เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1418 เหลือบ่ากว่าแรง



บทที่1418 เหลือบ่ากว่าแรง

หานซึ่งไม่ได้พูดต่อ

เสี่ยวเหยียนเงยหน้ามองเขา พบว่าเขาขบกรามแน่น ท่าทาง เคร่งขรึมมาก

หรือว่าจะโกรธงั้นหรอ? หรือว่าคิดว่าการที่ตนมาเกาะอยู่บน ร่างของเขาจะทำให้เขาขายหน้ากัน? เสี่ยวเหยียนรู้สึกเสียใจ ภายหลังขึ้นมาเล็กน้อย บางทีตัวเองไม่ควรทำตามอำเภอใจ อย่างนี้ ตัวเองอยู่คนเดียวแล้วมันจะยังไง?

ไม่ไหวจริงๆ เธอสามารถเดินตามเขามาด้วยกันก็ได้ ทำไมจะ ต้องมาเกาะอยู่บนร่างเขาด้วยเนี่ย?

เขาผู้ชายตัวโตคนนึง ถูกคนอื่นมาเห็นแบบนี้เข้า จะน่าอาย

ขนาดไหนกัน?

ภายในใจของเสี่ยวเหยียนยังคงคิดฟุ้งซ่าน พนักงานส่ง อาหารได้ส่งของเสร็จแล้ว ตอนที่จะไปก็ได้เอ่ยกับหานชิงออกมา “ขอให้ทั้งสองท่านรับประทานกันอย่างมีความสุขนะครับ ผม ขอตัวก่อนนะครับ”

ปัง!

หลังจากที่ปิดประตูไป เสี่ยวเหยียนยังคงรักษาท่วงท่าเดิมก็คือ การซุกอยู่ในอ้อมแขนของเซียวอยู่อย่างนั้น หานซึ่งยืนนิ่งไม่ ขยับ ผ่านไปสักพัก เสี่ยวเหยียนก็เงยหน้าขึ้นไปอีกครั้ง ถามเขาออกไปเบาๆ “ไม่ ไม่กินหรอ?”

เธอไม่พูดก็มีอยู่หรอก พอพูดก็หานซึ่งก้มหน้าลงมามองเธอ

มาด้วยแววตาอันลึกซึ้ง แววตาอย่างนี้ช่างเหมือนกับกำลังมองเหยื่ออยู่ไม่มีผิด ต้อง

มองมาเสียจนเธอรู้สึกประหม่าขึ้นมา

เธอกะพริบตาปริบๆออกมา หลบเลี่ยงสายตาของเขาไป “ฉัน ฉันแค่ถามดู ไม่กินก็ช่างมันเถอะ จุ๊บ”

เสียงพูดเพียงเพิ่งจะหลุดออกไป ลมหายใจที่รุนแรงเข้าใกล้ เข้ามา หานซิงก้มลงมาประกบริมฝีปากเธออย่างแรง ส่วนแผ่น หลังของเสี่ยวเหยียนนั้นก็ได้ชนเข้ากับบานประตูไปอย่างแรง แต่ ก็ไม่ได้เจ็บอะไร เพราะว่าหานซึ่งได้เอื้อมมือออกมากันให้เธอเอา ไว้ก่อนแล้ว

มืออีกข้างช้อนคางเธอขึ้น บังคับให้เธอรับจูบที่ทั้งร้อนแรงและ ทั้งเข้มข้นนี้ไปเต็มๆ ปกคลุมไปทั่วทุกส่วน เหมือนกับฝนที่ กระหน่ำตกลงมาทั้งยังเหมือนกับฝนที่เทลงมาด้วยอีก

เธอเหมือนต้นอ่อนที่อยู่ท่ามกลางสายลมถูกพายุฝนพัด ทำลายเสียจนไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี

ไม่ว่าเสี่ยวเหยียนจะคิดยังไงก็คิดไม่ออก ก่อนหน้านี้ตอนที่ลง บันไดมาบนใบหน้าของคนผู้นี้นิ่งเรียบเสียจนเหมือนกับไม่มีเรื่อง อะไรเกิดขึ้นก็ไม่ปาน แต่ภายหลังตอนที่พูดกับเขา เขาก็มี ใบหน้าบิดเบี้ยวออกมา มองดูเหมือนกับกำลังโกรธอยู่ไม่มีผิด
ใครจะรู้ว่าเขากำลังข่มกลั้นอารมณ์อยู่

ในช่วงระหว่างนี้เพราะว่าเรื่องงานแต่งทั้งสองคนก็เลยมักจะ ยุ่งอยู่ตลอด น้อยมากที่จะได้ใกล้ชิดกันอย่างนี้ นึกไม่ถึงว่าเริ่ม มาก็ดุเดือดอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนถูกกดลงไปบนบานประตู แทบ จะรับเอาไว้ไม่อยู่

แต่ก็มีจุดที่ดีหน่อยนั่นก็คือเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่ทำให้เธอ หวาดกลัวนั้นในตอนนี้ได้หายไปจนเกลี้ยงแล้ว เขาสามารถ ทำให้มันเป็นอย่างนี้ได้ตลอดเลย ก่อนหน้านี้เธอถูกทำให้กลัวอยู่ ไม่น้อย แต่ผลสุดท้ายจูบเดียวของเขาก็ได้ทำเอาจิตใจ เคลิบเคลิ้มทำตัวไม่ถูกพูดไม่รู้เรื่องขึ้นมา

จูบนี้ไม่รู้ว่าดำเนินต่อเนื่องมานานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุดหานชิง ก็ได้ปล่อยเธอสักที ร่างของเสี่ยวเหยียนอ่อนเปลี้ยไปหมด จน ต้องพึ่งการกอดซบหานซิงเอาไว้ ถ้าเกิดเขาปล่อยมือ เธอจะต้อง ร่วงจากร่างของเขาแน่ๆ

หานชิงยกเธอเอาไว้ พาเธออุ้มไปบนโซฟา จัดผมเผ้าและ เสื้อผ้าให้เธออย่างอ้อยอิ่ง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนหน้านี้การหายใจของ เขายังแรงอยู่เลย แต่ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าจะกลับมาเป็นปกติแล้ว

ไม่เหมือนกับเสี่ยวเหยียน ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำออกมา ในตอนที่หานชิงกำลังจัดเนื้อจัดตัวให้เธออยู่นั้นการหายใจก็ได้ ถี่แรงขึ้นมาหลายส่วน เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองตาเขาเลย

ทั้งสองคนนั่งเงียบกันอยู่เกือบจะห้านาทีได้

“กินข้าว?”
เขาลองถามออกไปดู

เสี่ยวเหยียนพยักหน้าออกไปช้าๆ

“เดินไปเองได้มั้ย?”

หลังจากที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกมา เสี่ยวเหยียนก็รีบปืน ลงจากร่างของหานซิงทันที พร้อมเอ่ยพูดออกไป “ได้อยู่แล้ว”

พูดจบเธอก็ผันร่างเตรียมที่จะเดินไปทางโต๊ะทานข้าว แต่ผล สุดท้ายก็คือพอหันเดินออกไปเพียงสองก้าว แข้งขาก็อ่อนแรงขึ้น มา มือใหญ่คู่นั้นก็ได้เข้ามาคว้าแล้วดึงเธอกลับเข้าสู่อ้อมแขนได้ ทันเวลา

“ฉันอุ้มเธอไปเถอะ” ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะฟังดูสงบนิ่งดังเคย แต่ ตอนที่เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าในแววตาของเขาดู ยั่วเย้าออกมาอย่างชัดเจน ใบหน้าเธอแดงขึ้นมาทันที เอ่ยพูดแก้ ต่างให้ตัวเองออกไปอย่างไม่รู้ตัว “ฉัน ฉันคงไม่ได้กินข้าวมาเลย หิวขึ้นมานิดหน่อย ก็เลยทรงตัวไม่อยู่

“อ้อ” เจอกับคําแก้ตัวของเธอ หานซิงกลับท่าเพียงแค่ร้องอ้อ นิ่งๆออกมา จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมาอย่างชำนาญ เดินไปยังข้างๆ โต๊ะทานอาหาร

เสี่ยวเหยียนนึกไม่ถึงว่าคำอธิบายของตนจะจะตอบกลับมา เป็นคำว่าอ้อเพียงคำเดียว ภายในใจก็ยิ่งคิดยุ่งเข้าไปใหญ่ อ้อ อ้อมันหมายความว่าอะไรกัน?

“ฉันพูดจริงๆนะคะ หลังจากที่ฉันออกไปเมื่อตอนเที่ยงกลับมาก็เอาแต่นอน ไม่ได้กินอะไรเลย เมื่อกี้นี้ก็คงน้ำตาลในเลือดต่ำไป หน่อย ก็เลยทรงตัวไม่อยู่ ไม่ได้…

เธอยังพูดอธิบายออกไป แต่จู่ๆหานซิงก็เลิกตาขึ้นมองไปบน ใบหน้าของเธอ “ดื่ม ปก่อน?”

เสี่ยวเหยียนตะลึงงัน จากนั้นก็เห็นหานซิงตักซุปมาให้เธอชาม นึง หมายความว่าอะไร? เธออยู่ทางนี้กำลังพูดอธิบายอยู่ แต่เขา กลับไม่สนใจ ทำไมถึงให้ความรู้สึกว่ายิ่งเธออยากปกปิดเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเปิดเผยออกมามากขึ้น ยิ่งอธิบายก็ยิ่งแย่กว่าเดิมกันนะ?

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็หายใจถี่ขึ้นมา “ฉันไม่ดื่ม แล้ว คุณไม่ต้องกินให้ฉัน

“ไม่ดื่มแล้ว?”

“ใช่!”

เขาไม่ได้ฟังเธออธิบายเลยสักนิด ทําให้เธอนั่งพรรณนาโน่นนี่ อยู่ตรงนั้นคนเดียว น่าโมโหจริงๆ

หานซิงเม้มริมฝีปากบางของเขา มองเธออย่างละเอียด ไม่รู้ว่า กำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่เห็นท่าทางของเขาแล้ว ก็ดูเหมือนจะ กำลังทำการตัดสินบางอย่างอยู่ไม่มีผิด

ผ่านไปสักพัก จู่ๆเขาก็วางชามลงแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อสูท ออก

เสี่ยวเหยียนไม่ได้สนใจ นึกว่าเขาจะแค่อยากถอดเสื้อคลุม ออกเพื่อกินข้าว แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะเอาเสื้อคลุมวางไปบนพนักเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่อยู่ข้างในอีก

ตอนแรกเสี่ยวเหยียนนั่งอยู่ไม่ขยับ จนเขาปลดกระดุมสาม เม็ดบนออก ตอนที่จะไปเม็ดที่สี่ต่อนั้น เธอก็รู้สึกถึงจุดที่มัน ทะแม่งๆขึ้นมา

“นี่คุณจะทําอะไร?”

“ไม่ใช่ว่าไม่อยากดื่ม?” หานซึ่งปลดกระดุมเม็ดที่สี่เสร็จ เอ่ย นิ่งๆออกมา “งั้นพวกเราก็มาต่อเรื่องเมื่อกี้กันเถอะ”

สีหน้าของเขาเรียบนิ่ง เหมือนกับกำลังพูดเรื่องทั่วๆไปเรื่อง

หนึ่ง

แต่เสี่ยวเหยียนกลับประหม่าขึ้นมาเพราะคำพูดของเขา ไม่ดื่ม ซุปแล้วจะต่อ? นี่มันเหตุผลอะไรกัน? เธอรีบเอ่ยออกไปทันที ไม่ ต่อไม่ได้นะ ฉันจะกิน

จากนั้นเธอก็เปิดฝาออก เอาอาหารด้านในออกมาวาง

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว การกระทำบนมือของหานชิงหยุดชะงัก ห ตามองเธอ

“หิวแล้ว?”

“อือๆ!” เสี่ยวเหยียนพยักหน้า อันที่จริงเธอหิวไส้จะขาดแล้ว จริงๆ และสาเหตุที่สำคัญที่สุดเลยก็คือตอนนี้เธอไม่อาจมีอะไร กับหานชิงได้ เธอท้องอยู่ สองวันนี้ก็ยังเจอเรื่องให้กลัว ถ้าไปมี อะไรกับเขาอีก เธอกลัวว่าจะเสี่ยงต่อครรภ์ตัวเอง
ก่อนหน้านี้อันที่จริงเสี่ยวเหยียนไม่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เลย เพราะถึงยังไงหานซึ่งก็ค่อนข้างจะเฉยชาอยู่แล้ว ไม่ได้มี ความกระตือรือร้นต่อเรื่องทางด้านนี้ นอกจากตอนไปเที่ยวต่าง ประเทศครั้งนั้นแล้ว ระหว่างเธอกับเขาก็ไม่มีเรื่องนั้นกันอีกเลย

อันที่จริงเสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้กระตือรือร้นต่อเรื่องทางด้านนั้น ขนาดนั้น เธอก็แค่ค่อนข้างที่จะรู้สึกแปลกใจเลยทีเดียว เพราะว่า ได้ยินมาว่าผู้ชายจะมีความคาดหวังอย่างมากต่อคนที่ตนชอบ แต่การแสดงออกของหานชิงนั้นกลับไม่เป็นอย่างนั้น ขนาดคืน นั้นตอนที่อยู่ต่างประเทศ เขาถูกวางยาก็ยังสามารถควบคุมตัว เองได้อย่างดีมากเลย

บางครั้ง เสี่ยวเหยียนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วความ สามารถในการควบคุมตัวเองของเขาดี หรือว่าไม่ได้มีความรู้สึก สนอกสนใจอะไรเธอมากมายนักอยู่แล้ว

แต่แท้จริงแล้วเธอนั้นไม่ได้สงสัยในความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ความชอบที่เขามีต่อเธอ ความรู้สึกที่มีต่อเธอ เธอสามารถรับรู้ มันได้ อันที่จริงนอกจากเรื่องนี้แล้ว การแสดงออกต่อเธอในด้าน อื่นๆของเขาก็แสดงออกมาได้อย่างหิวกระหายสุดๆ

บางทีเขาคงจะควบคุมตัวเองได้ดี?

หรือไม่เขาก็อายุค่อนข้างที่จะเยอะแล้ว เรื่องทำนองนั้นก็เลย ค่อนข้างที่จะเหลือบ่ากว่าแรงเขาไปหน่อย?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ