เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1312 แข่งกันดื่ม



บทที่ 1312 แข่งกันดื่ม

หลังจากความครึกครื้นสนุกสนานผ่านไปแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ มีแค่เพียงความเงียบเหงา

ดังนั้นต่อมาหานชิงจึงไม่ยอมกลับบ้านไปร่วมฉลองปีใหม่กับ

หลินสวี่เจิ้ง

เพราะทุกครั้งที่กลับบ้าน สิ่งที่เขาต้องเจอก็คือความอ้างว้าง เยือกเย็นของบ้าน แม้ว่าจะมีคนรับใช้ แต่ข้างในกลับไม่มีญาติพี่ น้องอยู่เลย

เขาเองก็กลัวว่ากลับไปบ้านบ่อย ต่อไปก็จะยิ่งรับไม่ได้กับ ความอ้างว้าง โดดเดี่ยว ดังนั้นจึงเลิกไปเสียเฉยๆ แน่นอนว่าไม่มี ใครรู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ภายในจิตใจเขาอยู่ในสภาพ ไหน

เสี่ยวเหยียนยังไม่เข้าใจอดีตของเขามากนัก กระทั่งวันนี้ได้ยิน ที่เขาพูด ในแววตาเหมือนมีอ้างว้างฉายขึ้นมาชั่วแวบหนึ่ง แต่ไม่ นานก็ถูกอารมณ์ความรู้สึกอื่นของเขาปกคลุมไว้ มองไม่เห็นอีก เสี่ยวเหยียน ใจร้อนอยากจะตามหา แต่กลับหาไม่เจอ

“มองอะไรผม กินเข้าไปสิ มือของหานชิงที่อยู่บนโต๊ะเอื้อมมา กุมมือของเธอไว้ บีบเบาๆ

การกระทําแบบนี้ ต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ เสี่ยวเหยียนหน้าแดง ขึ้นมาทันที เธอจึงไม่มองเรื่อยเปื่อยอีก ก้มหน้ากินข้าวทันที
สามีภรรยาจางที่อยู่ตรงข้ามมองการกระทำของคู่รักหนุ่มสาว คู่นี้ ในแววตาก็อดไม่ได้ที่จะฉายรอยยิ้มบางๆออกมา

อาหารมื้อนี้ตอนแรกทุกคนยังอึดอัดอยู่บ้าง แต่ก็ค่อยๆพูดคุย กันมากขึ้น พ่อจางเริ่มพูดคุยกับหานซึ่งเรื่องปัญหาในการทำงาน ต่อมาก็พูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ทัศนคติของหานซึ่งดีมากมาตลอด

และต่อมาพ่อจางก็นึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากจะดื่มเหล้า

เป็นเพราะหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งก่อน พ่อจางก็ตัดสินใจรักษาสุขภาพ หลัวหุ้ยเหม่ยพอได้ยินว่าเขาจะ ดื่มเหล้า ก็มองเขาตาขวางทันที

“ไม่ใช่จะรักษาสุขภาพเหรอ รักษาสุขภาพจะดื่มเหล้าได้ยังไง”

พ่อจางตบหน้าขาฉาดทันที พลางพูดว่า “นี่ไม่ใช่เพราะหาน ชิงมาเหรอ ผมก็ดีใจ อยากจะดื่มกับเขาสักสองสามแก้ว”

หลัวหุ้ยเหมียตอนแรกไม่อยากจะยอมรับ แต่มาคิดดูแล้วนาน ทหานซึ่งจะมาสักครั้ง วันนี้จะดื่มสักครั้ง ก็คงไม่เป็นไร

ดังนั้นเธอจึงยอมตกลง

เสี่ยวเหยียนเห็นพ่อจางดีอกดีใจ ก็ได้แต่ลุกขึ้นไปหยิบเหล้า จากนั้นก็พูดกับพ่อจางว่า : “พ่อ ดีใจก็ส่วนดีใจ แต่พ่อจะดื่มมาก ไม่ได้นะคะ”

“ไปๆๆ เด็กน้อยมายุ่งวุ่นวายอะไรเยอะแยะเล่า เสี่ยวเหยียนนั่งลงข้างหานชิงอีกครั้ง พูดเบาๆว่า “พ่อฉันอยากดื่มมานานแล้ว คุณเองก็อย่าดื่มเยอะล่ะ”

ดื่มเยอะ ดื่มจนเมาแล้วจะทำยังไง ถึงเวลาจะกลับยังไง

“อืม”หานซิงตอบรับ มือใหญ่ขึ้นมาจากใต้โต๊ะกุมมือของ เสี่ยวเหยียนเอาไว้แน่น เสี่ยวเหยียนหน้าแดงเรื่อ คิดจะดึงมือ กลับ แต่หานชิงออกแรงยึดไว้ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงยังดึงมือ กลับมาไม่ได้

เพราะพ่อแม่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงไม่กล้า แสดงท่าทีอะไรมาก ดึงหลายครั้งก็ดึงไม่ออก จึงปล่อยเลยตาม เลยไป

หลังจากที่ผู้ชายทั้งสองคนเริ่มดื่ม หลัวหุ้ยเหม่ยก็เป็นห่วง สุขภาพร่างกายของพ่อจาง ตอนที่เขาดื่มเธอก็ลุกไปต้มน้ำแกงที่ ในครัว เตรียมไว้ให้ทั้งสองคนดื่มเพื่อทั้งคู่เมาก็จะได้ใช้ดื่มเลย

ตอนแรกพ่อจางดื่มเพียงเล็กน้อย แต่พอได้ดื่มจริงๆแล้ว ก็ดื่ม ไม่หยุด และยิ่งดื่มยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงมิตรภาพ ของผู้ชายส่วนใหญ่นั้นเรียบง่ายมาก ไม่ว่าจะมีความโกรธแค้น อะไรก็ตาม เมื่อใดที่ได้ดื่มด้วยกัน พวกเขาจะกลายเป็นพี่น้องกัน หรือปล่อยใจให้เป็นอิสระจากความหวาดระแวง

และพ่อจางก็เป็นคนแบบนี้ เมื่อก่อนคิดว่าหานซึ่งไม่ค่อยน่า เชื่อถือนัก มีอคติเล็กน้อยกับสถานะของเขา แต่ตอนนี้พอเห็นอีก ฝ่ายยอมมานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนตน หลังจากพูดคุยสัพเพเหระ ไปเรื่อย อคติของพ่อจางที่มีต่อหานชิงนั้นก็ไม่มีมากมายอะไร แล้ว ชวนเขาคุยไม่หยุด
“เสี่ยวชิง……

เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้าวๆพอได้ยินสรรพนามที่ใช้เรียกนี้ ก็รู้สึก อายขึ้นมาทันที พ่อ……..

“ไม่เป็นไร หานซิงก็บีบมือของเธออีก ส่งสายตาปลอบโยนให้

เธอ

ต่อมาหลวยเหม่ยเดินออกมาจากห้องครัว ร้องเรียกเสียวเห ขียน เสี่ยวเหยียนต้องลุกขึ้น หานซึ่งจึงได้ยอมปล่อยมือเธอ

เสี่ยวเหยียนวิ่งเข้าไปในครัว

“แม่ ทําไมเหรอคะ”

“หานซิง แฟนลูกคอแข็งมั้ย ดื่มได้หรือเปล่า อย่างพ่อของเธอ นะ พอดื่มก็หยุดไม่อยู่ ถ้าเกิด……

หานชิงดื่มเหล้าเก่งมั้ยเหรอ

เสี่ยวเหยียนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าหานซึ่งจะ คอแข็งมาก เมื่อก่อนตอนที่เธอยังไม่ได้คบหากับหานชิง เคยไป ดื่มอวยพรกับหานชิงแทนหาน จื่อ เธอต้องพยายามฝันว่าดื่ม ไหว ดื่มจนสุดท้ายก็เมา แต่วันต่อมาพอมานึกดูแล้ว หานซิงนั้น เดินตรงไม่มีเซ สุดท้ายก็ยังเป็นเขาที่พาเธอกลับไป จากนั้น……

เรื่องราวในตอนท้ายเสี่ยวเหยียนก็ไม่กล้ารื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก แล้ว เพราะค่อนข้างจะน่าอับอาย

และในวันต่อมานั้นเองเธอก็ถูกคำพูดของเขาทำร้ายจิตใจเข้าต่อให้มาถึงปัจจุบันแล้ว เมื่อนึกถึงก็รู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นมันยัง ทำร้ายทิ่มแทงใจเธออยู่

“เป็นอะไรไปลูก มือของหลัวหุ้ยเหม่ย โบกไปมาตรงหน้าของ จางเสี่ยวเหยียน จางเสี่ยวเหยียนดึงสติกลับมาได้ เห็นว่าหลัง หุ้ยเหม่ยกำลังจ้องมองตัวเองอยู่ จึงได้ส่ายหน้า: “ไม่มีอะไรค่ะ เมื่อกี้นึกอะไรบางอย่างอยู่ แม่คะ หานซิงคอแข็งมาก อย่าให้ พวกเขาดื่มมากเกินไปเลยนะคะ”

“ถ้างั้นก็แย่แล้ว พอหลัวหุ้ยเหม่ยได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนเป็น กังวลขึ้นมาทันที “ขี้เหล้าอย่างพ่อของลูกถ้าไปเจอคนที่คอแข็ง เข้าสักคน ก็คงต้องดื่มกับเขาทั้งคืน รู้แต่แรกห้ามไว้เสียก็ดี

“แต่เมื่อกี้แม่ก็ห้ามพ่อไปแล้วนี่คะ พ่อมีความสุขมาก ช่างเถอะ ค่ะ คืนเดียวคงไม่เป็นไร

แม้ว่าเสี่ยวเหยียนจะยังกังวลอยู่บ้าง แต่เรื่องดื่มเหล้า แม้ดื่ม มากจะทำลายสุขภาพ แต่ว่าแค่คืนเดียว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มากและคืนวันนี้ก็ค่อนข้างมีความพิเศษ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็ไม่ ได้มีท่าทีจะไปขัดขวางอะไรมาก

“ช่างเถอะๆ พวกเขาจะดื่มก็ให้เขาดื่มไป แต่พรุ่งนี้แฟนลูกยัง ต้องไปทำงานนะ อีกเดี๋ยวลูกไปบอกเขาหน่อย ให้เขาแกล้งทำ เป็นเมา พ่อลูกคนอีกฝ่ายดื่มจนคว่ำไป ก็คงไม่ดื่มต่อแน่นอน”

“อืม หนูรู้แล้วค่ะแม่”

ตอนที่สองแม่ลูกออกมาจากห้องครัว ในมือของทั้งสองก็ยก ซุปแก้สร่างเมามาด้วย พอได้กลิ่นเท่านั้นแหละพ่อจางก็ทำจมูกฟุดฟิดอย่างไม่พอใจ “คุณนยังไงกัน พวกเราเพิ่งจะดื่มกัน นี่ยัง ดื่มได้ไม่นาน คุณก็ต้มน้ำแกงสร่างเมาอะไร”

แม้ว่าประโยคนี้ฟังดูแล้วมีการตำหนิเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของ พ่อจางและนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความอับจนหนทาง ไม่ได้มีความ หมายที่จะกล่าวโทษอะไรเลยสักนิด

“อะไรนะ เตรียมไว้ให้คุณก่อนไม่ได้หรือไง หรือต้องรอให้คุณ ดื่มจนคว่ำลงไปฉันค่อยไปต้ม” หลัวหุยเหม่ยถลึงตาใส่พ่อจาง อย่างไม่ลังเล

พอจาง: “

“คุณดูสิว่าทำไมคุณพูดอย่างนั้น ผมจะดื่มจนคว่ำลงไปได้ยัง ไง ผมคอแข็งมากขนาดไหนคนละแวกนี้เขารู้กันดี! ”

เสี่ยวเหยียนก็ถือน้ำแกงมานั่งลงข้างๆหานชิง ฉวยจังหวะที่พ่อ จางและหลัวหุยเหม่ยกำลังคุยกันอยู่นั้น ค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหู เขา พูดเบาๆว่า “พ่อฉันไม่ใช่แค่คอแข็งแต่ยังชอบเอาชนะด้วย ถ้าไม่จัดการอีกฝ่ายให้ดื่มจนคว่ำไป เขาก็ไม่หยุดดื่มแน่นอน

ได้ยินดังนั้น มุมปากหานซึ่งก็เกิดรอยยิ้มอ่อนๆ เขาส่งขยิบตา ให้เสี่ยวเหยียน เอามือไปตีมือเธอเบาๆจากใต้โต๊ะ เป็นสัญญาณ ว่าให้เธอวางใจได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ