เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่925 อนาคตยังอีกยาวไกล



บทที่925 อนาคตยังอีกยาวไกล

“เหตุสุดวิสัย? เหตุสุดวิสัยตั้งเยอะ ฉันก็ยังเป็นกังวลอยู่ดีนั่น แหละ”

ทันใดนั้นเองหานมู่จื่อก็นึกประเด็นหนึ่งขึ้นมาได้ “คืนนี้ดู เหมือนว่าห้องที่บ้านจะนอนไม่พอกัน

อพาร์ทเม้นต์แห่งนี้มีสองห้องรับแขกสามห้องนอน ห้องนั่งถูก เธอกับเย่ โม่เซ็นยึดครองไปแล้ว อีกห้องที่เหลือก็ให้ฉือจินไป อย่างนั้นแล้วก็จะเหลืออยู่เพียงแค่ห้องเดียว

สั่งอาน เสี่ยวเหยียน เซียวซู

จำต้องมีอีกสามห้องถึงจะถูก

“หา? งั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าห้องไม่พอ ฉันออกไปจองโรงแรมเอา ก็ได้”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หานซื่อก็อดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วสวยออกมา พวกเธออุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล อาหารค่ำส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ก็ยังไม่ได้กินอะไร ยังจะให้พวกเธอวิ่งเต้นออกไปพัก โรงแรมให้ลำบากอีก จะฉลองปีใหม่ทั้งทีก็ไม่ได้ฉลองดีๆเลย นี่ มันได้ยังไงกัน?

“ไม่ได้ ฉันขอลองคิดหาวิธีดูแล้วกัน”

หานคู่จื่อคิดไปคิดมา จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “ฉันรู้แล้ว เธอกับคุณน้าแล้วก็ฉันนอนห้องนึง ไม่เป็นก็พาเสี่ยวหมี่โต้วไปอยู่กับ เซียวซู ห้องที่เหลืออีกห้องก็ให้คุณตาของโม่เซ็นกับลุงหยไป

เสี่ยวเหยียน “…เตียงเดี่ยว นอนเบียดกันสามคนจะพอหรอ?”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็มองเตียงที่อยู่ด้านหลังเธอออกไป จาก นั้นดวงตาก็จ้องนิ่งไปทันที

นี่เป็นเตียงขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นแบบที่สั่งทำมาเป็นพิเศษ อย่าว่าแต่สามคนเลย สี่คนนอนก็ยังมีที่อีกเหลือเฟือ

เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกไปยังไงขึ้นมาทันที ทำได้ แค่เพียงพูดออกไปว่ามีเงินนี่ช่างดีจริงๆ

“เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันนอนกับเธอ? ถึงยังไงเรื่องที่เกิดขึ้น มาปุบปับอย่างนี้แล้ว ฉันคิดว่าเธอกับโมเงินคงจะต้องมีเรื่องให้ คุยกันมากแน่”

ดังนั้นแล้วเมื่อกี้นี้เธอจึงได้เสนอออกไปว่าให้เสี่ยวหมี่โต้วมา นอนกับเธอ ก็เพราะสาเหตุนี้

อยากอุ้มเสี่ยวหมี่โต้วมา เพื่อเว้นช่วงให้เยโม่เซินกับหานคู่จื่อ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วพวกเขาก็จะได้มีเวลาคุยกัน

หานอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย นึกถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เธอกับ เย่โม่เซินมีเรื่องที่ต้องคุยต้องถามกันมากมายจริงๆนั่นแหละ แต่ ว่า…เมื่อถึงเวลาอย่างนี้แล้ว เธอกลับรู้สึกเหมือนราวกับว่าตัวเอง ไม่มีอะไรที่จะพูดออกไปได้เลย

ดังนั้นแล้วหานมู่จื่อจึงเอ่ยออกไปว่า “ไม่เป็นไร อนาคตยังอีกยาวไกล มีคำพูดอะไรค่อยพูดตอนหลังมันก็เหมือนกัน ไม่จำเป็น จะต้องพูดคืนนี้เลย”

เสี่ยวเหยียน “เอาเถอะ ในเมื่อเธอคิดอย่างนี้ งั้นฉันก็จะไม่ ว่าอะไรแล้ว เพียงแต่…ฉันคิดว่าพวกเราสามคนนอนเบียดกัน เตียงเดียวแบบนี้มันดูกระไรอยู่นะ อีกอย่าง…ฉันก็หิวนิดหน่อย ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นไม่มีทางที่จะกินข้าวกันอีก ไม่ให้ฉัน ไปหาโรงแรมพักเองดีกว่า หลังจากนั้นฉันก็จะได้หาของข้างนอก กินได้ตามใจได้ไง”

ยัยคนนี้นี่!

หานมู่จื่อคิดไปคิดมา “งั้นก็รอให้คุณตาของโม่เป็นฟื้นขึ้นมา ก่อน แล้วพวกเราก็ค่อยรวมตัวกันมากินอาหารง่ายๆด้วยกัน”

ถึงยังไงตอนนี้ก็ยังไม่ดึกนัก กินข้าวสักมื้อ แล้วค่อยนั่งกันอีก สักพัก ก็ยังมีเวลาให้ย่อยอาหารอยู่

หานมู่จื่อไม่ได้ถามอะไรเสี่ยวเหยียนออกไปอีก แต่ได้เดินออก ไป ได้เจอเข้ากับสั่งอานที่เดินออกมาจากห้องพอดี เธอจึงเดิน เข้าไป “คุณน้า นายท่านเป็นยังไงบ้างคะ?”

ได้ยินคำถามของเธอ สั่งอ่านก็มองเธออยู่นาน “เธอจะกังวล ขนาดนี้ไปทำไม? เขาอยากให้เธอกับโม่เป็นแยกจากกันนะ เธอ ยังเป็นห่วงเขาอีก?”

ได้ยินอย่างนั้น หานมอก็นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หลุบตาพร้อมเอ่ยเสียงเบาออกไป

“ไม่ว่าจะยังไง เขาก็เป็นคนช่วยชีวิต ไม่เซ็นเอาไว้ ฉันมีเพียง

แค่ความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณต่อเขา ไม่ได้รู้สึกอย่างอื่น สั่งอานมองหานมู่จื่อเงียบๆอยู่สักพัก ริมฝีปากเผยรอยยิ้ม

จางๆออกมา

โม่เซินเขา มองคนไม่ผิดเลยจริงๆ

หาน จื่อที่อยู่ตรงหน้า เป็นคนรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ถึงแม้ว่า สิ่งที่ฉือจีนทำลงไปพวกนั้นจะทำให้รู้สึกเกลียดเขา แต่หานมู่ อกลับไม่คิดเล็กคิดน้อยต่อเรื่องที่เคยเกิดขึ้น เพราะคิดถึงเพียง สิ่งดีๆที่แสนจะสำคัญนั้น

ปณิธานอย่างนี้ เธอนับถือเลยจริงๆ

เพราะถ้าเป็นตัวเธอเอง มาเจอคุณตาดื้อด้านอย่างนี้เข้า ตาม นิสัยเธอแล้วนั้นก็คงจะคลั่งออกมาเป็นแน่ และจะไม่มีทางที่จะคิด ไปอย่างลึกซึ้งขนาดนี้แน่

แต่มู่จื่อคิดได้

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ น้าก็จะไม่ว่าอะไร

“จริงสิ…” หานมู่จื่อบอกแผนในคืนนี้กับสั่งอานออกไป หลัง จากที่สูงอานได้ยินอย่างนั้นแล้วก็รีบส่ายหน้าออกมาทันที “ไม่ ต้องเว้นที่ให้ฉันหรอก ฉันจองโรงแรมเอาไว้ถ้าไม่กลับไปพักที่นั่น จะไม่สิ้นเปลืองเงินไปหรือไง? อีกอย่าง คือจินตาเฒ่าคนนั้นก็ไม่ อาจอยู่ที่นี่ เธอจัดการที่พักให้เสี่ยวเหยียนกับเซียวซูก็พอ”
“อย่าแต่เลย แต่ละคนต่างก็มีตัวเลือกของตัวเอง ทุกคนคิดยัง ไงก็ให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ”

พูดออกมาจนถึงตรงส่วนนี้แล้ว หานมู่จื่อเองก็ไม่ได้พูดอะไร ออกมาอีก ทำได้เพียงกลืนคำพูดที่อยู่ตรงปากกลับไป

เพียงไม่นาน เฉือจีนก็ฟื้นขึ้นมา

หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา เขาก็นอนอยู่บนเตียง มองไปบนเพดานที่ แปลกตาอย่างไม่ขยับเขยื้อน

หลังจากที่หยูโปสังเกตเห็นว่าเขาฟื้นขึ้นมาแล้ว จึงรีบเข้าไป หาทันที

“นายท่าน?”

เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฉือจีนก็หันไปทางต้นตอของเสียงนั้น

“นายท่าน นายท่านโอเคมั้ยครับ?”

ทันที

เมื่อเห็นหยูโป ก็ได้หันกลับไปมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง คือ นกะพริบตาออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยถามออกไป “ฉันอยู่ ที่ไหน?”

หยุโป “นายท่าน นายท่านลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ไป แล้ว?”

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้? ขู่ฉือจินก็รู้สึกว่าแสงไฟตรงหน้าแวบ เข้ามา เสียงของชายชราสั่นขึ้นมา
“หรือเมื่อกี้นี้ฉันไม่ได้ฉันฝันไปงั้นหรอ?”

เด็กน้อยที่หน้าตาเหมือนกับเย่ ไม่เป็นไม่มีผิดคนนั้น เป็นของ

จริง?

เขาฉือจีน มีเหลนแล้ว??

จะคิดยังไง ก็ล้วนแล้วจะคิดว่านี่มันไม่น่าจะเป็นความจริงไป

ได้

“นายท่าน ไม่ใช่ความฝันครับ” หยูโปกระแอมออกมาเบาๆ “คุณชายเงินกับหลานสะใภ้ของนายท่านมีลูกด้วยกันแล้วจริงๆ ครับ อายุประมาณสี่ห้าขวบแล้ว อีกทั้งยังมีหน้าตาที่เหมือนกับ คุณชายเงินอย่างกับแกะ ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือตอนนี้หลาน สะใภ้ของนายท่านที่กำลังท้องอยู่ด้วยครับ อีกทั้งเมื่อกี้นี้ผมก็ยัง ได้ยินที่คุณหนูอานอ่านพูดว่าเด็กในท้องของเธอเหมือนกับว่าจะ ไม่ปกตินัก มีความเสี่ยงที่จะแท้งได้ครับ

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ยอจินก็เบิกตากว้างออกมาทันที “นาย ว่ายังไงนะ?”

มีความเสี่ยงที่จะแท้ง? นี่มันได้ยังไงกัน?

นั่นมันเหลนในอนาคตของเขาเลยนะ!

ฉือจินต้องการจะลุกขึ้นมานั่งทันที แต่ร่างแก่เฒ่านี้ไม่ค่อย อำนวยนัก หยูโปจำต้องยื่นมือเข้าไปช่วยพยุงเขาลงจากเตียง ฉือจนอยากจะเดินออกไปเร็วๆ หยู โปจึงเอ่ยออกไปอย่างจนใจ “นายท่านครับ นายท่านอย่ากังวลไปเลย ตอนนี้หลานสะใภ้ของนายท่านยังไม่เป็นไร”

“เมื่อกี้นี้นายบอกเองไม่ใช่หรอว่า…

“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร มีคุณหนูอานอานคอยดูอยู่ เธอเป็น คุณหมอมาเองเลยนะครับ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฉือจีนจึงได้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ออกมา หลังจากนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ขึ้นมา “เมื่อกี้นี้ ฉันเป็นอะไรไป?”

“นายท่านรู้สึกตื่นเต้นเกินไปจนหมดสติไป”

รู้สึกตื่นเต้นเกินไป? ฉือจินนึกไปถึงเสี่ยวหมี่โต้ว ก็อดไม่ได้ที่ จะถูมือตัวเองเบาๆ “งั้น…ฉันก็มีเหลนแล้วจริงๆ?

“ใช่ครับ” หยูโปเอ่ยยิ้มๆออกมา “ในตอนนี้นายท่านคงจะไม่ ขัดขวางการคบกันของหลานชายกับหลานสะใภ้ของนายท่าน แล้วล่ะมั้ง?” ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ใบหน้าของฉือจีน พร้อมกับน้ำ เสียงก็ได้เคร่งขรึมขึ้นมา

“หยูโป!”

“นายท่าน แต่ละค่าที่หยูโปพูดออกไปล้วนเป็นคำพูดที่มาจาก ใจทั้งนั้นเลยนะครับ เมื่อก่อนนายท่านคิดว่าพวกเขาทั้งสองคน คบๆเลิกๆกัน ก็เลยคิดจะเลือกคู่ครองใหม่ให้กับคุณชายเซ็น แต่ แล้วตอนนี้ล่ะ? พวกเขาทั้งสองคนต่างก็รักใคร่ชอบพอกัน อีกทั้ง ยังมีลูกด้วยกัน ถ้าในตอนนี้ยังคิดจะแยกพวกเขาออกจากกันอีก นั่นมันก็ช่าง…
ช่างไม่มีความเป็นคนเลย ค่นี้หยูโปไม่กล้าพูดออกไป

แต่เห็นได้ชัดว่าฉือจีนก็พอจะคาดเดาได้ว่าท่อนหลังเขา ต้องการพูดอะไรออกมา สีหน้าก็ครึ้มลงเล็กน้อย เอ่ยฮึดฮัดออก มาอย่างไม่พอใจ ที่ฉันทำไปมันเรียกว่าแยกออกจากกันหรอ? นายดูสิว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเคยสั่นคลอนกัน บ้างหรือเปล่าล่ะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ