เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 875 ยืนกรานกระต่ายขาเดียว



บทที่ 875 ยืนกรานกระต่ายขาเดียว

คนคนนี้ ในเมื่อชอบเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้า หาน จื่อรู้สึกว่าถ้า ยังพูดอะไรกับเขาต่อไปอีกละก็ ตัวเธอเองก็จะมีแต่ถูกเขาเอา เปรียบ

ดังนั้นหานมู่จื่อจึงขัดจังหวะการสนทนานี้ในทันที และเปลี่ยน หัวข้อโดยตรง “พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”

ที่นี่นับว่าอยู่ไม่ไกลจากชุมชนนัก อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเย่โม่ เซินถึงหาเธอเจอ

ถึงอย่างไรก็ตามหานมู่จื่อก็ยังคงมีความกังวลใจเล็กน้อย ใน เมื่อเธอออกมาตั้งแต่เช้าตรู่ และตามที่เยโมเงินโทรศัพท์หาเธอ

แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรไปบ้าง

แล้วถ้าถึงตอนนั้นเขามาถามตัวเธอเองล่ะ?

เธอจะต้องพูดอะไรอีก?

หรือว่า จะบอกความจริงดีล่ะ?

ทานมู่จื่อเม้มริมฝีปาก ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ก็ถูกเย่ไม่เป็น จูงมือเดินไปหน้า เธอคิดไปพักหนึ่ง อันที่จริง…เธอก็ไม่ได้ตั้งใจ จะปิดบังอะไร และเดิมทีก็เป็นความทรงจำที่เยโม่เซ็นสูญเสียไป ก่อนหน้านี้ ถ้า…เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างได้จริงๆ หรือนึก อะไรบางอย่างได้ขึ้นมา
งั้นเธอก็… พูดความจริงเลยดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่

ได้

เย่ไม่เป็นขับรถรถยนต์ออกมา ขณะที่เขาพาหาน จื่อ ขึ้นรถ เมื่อเห็นเธอกังวลใจในตอนเตรียมตัวที่จะเข้าไปนั่งบนรถนั้น ก็ ยื่นมือออกมาเพื่อป้องกันศีรษะของเธอกระแทกด้านบน เพื่อ ป้องกันไม่ให้ศีรษะของเธอกระแทก

หาน จื่อทางนี้ยังคงนึกคิดเรื่องนี้อยู่ ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงลม หายใจอุ่น ๆ ที่เข้ามาใกล้ชิดตัวเธอ ตอนที่กลับมามีสติขึ้นมา หา นอกเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาที่ถูกขยายใหญ่นับครั้งไม่ถ้วน ต่อหน้า

เธอถึงกับผงะ

ใบหน้าหล่อเหลาที่เข้ามาใกล้ๆ ทำให้หานคู่จื่อสะดุ้งและการ หายใจของเธอเริ่มรีบร้อนขึ้นมา “คุณ คุณจะทำอะไร?”

ดวงตาเรียวยาวหรี่ลงเล็กน้อย กลายเป็นส่วนโค้งที่สวยงาม เป็นพิเศษ ริมฝีปากบางของเย่ ไม่เซิน กระดกขึ้นมา “เข็มขัด นิรภัย”

หลังจากพูดจบ เขาก็เอื้อมมือออกไปและรัดเข็มขัดนิรภัยให้ เธอ

หลังจากรัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วนั้น เขาก็ไม่ได้ถอยออกไป เพราะเหตุนี้ กลับกลายเป็นเอนตัวเข้าไปใกล้ทีละนิด และ สามารถได้ยินเสียงหายใจของทั้งสองคน
“เหม่อลอยอะไรอยู่?”

หานมู่จื่อ “… ไม่มีอะไร”

เธอ เคลื่อนย้ายสายตา และถือโอกาสหันหน้าไปทางอื่น

และในวินาทีถัดมา เย่ไม่เซินก็บีบคางของเธอ บังคับให้ ใบหน้าของเธอหันเข้ามา ทำให้หานจื่อ อดไม่ได้ที่จะมองไปยัง สายตาของเย่ ไม่เซ็น

จะจะทำอะไร?” เพราะว่าอยู่ใกล้กันมากเกินไป ก็ขนาดรูขุม ขนบนใบหน้าที่ละเอียดของเขาหาน จื่อก็สามารถมองเห็นได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในเมื่อคืนที่ทำให้คนหน้าแดงและใจเต้นแรง นั้น หัวใจของหาน จื่อเริ่มเต้นกระทบร่างกายของเธออย่างใจไม่ แข็งพอ ราวกับว่าอยากจะแยกออกจากร่างกายของเธอ

* เหม่อลอยจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะมาบอกว่าไม่มีอะไรอีก ?

เย่โม่เซินลดเสียงลงลึก เสียงของเขาแหบแห้งลงหลาย ระดับ” ตลอดทางมานี้คุณเหม่อลอยมากี่ครั้งแล้ว กำลังนึกถึง เรื่องเมื่อคืนอยู่เหรอ?”

จี๊ด—

ใบหน้าของหาน จื่อเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว ยื่นมือ ออกไปผลักเขาอย่างแรง “คุณพูดอะไรมั่วซั่ว รีบขับรถของคุณไป เถอะ

หลังจากที่เธอผลักเย่ไม่เป็นออกไปแล้วนั้น ก็รีบหันหน้าไป ทางหน้าต่างรถทางนั้นแล้ว ไม่กล้าที่จะสบตากับเย่ไม่เป็นอีกแล้ว

หลังจากที่ภายในรถเงียบไปไม่นาน ในที่สุดรถก็ออกตัวแล้ว

ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็กลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่หาน จื่อ ท่าเมื่อ กลับถึงบ้านก็คือถอดรองเท้า โดยไม่ได้พูดกับ เย่โม่เซินสักคำ โดยที่รีบเข้าไปในห้องครัวโดยทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเดินเร็วเกินไป จนทำให้ตำแหน่งบางอย่าง เจ็บปวด ตอนนี้เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นท่าทางการเงินของ เธอก็แปลกไปขึ้นมา

ดูเหมือนว่าจะมีดวงตาที่ร้อนแรงจ้องมองเธออยู่จากทางด้าน หลัง หานมู่จื่อไม่กล้าที่จะหยุดฝีเท้าลงและทำได้เพียงอดทนเดิน ท่าแปลกๆนี้ เข้าไปในห้องครัวตามปกติ จากนั้นก็ปิดประตูห้อง ครัวดังปิ้ง

ปิ๊ง!

เย่โมเซินที่ยืนอยู่ตรงโถงทางเดินมองดูฉากนี้ เมื่อได้ยินเสียง ปิดประตูของห้องครัว เขาก็เอื้อมมือไปแตะจมูกตามจิตใต้สำนึก

ทำไมอยู่ห่างกันขนาดนี้ แต่เขากลับมักจะมีภาพลวงตาว่า ประตูนั้นกระแทกจมูกตรงของเขาล่ะ?

หลังจากประตูห้องครัวปิดลงนั้น หาน จื่อก็รู้สึกว่าในที่สุดตัว เธอเองก็มีเวลาส่วนตัวสักที ท่าทางที่รักษาไว้ในเมื่อสักครู่นี้ได้ พังทลายลงไปในทันที เธอลูบไปที่เอวเบา ๆ ฝีเท้าก้าวไปข้าง หน้าด้วยความยากลำบาก
น่าถุงวางไว้บนตำแหน่งโต๊ะ หาน จื่อค่อยๆแกะทีละส่วน และนําวัตถุดิบในการทําอาหารใส่ในตู้เย็น

ตอนเช้าสนใจเพียงแค่เรื่องตรวจสอบ จนถึงตอนนี้เธอยังไม่ ได้ทานข้าวเช้าเลย

ตอนนี้ถ้าจะต้มโจ๊กมันก็สายเกินไปแล้ว หาน จื่อจึงตัดสินใจ ทานบะหมี่โดยตรงก็พอแล้ว

หาน จื่อเปิดไฟต้มน้ำ จากนั้นก็หยิบบะหมี่ก้อนออกมาจาก ถุง นี่คือสิ่งที่เธอเพิ่งซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต อีกสักพักค่อยใส่ ส่วนผสมง่ายๆลงไปก็พอแล้ว

หลังจากน้ำเดือดแล้วนั้น หานมอก็ใส่บะหมี่ลงไป

ทว่าในเวลานี้เธอกลับได้ยินเสียงประตูเปิดหนึ่งครั้ง และมี เสียงฝีเท้าดังจากข้างหลังแทรกเข้ามา

หานมู่จื่อรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงไปสักครู่หนึ่ง และใน ไม่ช้าก็กลับมาเป็นสงบนิ่ง

บริเวณรอบเอวถูกมือใหญ่โอบ ผู้ชายร่างสูงใหญ่กอดเธอ จากด้านหลัง ก้มศีรษะลงและเอนศีรษะพิงบนไหล่ของเธอเบาๆ เอ่ยเสียงแหบว่า “ทำไมตอนเช้าคุณไม่นอนเยอะๆ สักหน่อย ก็ ออกไปแล้วล่ะ? ”

หานผู่จื่อ “… ” 11

ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามแล้ว
ในขณะที่ทานมู่จื่อกำลังลังเลใจว่าจะตอบเขาอย่างไรดี แล้วก็ สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนบริเวณคอ ริมฝีปากบางของเย่ไม่เซ็น จูบไปที่คอของเธอเบา ๆ และกระซิบว่า “ผมนึกว่าคุณจะเสียใจ ภายหลังซะแล้ว”

อะไรนะ?

หาน จื่อนึกว่าตัวเธอเองได้ยินผิดไป เขาบอกว่าเขานึกว่าตัว เธอเองจะเสียใจภายหลังงั้นเหรอ?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เธอก็กะพริบตา “ฉันจะ … เสียใจภายหลังได้ อย่างไรกัน?

แต่ลองคิดๆดูแล้วก็จริงนะ หลังจากที่เมื่อคืนเกิดเหตุการณ์ แบบนั้นขึ้น เธอกลับหนีออกไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่เช้า และก็ ไม่ได้ทิ้งคำพูดไว้สักคำ เขาไม่คิดมากถึงจะแปลก

ถ้าหากคนที่ถูกทิ้งไว้กลายเป็นตัวเธอเอง คาดว่าในสมอง ของเธอก็กลายเป็นฉากละครโรแมนติกนองเลือดเรื่องหนึ่งตั้ง นานแล้ว

หานมู่จื่อหลีกเลี่ยงการจูบของเขา และหันกลับมา “เรื่องเมื่อ คืน … เป็นอย่างไรกันแน่?

เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อคืน สายตาของเย่ไม่เป็นก็ ปรากฏสีหน้าดุร้ายขึ้นมา และไม่ได้พูดต่อ

ทว่าหาน จื่อถามอย่างลังเลใจเล็กน้อยว่า “เมื่อคืน … คุ คุณตา ของคุณให้คุณกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต่อมา….”
ตอนนี้เธอกําลังสงสัย เขาถูกวางยาได้อย่างไรกันแน่?

หรือว่า… คุณตาของเขาก็รู้เรื่องนี้ด้วยงั้นเหรอ?

เมื่อเห็นดวงตาอันสับสนของเธอ เย่ไม่เซ็นจึงยื่นมือออกไปปัด ผมจากแก้มของเธอไปไว้ตรงด้านหลังของศีรษะ และกระซิบว่า “เรื่องนี้คุณอย่าสนใจไปเลย ผมจัดการเองได้”

เธอกัดริมฝีปากล่าง “ เมื่อคืนนี้ก่อนที่คุณจะออกไป คุณบอก ฉันว่าให้รอคุณกลับมา แล้วปรากฏว่า ….

“ผลสุดท้ายผมก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” เย่โม่เงินตัดคําพูด ของเธอ “แม้ว่าผมจะถูกวางยา แต่ว่าผมก็ยังกลับมา ไม่ใช่เห รอ?”

หานผู่จื่อมองเขาเป็นเวลานาน พลางกัดริมฝีปาก

“ยืนกรานกระต่ายขาเดียว”

แม้ว่าตัวคนจะกลับมาแล้ว แต่ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอก็ จะต้องเป็นห่วงถูกไหม? และในสถานการณ์ที่คับขันเช่นเมื่อคืน นั้น ถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ? งั้นเขาก็จะไม่อยาก

เมื่อนึกถึงจุดนี้ หานมอก็เอ่ยว่า “ฉันเดาว่าถ้าไม่ใช่เพราะ เฉียวจื้อ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะไม่กลับมา”

“กลับ”

หลังจากนั้นเย่โม่เซินกลับยืนกรานตอบกลับเธออย่างหนัก

แน่น
หานผู่จื่อถึงกับผงะ

“สมมุติว่าไม่มีเดียวซื้อ ผมก็จะกลับมา”

“กลับแน่นอน”

หาหมอจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่า คิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของ เขาจะใหญ่โตขนาดนี้ เธอไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก มือใหญ่ของเ โม่เซินก็ลูบเข้าไปที่แก้มของเธอเบาๆ ดวงตาอ่อนโยนลงมา หลายระดับ

” เมื่อคืนเหนื่อยขนาดนั้น วันนี้ก็อยู่บ้านพักผ่อนแล้วกันนะ ไม่ ต้องไปบริษัทแล้ว “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ