เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 863 หวานมากจริงๆ



บทที่ 863 หวานมากจริงๆ

แต่หาน จื่อกลับไม่รู้สึกอะไร

ถึงแม้ว่าจะรู้สึกหล่อนก็คงไม่คิดอะไร ขนมนมเนยแบบนี้กิน แล้วก็ต้องเลอะเทอะปากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว กินเสร็จแล้วค่อย เช็ดก็ได้

แต่หลังจากที่กินไปได้สองคำ ทันใดนั้นหานคู่จื่อก็คิดบาง อย่างขึ้นมาได้ หล่อนหันไปมองเยโม่เซ็น: “ฉันรู้ว่าคุณก็ไม่ชอบ กินของหวาน แต่ถ้าไม่กินของหวานตลอดก็ไม่ได้ ดังนั้นวันนี้ขนม ที่ฉันซื้อมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นของหวาน

เย่โม่เชิน: ” ”

รู้ว่าเขาไม่ชอบรสหวานก็ยังซื้อของหวาน หญิงสาวผู้นี้จงใจ แกล้งเขาใช่ไหม?

แต่ทว่า…

เย่โม่เซินกลับหรี่สายตามองหล่อน

“ทำไมเธอถึงรู้ว่าฉันชอบอะไร?”

หานคู่จื่อใจเต้นตึกตักขึ้นมาทันที หล่อนรู้สิ่งที่เขาชอบก็เป็น เพราะตอนคบกันเมื่อก่อน หากเป็นการคบกัน ในช่วงเวลานี้คงไม่

สามารถมั่นใจอะไรได้มาก เมื่อคิดถึงตอนนี้ หานมู่จื่อพูดขึ้น: “ฉันเดา”
เมื่อพูดจบ หล่อนกลัวว่าเย่ ไม่เซินจะสงสัย จึงรีบพูดอธิบาย: “ฉันชงกาแฟ าให้คุณทุกวัน ขมมากขนาดนั้น ถ้าคุณชอบ น้ำตาล คุณก็คงไปซงใหม่เองแล้ว”

คำพูดนี้มีหลักฐานและเหตุผล ถ้าคาดเตาเฉยๆ คงจะไม่ได้

สายตาของเขามองไปที่เค้กเนยที่เลอะบนปากของหล่อน ดู เหมือนว่าหล่อนจะไม่รู้ตัวเลยสักนิด และยังคงพูดอยู่ตรงนั้น กลับไม่รู้เลยว่าเศษขนมเค้กและผงแป้งที่ติดอยู่บนปากทําให้ขัด สายตาของเขามากขนาดไหน

ด้านหน้าติดไฟแดงพอดี

เมื่อรถหยุดจอดลง หาน จื่อกำลังจะเงยหน้ามองว่ายังเหลือ ไฟแดงอีกกี่วินาที แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเยโม่เห็นจะพลิกตัวมา ด้านข้าง จากนั้นยื่นมือมาจับที่ท้ายทอยหล่อนไว้ จากนั้นทุก อย่างก็มืดมิดลง

ริมฝีปากที่แห้งแตกและเย็นยะเยือกของเขาประกบกันเข้ามา หานคู่จื่อตั้งสติขึ้นมาได้ เบิกดวงตาโตกว้าง หายใจไม่เป็น จังหวะ

รู้สึกได้ว่าเค้กที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากถูกเขาเลียกลืนกินเข้าไป จาก นั้นฟันของหล่อนก็ถูกแยกออกจากกัน

ดูเหมือนว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนาน และขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า เวลาผ่านไปไม่นาน เยโม่เซินก็ถอยตัวออก และกดหัวของหล่อน ลง สายตาด่ามืดแฝงไปด้วยแววตามีเลศนัย
“ใครบอกว่าฉันไม่ชอบกินของหวาน?”

หานมู่จื่อ: “.….

เย่ ไม่เซินเลียปากของตัวเองต่อหน้าหล่อน จากนั้นหัวเราะ เย้ย: “แต่ หวานมากจริงๆ

หานมู่จื่อกระพริบตา ตั้งสติขึ้นมาได้เลียริมฝีปากตัวเองต่อ

หน้าเขา เมื่อครู่…หล่อนกินเค้กเนยเลอะปากเหรอ?

ท่าทางของหล่อนปรากฏขึ้นในสายตาของเย่ ไม่เซิน จุดไฟ แห่งความโมโหขึ้นมาทันที สายตามองไปด้านหน้าที่ไฟแดง กำลังจะหมด เย่ ไม่เซินหรี่ตาลง

“เวลาขับรถอย่ายั่วฉัน”

เมื่อพูดจบ ก็ถอยตัวกลับไป

หานคู่จื่อกลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ให้ตายเถอะ โทษหล่อนอีก แล้ว หล่อนก็แค่กินเค้กเท่านั้น ทำไมถึงคิดว่ายั่วเขาได้ล่ะ?

เมื่อคิดถึงตอนนี้ หานมู่จื่อกัดเค้กหนึ่งคำด้วยความโมโหอ หน้าเขาอีกครั้ง พูดตะคอกอย่างไม่ชัด “ฉันแค่กินขนมก็ยั่วคุณ ได้เหรอ คุณชายฉือชอบฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง?

มือของเย่โม่เป็นที่จับพวงมาลัยไว้หยุดชะงักลงทันที จากนั้น หัวเราะเยาะ “หรือว่าไม่อยากไปสนามบินแล้ว? เราเปลี่ยนไป โรงแรมกันดีไหม?”

หานมู่จื่อ “.…..
หล่อนแอบบ่นพึมพำ แสร้งว่าเมื่อครูไม่ได้พูดอะไร และกิน ขนมต่อไปอย่างเงียบๆ

หลังจากที่กินเค้กหมดหนึ่งชิ้น หาน จื่อรู้สึกเลี่ยนมาก จากนั้น มองดูขนมหวานที่ซื้อมาในถุง คิดถึงคำพูดที่เยโม่เซ็นพูดขึ้นเมื่อ ครู พูดขึ้น: “คุณชอบกินขนมหวานไม่ใช่เหรอ? ขนมในถุงนี้ฉัน ให้คุณหมดเลย”

เย่ไม่เซินเหลือบตามองหล่อน ไม่พูดอะไรต่อ

จากตรงนี้ไปถึงสนามบิน ใช้เวลาขับรถประมาณครึ่งชั่วโมง กว่า หากจะบอกว่าไกลดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่หากจะพูดว่าใกล้ เมื่อคิดดูดีๆแล้วอีกตั้งครึ่งชั่วโมง

เวลาครึ่งชั่วโมงสามารถทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง อย่างเช่นตอนนี้ หลังจากที่หานจื่อกินเค้กเสร็จ เป็นเพราะนั่ง อยู่ที่เบาะข้างคนขับน่าเบื่อเกินไป หล่อนจึงรู้สึกง่วงขึ้นมา

“ง่วงก็นอน ถึงแล้วฉันเรียกเธอเอง”

เสียงของเย่โม่เป็นดังมาจากที่นั่งคนขับ หานมู่จื่อหนักตาจน ทนต่อไปไม่ไหว พยักหน้าลง: “โอเคค่ะ”

จากนั้นหล่อนเอนพิงเบาะ และหลับไปอย่างรวดเร็ว

ด้านหน้าเป็นไฟแดง หลังจากที่เย่ไม่เป็นจอดรถ เห็นว่าหล่อน หายใจอย่างสงบ หลังจากที่หลับอย่างจริงจัง เขาก็ปรับอุณหภูมิ ในรถให้อุ่นขึ้น
หลังจากไฟแดงหมดไป เห็นได้ชัดว่าเย่ ไม่เซ็นขับรถช้าลง

จากเดิมทีที่สามารถถึงสนามบินได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง กว่า กลับต้องเพิ่มขึ้นไปอีกยี่สิบนาที หาน จื่อก็หลับตลอดทาง จนกระทั่งมือถือในกระเป๋าสั่น หล่อนจึงตื่นขึ้นมา

เมื่อลืมตาขึ้น หานผู่จื่อก็พบว่าหล่อนถึงสนามบินแล้ว

มือถือในกระเป๋าสั่นอยู่ตลอด

หาน จื่อตกใจอยู่สักพัก หยิบมือถือออกมาดู เห็นว่าสังอาน โทรหาหล่อน

หล่อนยังตาปรืออยู่ จากนั้นหันไปมองที่คนขับ เย่ไม่เซินก็มอง มาหาหล่อนพอดี จากนั้นกดรับสาย

“น้าสั่ง”

หล่อนตั้งใจเรียกชื่อน้าสั่งต่อหน้าเย่ไม่เป็น จากนั้นสังเกตดู สีหน้าอารมณ์ของเขา เรียบนิ่ง ดูเหมือนจะไปปฏิกิริยาตอบโต้ อะไรเป็นพิเศษ

“อืม” สั่งอานตอบรับเบาๆ ในสาย: “ฉันลงมาจากเครื่องบิน แล้ว ตอนนี้กำลังเดินไปที่ทางออก เธอ…” หล่อนหยุดชะงักไป จากนั้นพูดต่อ: “เธอพาเขามาด้วยรึเปล่า?”

หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ถ้าไม่ตั้งใจฟังหาน จื่อก็คง ได้ยินไม่ชัด

หล่อนพยักหน้าลง: “อืม มาแล้วค่ะ”
หลังจากตอบกลับ หาน จื่อสัมผัสได้ถึงจิตใจอันบอบบางของ สั่งอาน หล่อนคงกลัวว่าถ้าพูดดังไปจะทำให้เย็ไม่เป็นได้ยิน ดัง นั้นจึงตั้งใจพูดด้วยเสียงแผ่วเบา

หลังจากพูดจบ สั่งอานพยักหน้าลง: “โอเค งั้นพวกเราเจอกัน ที่ทางออกนะ”

เมื่อวางสายลง หาน จื่อเก็บมือถือกลับเข้าไปในกระเป๋า จาก นั้นปลดเข็มขัดออก

“ฉันออกไปรับหล่อนที่ทางออก คุณจะอยู่ในรถหรือ…”

ยังไม่ทันพูดจบ เย่โม่เป็นก็ปลดเข็มขัดออกเรียบร้อยแล้ว จาก นั้นเปิดประตูลงไปจากรถ

หานมู่จื่อตกใจตะลึง จากนั้นเดินลงจากรถตามไป

เมื่อลงจากรถ หล่อนกำลังจะเดินไปที่ทางออก แต่กลับถูกเ

โม่เซินเรียกให้หยุดไว้เสียก่อน

จากนั้นเย่โม่เซินถอดเสื้อคลุมออก และเอาไปคลุมให้หล่อน หานมู่จื่อ: “ไม่ได้ แบบนี้คุณก็จะหนาวมากสิ” เย่โม่เซินติดกระดุม ให้ สีหน้าเยือกเย็น: “ยืนให้ดี

หานคู่จื่อที่กำลังทำท่าทางขัดขืน ต้องหยุดเพราะคำพูดของ เขา จากนั้นยืนมองเย่โม่เซินเอาเสื้อมาคลุมให้หล่อนด้วยความ เหม่อลอย อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “ฉันไม่หนาว

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่ไม่เซินเหลือบสายตามองหล่อน พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เธอเพิ่งตื่น ที่นี่อุณหภูมิต่ำเกินไป ยังจะกล้า พูดว่าไม่หนาว?”

หลังจากเยโมเงินสวมเสื้อ ให้หล่อนเสร็จ มือไม่ทันระวังไปโดน หูของหล่อน มองไปที่ติ่งหูที่เล็กและสวยนั่น อดไม่ได้ที่จะยื่นมือ ไปจับ เกิดเสียงดังขึ้นมาตามสายลม

“ฉันเป็นผู้ชาย”

หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ

ก็แค่เป็นผู้ชาย ไม่ใช่หุ่นยนต์สักหน่อย จะไม่หนาวได้ยังไง? แต่น้ำใจของเขา หาน จื่อเข้าใจดี แต่เป็นเพราะตัวเองเพิ่ง นอนหลับไป เขากลัวว่าหล่อนลงมาจากรถแล้วจะหนาวเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ