เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1202 ภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่



บทที่ 1202 ภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่

ก็จริง ก่อนหน้านี้ เคยเห็นข่าวที่ว่าคุณแม่บางคน มีภาวะซึมเศร้า หลังคลอด ตัวเองปลงไม่ตก แล้วอุ้มลูกกระโดดตึกฆ่าตัวตาย

ที่จริงสำหรับทาน จื่อแล้ว ถ้าเธอเจอสถานการณ์เช่นนี้ เธอจะ

ไม่ทําเรื่องโง่แบบนี้

ทุกคนไม่สนใจคุณเลย คุณฆ่าตัวตายแล้ว มันก็ยิ่งทำให้ทุก คนสมหวังดั่งปรารถนาไม่ใช่หรือ? ดังนั้นในสถานการณ์แบบนั้น ก็ยิ่งต้องเข้มแข็งมากขึ้น ตราบใดมีชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง

อย่างไรก็ตาม การฆ่าตัวตาย สำหรับทาน จื่อแล้ว เธอรู้สึก มาโดยตลอด ว่าเป็นวิธีที่โง่ที่สุด

เพราะนอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีทางออกอื่นๆอีกมากมาย ที่

สามารถแก้ไขได้

แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตมีเพียงครั้งเดียว จะต้อง ดูแลรักษาให้ดีๆถึงจะถูก

เมื่อพูดถึงแล้ว หานมู่จื่อมองที่เสี่ยวเหยียน ถามเสียงเบา “คุณกับพี่ชายของฉัน ช่วงนี้คบหากันเป็นอย่างไรบ้าง?

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เสี่ยวเหยียนยิ้มอ่อนๆ “ก็ดีนะ”

เธอกับหานซึ่งก็ยังเหมือนก่อนหน้านี้ หลังจากคบกันแล้ว ทั้งคู่ หวานกันมากทุกวันเลย แต่เนื่องจากงานยุ่งมาก ดังนั้นเวลาเจอหน้ากันของทั้งสอง ในแต่ละสัปดาห์ ก็ไม่มากนะ บวกกับในบาง ครั้ง หานซึ่งจะต้องเดินทางไปทำงานที่อื่น ดังนั้นจึงอยู่ด้วยกัน น้อย แต่ห่างจากกันมากขึ้นกับเสี่ยวเหยียน

เสี่ยวเหยียนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หานซึ่งก็คงรู้ความคิด ของเธอ จึงอยากจะซื้อตั๋วเครื่องบิน ให้เธอ

แต่ที่บ้านของเสี่ยวเหยียน ยังมีร้านด้วย เธอไม่สามารถที่จะ เห็นแก่ตัวแบบนั้น ทิ้งพ่อแม่ไว้ แล้วตัวเองไปเที่ยวเล่นกับหานซิง คนเดียว ดังนั้นสุดท้ายแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ปฏิเสธคำขอ

นอกจากนี้ การค้าขายในร้าน ก็เริ่มดีขึ้นมากเรื่อยๆ ช่วงนี้

เสี่ยวเหยียนงานยุ่งมากจนล้มตัวก็นอนหลับทันที ข้อความที่ส่ง หาหานซิง ก็น้อยลงด้วย “ก็ดีนะ?” หานมู่จื่อยิ้มมองเสี่ยวเหยียน “ แล้วทำไมฉันถึงรู้สึก

ว่า คุณเหมือนไม่มีความสุข?

เสี่ยวเหยียนส่ายหัวเบาๆ “ฉันไม่ใช่ไม่มีความสุข ฉันแค่..…………..

“แค่อะไร?”

“ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไง….” ระหว่างเธอกับหวานชิง ทั้งๆ ที่ทุก อย่างเป็นไปตามปกติ ก็ถือว่าหวานซึ้ง แต่เสี่ยวเหยียนก็ยังคงไม่ มั่นใจเลย เธอก็มีความกลัวเล็กน้อย สักวันหนึ่ง หานซึ่งจะไปจาก เธอ

แต่พวกเธอทั้งสองคน ยากนักที่กว่าจะอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้น เสี่ยวเหยียนจึงรู้สึกว่า ตัวเองไม่สามารถปรารถนาอะไรมากเกินไป หานซึ่งได้ปฏิบัติกับเธอดีมากๆแล้ว

คำพูดเหล่านี้พูดออกมา ก็แค่จะถูกคนอื่นมองว่า เป็นการ

ดัดจริตเท่านั้น

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เสี่ยวเหยียนควงแขนของหาน จื่อไว้ “เอาล่ะ คุณไม่ต้องถามแล้ว เรื่องเหล่านี้ ฉันจะจัดการตามสมควรเอง คุณดูแลเดี่ยวโต้วหยาของคุณให้ดีก็พอแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานมู่จื่อก็เหลือบมองเธออย่างจนปัญญา “ตอนนี้พวกคุณสองคนคบหากันแล้ว มีเรื่องอะไรก็อย่าลืม สื่อสารกัน ไม่อย่างนั้นค้างอยู่ในใจ เวลานานจะส่งผลกระทบได้

แน่นอนว่าเสี่ยวเหยียนเข้าใจความหมายของหาน จื่อ ดังนั้น จึงพยักหน้าอย่างแรง

“วางใจเถอะ ฉันให้ความสำคัญกับความรักครั้งนี้มากจะต้อง

รักษาเป็นอย่างดีแน่นอน

ที่จริงหานมู่จื่อก็รู้อยู่แล้วว่า เธอให้ความสำคัญกับมันมาก ก็ เพราะรู้ว่าเธอให้ความสำคัญมาก ดังนั้นหาน จื่อจึงกังวลเล็ก น้อย ว่าถึงตอนนั้น ตัวเธอเองจะดื้อดึงหมกมุ่น เพราะว่าเธอก็ไม่ ได้ถือว่ามีความเข้าใจในตัวของหานซึ่งอย่างละเอียดถี่ถ้วน และ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เขาจะทำยังไงกันแน่

ในงานเลี้ยงฉลองครบเดือน เฉียวซื้อบินกลับมาจากต่าง ประเทศโดยเฉพาะ ทันทีที่เห็นเสียวโต้วหยาก็ยื่นมือออกมา “ว้าว เสี่ยวโต้วหยา รีบมาให้พ่อบุญธรรมกอดหน่อยสิ”
เมื่อเห็นว่าเฉียวจื้อกำลังจะได้อุ้ม เสี่ยวโต้วหยาแล้ว

เท้าข้างหนึ่งก็เตะออกมากลางอากาศ เตะเฉียวจื้อออกไป

“อ๊ะ!” หลังจากที่เฉียวซื้อถูกเตะออกไป ก็มีรอยเท้าเพิ่มขึ้นที่ กางเกงทันที เขาจ้องเขม็งไปที่เยโม่เป็น “ฉือ เรายังเป็นเพื่อน กันอยู่ไหม? กอดลูกสาวบุญธรรมของฉันนิดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”

ดวงตาสีดำเข้มของเย่ไม่เป็น กำลังปกคลุมไปด้วยไอเยือก เย็น ริมฝีปากบางเปิดออกเล็กน้อย “ใครเป็นลูกสาวบุญธรรม ของคุณ?”

“เสี่ยวโต้วหยาไง!” เฉียวจื้อชี้ไปที่เสี่ยวโต้วหยา ในอ้อมแขน ของเขา พูดอย่างเสียง โกรธ “ฉันจะเป็นพ่อบุญธรรมของเธอ!”

เยโมเงินยกริมฝีปากขึ้น หัวเราะเยาะ “ฉันไม่ตกลง

“ฉันไม่สนใจคุณหรอก เพราะยังไงฉันก็ได้บอกกับพี่สะใภ้ไป

แล้ว และพี่สะใภ้ก็ต้องตอบตกลงแน่!”

“ใช่เหรอ?”

“ฉือ! คุณข้ามแม่น้ำแล้ว ก็รื้อสะพานทิ้ง ถีบหัวส่งแบบนี้ไม่ได้ นะ ตอนที่อยู่ต่างประเทศในตอนนั้น คือใครที่คอยแอบเชื่อม ความสัมพันธ์ให้พวกคุณอยู่เบื้องหลัง ในเวลานั้น คุณยังอยู่ใน สภาพความจำเสื่อม ปฏิบัติไม่ดีกับพี่สะใภ้ ไม่ใช่ฉันหรือที่ช่วย เหลือพี่สะใภ้มาโดยตลอด ไม่อย่างนั้น! พวกคุณสองคนจะมีวัน นี้หรือ?”

สำหรับเรื่องนี้ เฉียวจื้อได้มั่นอกมั่นใจมาก เพราะในตอนนั้นเขาได้ให้ความช่วยเหลือกับหาน จื่อหลายเรื่องจริงๆ

เมื่อฟังคำบรรยายของเขา เย่ ไม่เป็นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะ สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง ในตอนนั้นเขาอยู่ในสภาพความจำ เสื่อม และไม่สามารถดูแลเธอได้จริงๆ

เมื่อเห็นเย่ ไม่เป็นไม่ตอบกลับ สีหน้าของเฉียวจื้อ

ก็มีชัยเล็กน้อย ในชั่วขณะ “เป็นยังไง? หมดค่จะพูดแล้วใช่ ไหมล่ะ? รีบให้ฉันกอดลูกสาวบุญธรรมของฉันหน่อย!

หลังจากพูดจบ เฉียวจื้อก็เดินไปหาเสียวโต้วหยาเหมือนลุง แปลกประหลาด

เขาคิดว่าคราวนี้ ตัวเองจะได้กอด เสียวโต้วหยาแน่นอนแล้ว ใครจะรู้ว่า เพิ่งเข้าไปใกล้..……..เขาก็ถูก เย่ ไม่เซ็นเตะออกไปอีก

ครั้ง

เฉียวจื้อ “……ตกลงคุณจะเอาอะไรกันแน่?

“ฉันติดหนี้บุญคุณไว้ แต่เดี๋ยวโต้วหยาไม่สามารถเป็นลูก บุญธรรมของคุณได้”

ผู้ชายที่มีความหวงแหนอันแรงกล้าอย่างเย่ไม่เป็น ไม่ว่าจะ เป็นผู้หญิงหรือลูก เป็นไปได้ยังไงที่จะให้คนอื่น? ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนไม่เต็มบาทอย่างเดียวซื้อเลย

ให้เขาเป็นพ่อบุญธรรมของเสียวโต้วหยา เกรงว่าต่อไป เสี่ยว โต้วหยา โตขึ้น จะถูกเขาสอนไปทางไม่ดีโดยตรง
“เพราะอะไร?” เฉียวจอถามอย่างโกรธเคืองและรู้สึกไม่เป็น ธรรม “ฉันมีชาติตระกูลดีงาม คุณสมบัติ ประจำตัวก็น่าเชื่อถือ เป็นพ่อบุญธรรมของเธอ อนาคตสนับสนุนหนุนหลังให้เธอมี อะไรที่ไม่ดี?”

เย่ ไม่เซ็นช้าเลืองมองเขา สายตานั้นหนาวเย็นยิ่งนัก “คุณคิด ว่าลูกสาวของฉันเย่ไม่เป็น หลานสาวของบริษัทตระกูลยถือ ต้องการให้คุณเฉียวจื้อ เป็นผู้อุปถัมภ์ของเธอหรือ?”

ประโยคนี้ทำให้เฉียวจื้อพูดไม่ออก

เขาเกาหัวของตัวเอง รู้สึกว่าก็ถูกต้องนะ……..

แดดดี้ …เป็นท่านประธานของบริษัทตระกูลเย่ คุณปูเป็นท่าน ประธานของบริษัทตระกูลยคือ คุณลุงก็เป็นท่านประธานของ บริษัทตระกูลหาน ภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังเช่นนี้ ตระกูลเฉียว ของเขา ก็ไม่เข้าตาในทันที

อย่างไรก็ตาม เฉียวจื้อไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ หลังจากที่

เขาคิดเข้าใจแล้ว ก็พูดขึ้นอย่างหน้าด้านไร้ยางอายต่อไป “ฟังดู แล้วเหมือนไม่จำเป็นเลย เพราะภูมิหลังของเสียวโต้วหยาเอง ก็ ยิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้ว

แต่ว่า – มีสามภูมิหลังอยู่แล้ว ก็ลองพิจารณาเพิ่มอีกหนึ่งไหมล่ะ?”

เฉียวจื้อหัวเราะเหมือนคนไม่เต็มบาท ลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่ไม่ ไกลตรงหน้าเย่ โม่เซิน กวักมือให้กับเสี่ยวโต้วหยา “หนูน้อยน่า รัก หนูว่าใช่ไหม ให้อาเฉียวเป็นพ่อบุญธรรมของหนูนะ?”
เยโม่เซิน …… เฉียวจื่อ คุณให้ฉัน..…….…..

“คึกคักๆๆๆๆๆๆ~~”

เย่ไม่เป็นยังพูดไม่จบ เสี่ยวโตวหยา ในอ้อมแขนของเขา ก็ หัวเราะคิกคัก ดวงตาที่สว่างสดใส ดูเหมือนจะค้นพบเรื่องสนุก อะไรบางอย่าง ดีใจยิ่งนัก

เมื่อเฉียวจื้อเห็นเข้าก็ปรับตัวตามสภาพการณ์พลิกแพลงให้ เหมาะสมกับโอกาสในทันที “ฉือ คุณดูสิ เสี่ยวโต้วหยาตอบ ตกลงแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ช่าเลืองมองเขาอย่างเย็นชา “ตาข้างไหนของ ที่เห็นว่าเธอตอบตกลง?”

“ทันทีที่ฉันพูดจบ เธอก็หัวเราะแล้ว นี่ไม่ใช่ตอบตกลงคือ

อะไร? เห็นได้ชัดว่ามีความสุขมาก

แท้จริงแล้วเด็กจะเข้าใจอะไร? แต่เฉียวซื้อก็ใช้โอกาสนี้ ไต่ขึ้น ไปเลย และเด็กคนนี้ก็น่ารักมากจริงๆเลย เจ้าหนูน้อยเสี่ยวหมี่ โต้วโตขึ้นแล้ว ทั้งเฉลียวฉลาดด้วย เขารับเป็นลูกบุญธรรมไม่ได้ รับลูกสาวบุญธรรม คงจะได้อยู่นะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ