เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 897 สลบไป



บทที่ 897 สลบไป

ในตอนที่เสียงผู้ชายดังมาจากด้านล่าง สักพักก็มีเสียงฝีเท้าดัง ขึ้นมา

หัวใจของเธอเต้นแรง รู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว

เธอเพิ่งจะหลอกล่อตอนเสวได้แล้ว ตอนนี้จะแหวกหญ้าให้ ตื่นเหรอ

เธอกำลังจะหันไปพูดกับสวนเสา แต่ตวนเสวก็เสียสติไป แล้ว พอเขาคิดถึงตอนที่โดนหานจื่อหว่านล้อม แถมยังทำให้ ซาบซึ้งถึงขั้นน้ำตาไหล เขาก็รู้สึกอายแทนตัวเอง

คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะหลอกเขาได้

อีกทั้ง คนพวกนั้นก็มาถึงที่นี่แล้ว เขาต้องโดนจับได้แน่ๆ

ไม่นะ ฉันต้องไม่โดนจับ

ในสมองของตวนเสเลยเหลือแค่ความคิดเดียว

ผลักเธอลงไป

หากผลักเธอลงไป ทุกคนก็จะวุ่นวายกัน เธอจะได้ใช้โอกาสนี้ ในการหลบหนี เธอจะหนี หนีไปบ้านตระกูลถือ

เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ตวนเสวไม่ลังเลสักนิด เธอยื่นมือไป ผลักหลังของหาน จื่อ แล้วก็รีบวิ่งหนีไป
หานจื่อไม่มีโอกาสที่จะได้พูด หากเธอโดนผลักตรงตำแหน่ง นี้ รอบข้างก็ไม่มีอะไรให้จับยึด ดูแล้วต้องตกลงไปแน่ๆ เธอจึง หลับตาแล้วใช้มือป้องกันหน้าท้องเอาไว้

ไม่นะ……..

กว่าจะได้โอกาสนี้มาไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากต้องสูญเสียไป ตอนนี้ ต่อไปเธอจะชดใช้บาปยังไง

ในขณะที่หานจื่อคิดว่าตัวเองต้องล้มไปแล้วแน่ๆก็ได้มีมือคู่ หนึ่งมารองรับเธอไว้ ลมหายใจที่คุ้นเคย เมื่อหาน จื่อเปิดตา ก็ พบกับดวงตาคู่หนึ่งที่ลึกซึ้งและเศร้าหมอง

ดวงตาที่นิ่งและเย็นชาในวันธรรมดาไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป มัน เต็มไปด้วยความวิตกกังวล มือที่จับเธอไว้ถึงแม้จะมีกำลัง แต่ มันก็สั่นอยู่เบาๆ การหายใจที่เร็วแสดงให้เห็นว่าเขาเสียพลัง และกังวลมากแค่ไหน ในขณะนี้

ขนตาของหาน จื่อสั่นเล็กน้อย รีบคว้าเสื้อคลุมสีขาวของเขา ด้วยความตกใจ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับพูดไม่ออก สักคำ ไม่เพียงเท่านี้ ตาของเธอยังพร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ

ต่อมาเธอก็เป็นลมล้มไปในอ้อมอกของเย่ไม่เป็น

สองคนเจอกัน ไม่ทันได้พูดอะไร หานซื้อก็เป็นลมล้มพับใน อ้อมกอดของเขาซะแล้ว

เย่โม่เป็นขมวดคิ้วและอุ้มเธอขึ้นมา

“ตามไป เขาวิ่งไปทางนั้น
เฉียวอพาคนจำนวนหนึ่งรีบตามขึ้นไปชั้นบน หลัว ลาสทางตาม มาเห็นหาน จื่อจึงหยุดลง มองดูเธอด้วยความหอบ

“จื่อเหรอ ประธานคะ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ ”

เย่ไม่เป็นหันไปมองบุคคลนั้น เขาจำใบหน้านี้ไม่ได้ แต่เมื่อ เห็นเธอกังวลขนาดนี้คิดว่าคงเป็นเพื่อนของมู่จื่อ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็หันไปตอบง่ายๆ “ผมจะพาเธอไปโรงพยาบาล

พูดจบ เย่ ไม่เป็นอุ้มเธอขึ้นมา แล้วหันเดินกลับไปชั้นล่าง

หลัวพยักหน้า แล้วหันตามไปอย่างไม่รู้ตัว หลังจากเดินไปสองก้าว เธอมองไปที่ร่างชายรูปร่างสูงใหญ่ สง่างามคนนั้น แล้วเธอก็หยุดลงอีกครั้ง

ช่างเถอะ ถึงแม้จะเป็นห่วงจื่อ แต่ยังไงเขาก็เป็นประธานของ บริษัท เธอไม่คุ้นเคยกับเขาสักนิด เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดจะคุยกับ เขา เพราะตนเองเป็นแค่พนักงานระดับเล็กๆคนหนึ่ง

จะตามไปตอนนี้ก็รู้สึกแปลกๆ

เธอตามเฉียว อมา ก็ควรจะตามเฉียวซื้อไปจับตัวคนร้ายด้วย

ในส่วนของมู่จื่อ เห็นเย่ไม่เซินเป็นห่วงเธอขนาดนี้ คงไม่มี อะไรเกิดขึ้นหรอก

เมื่อยืนหยัดดังนั้น หลัวก็ค่อยๆหมุนตัวแล้ววิ่งตามทางที่ เฉียวจื้อไป

ตวนเสาผลักจื่อแล้วก็รีบวิ่งหนีไป
ผลักเสร็จเธอก็รู้สึกผิดหวังแล้ว

ทำไมตัวเองถึงหุนหันพลันแล่นแบบนั้น จริงๆเขาก็บอกแล้วว่า จะช่วยตัวเองพูด และไม่ได้หลอกตัวเอง เพียงแค่พวกเขามาถึง เร็วเกินไปเท่านั้น

ถ้าเมื่อกี้เธอไม่ได้ทำอะไรเลย เขาก็คงจะได้ช่วยตัวเองชี้แจง บ้างแล้ว

แล้วตอนนี้ล่ะ

เธอผลักหานคู่จื่อลงไปแล้ว

เมื่อเสียงนั้นเป็นเสียงที่ตวนเสว่คุ้นเคยมาก เฉียวซื้อคน ที่อยู่ด้วยกันมานาน ผู้ชายคนนั้น……….เมื่อก่อนเขายังชอบ เธอมาก

เขาอยู่ที่นี่ ถ้าหากเป็นเขาจริงๆ เย่ไม่เป็นก็ต้องมาด้วยแน่ๆ ถ้าหากเย่ไม่เป็นรู้ว่าตนเป็นคนผลักจื่อลงไป ต้องเกลียดตน มากแน่ๆ

เธอได้ทำเรื่องที่เลวร้ายอีกครั้ง แต่เธอเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอ ไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว ตวนเสวไม่กล้าฟังและไม่กล้า หันไปมองหาน จื่อที่ตกลงไปว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอรู้แค่ว่าต้อง รีบวิ่งไปข้างหน้า

ตราบใดที่เธอออกไปจากที่นี่และกลับไปที่บ้านตระกูลยคือ ขอร้องให้คุณปู่ช่วย เธอก็น่าจะไม่เป็นอะไร
ถึงแม้คุณจะโกรธเธอ แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอจริงๆ คุณ ปูต้องไม่นิ่งนอนใจแน่

ยังไงเธอก็เป็นหลานสาวของเขา พอคิดแบบนี้ ตวนเสวก็เร่งสปีดมากขึ้น แต่ข้างหน้าเป็นทาง

ตัน เธอวิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว

ความเสาหันกลับมามองเห็นมีคนวิ่งตามมา หากเธอวิ่งกลับ ไปจะถูกจับได้แน่ๆ

ขณะเดียวกันก็มีแขกเดินออกมาจากห้องพอดี ตวนเสเห็น ดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องแล้วดึงคนๆนั้นออกมา

“เห้ย เห้ย เธอจะทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันนะ”

ตวนเสวกระโจนเข้าไปในห้อง ปิดประตูเสียงดังปังแล้วก ลอนก็ลงมาล็อคพอดี

แขกคนที่ถูกดึงผลักออกมายืนงงอยู่ตรงนั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งคนของเฉียวซื้อมาล้อมไว้รอบห้องนั้น แขก จึงแสดงอาการหวาดกลัวและตกใจออกมา

“คุณ…..พวกคุณ……จะทำอะไร

เขาถามแบบติดอ่าง

เฉียวจื้อเหลือบมองเขาและพูดอย่างเย็นชา “ผู้หญิงคนเมื่อกี้ เข้าห้องคุณไปแล้วเหรอ
แขกคนนั้นพยักหน้า “ใช่ เธอบุกเข้ามา แย่งคีย์การ์ดของผม แล้วก็เข้าห้องลงกลอนแล้ว” เฉียวจอขมวดคิ้ว สีหน้าไม่พอใจ เจ้าของบ้านเห็นเขาพาคน

มาเยอะขนาดนี้ก็ตกใจแล้วถอยไปสองสามก้าว “ผมไม่รู้เรื่อง

ด้วยนะ เธอบุกเข้ามาเอง

“ทราบครับ พวกเราจะจัดการเรื่องนี้เอง คุณกลับไปได้แล้ว” แขกคนนั้นลังเล “คีย์การ์ดของผมล่ะ…….

เฉียวจื้อหยิบเงินออกมาสองสามใบยื่นให้เขา “ออกไปก่อน จัดการเรื่องนี้เสร็จห้องนี้ก็เป็นของคุณตามเดิม เข้าใจไหม ที่นี่เป็นโรงแรมเล็กๆราคาต่อคืนถูกมาก เมื่อแขกคนนั้นได้

เห็นเงินเยอะขนาดนี้ ก็ไม่รีรอ รีบยื่นมือไปรับแล้วหลบไปอยู่อีก

ฝั่งนึง

หลัวก็มาถึงได้จังหวะพอดี เธอเข้าไปยืนตรงเบื้องหน้าของ เฉียวจื้อ

“คนล่ะ จับไม่ได้เหรอ

ได้ยินดังนั้นเฉียวจื้อหันไปหาเธอแล้วมองเข้าไปในห้อง “หลบ อยู่ในนั้น”

หลัวมองไปที่ห้องครั้งนึง แล้วหันมองดูคนที่ยืนล้อมรอบๆ ห้อง เม้มริมฝีปาก พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอหยิบมือถือขึ้นมา เฉียวซื้อถาม “เธอจะทำอะไร
โทรหาตำรวจไง ไม่งั้นโรงแรมไม่ช่วยเราเปิดประตูหรอก”

พอได้ยินว่าหลัวจะแจ้งตำรวจ เฉียวซื้อก็รีบเอามือไปเบรก เธอไว้ หลัวเงยหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ