เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 295 เธอเป็นคนขี้ขลาด



บทที่ 295 เธอเป็นคนขี้ขลาด

งั้นก็…เย่หลิ่นหานเหรอ

จะไปหาเขาเหรอ เสิ่นเฉียวเมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็ ขมวดคิ้ว

“ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไปหาเขาดีที่สุดแล้ว เขาเป็นพี่ ชายของคุณชายเย่ นั่นก็คือพี่ชายของเธอ เราทำได้แค่ ขอความช่วยเหลือจากเขาเท่านั้น”

“แล้วถ้าฉันไม่เต็มใจล่ะ” เสิ่นเฉียวถาม

เสี่ยวเหยียนอึ้งไปชั่วขณะแล้วยิ้มอย่างอ่อน แรง “ไม่เป็นไร ฉันเดาได้ว่าเธอคงไม่เห็นด้วย ถ้าเธอไม่ ต้องการเราก็จะคิดวิธีอื่น”

“คิดหาทางใหม่ สิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้ทำให้ฉันได้สติ ขึ้นมา ฉันก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วถึงช่องว่างระหว่างฉัน กับหานเส่โยวเธอเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหาน เป็น ตระกูลที่มีอำนาจมากจริงๆ เรื่องที่จะหาคำอธิบายมัน ง่ายมาก แต่…. เราไม่สามารถสร้างเอกสารหรือมองการ ปลอมแปลงของเธอออกก็ไม่ได้”

เสี่ยวเหยียน “. นี่ก็หมายถึงไม่มีหนทางแล้วสิ … ไม่มีทางเลือกแล้ว”

“ฉันไม่โทษที่ไม่มีทางเลือก ฉันแค่กำลังคิดว่า. ทำไมฉันต้องพยายามอยู่ในโลกใบนี้ เห็นได้ชัดว่าที่นี่ ไม่ใช่โลกของฉันและมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่ฉันได้เข้า มาที่โลกนี้
เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็ เปลี่ยนไปในทันทีและเธอก็จับมือ “หมายความว่ายังไง อย่ายอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ ความรักสามารถใช้เวลาก้าว ข้ามผ่านปัญหาไปได้ แม้แต่เชื้อชาติ มาจากโลกสองใบ แล้วอย่างไร ตราบใดที่เธอทั้งสองยังชอบกันก็พอแล้ว เธอมากไปไปทำไม เอาตามฉัน เธอแค่ไม่ไว้วางใจคุณ ชายเย่เพราะสถานการณ์ของเธอแตกต่างกันตั้งแต่เธอ แต่งงาน ถ้าเธอต่างให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ก็จะ ไม่เชื่อในสิ่งที่หานเส่โยวพูด”

“ใช่” เสิ่นเฉียวยักหน้า “ฉันก็อยากจะ…ฉัน อยากจะเชื่อใจเขาโดยไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าคนอื่นจะพูดยัง ไงก็แค่เชื่อใจเขาเท่านั้น แต่เสี่ยวเหยียนฉันเป็นผู้หญิงที่ หย่าร้างมาแล้ว เป็นผู้หญิงที่ประสบกับความล้มเหลวใน ชีวิตแต่งงาน สองปีที่ผ่านมาฉันก็เชื่อใจสามีเก่าเช่นกัน แต่ท้ายที่สุดกลับได้รับหนังสือหย่า เมียน้อยท้องโยมา หาฉันบอกว่าท้องได้สามเดือนแล้ว สุดท้าย…ฉันก็โดน ไล่ออกมา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้เสี่ยวเหยียนก็ขยับริมฝีปากของ เขาสั่นซีด “เฉียวเฉียวฉันรู้ว่าเธอเคยประสบกับชีวิต แต่งงานที่ล้มเหลวมาก่อน แต่… ไม่ใช่ทุกคนที่จะ เหมือนกับอดีตสามีของเธอ”

“ฉันรู้ว่าฉันอาจจะทำอะไรผิดพลาดไป แต่… ฉัน ไม่สามารถหลุดออกไปจากเงามืดนั้นได้ แม้ว่าตอนนี้ฉัน ก็แตกต่างออกไปและเด็กที่ฉันอุ้มท้องอยู่ก็ไม่ใช่ลูกของ เขาแม้ว่าหานเส่โยวจะไม่ได้ท้องก็ตาม ถ้าฉันเป็นเย่โม่เซินฉันจะเลือกผู้หญิงที่มีบริสุทธิ์ไร้มลทินแทนฉัน.. ที่ เป็นของมือสอง”

เสิ่นเฉียวเมื่อเธอพูดแบบนี้ บนใบหน้าของเธอก็มี รอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นขมขึ่นและเป็นการเยาะเย้ยตัวเอง “หรือว่า…”

จู่ๆเสี่ยวเหยียนก็ยื่นมือมาปิดปากของเธอด้วย สีหน้าจริงจัง “อย่าพูดเรื่องไร้สาระคิดถึงจุดประสงค์ของ การมาที่นี่ของเธอในวันนี้ เราจะไปตรวจสอบ แทนที่จะ ไม่ทำอะไรแล้วแค่พูดคำพูดท้อใจ”

“ถ้าไม่ไปพบเย่หลินหาน บางทีเราก็ทำอะไรไม่ ได้แล้ว”

“ฉันจะรู้ได้ยังไงถ้าไม่พยายาม” เสี่ยวเหยียนบัง คับให้เธอเดินหน้า ไปกันเถอะ”

อันที่จริงสมองของเสียวเหยียนมีความสดใสมาก แต่พวกเธอไม่มีอำนาจและอิทธิพลและไม่มีทางเลยถ้า จะให้ไปถามพวกเขาก็ถูกไล่ต้อนกลับมาใครจะสนใจ สถานการณ์ของคนที่พวกเขาไม่รู้จัก

ดังนั้นในที่สุดสองคนหมดแรง แต่พวกเขาไม่ได้ คำตอบอะไรและออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความ อับอาย

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็หาร้านก๋วยเตี๋ยวและนั่ง ลงและสั่งบะหมีเนื้อสองชาม เสี่ยวเหยียนหิวมากจนดื่ม น้ำซุปเต็มปาก “ถ้าไม่มีทางจริงๆไปหารองประธานเย่กัน เถอะ ถึงแม้รองประธานเย่จะชอบเธอ แต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอดเขาไม่เคยบังคับอะไรเธอเลยฉันคิด

ว่า…”

“เสี่ยวเหยียน” เฉินเฉียวขัดจังหวะเธอบอกเธอ อย่างเคร่งขรึม

“เธอรู้ไหมว่าเรื่องนี้สำคัญมากถ้าไปหารอง ประธานเย่ อาจจะ.”

เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเย่โม่เซินและเย่หลี่ นหานเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินไป พวกเขาไม่ใช่พี่น้อง แท้ๆกัน และภาพในอดีตสิ่งที่เย่หลิ่นหาน พูดกับเธอ จนถึงวันนี้เธอยังจำได้ดีที่เขาพูดว่าจะพาเธอไป ถ้าครั้งนี้ บอกให้เขารู้ เสิ่นเฉียวไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะ ทำอะไร

“แต่ฉันบอกเขาไปแล้ว”

“เธอพูดว่าอะไรนะ”เส้นเฉียวคิดว่าตัวเองฟังผิด

ไป

เสี่ยวเหยียนกลืนน้ำลาย “ในขณะที่เธอเพิ่งไป จ่ายบิลฉันส่งข้อความไปหารองประธานเย่และบอกเขา ว่าเราอยู่ที่นี่และเขาบอกว่าเขาจะมาที่นี่ทันที”

สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไปทันที “ทำอะไรอยู่”

“เฉียวเฉียว เราไม่ต้องอธิบายความจริงทั้งหมด กับรองประธานเย่ เราแค่ขอให้เขาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ ทำไมถึงต้องทำให้มันซับซ้อนขนาดนี้ล่ะ”

เสิ่นเฉียว “. เธอคิดง่ายเกินไปแล้ว”
ในที่สุดเธอก็ลดสายตาลงอย่างช่วยไม่ได้

คนอย่างเย่หลิ่นหาน ภายนอกดูเหมือนเป็นสุภาพ บุรุษและถ่อมตัว แต่เสิ่นเฉียวรู้ดีว่านิสัยดั้งเดิมของเขา ไม่ได้เป็นแบบนี้และด้านที่อ่อนโยนของเขาก็เป็นเปลือก นอก แต่มองลึกลงไปมีแต่ความดำมืดแค่นั้นแหละ

เขากับเย่โม่เซินเป็นพี่น้องคนละแม่ ความ สัมพันธ์ทั้งคู่จะดีได้อย่างไร นอกจากนี้เสิ่นเฉียวยังรู้สึก ว่าเขาไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น

ถ้าเขาเป็นคนเที่ยงธรรมเขาจะไม่พูดกับเธอว่าจะ พาเธอหนี

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เสิ่นเฉียวรีบเก็บข้าวของและลุกขึ้น “หยุดกินได้แล้วเราจะออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้”

ได้ยินแบบนั้นเสี่ยวเหยียนหน้าซีด “ทำไมล่ะฉัน ส่งข้อความไปบอกเขาแล้วเขาจะมาทันทีถ้าเราออกไป ตอนนี้ก็ผิดสัญญากับเขาน่ะสิ”

“ผิดสัญญาก็ช่าง ฉันเจอกับเขาไม่ได้ เรื่องนี้ก็ไม่ ต้องสืบมันแล้ว และก็ไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือจาก เขาอีก”

“เฉียวเฉียวทำไมต้องดื้อขนาดนี้เพื่อความสุข ของตัวเองอดทนสักหน่อยไม่ได้เหรอ ฉันขอให้เธอไม่ ต้องคิดอะไรอีก ขอแค่เชื่อคุณชายเย่ เธอก็ไม่ฟัง ตอนนี้ จะขอความช่วยเหลือจากรองประธานเย่เธอก็ไม่พอใจ ที่แท้เธอต้องการอะไรกันแน่ เธอยังต้องการค้นหาความ จริงอีกหรือเปล่า เธอมันขี้ขลาดและไร้ประโยชน์จริงๆ
เสิ่นเฉียว ” .”

เธอมองเสี่ยวเหยียนด้วยความตกใจ ไม่คาดคิด ว่าเธอจะเรียกตัวเองว่าคนขี้ขลาด

“อะไร ฉันพูดอะไรผิดเหรอ ท่าทางเธอแบบนี้ไม่ เรียกคนขี้ขลาดให้เรียกว่าอะไร เพราะเคยประสบกับ ชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลว เธอจึงคิดว่าผู้ชายคนอื่นๆก็เป็น เหมือนเขางั้นเหรอ หานเส่โยวยังคงเป็นพี่น้องแสนดี ของเธอสินะ เธอแทงข้างหลังเธอแล้ว ถ้าอย่างนั้นในใจ ของเธอฉันเสี่ยวเหยียนก็เป็นคนแบบที่คุณไม่สามารถไว้ วางใจได้เหรอ ฉันพูดว่าจะไปหารองประธานเย่ เธอก็ไม่ พอใจ เพราะเหตุผลนี้เหรอ”

“เสี่ยวเหยียน ..” เสิ่นเฉียวมองเธออย่างเหม่อ ลอย “ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้”

“หรือว่าเรื่องไม่ใช่แบบนั้นเหรอ เพราะเคยประสบ มาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเธอไม่เคยกล้า ฉันพูดผิดไหม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ