ไม่ได้พูดอะไรกับเย่หลิ่นหานอีก

เย่หลิ่นหานจ้องมองร่างของเธอ มันบอกไม่ถูกว่า ในใจรู้สึกยังไง มีเพียงแค่ความขมขึ้นในปากของเขา

ความรู้สึกนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่เช่นนี้ไปอีกนานเท่าไหร่

มองเห็นผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ตรงหน้า แต่เขา กลับต้องส่งเธอให้ไปอยู่ต่อหน้าของผู้ชายคนนั้นที่เธอ รัก สิ่งนี้มันก็แย่พอแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่รักษาและ ทะนุถนอมเธอเอาไว้ให้ดีดี

สิ่งนี้ทำให้เย่หลิ่นหานรู้สึกโกรธมาก ถ้าสามารถ ทำได้ละก็เขาอยากจะใช้กำลังแย่งเสิ่นเฉียวแล้วพาเธอ ออกไปจากที่นี่ ไปสักมุมในโลกใบนี้ จะเป็นที่ไหนก็ได้ ขอแค่ไม่ให้เธอต้องเจอกับผู้ชายคนนั้น

แต่เขากลับไม่อาจเพิกเฉยต่อความรู้สึกของเสิ่น เฉียว

ถ้าเธอร้องไห้ต่อเขา เผยให้เห็นสีหน้าที่ทุกข์ ทรมานหรือแววตาที่เป็นทุกข์ เขาคงรู้สึก…ว่าตัวเองเป็น คนทำผิดอย่างมหาศาล

ถ้ามันจะเป็นเช่นนี้ละก็ งั้นเขาช่วยเธอดีกว่า ช่วยให้เธอได้สิ่งที่อยากได้ทั้งหมด มองดูเธอมีความสุข งั้นเขาควร…จะพึงพอใจแล้วล่ะ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เยู่หลิ่นหานก็ได้เตรียมใจไว้ พร้อม

พวกเขาค้างอยู่ในโรงพยาบาลสองวันเต็มๆ เย่ หลิ่นหานแจ้งความประสงค์จะออกจากโรงพยาบาล ตอนที่เสิ่นเฉียวรวมไปถึงแยจ่อได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกอึ้งทันที เพราะเขาได้รับบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรง หมอบอกว่าเขา ต้องนอนโรงพยาบาลอย่างน้อยห้าวันขึ้นไป แต่ตอนนี้ นับรวมกับวันก่อนก็เป็นเวลาเพียงสองวัน เขากลับ ต้องการจะออกจากโรงพยาบาล

“ทำไมต้องออกจากโรงพยาบาลไวขนาดนี้? ทาง ด้านบริษัทฉันได้จัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ท่าน รองประธานเย่พักผ่อนต่ออีกกี่วันเถอะ”

เสิ่นเฉียวยืนอยู่ข้างๆแล้วจ้องมองไปที่เขา “อย่า

บอกนะว่าคุณคิดว่าการที่คุณค้างโรงพยาบาลจะเป็นการ

รั้งเหนี่ยวฉันเอาไว้ ดังนั้นจึงอยากรีบออกจากโรง

พยาบาลล่วงหน้าน่ะ?” เย่หลิ่นหานยิ้มอ่อนๆ” เด็กโง่ คิดอะไรของเธอนะ ฉันเป็นผู้ชาย แผลพวกนี้มันก็แค่แผลถลอกภายนอก จะ ค้างโรงพยาบาลไปตลอดมันก็ไม่ใช่เรื่อง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ