เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่208 แกล้งทำเป็นพี่น้องที่รักกันทำไม



บทที่208 แกล้งทำเป็นพี่น้องที่รักกันทำไม

“คุณ”เสี่ยวเหยียนจับใบหน้าของตัวเองแล้วอยาก ก้าวไปข้างหน้า “ตบนี้เพื่อเตือนสติคุณ หากคิดได้แล้ว ก็ไสหัวไปให้พ้นซะ ไม่อย่างนั้น…ฉันในฐานะคุณหนู ตระกูลหาน ใครจะมาหาเรื่องฉันมันก็ไม่ง่ายนะ”

เสี่ยวเหยียนไม่สนอะไรหน้าไหนพุ่งไปข้างหน้า ตบคืนเธอกลับไป

เธอแข็งแกร่ง และรวดเร็ว หานเส่โยวตกตะลึง ไม่ตอบสนอง จนเมื่อเธอถูกตบหน้า

“เธอกล้าตบฉัน?”

“เธอตบฉันแล้วฉันก็ตบเธอคือไม่ได้หรอ?” เสี่ยว เหยียนพุ่งเข้ามากล่าวอย่างร้ายกาจ

หานเส่โยวจับใบหน้าของตัวเอง จ้องมองกันและ กันอย่างไม่เป็นมิตร อยากที่จะก้าวไปข้างหน้าและฉีก เธอ “อย่าคิดว่าคุณเป็นเพื่อนของเฉียวเฉียว แล้วฉันจะ ไม่กล้าทำอะไรเธอ?”

“เธอทำอะไรฉันได้อยู่แล้ว สามีของเพื่อนที่ดี ของคุณเองคุณยังสามารถลงมือไปแอบแย่งเลย ส่วน ฉันที่เป็นแค่เพื่อนธรรมดาของเพื่อนที่ดีของคุณยิ่งไม่ ต้องพูดถึง แน่นอนว่าคุณต้องใช้วิธีที่โหดกว่านี้มา จัดการกับฉัน ฉันพูดถูกไหมล่ะ?”

หลังฟังเธอพูด สีหน้าหานเส่โยวก็เปลี่ยนทันที

“คุณอย่าพูดไปมั่ว แอบแย่งอะไรกัน ฉันฟังไม่รู้เรื่องว่าคุณพูดอะไร”

“ฟังไม่รู้เรื่อง?”เสี่ยวเหยียนเช็ดเลือดจากมุมริม ฝีปากของเธอและหัวเราะเยาะ

“คุณฟังไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ท้ายที่สุดคุณก็เสแสร้ง ต่อหน้าเสิ่นเฉียวแกล้งเป็นพี่น้องเธอ ต่อหน้าคุณชายเย่ แกล้งทำเป็นเหมือนดอกบัวขาวที่ใสซื่อบริสุทธิ์อีก อันที่ จริงคุณแค่ต้องการเกลี้ยกล่อมคุณชายเย่ คุณจงใจแต่ง ตัวแบบนี้ คนอื่นดูไม่ออก คุณอย่าคิดว่าฉันจะดูไม่ ออก?”

เสี่ยวเหยียนไม่เกรงใจเลยสักนิดเลย

เธอสงสัยในตอนแรก ต่อมาฉันเห็นเธอกลับมา พร้อมกับเย่โม่เซิน หลังจากรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ และดวงตา เสี่ยวเหยียนค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าเธอคิด อะไรกับคุณชายเย่

“คุณดูออกอะไร?”คุณแค่คาดเดา คุณแค่ต้องการ ตรวจสอบสิ่งที่ฉันทำ?แม้แต่กฎหมายก็ให้ความสำคัญ กับหลักฐาน? คุณไม่มีหลักฐานอะไรจะพูดและตีความผู้ อื่นไปมั่ว ฉันไม่ยอมหรอก”

“อยู่แล้วว่าคุณจะไม่ยอมรับ”เสี่ยวเหยียนหัวเราะ เยาะ เธอยกมือถือขึ้น “ฉันถ่ายฉากที่คุณอยู่กับคุณชาย เย่และส่งให้เสิ่นเฉียวแล้ว เดาว่าเธอจะคิดอย่างไรกับ คุณเมื่อเธอเห็น? พวกเธอยังจะเป็นพี่น้องได้ไหม?”

หลังฟังจบ สีหน้าของหานเส่โยวเปลี่ยนไปทันที “ทำอะไรของคุณ?” เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อเอาโทรศัพท์ของเสี่ยวเหยียนมา เสี่ยวเหยียนถอยหลังออก ยิ้มแล้วพูดว่า “รีบทำไม? คุณไม่ได้ทำไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงต้องร้อนตัวด้วย?”

หานเส่โยวพยายามสงบสติอารมณ์”ส่งแล้วยังไง อ่ะ?ฉันเปิดเผยและโปร่งใสดี อีกอย่าง ยังไงเฉียวเฉียวก็ ไม่เชื่อคุณหรอก”

“ดี นั้นก็คอยดู “เสี่ยวเหยียนเก็บมือถือทันที ทำ หน้าดุจ้องไปที่หานเส่โยวแล้วเดินออกจากที่นั่น”

เมื่อเสิ่นเฉียวลุกขึ้นไปรินชา ได้ยินข้อความเข้า มาจากวีแชท แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาดู หลังจากเห็น วิดีโอที่เสี่ยวเหยียน ส่งมา เธอยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน อย่างตกตะลึง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำเดือดล้นออกมาจากแก้ว

จนมือโดนน้ำร้อนจนเจ็บปวด เสิ่นเฉียวจึงดึงสติก ลับมาทันที วางแก้วลงอย่างรวดเร็วด้วยนิ้วที่สั่น จาก นั้นก็มองไปที่ฝ่ามือและนิ้วของเธอที่แดงร้อน

ครุ่นคิดสักพัก เสิ่นเฉียวไปแช่น้ำเย็น จากนั้นก็ หยิบครีมทาแผลน้ำร้อนลวกมาทาเล็กน้อย แล้วกลับไป ที่ทำงาน

พึ่งนั่งลง มีข้อความจากเสี่ยวเหยียนส่งมาอีก ครั้ง

(ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณไม่ยอมฟังฉัน แต่ฉันมีวิดีโอ เป็นหลักฐาน พิสูจน์ว่าฉันไม่ได้พูดโกหก เฉียวเฉียว ฉัน ดูคนแม่นมาก คุณเชื่อฉันสักครั้งนะ)

เสิ่นเฉียวจ้องที่ข้อความนี้อย่างเงียบ ๆ เมื่อพร้อมจะตอบกลับ สายจากหานเส่โยวก็โทรเข้ามา

เมื่อเห็นสายจากหานเส่โยว มือของเสิ่นเฉียวก็ สั่น มือถือก็ตกลงที่โต๊ะ ตกจากที่ไม่สูง มือถือเลยไม่มี ปัญหาอะไร สายยังดังอยู่เรื่อยๆ

เวลาตั้งนาน เสิ่นเฉียวค่อยรับสาย

“ฮัลโหล?”

“..เฉียวเฉียว”

เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร แค่อยากฟังอีกฝ่ายจะพูด อะไร

“ขอโทษนะเฉียวเฉียว “เสียงของ หานเส่โยว เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย เสียงพูดด้วยความ ขมขึ่นและลำบาก “เสี่ยวเหยียนส่งวีดีโอให้คุณหรอ? เธอพูดอะไรคุณก็อย่าไปเชื่อเธอนะ พวกเราเป็นเพื่อนที่ ดี เป็นพี่น้องที่ดี ถึงแม้ทุกคนจะหักหลังคุณ ฉันก็จะไม่ หักหลังคุณแน่”

เสิ่นเฉียวพูดอะไรไม่ออกเพราะอยากจะพูดก็พูด ไม่ออกลำคอเธอก็สำลัก หานเส่โยวกล่าวอีกว่า “แบบ นี้นะ หลังเลิกงานฉันมารับคุณ เราพบปะพูดคุยกัน ได้ ไหม?”

สุดท้ายแล้วเสิ่นเฉียวก็ทำได้เพียงพยักหน้าตอบ รับ

ระหว่างนี้เย่โม่เซินเรียกเธอไปห้องทำงานและให้ แผนธุรกิจกับเธอชุดนึง ถามเธอว่ามีข้อเสนอแนะนำหรือไม่ เสิ่นเฉียวยังคงประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเธอได้รับ แผนธุรกิจนี้ เมื่อก่อนเย่โม่เซินไม่เคยขอคำแนะนำจาก เธอมาก่อน แต่ทำไมวันนี้.

“ทำไม?”เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้น “มีปัญหาเหรอ?”

เสิ่นเฉียวดึงสติกลับมา ยกตาขึ้นมองไปที่เยโม่ เซิน แล้วสายหัวเงียบ ๆ ตั้งใจดูแผนธุรกิจอย่างจริงจัง

เคาะๆ –

” เข้ามา”

ประตูที่ทำงานถูกผลักให้เปิดออก ร่างสูงเดินเข้า มา เป็นเย่หลิ่นหาน

แต่เสิ่นเฉียวยังคงมองไปที่แผนธุรกิจ ไม่ทัน

สังเกตว่าใครเข้ามา

หลังเย่หลิ่นหานเข้ามาแล้วเห็นเสิ่นเฉียว ความ เศร้าหมองฉายประกายในดวงตาสีน้ำตาลเทา แต่ไม่ นานก็ถูกแสงอันอ่อนโยนของดวงตาเข้ามาปกคลุม เขา เดินก้าวขาเบาๆไปที่โต๊ะทำงาน

“โม่เซิน”

เธอเย็นชา เสิ่นเฉียวได้ยินเสียงของเย่หลิ่นหาน เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่เดิมเยโม่เซินไม่เหล่มุมตามองไปที่เสิ้นเฉียว อยากดูว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ใครจะรู้ว่าเธอจะเงย หน้าขึ้นมา เย่โม่เซินรู้สึกไม่มีความสุขในใจ มือที่วางอยู่ บนขากำแน่นขึ้น
หลังจากที่ดวงตาของเย่หลิ่นหานและเสิ่นเฉียว สัมผัสกันในอากาศชั่วครู่ เสิ่นเฉียวกัมศีรษะลงอีกครั้ง เย่หลิ่นหานให้เธอย้ายตำแหน่งเธอไม่ไป ตอนนี้เย่โม่ เซินเลื่อนตำแหน่งให้เธอและเธอก็ปรากฏตัวในห้อง ทำงาน เขาน่าจะไม่คิดว่าเธอเป็นคนโลภใช่ไหม?

“มีธุระเหรอ?”เสียงของเย่โม่เซินเย็นชา ดวงตา กำลังจ้องมองไปที่เย่หลิ่นหานเหมือนมีดคม

ดวงตาของเย่หลิ่นหานตวัดไปที่ใบหน้าของเสิ่น เฉียว จากนั้นรีบหันกลับมา

“มาส่งเอกสาร “เย่หลิ่นหานก้าวไปข้างหน้าและ วางเอกสารลงบนโต๊ะ

เยโม่เซินจ้องที่แฟ้มงาน จงใจเยาะเย้ย “ตั้งแต่ เมื่อไหร่ที่แฟ้มงานต้องให้พี่เป็นคนมาส่งเอง? หรือว่า ได้ยินบางคนอยู่ที่นี่ เลยรอไม่ไหวแล้วที่จะรีบมาพบ?”

เสิ่นเฉียว “.”

เธอไม่ได้พูดอะไรนะ? ทำไมไฟลุกลามถึงตัวเธอ อีกแล้ว?

เยโม่เซินไม่ถูกกับเย่หลิ่นหานมาก ทั้งสองไม่ใช่ พี่น้องแท้ๆกัน เสิ่นเฉียวเข้าใจถึงความขัดแย้งไม่ถูกใจ กันนี้ แต่เธอไม่ต้องการเป็นเหยื่อที่อยู่ตรงกลางระหว่าง ทั้งสองคน

เย่หลิ่นหานกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า “โม่เซิน เข้าใจผิดแล้ว แค่ว่าเลขามีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ก็ เลยต้องมาด้วยตัวเอง ลองดูที่แฟ้มงานสิ หากไม่มีปัญหาก็ลงชื่อเลย”

เยโม่เซินนั่งอย่างไม่ขยับ จ้องมองไปที่เย่หลี นหานอย่างรวดเร็ว

“ใช่ละ โม่เซินลดตำแหน่งเธอมาก่อนไม่ใช่หรอ? ผมยังอยากดูแลเธอ ให้เธอย้ายมาเป็นเลขาที่ผม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ