เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 122 งานชิ้นแรกที่ได้ทำคุณประโยชน์



บทที่ 122 งานชิ้นแรกที่ได้ทำคุณประโยชน์

จริงๆ

ไม่มีความสุข?

เสิ่นเฉียวไม่รู้จะบรรยายยังไงดี

ถ้าบอกว่าเธอไม่มีความสุข บางครั้งเย่โม่เซิ นกลับปฏิบัติกับเธอเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าภายนอก เขาจะดูเหมือนร้าย แต่เขากลับช่วยเธออย่าง จริงใจ

ถ้าบอกว่าเธอมีความสุข แต่เธอกลับจน มาก มีหลายเรื่องที่ทำได้ยาก

” พี่? ”

เสิ่นเฉียวดึงสติกลับมา และยิ้ม: ” แกอย่า ถามมาก ไม่ใช่ว่าเพื่อนแกกำลังรอแกอยู่หรอ? ไปสิ”

เสิ่นโย่วถึงค่อยกระพริบตา: ” อือ พี่ งั้น… ฉันไปหาเพื่อนก่อนนะ” เสิ่นโย่วเอาเงินหนึ่งพัน บาทเก็บเข้าในกระเป๋าตังค์ของตัวเอง และพูดขึ้น อย่างระมัดระวัง

” ไปเถอะ พี่ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
ภายหลัง ทั้งสองคนก็แยกจากกัน เสิ่นโย่ว รอจนเธอเดินจากไปแล้ว ถึงค่อยหยิบบัตร ธนาคารออกมาจากในกระเป๋าตังค์ หล่อนมอง แผ่นหลังของเธอ บนใบหน้าเผยรอยยิ้ม เหน็บแนมขึ้น

” โง่จริงๆ ”

หล่อนคืบบัตรธนาคารมาจูบที่มุมปาก หลัง จากนั้นก็ยิ้มออกมา

” เงินแค่สองพันบาทก็สามารถทำให้พี่ตื้น ตันใจได้แล้ว เป็นคนโง่อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วยสิ!”

ภายหลัง เสิ่นโย่วเก็บบัตรธนาคารลง หลัง จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

เสิ่นเฉียวถือเงินหนึ่งพันบาทกลับบ้าน เธอ ยังคงกลุ่มใจ ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงผู้อำนวยการ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ร้านอาหารที่เธอจองไว้ เงิน หนึ่งพันบาทยังไม่พอกับค่าอาหารเริ่มต้นเลย เธอ มีเงินเลี้ยงอาหารเขาซะที่ไหนละ? ”

แต่ภารกิจที่เยโม่เซินได้มอบหมายให้กับ เธอ..

เสิ่นเฉียวถอดรองเท้าและนอนคว่ำลงไป บนผ้าห่มของตัวเอง อารมณ์ของเธอตอนนี้ตกต่ำมาก

คิดอยู่สักพัก สุดท้ายเธอก็ส่งข้อความหา หานเสโยวอย่างอดไม่ได้ แต่หลังจากที่พิมพ์ ข้อความเสร็จแล้วนั้น การกระทำบนมือของเสิ่น เฉียวก็ได้หยุดลงอีกครั้ง

เสี่ยวทำการหาคนแทนเธอ ก็ยุ่งมากพอ อยู่แล้ว ถ้าหากว่าครั้งนี้เธอยังยืมเงินเส่โย วอีก ….ก็เท่ากับว่ายิ่งรบกวนหล่อนขึ้นไปอีกนะ สิ?

ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทกัน เธอก็ไม่ควรขอให้ คนอื่นช่วยอยู่แบบนี้ไปตลอด

คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวจึงกดล็อคหน้าจอ โทรศัพท์ และฝังใบหน้าลงไปบนหมอน

” ภารกิจล้มเหลวแล้ว?”

เสียงของผู้ชายดังขึ้นมาอย่างเย็นชาจาก ทางด้านหลัง ตัวของเสิ่นเฉียวแข็งที่อไปทันที เธอหันหัวกลับมาอย่างรวดเร็ว

เป็นอีกครั้งที่เยโม่เซินโผล่มาที่ด้านหลัง เธออย่างไม่ให้สุมให้เสียง สีหน้าของเสิ่นเฉียว เกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย: นี่นาย….ทำไม นายถึงชอบโผล่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้ด้วยละ? ”

เยโม่เซินเคาะไปที่รถเข็นของตัวเอง: ” ไม่มีเสียง? ”

เสิ่นเฉียว

ก็จริง ตอนรถเข็นของเขาเคลื่อนที่ก็มักจะ เกิดเสียงขึ้น เป็นเธอเองที่คิดเรื่องเพลินไปหน่อย ” เมื่อสักครู่นายถามฉันว่าอะไรนะ? ”

” ภารกิจที่มอบให้คุณ ดำเนินการไปถึงไหน แล้ว?”

เงินเฉียวชะงักไป เขาหมายถึงเรื่องที่ร่วม มือกับบริษัทตระกูลหานใช่ไหม? เสิ้นเฉียวมองเย่ โม่เซินอย่างพิจารณา ไม่งั้น….ลองพูดขอเบิก เงินกับเขาก่อน หลังจากนั้นก็ให้เขาไปหักจาก เงินเดือนของเธอ?

” คือว่า….ฉันอยากยืมเงินนายก่อนสักเล็ก น้อย! ”

เสิ่นเฉียวพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

เยโม่เซินหรี่ตาลง เลิกคิ้วขึ้น: ยืมเงิน? ” เขาค่อยๆยกริมฝีปากขึ้นช้าๆ ในตา ปรากฏการณ์ถากถางขึ้นมา
ซ่อนไว้ได้ตั้งนาน ในที่สุดก็ปรากฏโฉมหน้า ที่แท้จริงออกมาสักที?

” ใช่” เสิ่นเฉียวพยักหน้าอย่างหนักแน่น อาจเป็นเพราะลำบากใจ ตอนเธอพูดจึงมีความ ลังเลอยู่บ้างเล็กน้อย: ” ฉันติดต่อกับคนของ บริษัทตระกูลหานไว้เรียบร้อยแล้ว และฝ่ายตรง ข้ามยอมหาเวลามาเจรจาแล้วด้วย แต่ว่า….ฉัน ต้องเลี้ยงอาหารเขา แต่ฉันไม่มีเงินแล้วน่ะสิ…”

พูดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็เงยหน้ามอง เข้าไปในตาลึกของเย่โม่เซิน และพูดถามอย่าง ระมัดระวัง: ” ฉันยืมห้าพันบาท รอให้ฉันได้เงิน เดือน แล้วฉันค่อยคืนนาย ได้ไหม? ”

เยโม่เซิน: ”

ผู้หญิงคนนี้ …มักจะทำให้เขาคิดไม่ถึงอยู่ เรื่อยเลย

และมักจะไม่เดินไปตามความคิดของเขา อีกด้วย

เขาคิดว่าเธอจะเสนอเงื่อนไขที่มันสูงกว่านี้ แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอคิดจะยืมแค่ห้าพันบาท อีก อย่าง สายตากับสีหน้านั้นหมายความว่ายังไง? ราวกับกลัวเขาไม่ให้ยืมอย่างนั้นแหละ
อาจเป็นเพราะเงียบไปนานจึงทำให้เสิ้น เฉียวคิดว่าเย่โม่เซินไม่อยากให้เธอยืม เสิ่นเฉียว จึงรีบพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน: ” ขอโทษค่ะ ฉันรู้ว่า เป็นความผิดของฉันที่ทำให้ความร่วมมือของ บริษัทในครั้งนี้ต้องยุ่งเหยิง และฉันยังรู้ว่าไม่ควร มายืมเงินนาย แต่ฉันไม่มีทางอื่นแล้ว ฉันไม่มีเงิน แล้วจริงๆ….”

พูดจบ เส้นเฉียวก็ก้มหน้าลงไปอย่าง ลำบากใจ

” ถ้านายไม่อยากให้ฉันยืม งั้นฉันคิดหาวิธี เองก็ได้”

พูดจบ เสิ่นเฉียวก็คว่ำหน้ากลับไปบน หมอนของตัวเอง ใบหน้าของเธอซุกเข้าไปใน หมอนนุ่ม ไม่ส่งเสียงอะไรออกมา

น่าแปลก เย่โม่เซินรู้สึกว่าเสิ่นเฉียวในตอน นี้ ชวนให้คนรู้สึกสงสาร

ก็เห็นอยู่ว่าไม่มีทางไปแล้ว เธอคิดอยากจะ พูดกับเขา แต่กลัวว่าเขาจะโกรธจนไม่ตอบรับ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น ตัวเธอกลับปฏิเสธตัวเองไป ก่อนแล้ว

ช่างเป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ
ดวงตาของเย่โม่เซินค่อยๆหนักแน่นขึ้น เขา พูดขึ้นมาเสียงเย็น: นี่เป็นบัญชีสาธารณะ คุณจะ ไม่ไปรายงานต่อฝ่ายการเงินหรอ?”

ได้ยินดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ลุกขึ้นนั่งทันที: ” นาย นายพูดว่าอะไรนะ? ฉันสามารถไปรายงาน ต่อฝ่ายการเงินได้หรอ? แล้วฉันสามารถไปก่อน

ล่วงหน้าได้ไหม? ”

เธอคิดว่าต้องบริโภคและได้รับใบเสร็จก่อน ถึงจะสามารถนำไปเบิกได้ ไม่คิดว่าจะสามารถยื่น เรื่องได้ก่อนล่วงหน้า”

เดิมทีเยโม่เซินอยากจะพูดว่าไม่ได้ แต่เห็น สายตากับสีหน้าที่น่าสงสารของเธอแล้ว อยู่ๆก็ คิดว่าให้เธอเป็นกรณีพิเศษก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ไม่ อย่างนั้น….เธอก็คงจะไม่มีทางให้ไปแล้วจริงๆ

” ได้สิ” เสียงทุ้มพูดขึ้น

วินาทีต่อมา เย่โม่เซินเห็นดวงตาของเสิ่น เฉียวเป็นประกายขึ้นมา ราวกับท้องฟ้ามืดมิดที่ไร้ ดวงดาวเมื่อสักครู่ ได้ปรากฏให้เห็นดวงจันทร์ หลังจากนั้นก็ส่องแสงสว่างให้กับดวงดาวที่อยู่ ข้างๆ

เย่โม่เซินรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาปะทะเข้าที่ทรวงอก

เสิ่นเฉียวลุกขึ้นทันที ” งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปยื่น เรื่อง เย่โม่เซิน สวัสดิการของบริษัทนายช่างดี จริงๆ บริษัทเก่าของฉันทำได้แค่เบิกเงินเท่านั้น แหละ ”

อาจเป็นเพราะแก้ไขปัญหาได้แล้ว ดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงอารมณ์ดีขึ้นมาทันที อยู่ๆเธอก็ยื่นมือ มาจับแขนเสื้อของเย่โม่เซิน ครั้งนี้ฉันจะทำมัน ให้ดี จะไม่เพิ่มความลำบากให้กับนายอีก”

มือเล็กของเธอนุ่มมาก เยโม่เซินก้มหน้าลง ไปมองเล็กน้อย ก็เห็นอยู่ว่าจับแค่แขนเสื้อของ เขา แต่เย่โม่เซินกลับมีความรู้สึกว่ามือของเธอ กำลังจับอยู่ที่ทรวงอกของเขา ทำให้เขารู้สึก หายใจลำบาก

ผ่านไปสักพัก เย่โม่เซินก็ได้พูดขึ้นมาอีก ครั้ง น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงแหบที่ทุมต่ำทันที

” ปล่อยมือ”

ได้ยินดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ชะงักไปเล็กน้อย และเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจับชายเสื้อของเขา เอาไว้อยู่ ถึงได้รีบปล่อยมืออย่างรวดเร็ว และเบะ ปากทันที
ขี้งก ดึงชายเสื้อแค่นี้ก็ไม่ได้

” ไปทำงานพรุ่งนี้ ก็อย่าลืมไปรายงานต่อ ฝ่ายการเงินด้วยละ ” เย่โม่เซินพูดเสร็จ ก็หมุนรถ เข็นและค่อยๆหมุนมือ

“อือ รู้แล้วน่า ” เสิ่นเฉียวอารมณ์ดี แก้ไข ปัญหาได้แล้ว เธอไม่ต้องห่วงว่าเรื่องนี้จะ ยุ่งเหยิงอีกแล้ว

“อย่าดีใจเร็วจนเกินไป หานชิงไม่ใช่คนที่ จะสามารถทำสำเร็จได้ง่ายขนาดนั้น”

น้ำเสียงของเย่โม่เซินดังเข้ามา กระทั่งไป บนหัวของเสิ่นเฉียว ป้องกันไม่ให้เธอดีใจจนเกิน ไป

เสิ่นเฉียวได้ฟังดังนั้น ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล

แต่เธอยังคงรู้สึกดีใจ อย่างน้อยเธอก็ สามารถแก้ไขเรื่องที่แก้ไขยากได้แล้ว ต่อจากนี้ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ พูดให้หานชิงร่วมมือกับ บริษัทตระกูลหานก็เรียบร้อยแล้ว

หานชิงคนนั้น หัวโบราณและเป็นจริงเป็นจัง ไปเจรจางานครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นงานชิ้นแรกที่เธอ ได้ทำคุณประโยชน์จริงๆ ตั้งแต่เข้าบริษัทตระกูล

หานมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ