เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1426 เธอไม่อยากตาย



บทที่1426 เธอไม่อยากตาย

มิน่าล่ะถึงได้แสบจมูกขนาดนี้ แถมยังรู้สึกร้อนอีกด้วย

เสี่ยวเหยียนตกใจ เธอรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที แล้วก็หันหลัง จะวิ่งออกไปด้านนอก

ไฟยังไม่ลามไปถึงตรงประตู ดังนั้นเสี่ยวเหยียนเลยรู้สึกดีใจ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมถึงไฟไหม้ได้ แต่ว่าถ้าเกิดว่าเธอออกไป ได้ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว

แต่ว่าตอนที่เสี่ยวเหยียนวิ่งไปถึงประตูและเตรียมจะดึงเพื่อ เปิดออกล่ะก็ ก็กลับพบว่าประตูมันล็อก

เรื่องที่ประตูถูกล็อกแบบนี้ เป็นเรื่องที่เธอพึ่งจะเจอมาได้ไม่ นาน ตอนที่ตระหนักได้ว่าไม่ว่าจะทำยังไงประตูก็เปิดไม่ออก เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกได้ว่าตัวเองขนลุกไปทั้งตัว เธอหนังศีรษะชา และดึงประตูอย่างแรง

แต่ว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ประตูก็ไม่ขยับเลย

เกิด เกิดอะไรขึ้น….

ไฟกองโตขนาดนี้ อยากจะเผาเธอให้ตายเหรอ?

ไม่ เธอไม่อยากตาย

เสี่ยวเหยียนตบประตูอย่างแรง “มีคนอยู่ไหม? ช่วยฉันด้วย! ” แต่ว่าเหมือนกับว่าเธอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกยังไงยังงั้นไม่ว่าเธอจะตะโกน ขอความช่วยเหลือแค่ไหน ก็ไม่มีใครได้ยิน

เปลวไฟกระจายอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้ยังอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง อยู่เลย แต่ว่าตอนนี้เผาไหม้มาถึงตรงที่เสี่ยวเหยียนนั่งเมื่อกี้นี้ แล้ว

ประตูถูกล็อก โทรศัพท์ก็หายไปไหนไม่รู้ ในห้องมีเธออยู่แค่ คนเดียว เหมือนกับว่าทุกอย่างได้ถูกเตรียมไว้อย่างดีแล้ว

มีคนอยากจะเผาเธอให้ตาย ในวันแต่งงานของเธอ หลังจากความคิดนี้ก่อขึ้นในใจของเธอ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึก หนาวเหน็บไปทั้งตัว ทำยังไงดี ทำยังไง เธอจะออกไปได้ยังไง?

ทำไมในห้องถึงเหลือเธออยู่แค่คนเดียว? แล้วช่างแต่งหน้า ล่ะ?

ไม่ได้แล้ว เธอแค่นั่งรอแบบนี้ไม่ได้ เธอชอบหานชิงมาตั้ง

หลายปี ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงวันนี้ เธอไม่อยากตายในกองไฟ

แบบนี้

แต่ว่า เธอจะทำยังไงดี? ตอนที่ไฟไหม้………

ทันใดนั้นสายตาของเสี่ยวเหยียนก็ย้ายไปมองอีกห้องหนึ่ง ไฟ ยังไม่ลามไปถึงตรงนั้น แล้วเธอก็จำได้ว่าเหมือนกับว่าห้องนั้นจะ มีห้องน้ำ ถ้าเกิดว่ามีห้องน้ำ ก็แสดงว่าน่าจะมีน้ำ

พอคิดได้แบบนี้ ใบหน้าของเธอก็มีความสุข แล้วก็รีบวิ่งเข้าไป สิ่งที่น่ายินดีก็คือ ในห้องน้ำมีกะละมังเล็กๆ เสี่ยวเหยียนรีบถือน้ำแล้วเดินโซซัดโซเซออกมา ตอนที่เธอกลับออกมาอีกครั้งนั้น กองไฟนั้นก็ใหญ่ขึ้นแล้ว น้ำถังเล็กๆ ของเธอไม่ได้มีประโยชน์ อะไรเลย

ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไป มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะสามารถ

ดับไฟนี้

เสี่ยวเหยียนกลับมาที่ห้องน้ำอีกครั้ง แล้วก็หาของมากัน ปากท่อระบายน้ำไว้ หลังจากนั้นก็เปิดก๊อกออกทั้งหมด แล้วก็ เปิดประตูห้องน้ำอีกครั้ง

อย่างรวดเร็ว น้ำในก๊อกก็แย่งกันพุ่งออกมา เพราะว่าไม่ได้

ไหลลงไปในท่อระบายน้ำ มันก็เลยกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว

เธอไม่รู้ว่าแบบนี้มันจะมีประโยชน์รึเปล่า แต่ว่าเธอไม่สามารถ ดับไฟนั้นได้ แถมยังถูกขังไว้ในห้องนี้ออกไปไหนไม่ได้ วิธีเดียวก็ คือต้องใช้น้ำ

แน่นอนว่าเธอไม่ได้ขี้เกียจ ต่อให้ในมือมีกะละมังเล็กๆ เพียง แค่อันเดียว เธอก็ยังคงยืนยันจนถึงที่สุด ถือน้ำออกมาดับไฟ

ถึงแม้ว่าในกองไฟที่ใหญ่โตขนาดนี้ น้ำเพียงเล็กน้อยไม่ได้ทำ ผลอะไรให้มากเลย แต่ว่าเสี่ยวเหยียนรู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็ ทำให้ไฟเผาไหม้ได้ช้าลงหน่อย แม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงเสี้ยว วินาที เธอก็ต้องต่อสู้เพื่อโอกาสรอดตายของตัวเอง

เธอแค่หวังว่า ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าที่นี่ไฟไหม้ แล้วก็แจ้งตำรวจ เธอไม่อยาก ไม่อยากตายที่นี่จริงๆ
เธอยังไม่ได้กลายเป็นภรรยาของหานซิงเลย แม้แต่ไม่ได้บอก เขาด้วยซ้ำ ว่าเธอตั้งท้องลูกของเขาอยู่ แล้วเธอจะยอมตายแบบ นี้ได้ยังไง?

ไฟไหม้”

มือของหานมู่จื่อจูงเสี่ยวหมี่โต้วอยู่ เย่ไม่เป็นอยู่ข้างๆ ในอ้อม แขนของเขาอุ้มเสียวโต้วหยาอยู่ ครอบครัวสี่คนนี้มาร่วมงาน แต่งของหานซิงกับเสี่ยวเหยียน

ที่ล็อบบี้เรื่องเยอะ แล้วอีกอย่างเธอก็สงสัยมากว่าเสี่ยวเหยียน แต่งหน้าแล้วจะเปลี่ยนไปเป็นยังไงบ้าง ดังนั้นก็เลยอยากจะพา เสี่ยวหมี่โต้วไปดูว่าวันนี้เจ้าสาวแต่งหน้าเป็นยังไงบ้าง

แต่ว่าในตอนนี้เอง ก็มีคนพุ่งเข้ามา

“คุณหานครับ ที่ห้องแต่งหน้าไฟไหม้ครับ หานซึ่งกำลังต้อนรับแขกอยู่ แขกทั้งห้องโถงพอได้ยินประโยค นี้ก็ร้อนรนขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น? ”

“อยู่ดีๆ ไฟก็ไหม้ยังงั้นเหรอ? ”

หานชิงหรี่ตาลง มองดูผู้ชายที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเขา “มีอะไรเหรอ? ”

“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ห้องที่คุณจางอยู่จู่ๆ ก็เกิดไฟไหม้ เมื่อกี้ ตอนที่ผู้ช่วยช่างแต่งหน้าถืออาหารเช้าจะเอาเข้าไปให้ก็พบว่าประตูเปิดไม่ได้ ผ่านไปสักพักก็ได้กลิ่นไหม้ ยังไม่ทันจะพูดจบ หานซิงที่อยู่ตรงหน้าเขาก็หายไปทันที

“เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะ? เกิดอะไรขึ้น? ”

พอหานมู่จื่อพูดจบ ก็รีบวิ่งตามไปยังทิศทางที่หานซึ่งหายไป อย่างร้อนรน วิ่งไปครึ่งหนึ่งแล้วก็หันหน้ากลับมามองเย่ไม่เป็น “นายดูแลเสี่ยวหมี่โต้วกับเสี่ยวโต้วหยาให้ดี

เย่ไม่เป็นที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง :

“สรุปแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ไฟไหม้ที่ไหน? ห้องที่ เจ้าสาวพักยังงั้นเหรอ? ”

“พระเจ้า ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้? แจ้งตำรวจรึยัง? เร็ว รีบ โทรแจ้งเหตุไฟไหม้เร็ว

เย่ไม่เป็นมองไปที่สถานที่จัดงานแต่งที่ยุ่งเหยิงนี้ แล้วก็หันมา

มองลูกทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆ ไม่ใช่สิ ตอนนี้เหลือแค่คนเดียวแล้ว

เพราะว่าเมื่อกี้เสี่ยวหมี่โต้วอาศัยโอกาสตอนที่เขาไม่ทัน สังเกตแอบหนี วิ่งตามหาน จื่อไป

สมควรตาย เสี่ยวหมี่โต้วนี่ช่างก่อปัญหาเพิ่มจริงๆ ตรงนั้นไฟ ไหม้เขาจะวิ่งเข้าไปเพื่ออะไรกัน?

เย่โม่เซินกัดฟันกรอด แล้วก็อุ้มเสียวโต้วหยาตามไป

“โม่เซิน”

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง สั่งอานก็ได้ยินเรื่องไฟไหม้ดังนั้นก็เลยรีบมา พอเห็นว่าสถานที่เกิดเหตุเหลือเขาเพียงแค่คน เดียวเธอก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว ดังนั้นก็เลยยื่นมือไปหาเขา “เอา เสียวโตวหยามาให้น้าดู แล้วหลานรีบตามไป จำไว้ว่าต้อง ปกป้องความปลอดภัยของมู่จื่อ เสี่ยวหมี่โต้วแล้วก็ตัวหลานเอง เข้าใจไหม? ”

“ขอบคุณครับคุณน้า

ในเวลาแบบนี้สั่งอานปรากฏตัวขึ้นและชั่วเขา สำหรับเย่ไม่ เงินแล้วนั้นถือว่าเป็นการช่วยเหลือที่ทันเวลามาก ยังไงความจริง แล้วเสียวโต้วหยาก็เด็กเกินไป อุ้มเธอไปด้วยมันก็ไม่ค่อยจะ สะดวกเท่าไหร่

“รีบไปเถอะ”

เย่ ไม่เซินจากไปอย่างรวดเร็ว

และตอนนี้ในอีกด้านหนึ่ง หลัวหุยเหม่ยกับพ่อจางก็มาถึงหน้า ประตูห้องแต่งหน้าของเสี่ยวเหยียนแล้ว คนที่อยู่ในชั้นนี้ออกไป จากที่นี่หมดแล้ว เหลือเพียงแต่พวกเขาสองคน เมื่อจะเปิดประตู นั้นก็พบว่าประตูถูกล็อกอยู่

“ทำยังไงดี? ทำไมประตูเปิดไม่ออก? เหยียนเหยียน ลูกอยู่ ข้างในรึเปล่า? ได้ยินเสียงแม่ไหม? รีบเปิดประตูเร็ว ไฟไหม้แล้ว ลูก”

ในน้ำเสียงกังวลของหลัวหุ้ยเหมียมีความสะอึกสะอื้น ถ้าเกิด ว่าลูกสาวของเธออยู่ในนั้นจริงๆ ถ้ายังงั้นจะทำยังไง? ทำไม ประตูถึงเปิดไม่ออก
พ่อจางก็ลองพยายามเปิดประตู หลังจากนั้นเขาก็พูดด้วย ใบหน้าที่จริงจังและเคร่งขรึม “น่าจะมีใครบางคนดังกลอนนี้ จากด้านนอกด้านในก็เปิดไม่ได้

“ถ้ายังงั้นทำยังไงดี? ตาแก่คุณรีบคิดเร็ว เหยียนเหยียนของ พวกเรายังอยู่ข้างใน กลิ่นแรงขนาดนี้ ไฟต้องไม่เบาแน่นอน”

“คุณอย่าพึ่งรีบร้อน”

“ฉันยังจะไม่รีบร้อนได้อีกเหรอ? นั่นลูกสาวของพวกเรานะ ลูกสาวของพวกเรา ฉันจะไม่ร้อนรนได้ยังไง? ”

หลัวหุ้ยเหม่ยพูดจนถึงสุดท้าย แล้วก็ร้อนรนจนน้ำตาไหลออก มา เครื่องสําอางที่ถูกแต่งแต้มไปเมื่อกี้นี้ก็เลอะไปด้วยคราบ น้ำตา แต่ว่าตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรแล้ว

“รีบคิดหาวิธีเร็ว! ”

“หยุดร้องไห้ได้แล้ว คุณถอยไปก่อน เดี๋ยวผมจะลองดูว่า สามารถ……”

ยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงที่สุขุมก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขา “คุณลุงคุณป้าหลบไปก่อนครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ