เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1273 อับอายขายหน้า



บทที่ 1273 อับอายขายหน้า

ทําไม!!!!

ทำไมถึงได้เกิดเรื่องน่าอายอย่างนี้ออกมาได้!!!

ทำไมเธอถึงได้พูดไปเรื่อยอย่างนั้น ทำไมทำไมกัน ภายใน ใจของเสี่ยวเหยียนเหลือเพียงความเคอะเขินและความอับอาย ก่อขึ้นมา คาดว่าคงเป็นเพราะความรู้สึกพวกนี้มันรุนแรงเกินไป ก็เลยเป็นผลให้เธอไร้การตอบสนองกลับมา ก็ได้เหยียดตัวนั่งอยู่ ตรงนั้น ไม่มีอากัปกริยาอื่นใดออกมาเลยแม้แต่น้อย

“อะแฮ่ม… ยังมีหานคู่จื่อที่นั่งอยู่ข้างๆเธออย่างทำอะไรไม่ถูก

หานคู่จื่อคือนึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะถูกเธอแหย่จนพูดคำ พูดที่ใจกล้าขนาดนั้นออกมาได้ ความจริงแล้วคำพูดนี้ถ้าทั้งสอง คนได้ยินกันแล้วก็ปล่อยผ่านไป แต่…

ใครจะรู้ว่าจู่ๆประตูห้องประชุมก็ถูกคนผลักเข้ามา? เจ้าของ ห้องเข้ามา แล้วยังพาผู้บริหารระดับสูงหลายคนของบริษัทเข้ามา ด้วย

หานมู่จื่อก็คิดว่านี่คงเป็นช่วงเวลาที่น่าอายที่สุดในชีวิตของ เสี่ยวเหยียนแล้วล่ะมั้ง

เพียงหนึ่งเดียวไม่มีหนึ่งในนั้นอีกแล้ว!

เธอกระแอมออกมาอยู่หลายครั้งด้วยความกระอักกระอ่วน ส่งยิ้มออกไปเล็กน้อย จากนั้นลุกขึ้นยืนพูดไปกับเสี่ยวเหยียน เธอ นี่มันจินตนาการสูงจริงๆ ฉันสนับสนุนเธอ พยายามต่อไป ฉันไป ก่อนนะ”

พูดจบ หานมอก็ได้เดินไปยังประตูอย่างรวดเร็ว เธอสบตา เข้ากับหานซิง

หานซึ่งเห็นสายตาหยอกล้อของน้องสาวของตัวเองแล้ว ก็รู้สึก

จนใจอย่างมาก

“พี่ชาย เย็นนี้ฉันจะมาหาพี่อีกที แล้วค่อยกินข้าวด้วยกัน

“อืม”

ถึงแม้ว่าจะอับอายแค่ไหน แต่หานซึ่งในตอนนี้ก็ได้กลับคืนสู่ สภาพเดิม เจอกับคําเชิญของน้องสาวตน ก็ต้องตอบรับไปโดย ปริยาย

แต่หลังจากที่หาน จื่อแยกออกไป ผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ด้าน หลังของหาเชิงพวกนั้นที่ถูกคำพูดแสนฮึกเหิมของเสี่ยวเหยีย นทำเอาช็อกไปจนตกตะลึงอ้าปากค้างออกมาตอนนี้ก็ได้ได้สติ กลับมาตามๆกัน

“อาฮ่าๆๆๆ ดูเหมือนว่าท่านประธานหานจะยังมีเรื่องที่ต้อง จัดการ ไม่งั้นเรื่องนั้นที่เพิ่งคุยกันเมื่อกี้ก็ค่อยว่ากันอีกทีเถอะ

ครับ” “ใช่ครับๆ ท่านประธานหานทำธุระก่อนเถอะครับ พวกเรา ขอตัวไปอภิปรายกันก่อนนะครับ”
เสี่ยวเหยียนที่อยู่ด้านในได้ยินคำพูดพวกนั้นเข้า แทบอยากจะ ขุดหลุมฝังตัวเองขึ้นมาไม่ไหว เธอกัดลงไปบนริมฝีปากล่างของ ตัวเอง ใบหน้าก็แดงจนแทบไม่มีหน้าเจอหน้าใครได้อีก

แต่ในตอนนี้ สีหน้าของหานจึงกลับสงบเยือกเย็นออกมา เอ่ย ออกมาอย่างใจเย็น “เหยียนเหยียน

เสี่ยวเหยียนที่ถูกเอ่ยชื่อถึงก็มองเขาไปทันที ขนไปทั่วทั้งร่าง เรียกชื่อเธอออกมาในเวลานี้ เขาคิดจะทำอะไร?!

“เธอไปรอฉันในห้องพักก่อน ที่นี่มีเรื่องต้องให้จัดการอีกสัก หน่อย นะหม?”

ในตอนที่พูดถึงท่อนสุดท้าย หางเสียงของหานซึ่งก็ยังสูงขึ้น เล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะกำลังล่อลวงเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่น อายของความรู้สึกหลงรักแบบไม่ลืมหูลืมตา

เดิมทีเธอก็อับอายมากอยู่แล้ว เมื่อกี้นี้ในตอนที่หาน จื่อออก ไป เธอก็อยากเดินตามออกไปพร้อมกับหาน จอมาก แต่เธอก็ได้ พบว่าเท้าของเธอไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

ก็เลยยังคงยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ที่เดิมอย่างนั้น

ภายในใจของเสี่ยวเหยียนก็พร่ำเรียกหานคู่จื่อว่าเพื่อนเลวอยู่ ไม่รู้กี่ครั้งตั้งกี่ครั้ง นึกไม่ถึงว่าจะหนีไปในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน แบบนี้ได้ ทิ้งให้เธอต้องมาเผชิญหน้ากับกลุ่มคนพวกนี้อยู่คน เดียวฮือๆๆ…

ดังนั้นแล้วตอนนี้ที่ถูกหานซึ่งเรียกให้ไปที่ห้องพัก เธอจึงพยักหน้าออกมาอย่างเหลอหลา จากนั้นก็ได้ค่อยๆเหยียดตัวลุกขึ้น แสร้งทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ค่อยๆเดินเข้าไปยังห้อง

มีแต่ตัวเธอที่รู้ดี ในตอนที่เธอเดินอยู่นั้นเอง ก็ได้ตื่นกังวลและ หวั่นกลัวเสียจนขาสั่นออกมา

จนเข้ามาในห้องพัก เสี่ยวเหยียนก็ปิดประตูห้องพักเสียงดังปัง หลังจากนั้นก็ได้ไหลลงไปตามบานประตู ไร้เรี่ยวแรง อ่อนแรง เหมือนอย่างกับขนมสายไหม

เสี่ยวเหยียนยกมือขึ้นมากุมแก้มของตัวเอง อับอายเสียจน ไม่มีหน้าเจอใครแล้ว

หลังจากที่คืนวันนั้นที่เธอไปเต๊าะจีบหานซึ่งมันก็ไม่ได้ขาย

หน้าเหมือนอย่างตอนนี้เลย ทำกับพูดมันไม่เหมือนกันเลยสักนิด

วันนั้นเธอยังสามารถพูดได้ว่าตนทำไปเพื่อช่วยเขา

แต่ครั้งนี้ล่ะ?

เธอจะสามารถแก้ตัวอะไรออกไปได้อีก บอกว่าคำพูดนั้นเธอ

ไม่ได้เป็นคนพูด?

ใครจะไปเชื่อกัน!

สิ่งที่แย่ที่สุดเลยก็คือนึกไม่ถึงว่าเขาจะยังให้เธออยู่ต่อ ให้เธอ ไปอยู่ในห้องพัก หลังจากนั้นก็ยังหารือเรื่องงานของบริษัทกับ เหล่าผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นอยู่ที่ด้านนอกต่อ
ทำไมเขาถึงได้ทำสงบนิ่ง ในสถานการณ์อย่างนี้ได้กันแน่? แล้วยังเรียกคนเข้ามาคุยเรื่องงานกันอีก เขาไม่รู้สึกกระดาก อายเลยหรอ?

หานซิงก็ไม่ได้กระดากอายเลยจริงๆ ใบหน้าหล่อเหลาเป็น เหมือนอย่างเคย ไม่มีสีหน้าอื่นใด บ้างก็แค่มีท่าทีที่แยกเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน

แต่เหล่าผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นก็ทำตัวไม่ถูกอย่างมาก เพราะว่าได้มารับรู้ชีวิตรักของเจ้านาย โดยไม่ตั้งใจ แล้วยังมา ได้ยินคำพูดโผงผางอย่างนี้อีก ความรู้สึกที่กลับบ้านไปแล้วจะ ต้องฝันร้ายกันแน่

ในตอนที่หาน จื่อเดินออกไปพวกเขาเองก็คิดอยากจะย้าย ฝีเท้าเคลื่อนตามออกไป แต่นึกไม่ถึงว่าประธานหานจะเรียกให้ พวกเขาเข้ามาคุยเรื่องงานกันต่ออย่างไม่รู้ไม่ชี้

อะไรกันเนี่ย หรือว่าตอนนี้ไม่ควรปิดประตูห้องทำงานลง แล้ว ไล่ให้พวกเขาออกไปงั้นหรอ? ยากจะเข้าใจความคิดของ ประธานหานเลยจริงๆ

หนึ่งนาที สองนาที…

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสี่ยวเหยียนก็ยังนั่งอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ เสียงการพูดคุยกันด้านนอกหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่เธอไม่รู้เลยสัก นิด เพราะเธอไม่ได้ฟังมาตั้งแต่แรก จวบจนประตูด้านหลังถูก ผลักเข้ามา
เสี่ยวเหยียนเหมือนอย่างกับนกลิ่นธนู เด้งตัวขึ้นมาทันที จาก นั้นก็หันไปมองคนที่เดินเข้ามาอย่างตื่นตระหนก

ดวงตาของคนทั้งคู่สบกัน

เพียงแค่แวบตาเดียว เสี่ยวเหยียนก็ได้หลบสายตาไป จากนั้น ก็ได้สอดส่องไปทั่วห้องว่ามีที่ให้ซ่อนตัวหรือเปล่า แล้วเธอก็เห็น ห้องน้ำ ก็เลยก้มตัวลงแล้วเตรียมหนีไปทางห้องน้ำ

แต่เธอก็ช้าไปก้าวนึ่ง

เพราะว่ามือใหญ่ของหานซึ่งยื่นออกมา พาเธอดึงกลับมาจาก นั้นก็ล็อกเข้าไปในอ้อมแขนของตน

“หนีอะไร?”

เสียงของเขาแฝงไปด้วยความแหบห้าวอยู่หลายส่วน พาร่าง ผอมบางและงานชดช้อยของเสี่ยวเหยียนเข้าสู่อ้อมกอดตนแน่น “ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะนึกขึ้นมาว่าจะหลบ สายไป หน่อยมั้ย?”

จริงสิ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าเธอนั่งโง่อยู่ตรงนี้ อยู่อีก ถ้าไม่เพราะเขาเข้ามา เธอก็ยังไม่เคยคิดที่จะเข้าไปหลบ มาก่อนเลย

เสี่ยวเหยียนไม่กล้าพูดกับเขา ก้มหน้าหลบสายตา แม้แต่ ดวงตาของหานชิงก็ยังไม่กล้าสบ อับอายเสียจนไม่กล้าพูดออก ไปสักคําเดียว

เธอรู้สึกขายหน้าเสียจริง
ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อน

เสี่ยวเหยียนกำลังคิดอยู่นั้นเอง ถึงขนาดที่รู้สึกเสียใจขึ้นมา เล็กน้อย ตนจะขายหน้าขนาดนี้ได้ยังไง หานซึ่งจะคิดเอาว่าเธอ ยอมแพ้ไปอย่างนี้แล้วล่ะมั้ง? จะคิดหรือเปล่าว่า…

กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆ คางก็ได้ถูกจับเอาไว้ หานซึ่งเชยคางเธอขึ้น มาอย่างอ่อนโยน เพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้น

เพียงแวบตาเดียว หานซึ่งก็เห็นความเสียใจในแววตาของ เสี่ยวเหยียนเข้าพอดี

เขานิ่งตะลึงไปเล็กน้อย หรี่ตาลง “เป็นอะไรไป?”

พอถูกเขาถามมาอย่างนี้ ขอบตาของเสี่ยวเหยียนก็แดงออก มา แต่เพียงไม่นานก็ได้กัดปากส่ายหน้าออกมาอย่างแรง

คำพูดนั้นก็เป็นเธอที่พูดออกมาเอง เธอจะมาร้องไห้ในเวลานี้

ได้ยังไง? คำพูดแบบนี้จะเห็นได้ชัดว่ามันยิ่งขัดกับปกติของเธอ

เสียยิ่งกว่าเดิม

“เพราะคำพูดเมื่อกี้?” เพียงไม่นานหานซึ่งก็คาดเดาความคิด ของสาวน้อยได้ มือที่จากเดิมได้จับอยู่ตรงคางก็ได้แปรเปลี่ยน มาเป็นสองมือกอบกุมใบหน้าของเธอเอาไว้ แววตาลึกซึ้ง “ทำไม กลัวว่าฉันจะดูถูกเธอเพราะคำพูดพวกนั้น?”

เสี่ยวเหยียนชะงักไป เอ่ยพูดอย่างติดๆขัดๆออกมา “คุณ คุณรู้ ได้ยังไง…

ทำไมเขาถึงทายได้แม่นขนาดนี้?
ได้ยินอย่างนั้น หานซิงก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมเอ่ยออกมา ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ผู้หญิงของฉันคิดอะไร ฉันผู้เป็นแฟนหนุ่ม ถ้ายังไม่รู้ดีอีก อย่างนั้นแล้วมันไม่ใช่ดูเป็นคนเลวไปหรอ? เด็ก โง่ บางคำพูดแล้วก็พูดไป ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่ว่าฉันเคยบอกไป แล้วหรอว่าเธอเป็นแฟนของฉัน อยากทําอะไรก็ได้ทั้งนั้นไม่ใช่ หรือไง?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ