เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1216 คุณได้ยินผิดแล้ว



บทที่1216 คุณได้ยินผิดแล้ว

โธ่เอ๋ย

คิดเตลิดไปแล้ว!

เสี่ยวเหยียนรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว ค่อยๆยก โทรศัพท์มือถือขึ้น

น่าข่า แม้ว่าภาพถ่ายพวกนี้จะทำให้คนคิดลึก แต่ว่าโอกาสที่ จะได้ถ่ายรูปคู่แบบนี้แล้วแถมหานซึ่งยังเป็นฝ่ายเอ่ยปากเองด้วย ต่อให้ภาพถ่ายจะทำให้คนคิดเพ้อฝัน แต่เธอก็ยังไม่ทิ้งโอกาส แบบนี้ใช่มั้ย

แม้ว่าเสี่ยวเหยียนจะเตรียมตัวเตรียมใจแล้ว แต่ตอนที่กล้อง จับภาพดวงตาและใบหน้าของทั้งคู่ หัวใจของเธอก็ยังเต้นโครม ครามไม่เป็นจังหวะ

อาจจะเป็นเพราะไฟบนศีรษะสว่างเกินไป หรืออาจเพราะ ปัญหาของหัวใจเธอ เพราะเวลานี้เธอกลับรู้สึกว่าคิ้วของหานชิง เข้มชัดมาก และหล่อเหลาเป็นพิเศษ และผู้ชายคนนี้ก็กำลังโอบ เธอไว้ด้วยไหล่กว้างที่รองรับเธอได้พอดี

ภาพนี้ดูแล้วกลับดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ขนาดนั้น

แชะ

ไม่รู้ตัวเลย เสี่ยวเหยียนถ่ายไปหลายรูปแต่ก็ล้วนเป็นท่าเดียวกัน

เธออดไม่ได้ที่จะถ่ายต่อ แต่ก็รู้สึกว่าถ่ายไปถ่ายมาก็เหมือน เติม แล้วถ้าถ่ายแบบเดิมมากๆ การชิงจะรู้สึกเธอหรือเปล่า

ดังนั้นหลังจากที่เสี่ยวเหยียนถ่ายไปหลายรูปก็เก็บโทรศัพท์ มือถือ ในใจก็ยังรู้สึกจิตตกเล็กน้อย

“ทําไมเหรอ” อารมณ์ความรู้สึกแสดงออกอยู่บนใบหน้าของ หญิงสาว ดังนั้นหานซึ่งมองแวบเดียวก็ดูออกว่าเธอรู้สึกอย่างไร

เสี่ยวเหยียนเม้มปาก : “รู้อย่างนี้แต่แรกตอนออกไปเที่ยวน่า จะถ่ายรูปให้เยอะหน่อย

หานซึ่งมองหญิงสาวในอ้อมกอด ก็อดไม่ได้ที่จะลูบผมบน ศีรษะเธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง อย่างนั้นพรุ่งนี้ตอนออกไปเที่ยว ก็ถ่ายเยอะ ถ่ายจนคุณพอใจ ดีมั้ย”

“จริงเหรอ”เสี่ยวเหยียนมองเขาอย่างประหม่า : “ถึงเวลาคุณ จะไม่รำคาญฉันเหรอ”

พูดจบ หานซึ่งไม่ทันได้ตอบคำถามเธอ แต่มองเธออย่างไม่รู้

จะทําอย่างไรดี

“ทำไมเหรอ”อารมณ์ของเสี่ยวเหยียนพุ่งขึ้นมาทันที หรือว่า เขาจะรําคาญเธอจริงๆ

ในขณะที่เธอกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้นเอง หน้าผากของเสี่ยวเหยี ยนก็ถูกดีด เธอส่งเสียงร้องมือกุมหน้าผากเอาไว้ จากนั้นก็ได้ยิน หาเชิงพูดยิงเธอว่า
“ก็บอกแล้วว่าให้คุณถ่ายจนคุณพอใจ ยังจะมาคิดเล็กคิดน้อย อยู่ตรงนี้อีก มั่นใจในตัวเองหน่อยได้มั้ย คนที่อยู่ข้างๆคุณแล้ว ยังจะคิดอะไรอีก”

ก็ถูก คําพูด พูดแทงใจของเสี่ยวเหยียนแล้วจริงๆ

เขาก็อยู่ข้างๆกายตัวเองแล้ว เธอยังจะมามัวน้อยอกน้อยใจ อะไรอีก

คิดมาถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนจู่ๆก็ยื่นมือมาโอบเอวของคนคน หนึ่งอย่างแรง ใบหน้าซุกเข้าไปในอ้อมอกของเขา กอดเขาอย่าง แน่น

เป็นเรื่องจริง เป็นของเธอ เธอยังจะมีอะไรให้กังวลอีก อย่างน้อยข้างกายเขาก็ไม่เคยมีใครมาก่อน มีเพียงเธอ การชิงยกแขนอีกครั้งคิดจะวางบนศีรษะของหญิงสาว คิดอะไร บางอย่างได้ก็ค่อยๆดึงกลับ เปลี่ยนมาเป็นโอบรอบไหล่บางๆ

ของเธอแทน ดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดด้วยความสงสารเอ็นดู

วันต่อมา

ในขณะที่เสี่ยวเหยียนกำลังหลับอย่างสะลึมสะลือ เหมือน ได้ยินว่ามีคนมาเคาะประตู แต่เธอง่วงนอนมาก………ตาแทบไม่ ขึ้นดังนั้นแม้ว่าร่างกายจะได้ยินเสียงอย่างไร แต่ความง่วงกลับ แข็งแกร่งขวางกั้นเธอออกมาจากโลกภายนอกได้
ก็อกๆ—

อก

เสียงเคาะประตูสั้นๆยาวๆ ขาดๆหายๆ ยังคงตั้งอยู่ตลอด

หานซึ่งลืมตา นัยน์ตาดที่เงียบขรึมนั้น ไม่มีความพร่ามัว แม้แต่น้อย เขาหันข้างมามองหญิงสาวที่นอนข้างๆ

ร่างของเธอมดอยู่ในผ้าห่ม มีแต่ศีรษะเล็กๆกับใบหน้าขาว ผ่อง โผล่ออกมา

อาจเป็นเพราะเสียงเคาะประตูดังรบกวน ดังนั้นคิ้วเรียวสวย นั้นจึงค่อยขมวดเข้าหากัน แม้แต่จมูกก็ยังกระดกตามขึ้นมา ราวกับว่าอีกไม่นานความง่วงงุนก็จะถูกทำลายหายไปแล้ว

เมื่อคืนทั้งสองนอนด้วยกัน ดังนั้นหานซึ่งจึงรู้ว่าตอนแรกเสี่ยว เหยียนแทบนอนไม่หลับ หันหลังให้เขาด้วยความประหม่า ราวกับไม่กล้านอน ต่อมาก็เรียกเขาเบาๆหลายครั้ง หานซิงเกรง ว่าเธอจะกังวลใจจึงได้แต่แกล้งทำเป็นหลับไปแล้ว ดังนั้นต่อมา จึงรู้ว่าตอนเที่ยงคืนหญิงสาวเข้าห้องน้ำหลายครั้ง ทรมานพลิก ไปมาจนใกล้รุ่งสางจึงนอนหลับ

เช่นนั้นตอนนี้ได้ยินเสียงเคาะประตู ร่างของเธอก็มีปฏิกิริยา แต่ว่าก็ยังอยู่ในสภาพที่งัวเงีย

ถ้าเคาะต่อไป คงต้องปลุกคนตื่นขึ้นมาแน่

หานชิงลุกขึ้นนั่งสีหน้าเย็นเยือก ลงจากเตียง ใส่รองเท้าเดิน โดยไม่ส่งเสียงออกมา
ก๊อกๆ—

เสียงเคาะประตูยังคงดังต่อเนื่อง หานซึ่งยิ่งเดินเข้าใกล้ประตู

คิ้วก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น

เขาเตาได้ว่าคนที่มาเคาะประตูคือใคร

หานซึ่งเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าถ้าเคาะต่อไป หญิงสาวจะถูกปลุกให้ตื่น

แกร๊ก!

หลังจากเปิดประตู ด้านนอกประตูมีคนที่คุ้นเคยยืนอยู่จริงๆ

หลินชินเอ๋อ

หลินชิ้นเอือมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่เฝ้ารออยู่ ก็มีสีหน้า ดีใจ เตรียมจะก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แต่หานซิงกลับเร็วกว่า ปิด ประตูเหลือเพียงช่องเล็กๆ เท่านั้น มองผู้ที่มาด้วยสีหน้าเย็นชา

“ไม่มีอะไร”

หลินชิ้นเอ๋อชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเย็นชาขนาดนี้ คำพูดที่เตรียมอยู่นานก็ลืมไปหมดแล้ว ได้แต่ๆอึ้งๆ “ฉัน ฉัน แค่อยากจะมา….ดูว่าพวกคุณตื่นหรือยัง……

“ยังไม่ตื่น” หานชิงตอบด้วยเสียงแข็งและเย็นชา : “ตอนนี้ คุณไปได้แล้ว”

ปัง!

หลังจากพูดจบหานชิงก็ปิดประตูทันที
หลิน นเอ๋อเดิมคิดจะก้าวมาข้างหน้า จมูกเกือบจะโดน กระแทก

ใบหน้าหลินซินเอ๋อฉายความขุ่นเคือง เธอตื่นแต่เช้ามาแต่ง หน้าแต่งตัว เพื่อให้ตัวเองแต่งตัวสวยผู้ชายคนนี้จะได้สะดุดตา ตัวเองขึ้นมาบ้าง ใครจะไปรู้ว่าเขาจะเย็นชาแบบนี้!

ในขณะที่หลินชิ้นเอ๋อ โมโหเตรียมจะเคาะประตูอีกครั้งนั้นเอง ประตูกลับถูกเปิดอีกครั้ง หลินชิ้นเอ๋อได้แต่รีบกลบเกลื่อนความ โกรธไว้ ก้มหน้าปั้นรอยยิ้มที่ตนเองคิดว่ามีเสน่ห์ที่สุด

“ตอนเช้าเป็นเวลาพักผ่อน ไม่มีธุระอะไรก็อย่ามาเคาะประตู

ปิง!

หลินชิ้นเอ่อผู้น่าสงสาร ตนเองคิดว่ารอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์นั้นยัง ไม่ทันได้เฉิดฉาย หานชิงพูดจนจบก็ปิดประตูห้องของโรงแรมอีก ครั้ง

หลินชิ้นเอ๋อยืนอยู่ที่เดิม ยืนเหม่อมองประตูอยู่นาน สีหน้า เปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที เธอเกือบจะควบคุมความ โกรธของตัวเองจนอยากจะทุบประตูไว้ไม่อยู่

ครั้งแรกที่เจอผู้ชายซึ่งรับมือยากและยังไร้มารยาทขนาดนี้ ไม่มีความอ่อนโยนต่อผู้หญิงแม้แต่น้อย

มันน่าโมโหจริงๆเลย

ทำไม เธอก็แต่งเนื้อแต่งตัวแล้ว ทำไมผู้ชายคนนี้จึงยังไม่ยอม สนใจเธอบ้าง หรือว่าตนเองยังเทียบกับยัยผู้หญิงน่าเกลียดคนนั้นไม่ได้

ใบหน้าหลินซิ่นเอ๋อเต็มไปด้วยความโกรธ จึงหมุนตัวอย่างไม่ เต็มใจนัก

ส่วนด้านในห้อง หลังจากหาเชิงปิดประตูแล้ว ในใจก็คิดว่าผู้ หญิงคนนั้นน่าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร หากยังมาเคาะประตูอีก เขาก็จะไม่เกรงใจแล้วจริงๆ

หานซิงเดินกลับไป เตรียมจะพักผ่อนอีกหน่อย กลับเห็นว่า หญิงสาวขยี้ตาพลางลุกขึ้นมามองเขา “เหมือนฉันได้ยินเสียงคน มาเคาะประตู ใครเหรอ”

เสียงของเธอยังมีความงัวเงียแบบเพิ่งตื่นนอน ดวงตายังพร่า มัว ยังไม่สามารถลืมตาได้ คงจะง่วงมาก

“คุณได้ยินผิดแล้ว”

หานชิงปฏิเสธอย่างหน้าตาเฉย

ได้ยินผิดเหรอ

ในดวงตาเสี่ยวเหยียนมีความเลือนราง เธอได้ยินผิดไปจริงๆ เหรอ แต่เธอได้ยินชัดเจนว่ามีคนมาเคาะประตูนี่นา

ในขณะที่เสี่ยวเหยียนกำลังสงสัยอยู่นั้น หานซึ่งก็ถอดรองเท้า นั่งอยู่ข้างเตียงแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ