เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่219 แสร้งทำเป็นใสซื่อ



บทที่219 แสร้งทำเป็นใสซื่อ

ตาคมของเขามองมาราวกับกำลังมองขโมยนั่นจึง ทำให้เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากด้วยความโกรธ

“ใครบอกว่าเธอขโมย? ”

เยโม่เซินพูดเสียงไม่ร้อนไม่หนาว แต่กลับทำให้ คนฟังรู้สึกชาขึ้นมา เสิ่นเฉียวกำหมัดขึ้นพลางพูด งั้นที่ นายพูดมันนหมายความว่ายังไง? ”

เยโม่เซินคิดไปถึงสูทตัวนั้นที่กระดุมบนมันหาย

ไป

หลังจากที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นในแป๊บนั้น กลับ มากพบว่ากระดุมมันหายไป เขาเองก็ไม่ได้สนใจ แต่การ ที่กระดุมหายไปนั่นเป็นปกติที่เขาจะไม่ใส่มันอีก แต่เขาก็ ยังไม่ทั้งชุดนั้นไปทั้งยังเก็บเอาไว้

วันนี้กลับบังเอิญเห็นว่ากระดุมมันถูกถอดออกไป

พอมาพิจารณาให้ดีๆ เสิ่นเฉียวไม่ได้ตั้งใจจะทำ อะไรแบบนี้แน่ แต่ว่า …..นอกจากเธอแล้ว จะเป็นใครได้ อีกหล่ะ?

อีกทั้งในช่วงเวลาแบบนี้ เยโม่เซินก็อดที่จะคิดไม่ ได้ว่ากระดุมที่หายไปนั้น มันอยู่กับผู้หญิงในคืนนั้นหรือ เปล่า?

“ไม่มีอะไร” เย่โม่เซินพูดเสียงเย็น ขมวดคิ้ว “เพียงแต่เธอกล้าพูดมั้ยว่าเธอไม่ได้แตะต้องเสื้อผ้าในตู้ฉัน? ”

เสิ่นเฉียว : .นี่นายทำอะไรหายกันแน่ นายจะ พูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ มาถามสุ่มแบบนี้หมายความ ว่ายังไง? ” เขายังคงเงียบ เสิ่นเฉียวจึงพยักหน้า “โอเค เรื่อง

นี้เอาไว้เย็นนี้ค่อยมาคุยกัน เดี๋ยวเส่โยวจะมาเยี่ยมนาย

ท่าน ฉันจะต้องลงไปก่อนหล่ะ”

พูดจบ เสิ่นเฉียวก็หมุนตัวเดินออกไป

รอจนเธอเดินออกไปแล้วนั้น เยโม่เซินถึงจะหยิบ เอาสูทตัวนั้นออกมา ก่อนจะจ้องไปที่กระดุมถูกถอดออก

ไป

ทำหล่นไป1เม็ด ขาดไป2เม็ด-มันไม่อยู่ที่ไหน

กันแน่?

*

เมื่อเสิ่นเฉียวมาถึงชั้นล่างเธอก็เตรียมออกไปรอ อยู่ที่ประตูใหญ่ ในตอนที่กำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นนั้น เองเธอก็เห็นเย่หลิ่นหานนั่งอยู่ที่โซฟา เขาถือโทรศัพท์ ราวกับกำลังคุยกับใครอยู่ และจู่ๆ ราวกับรู้สึกได้ว่ามีคน มองเขาจึงหันมามองทางเธอ เสิ่นเฉียวจึงรีบเร่งสปีดเท้า เดินออกมา

เธอมาถึงหน้าประตูตระกูลเย่สักพักก็เห็นรถของ หานเส่โยวขับมา

เมื่อหานเส่โยวลงจากรถแล้ว เธอก็เอากุญแจให้พ่อบ้านเอาไปจอดรถ จากนั้นก็เอาของเดินเข้าไปใน บ้านพร้อมกับเสิ่นเฉียว

“เฉียวเฉียว แกดีกับฉันมากจริงๆ เลยนะ นี่ฉันยัง คิดว่าแกยังโกรธฉันอยู่เลย หลายวันก่อนฉันยังไม่ได้มา นั่งทบทวนก็เลยไม่ได้มาหาแกเลยขอโทษนะ แกโอเค มั้ย? ” หานเส่โยวเดินเข้าบ้านมาได้ก็ถามเธอทันที

เสิ่นเฉียวจะไปคิดอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนั้น ได้ยังไง หลายวันมานี้เธอเพียงพยายามใจเย็นเท่านั้น จึงส่ายหน้าตอบไป “ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก เข้าบ้าน เถอะ อ้อจริงสิ คุณท่านออกไปแล้วหล่ะ น่าจะกลับมา เย็นๆ”

ไม่เป็นไรเลย” หานเส่โยวพูดพลางยิ้มตาหยี “ประเด็นสำคัญของฉันก็คือมาหาแกนี่หล่ะก็เลยแวะ เยี่ยมคุณปู่เยด้วย แกเป็นเจ้าบ้านนี่”

เมื่อได้ยินแบบนี้เสิ่นเฉียวก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา

“ขอบใจนะเส่โยว”

“จ้า เข้าบ้านกันเถอะ”

เสิ่นเฉียวช่วยเธอถือของ เมื่อทั้งสองเข้ามาด้าน ในแล้วก็เจอเข้ากับเย่หลิ่นหาน และเมื่อเห็นเย่หลิ่นหาน หานเส่โยวก็ทักทายอย่างกระตือรือร้นทันที

“พี่เย, ”

“มาเที่ยวเล่นเหรอ? “มือของเย่หลิ่นหานถือ หนังสืออยู่เล่มหนึ่ง เขายิ้มแล้วมองมาทางพวกเธอสายตาตกอยู่ที่ใบหน้าของเสิ่นเฉียว เมื่อเห็นว่าเสิ่นเฉียว หลบหน้าเขาตลอด ใบหน้าเขาจึงหมองลงเล็กน้อย

“อ้อจริงสิพี่เย่ เห็นว่าคุณปู่ออกไปข้างนอก ฉัน เอาของมาให้ทุกคนหน่ะค่ะ” พูดจบ หานเส่โยวก็หยิบถุง หนึ่งให้เย่หลิ่นหาน พลางพูดตาหยี “หวังว่าพี่จะไม่ รังเกียจนะคะ”

“ตัวมาก็พอแล้วจะเอาของขวัญอะไรมาให้ด้วย เล่า? ” เย่หลิ่นหานรับของถุงจากเธอมาอย่างสุภาพ

“ฉันมาเป็นแขกนี่คะ ก็ต้องเอาของติดไม้ติดมือมา บ้าง”

“โอเคเอาหล่ะ พวกเธอคุยกันตามสบายเลยนะ ฉันไปทำธุระก่อน”เย่หลิ่นหานเมื่อเห็นว่าเสิ่นเฉียรู้สึก ไม่โอเค เขาจึงหาข้ออ้างเพื่อที่จะจากไป

รอจนกระทั่งเขาเดินไปแล้ว หานเส่โยวจึงจับมือ เสิ่นเฉียวเข้าไปทางห้องนั่งเล่น “จริงๆ ฉันคิดว่าพี่เยเอง ก็เป็นคนอบอุ่นแล้วก็สุภาพนะ อ่อนโยนกับทุกๆ คน คน แบบนี้นี่ไม่เลวเลย แต่ถ้าเธอไม่ชอบหละก็ ไม่ก็จะไม่ ซักไซ้ว่าทำไมแล้วก็จะไม่ถามถึงอีกด้วย”

เมื่อได้ยินแบบนี้เธอก็ชะงักไป มองอีกฝ่ายอย่าง ไม่อยากจะเชื่อ

“เส่โยว ? ”

“ประหลาดใจเลยใช่มั้ยหล่ะ? เราเป็นพี่น้องกัน หลายวันมานี้ฉันกลับไปคิดทบทวนอย่างพินิจแล้วหล่ะ ฉันรู้สึกว่าฉันควรจะเคารพกับการเลือกของแก แล้วอีกอย่างเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องของแกด้วย ฉันไม่ควรจะ เข้าไปแทรกแซงมากจนเกินไป”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หานเส่โยวก็เอาของในมือวางลง “แกไม่ต้องซาบซึ้งอะไรมากหรอกนะ อ้อจริงด้วยสิ ตอน นี้คุณปู่เย่ยังไม่มา เราทำอะไรกันก่อนดี? ”

“งั้นเดี๋ยวฉันพาเธอไปเดินเล่นรอบๆ”

พอดีกับที่เธอเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับที่นี่มากนัก พา อีกฝ่ายไปเดินดูทั่วๆ ตัวเธอเองก็จะได้ดูด้วยเช่นเดียวกัน

ดังนั้นเธอจึงพาหานเส่โยวไปเดินเล่นอยู่รอบๆ

สวนด้านหลัง และจู่ๆ หานเส่โยวก็บอกว่าปวดท้องขึ้นมา

อยากจะไปเข้าห้องน้ำ เสิ่นเฉียวจึงหยักหน้ารับ “ได้สิ ไป

เถอะ เดี๋ยวฉันรออยู่นี่”

“โอเค งั้นแกรอฉันแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวฉันกลับมา”

หานเส่โยวลาเธอเสร็จก็ก้าวยาวๆ ไปตามทาง เดิน ก็เห็นเย่โม่เซินอยู่ด้านหน้าไม่ไกล ริมฝีปากเธอ กระตุกยิ้มขึ้น จากนั้นจึงแสร้งเดินไปหาท่าทางประหลาด

ใจ

“คุณชายเย? คุณมานี่ได้ยังไง…”

เวลาวันหยุดเย่โม่เซินมักจะออกมาเดินเล่นที่สวน หลังบ้าน แค่ไม่คิดว่าจะได้เจอกับหานเส่โยวเข้า

สำหรับเธอ เย่โม่เซินเพียงมองปราดอย่างเย็นชา

ก่อนจะตอบรับเพียงอึมคำเดียว

“ขอโทษนะคะ พอดีฉันมาเดินเล่นกับเฉียวเฉียวแต่ว่า เมื่อครู่ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำ แต่ดันเกิดหลงทาง ขึ้นมาได้” พอพูดถึงตรงนี้ หานเส่โยวก็เดินเข้ามาใกล้ มากขึ้น ก่อนจะใช้มือแตะไปที่หลังของเย่โม่เซิน “คุณ ชายเยคิดว่าฉันเซ่อซ่ามั้ยหล่ะคะ? ”

เยโม่เซิน : 1

เขาขมวดคิ้วขึ้น ผู้หญิงคนนี้นี่

“คุณชายเย่ คุณช่วยไปห้องน้ำเป็นเพื่อนฉันที่ได้ มั้ยคะ? ” พลางพูดหานเส่โยวก็ค่อยๆ ยกมือขึ้นสัมผัส หลังของเย่โม่เซิน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เธอก็ค่อยๆ ได้มือขึ้นไปบริเวณคอของเขา หัวใจยิ่งเต้น รัวขึ้น

สายตาก็ยังมองนิ้วเรียวขาวของเธอเองที่ไล้อยู่ที่ คอของเขา แต่แล้วจู่ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกจับ

เย่โม่เซินมองเธออย่างเย็นชา พูดเสียงเย็นราว น้ำแข็ง “เธอคิดจะทำอะไร? ”

หานเส่โยวตกใจแทบกระโดด อีกทั้งเพราะเยโม่ เซินใช้แรงเยอะมาก ทำให้มือของเธอเหมือนถูกรัดล็อก เอาไว้ เขาเคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อนหรือเปล่านะ? หานเส่โยวสับสน “เปล่า ฉันไม่ได้จะทำอะไร..คุณชาย เย่.คุณทำฉันเจ็บนะคะ”

เธอเบิกตาที่มีน้ำใสๆ คลอมองเขาอย่างใสซื่อ

เมื่อมองดวงตาที่มีน้ำตาคลอของเธอ ก็เหมือนมี น้ำกระแสไหลเย็นแทรกเข้ามาในสมองของเขา เย่โม่ เซินนึกไปถึงเสิ่นเฉียว ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้สายตาที่บริสุทธิ์ใสซื่อแบบนี้มองตน เพียงแต่แววตาของเธอมัน แข็งแรงและดื้อรั้น เต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้

แต่ผู้หญิงตรงหน้านั้นต่างกัน ดวงตาของเธอฉาย แววก็แสร้งแสดงความใสซื่ออย่างเห็นได้ชัด “ไม่ได้ทำอะไร”เย่โม่เซินหัวเราะเย็น “แล้วเธอจะ

มาเข้าใกล้ฉันทำไม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ